ตอนที่ 19-63 กลับมาได้
“แม่ของเจ้า?” พระยายมราชชำเลืองมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ
ขณะที่พระยายมราชมองดูนั้น ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าลินลี่ย์ต้องรู้ที่อยู่ของบิดามารดาของเขา ตอนแรกหาบิดาของเขา..และจากนั้นค่อยหามารดาเขาในเวลาต่อมา
“รอเดี๋ยว” พระยายมราชหลับตา
ลินลี่ย์รู้สึกกังวลในใจ “ท่านแม่..ข้าไม่เคยพบแม่ของข้ามาก่อน!” ในความทรงจำของลินลี่ย์ แม่เป็นคำที่อยู่ห่างไกลจากเขา เขาไม่มีความทรงจำนั้นอยู่ในใจ แต่ลินลี่ย์สามารถเห็นพ่อแม่ของคนอื่น ทำให้บางครั้งเขาคิดถึงมารดาของตนเอง มารดาของเขามีลักษณะอย่างไร?
“แปลก” พระยายมราชลืมตา แววตาที่เย็นชาของนางมองดูหน้าของลินลี่ย์
“มีอะไรหรือ?” ลินลี่ย์รีบกล่าว ลินลี่ย์กังวลเกี่ยวกับมารดาของเขา ที่สำคัญเทียบกับบิดาหรือสหายของเขา เมื่อนางยังมีชีวิต นางอ่อนแอมาก แม้ว่าวิญญาณของนางจะบริสุทธิ์มาก แต่พลังของนางไม่มาก
“ท่านหานางไม่พบหรือ?” บีบีที่อยู่ใกล้ๆ อดรู้สึกห่วงแทนลินลี่ย์ไม่ได้
พระยายมราชขมวดคิ้วมองดูลินลี่ย์ด้วยความขุ่นเคือง “ลินลี่ย์! เจ้าพยายามกลั่นแกล้งข้าหรือ?”
ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ เขารีบกล่าว “ท่านมหาเทพ, ข้าจะบังอาจแกล้งท่านได้ยังไง? ท่านมหาเทพโปรดบอกข้า สถานการณ์ของท่านแม่ข้าเป็นยังไง? นางเป็นภูตผีหรือเปล่า? ไม่ว่านางจะมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว โปรดบอกข้าตรงๆ เถอะ” ลินลี่ย์รู้สึกกระวนกระวาย แต่สีหน้าของพระยายมราชยิ่งดูดุร้ายขึ้น
“ฮึ..ลินลี่ย์, มารดาเจ้ายังไม่ตายสักหน่อย ทั้งไม่ได้กลายเป็นภูตผี! แล้วเจ้าขอข้าให้ค้นหานางอีกหรือ?” แววดุร้ายปรากฏในดวงตาของพระยายมราช
แน่นอนว่าพระยายมราชย่อมรู้สึกไม่พอใจ!
ลินลี่ย์กล้าพนันกับนางก่อนนี้ ถ้ามารดาของลินลี่ย์ตาย อย่างนั้นอย่างน้อยพระยายมราชก็มีโอกาสชนะพนันนี้ แต่ถ้ามารดาของลินลี่ย์ยังไม่ตาย พระยายมราชจะค้นหานางพบได้อย่างไร? ถ้ามารดาของเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ลินลี่ย์กลับขอให้พระยายมราชค้นหานาง อย่างนั้นก็หมายความว่าลินลี่ย์แค่หยอกล้อนาง!
“ท่านแม่ข้ายังไม่ตาย?” ลินลี่ย์ไม่อยากเชื่อ
บีบีที่อยู่ใกล้ๆ ตาโตทันที “ไม่ตาย? ไม่มีทาง ราชาเฟนไลบอกเอง ไม่น่าจะผิดพลาดได้”
“มารดาของเจ้ายังไม่ตาย” พระยายมราชมีสีหน้าเขียวคล้ำ “หรือว่านางอาจจะตายไปพร้อมกับที่วิญญาณนางถูกทำลายไปด้วยก็ได้ สิ่งหนึ่งที่บอกได้แน่นอนก็คือวิญญาณของมารดาเจ้าไม่ได้อยู่ในยมโลก ทั้งนางไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นภูตผี มีบันทึกในหัวใจยมโลกของดวงวิญญาณทุกดวงที่เปลี่ยนไปเป็นภูตผี ไม่มีทางที่จะหานางพบได้ที่นี่!”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
พระยายมราชมีสถานะแบบไหนแล้ว? นางไม่มีทางโกหก! และนอกจากนี้มารดาของเขาตายไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด เกิดอะไรขึ้น?
“ท่านมหาเทพ” ลินลี่ย์รีบพูด “มารดาของข้าตายไปนานแล้ว เท่าที่ข้าสืบค้นมาได้ เมื่อมารดาของข้าจะตาย วิญญาณของนางถูกศาสนจักรเจิดจรัสในโลกธาตุธรรมดาบูชายัญให้กับมหาเทพเจิดจรัส ประมุขมหาเทพแห่งแสง ประมุขมหาเทพแห่งแสงก็คือมหาเทพเจิดจรัสเขาจะสนใจวิญญาณทั่วไปด้วยหรือ? เป็นไปได้หรือว่าวิญญาณจะถูกส่งไปที่โลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์?”
ลินลี่ย์ไม่เชื่อเรื่องนี้แม้แต่น้อย
พระยายมราชเมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้วก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด นางมองลินลี่ย์อย่างเย็นชา “ถ้าเรื่องเป็นดังที่เจ้าว่ามา อย่างนั้นวิญญาณของมารดาเจ้าคงถูกส่งไปที่โลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ ที่นั่นอยู่ภายใต้การควบคุมมหาเทพแห่งแสง ตอนนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ วิญญาณของนางไม่ได้อยู่ในการควบคุมของข้า”
“โลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์?” ลินลี่ย์ตกใจ เขากล่าว “มีทางใดที่ข้าจะนำท่านแม่ข้ากลับมาได้หรือไม่?”
“เป็นไปไม่ได้!”
พระยายมราชพูดเช่นนี้ด้วยความมั่นใจ “วิญญาณทั้งหมดที่ประมุขมหาเทพแห่งแสงรวบรวมจะไม่มีทางได้รับอิสระ ข้าจะบอกเรื่องนี้ให้เจ้าทราบก็ได้... เทวทูตแห่งโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์จะมีความภักดีต่อมหาเทพแห่งแสง ไม่มีทางที่พวกเขาจะทิ้งความภักดีไปได้ ต่อให้เจ้าหาเทวทูตที่แม่ของเจ้าถูกเปลี่ยนไปพบก็ตาม ก็ไม่มีทางที่นางจะยