ตอนที่ 20-1 พ่อกับลูก
ฮ็อคน้ำตาคลอ ร่างของเขาสั่นเพราะความตื่นเต้นขณะที่เขามองดูบุรุษหนุ่มที่เขารู้สึกคุ้นเคยนี้
เขามองดูคิ้ว ดวงตาทั้งสอง... จมูกนั้น...
ขณะเดียวกัน เขาเปรียบเทียบกับความทรงที่เขามีต่อลินลี่ย์ในวัยเด็ก
“ลินลี่ย์, ลูก... ลูกจริงๆ หรือนั่น?” เสียงของฮ็อกแหบแห้ง และตาของเขาแดง
“ข้าเองท่านพ่อ เป็นข้าจริงๆ!” ลินลี่ย์ใจร้อนต้องการจะพิสูจน์ตนเอง “ท่านพ่อ, ท่านจำได้ไหม เมื่อตอนที่เราอยู่ในหอบรรพบุรุษของเรา ท่านบอกให้ข้าแสดงความเคารพบรรพบุรุษตระกูลของเรา? ท่านยังจำได้ไหมเมื่อตอนที่ท่านทดสอบเลือดมังกรในสายเลือดของข้า? และ..ข้าบอกว่าข้ามีสหายที่ดีอยู่สามคนที่สถาบัน พวกเขาอยู่ที่นี่สองคน!”
ลินลี่ย์ชี้ไปที่เยลที่อยู่ใกล้ๆ “ดูสิ, นั่นคือเยลแห่งหอการค้าดอว์สัน และนั่นจอร์จแห่งจักรวรรดิยูลาน!”
“และข้าด้วย!” บีบีเหาะขึ้นมาด้วยและมองดูฮ็อค “ลุงฮ็อค! จำข้าได้ไหม? ข้าคือหนูเงาน้อยตัวนั้น” ขณะที่พูดร่างของบีบีกระพริบและเปลี่ยนไปเป็นหนูเงาน้อยกระโดดขึ้นไปอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์และพูดด้วยภาษามนุษย์ “เป็นพี่ใหญ่ที่เลี้ยงดูแลข้า!”
ฮ็อกพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ท่านพ่อ, ดูสิ, แหวนมังกรขนด! พ่อรู้เรื่องแหวนหรือเปล่า?” ลินลี่ย์เหยียดมือแสดงแหวน
ฮ็อกได้ยินเช่นนี้ก็เริ่มร้องไห้ด้วยความปิติ “ใช่แล้ว ใช่แล้ว!” เขาอดเอื้อมไปที่ลินลี่ย์และรั้งเขาเข้ามากอดไว้ไม่ได้ เขาลูบหลังลินลี่ย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ฮ่าฮ่า เป็นลูกจริงๆ ลินลี่ย์ นี่ยอดเยี่ยมดีจริงๆ ฮ่าฮ่า มันดีจริงๆ” ฮ็อกตื่นเต้นจนพูดซ้ำๆ
เขาตายไปแล้ว จากนั้นถูกเปลี่ยนไปเป็นภูตผี เขาใช้เวลาสองพันกว่าปีในฐานะภูตผี จากนั้นจู่ๆ เขาก็ได้รับความทรงจำคืนและถูกนำมาที่นี่
และจากนั้น ลูกชายของเขาจู่ๆ ก็ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขา
เขาจะไม่ตื่นเต้น ไม่มีความสุขได้ยังไง?
“ท่านพ่อ มาเถอะ เขาไปข้างในกัน ไปสนทนากันข้างใน” ลินลี่ย์ปาดน้ำตา จากนั้นจูงมือพาบิดาเขาบินเข้าไปที่ด้านหลังโรงแรมสิ้นหวัง
สามารถพบเห็นบิดาของเขานับเป็นความน่ายินดีเหนือความยินดีและตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่ลินลี่ย์พบว่าเขากลายเป็นพวกวิญญาณกลายสภาพ ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าเขากลับไปเป็นเด็ก เมื่อเขาเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมและเรื่องอื่นๆ จากบิดาของเขา เมื่อใดก็ตามที่เขาทำได้ไม่ดี เขาจะถูกบิดาใช้มือตี ตอนนั้นเขารู้สึกว่าเจ็บปวดมาก แต่พอนึกย้อนกลับตอนนี้เขากลับรู้สึกอบอุ่นใจ
ความตายของบิดาของเขาทำให้ลินลี่ย์จมดิ่งอยู่กับความมืดมิด เขายินดีสละทุกอย่างเพื่อแก้แค้น
แต่ตอนนี้...
ทุกอย่างดีขึ้น!
ภายในห้อง
คนกลุ่มหนึ่งนั่งล้อมโต๊ะสองตัว ขณะที่ฮ็อกยังรู้สึกสับสนไปหมด เขารีบถามลินลี่ย์ “ลินลี่ย์, เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่? ก่อนนั้นข้ายังเป็นอัศวินดำระดับเซียน แล้วจู่ๆ ก็ได้รับความทรงจำคืนมาและถูกนำตัวมาที่นี่ แล้วก็พบกับเจ้า?”
ฮ็อกไม่เคยได้ยินว่าภูตผีจะได้รับความทรงจำคืน
“พี่ใหญ่ขอให้มหาเทพช่วย” บีบีหัวเราะ
“ฮ่าฮ่า” ดิ๊กซี่ที่อยู่ใกล้ๆ ถอนหายใจ จากนั้นกล่าว “ลุงฮ็อก ในช่วงสองพันปีที่ผ่านมาลินลี่ย์ไปไกลเกินกว่าจะเป็นนักเรียนอัจฉริยะของสถาบันเอินส์ เขาเป็นยอดฝีมือผู้ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของยมโลก แดนนรกและพิภพระดับสูงอื่นๆ เป็นเขานั่นเองที่ขอให้มหาเทพช่วยฟื้นฟูความทรงจำและส่งคนไปรับเราแล้วนำมาที่นี่ ข้า เยลและจอร์จ เราทุกคนถูกยอดฝีมือระดับภูตเจ็ดดาวพากลับมา”
“เขาขอให้มหาเทพตามหาเรา และยังจัดคนไปพาพวกเรามาด้วยหรือ?”
ฮ็อกอดมองลูกชายของเขาที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาไม่ได้ ในทวีปยูลาน ฮ็อกรู้ว่าลูกชายของเขามีศักยภาพ แต่ฮ็อกแค่เชื่อว่าลินลี่ย์จะกลายเป็นจอมเวทได้สักวัน หรือบางทีอาจนำมรดกของตระกูลกลับมาได้ แต่..ขอความช่วยเหลือจากมหาเทพ? ฮ็อกรู้สึกว่าแค่คิดก็เวียนหัวเสียแล้ว
“ลินลี่ย์, มันเป็นยังไงกันลูก...” ฮ็อกไม่รู้จะถามอะไร
ถามเกี่ยวกับระดับพลังของลูกชายเขา? ลูกชายของเขาทำเรื่องอย่างนี้มากี่ปีแล้ว?
“พี่ใหญ่เป็นเทพพารากอน” บีบีพูดด้วยความภูมิใจ เยลและคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ พอผ่านไปสองสามปีก็ได้ทราบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
“เทพพารากอนคืออะไร?” ฮ็อกถาม
บีบีสะดุ้ง
ก่อนหน้านี้เยลและบิดามารดาของบีบีก็ยังไม่รู้ว่าพารากอนหมายถึงอะไร เพียงแต่หลังจากได้ฟังคำอธิบายพวกเขาจึงเข้าใจ มารดาบีบีในชุดสีม่วงพูดพลางหัวเราะ “ฮ็อก! การได้เป็นเทพพารากอนก็หมายความว่า..ในบรรดาเหล่าเทพทั้งหมดลูกชายของท่านไม่มีใครเทียบได้! แม้แต่มหาเทพก็ยังยินดีเชิญเขาไปเป็นทูตให้พวกเขา”
“ในบรรดาเหล่าเทพ ไม่มีใครเทียบเขาได้?” ฮ็อกกระพริบตาปริบๆ และหันไปมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ
ฮ็อกมีความรู้สึกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ เมื่อได้เห็นลินลี่ย์ ได้ยินได้ฟังเรื่องราวหลายอย่างนี้ล้วนแต่เป็นความฝันทั้งนั้น
ปฏิกิริยาของฮ็อกเป็นสิ่งที่ทุกคนคิดไว้แล้ว เมื่อเยลและจอร์จถามเรื่องความสามารถของลินลี่ย์ หลังจากพวกเขาได้รับคำตอบที่ชัดเจน พวกเขาตะลึงอยู่นาน ทุกคนรู้จำนวนเทพที่มีในยมโลกและแดนนรก ซึ่งสามารถนับได้เป็นล้านๆ
มีเทพอยู่นับไม่ถ้วนในพิภพจักรวาล เทพต้องทรงพลังน่ากลัวขนาดไหนถึงจะไปยืนอยู่ยอดบนสุดของปิรามิดได้?
ฮ็อกมีประสบการณ์ชีวิตถึงสองพันปีในแดนภูตผี และความอดกลั้นทางจิตของเขาตอนนี้ยิ่งใหญ่กว่าแต่ก่อนมาก เขารู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็ว และตาของเขาเป็นประกายขณะที่เขารีบถาม “ลินลี่ย์, ความตายของมารดาเจ้า เป็นเพราะดยุคแพตเตอร์สันแห่งเฟนไล..เจ้าแก้แค้นได้หรือยัง?”
“เขาตายแล้ว ข้าฆ่าเขาด้วยตัวเอง” ลินลี่ย์พูดอย่างจริงจัง
“และคนที่อยู่เบื้องหลังเขาล่ะ? เจ้าสืบเจอไหมว่าเป็นใคร?” ฮ็อกรีบถาม
ฮ็อกพบว่าเบื้องหลังดยุคแพ็ตเตอร์สัน ยังมีอีกคนหนึ่งที่ควบคุมเรื่องราวอยู่หลังฉาก อย่างไรก็ตามเขาถูกโจมตีและไล่ล่าจากกองกำลังของแพ็ตเตอร์สันก่อนที่เขาจะพบเจอว่าเป็นใคร และจากนั้นฮ็อกก็ตาย
“ข้าทราบ คนที่อยู่เบื้องหลังก็คือเคลย์กษัตริย์แห่งเฟนไล” ลินลี่ย์พยักหน้า “หลังจากนั้นต่อมาข้าได้ฆ่าเขาที่เมืองเฮส!”
“เป็นราชาเคลย์หรือ?” ฮ็อกตกตะลึง
“แม้ว่าข้าฆ่าเคลย์ไปแล้ว แต่เรื่องนี้ยังคงไม่จบ ท่านแม่ถูกเคลย์ส่งตัวไปให้ศาสนจักรเจิดจรัส เป็นศาสนจักรเจิดจรัสที่ฆ่าท่านแม่ จากนั้นบูชายัญวิญญาณท่านแม่แก่ประมุขมหาเทพแห่งแสง” เสียงของลินลี่ย์เบามาก ลินลี่ย์ยังคงเกลียดชังต่อศาสนจักรเจิดจรัสเป็นอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่าเดลิน โคเวิร์ทตายเพราะศาสนจักรเจิดจรัส
ฮ็อกเมื่อได้ยินเช่นนี้รู้สึกโกรธ รัศมีที่น่ากลัวรวมอยู่ที่หน้าของเขา และเขาพูดเสียงเบา “แล้วศาสนจักรเจิดจรัสเล่า?”
“หลังจากนั้นข้าทำลายศาสนจักรเจิดจรัสขุดรากถอนโคนพวกเขา” ลินลี่ย์พูดต่อ
ฮ็อกตกใจมองดูลูกชายของเขา ในทวีปยูลาน ศาสนจักรเจิดจรัสเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และฮ็อกยังรู้ว่าคิดตามหลักการ เนื่องจากตอนนี้ลูกชายของเขามีพลังสูงสุด นับว่าสมเหตุสมผลกับในอดีต ที่สามารถขุดรากถอนโคนศาสนจักรเจิดจรัสได้
“ทุกอย่างได้รับการคลี่คลายแล้ว!” ฮ็อกถอนหายใจยาว จากนั้นส่ายศีรษะและหัวเราะเยาะตนเอง “ข้าดื้อรั้นยืนกรานเกินไป เป็นเวลาสองพันปีแล้ว แต่ข้าก็ยังไม่สามารถลืมเรื่องเหล่านี้ คิดเรื่องนี้ต่อไปจะมีประโยชน์อะไร? ลีน่าตายมานานแล้ว”
“ท่านพ่อ, ท่านแม่ยังไม่ตายอย่างแท้จริง” ลินลี่ย์กล่าว
“เอ๊ะ?” ตาของฮ็อกเป็นประกายทันที และเขามีพลังขณะที่เขาจ้องมองลินลี่ย์ด้วยดวงตาเปี่ยมความหวัง
ลินลี่ย์พยักหน้าจริงจัง “ท่านพ่อ เมื่อท่านแม่ถูกฆ่า วิญญาณของนางถูกใช้บูชายัญให้กับมหาเทพเจิดจรัส ตอนนี้นางเป็นหนึ่งในเทวทูตของโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์! เพียงแต่วิญญาณที่ถูกเปลี่ยนไปเป็นเทวทูตจะภักดีต่อมหาเทพแห่งแสง.. จะช่วยท่านแม่ให้ได้รับอิสระและพานางมาอยู่กับเราด้วยกันคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก”
“เจ้า..แม้แต่เจ้าก็ยังทำไม่ได้หรือ?” ฮ็อกรีบถาม
ปัจจุบันนี้เท่าที่ฮ็อกเห็น เนื่องจากว่าลูกชายของเขาเป็นหนึ่งในเทพที่ทรงพลังที่สุดและว่าแม้แต่มหาเทพก็ยังทะเลาะกันได้เพื่อเอาลินลี่ย์ไปเป็นทูตให้พวกเขา สถานะของลูกชายของเขาน่าจะเพียงพอให้เทวทูตตนหนึ่งถูกปล่อยเป็นอิสระได้ ฮ็อกรู้สึกว่านี่ไม่ควรจะเป็นเรื่องยาก
“ข้าไม่มีความมั่นใจว่าจะทำเช่นนั้นได้” ลินลี่ย์ส่ายหน้า
บีบีที่อยู่ใกล้พูดพลางมีสีหน้าสลด “พระยายมราชบอกว่า ต่อให้นางไปพูดเรื่องนี้กับประมุขมหาเทพแห่งแสงด้วยตัวเองก็ยังจะไม่สำเร็จเลย แม้แต่พระยายมราชก็ยังทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ... โอกาสของพี่ใหญ่จะทำได้สำเร็จก็ยิ่งต่ำมากๆ” บีบีไม่มั่นใจกับลินลี่ย์เหมือนกัน
ลินลี่ย์เองก็ค่อนข้างรู้สึกผิดกับเรื่องนี้!
“ฮ่าฮ่า, ช่างเถอะ” ฮ็อกถอนหายใจยาว จากนั้นหัวเราะ “ลินลี่ย์! เราควรขอบคุณสวรรค์ที่เมตตาเราสองคนพ่อลูกให้ได้พบกันอีก จะหวังให้แม่เจ้ากลับมาอยู่ด้วยกัน? นั่นเป็นแค่ความหวังที่ว่างเปล่า ไม่ต้องกังวล นั่นมีแต่จะหาเรื่องยุ่งยากเสียเปล่าๆ”
“ท่านพ่อ...” ลินลี่ย์มองดูบิดาของเขา ด้วยความประหลาดใจ
จากจดหมายฉบับสุดท้ายที่บิดาเขียนบอกเขาไว้ก่อนตาย ลินลี่ย์เข้าใจว่าบิดาของเขารักมารดาของเขามากเพียงไหน บิดาของเขายินดีตายเพื่อนาง ทำไมตอนนี้เขาถึงได้ยินดียกเลิกความตั้งใจง่ายๆ เสียเล่า?
“ลืมเสียเถอะ ทุกอย่างในโลกจะสมบูรณ์พร้อมตามที่เราต้องการได้อย่างไร?” ฮ็อกพูดและหัวเราะเบาๆ
วันนั้นฮ็อก ลินลี่ย์ เยล จอร์จและคนอื่นๆ เริ่มพูดคุยถึงประเด็นในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเกิดของเขา หลังจากนั้นฮ็อกเริ่มพูดคุยถึงชีวิตของเขาในฐานะที่เป็นภูตผี ขณะที่ลินลี่ย์พูดคุยประสบการณ์สามพันกว่าปีที่ผ่านมาของเขา ตอนนี้ฮ็อกเข้าใจแล้วว่าลินลี่ย์ต้องเดินทางผจญภัยมามากมายเพียงไหน เขารู้สึกห่วงใยในแต่ละครั้งที่เขาได้ยินลินลี่ย์เล่าประสบการณ์อันตรายของเขา แต่ขณะเดียวกันความรู้สึกภูมิใจเอ่อท้นอยู่ในใจของเขา
ที่หน้าโรงแรมสิ้นหวัง กลุ่มของลินลี่ย์กำลังเตรียมตัวออกเดินทาง
“รอเดี๋ยว, ข้าจะกลับเข้าไปสักเดี๋ยว” ลินลี่ย์พูดกับบิดาและสหายของเขา จากนั้นเดินไปที่บ่อที่อยู่กลางสนามหญ้าใกล้โรงแรม ที่ข้างบ่อมีสตรีงามผมแดงกำลังนั่งตกปลาอย่างสบายอารมณ์ คนอื่นไม่รู้ว่าสตรีผมแดงแท้จริงแล้วเป็นใคร แต่ลินลี่ย์รู้
นางชอบมองดูยอดฝีมือยมโลกคนแล้วคนเล่ามาไล่ล่าตามหาผลสิ้นหวัง จากนั้นก็ตาย นางคือพระยายมราชประมุขมหาเทพแห่งแดนยมโลก
นางวางคันเบ็ดไว้ข้างตัวแหละหันหน้ามองดูลินลี่ย์ “อะไรกัน, เจ้าจะไปแล้วหรือ?”
ลินลี่ย์สังเกตได้ว่าพื้นที่โดยรอบดูบิดเบือน พระยายมราชสร้างม่านพลังมิติไว้ ป้องกันไม่ให้คนอื่นได้ยินคำพูดของพวกเขา ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจกับพลังที่น่ากลัวของพระยายมราช จากนั้นตอบ “ถูกแล้ว ท่านมหาเทพ, หกคนที่ข้ารอคอยมาถึงแล้ว ขอบคุณมหาเทพ ข้ารบกวนท่านเหลือเกินในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้”
สตรีผมแดงเผยอยิ้มเล็กน้อยมองเห็นฟันที่ขาวราวไข่มุกของนาง “ครั้งแรกที่ข้าพบเจ้า เจ้ายังเป็นแค่นักสู้ตัวน้อยที่เพิ่งจะถึงระดับผู้บัญชาการเท่านั้น แต่พริบตาเดียวเจ้ากลายเป็นเทพพารากอนไปแล้ว”
“มหาเทพ มีเรื่องสุดท้ายที่ข้าอยากจะขอความช่วยเหลือจากท่าน” ลินลี่ย์ลังเลเล็กน้อย จากนั้นพูดออกมา
“เจ้านี่เรื่องมากจริงๆ ว่าไป” ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาลินลี่ย์มักพบกับพระยายมราชในบริเวณโรงแรมสิ้นหวังบ่อยขึ้น ดังนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้นมากมาย
“ท่านมหาเทพ ข้าต้องการหาตัวภูตเจ็ดดาวชื่อว่า ‘โอดิน’ ข้าไม่รู้ว่าท่านจะมีวิธีใดทำเรื่องนี้ให้สำเร็จได้?” ลินลี่ย์ถามอย่างคาดหวัง ระหว่างช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เยลต้องการตามหาโอดินอยู่เสมอ แต่น่าเสียดายยมโลกกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก แม้ลินลี่ย์จะทรงพลังก็ตาม แต่การตามหาโอดินนั้นเท่ากับงมเข็มในมหาสมุทร
“หาภูตเจ็ดดาว? โอดิน?” สตรีผมแดงขมวดคิ้วเล็กน้อย นางอดแค่นเสียงเบาๆ ไม่ได้ “เจ้านึกว่าข้าเบื่อจนไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ทำแล้วใช่ไหม? ข้าไม่รู้ว่ารัศมีที่โอดินที่เจ้าพูดถึงนี้เป็นแบบไหน ทั้งหมดที่เจ้าบอกข้าก็คือชื่อ แล้วข้าจะตามหาเขาให้เจ้าได้ยังไง? เว้นแต่ เขาเคยเป็นภูตผีมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าจึงจะใช้หัวใจยมโลกช่วยตามหาเขาให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทาง”
ลินลี่ย์ได้แต่เพียงหัวเราะอย่างเก้อเขิน
เป็นเรื่องยากกับการตามหาคนจากข้อมูลชื่อที่มี ความจริงเป็นเรื่องยากลินลี่ย์จะต้องมารบกวนพระยายมราชด้วยเรื่องเช่นนี้ ลินลี่ย์คิดว่าหัวใจยมโลกจะสามารถตามหาเขาได้ แต่เท่าที่ได้ยินมีแต่คนที่เคยเป็นภูตผีเท่านั้นจึงจะใช้หัวใจยมโลกหาตัวได้พบ
“จะตามหาคนผู้หนึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องยากเกินไป ด้วยสถานะของเจ้าในปัจจุบันนี้” สตรีผมแดงหัวเราะเบาๆ “แค่ไปที่ปราสาทภูตและมอบหมายภารกิจ บอกว่าเจ้าต้องการตามหาภูตเจ็ดดาวชื่อโอดิน ภารกิจที่ลินลี่ย์เจ้าเป็นคนสั่ง? ข้าคิดว่าจะต้องมีผู้บัญชาการและเจ้าแคว้นแย่งกันชิงโอกาสนี้แน่นอน”
บางทีเทพชั้นสูงธรรมดาอาจจะได้ยินชื่อลินลี่ย์ แต่ในหมู่ผู้บัญชาการและเจ้าแคว้น ภายในรอบพันปีพวกเขาทุกคนน่าจะได้รับรู้ชื่อนี้
จากนั้นสตรีผมแดงหันกลับไปตกปลาต่อ “พอเถอะ, ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว!”
“ขอบคุณ, มหาเทพ” ลินลี่ย์คำนับเล็กน้อย จากนั้นหันกายจากมา
“ไปกันเถอะ เราจะไปที่ภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์!” ลินลี่ย์ยิ้มให้บิดาและสหายของเขา จากนั้นปล่อยอสูรโลหะขนาดใหญ่ มันลอยนิ่งกับที่ในกลางอากาศ และจากนั้นยอดฝีมือกลุ่มนี้เข้าไปในห้องโดยสาร ชั่ววับเดียวอสูรโลหะกลายเป็นจุดแสงหายลับไปในขอบฟ้า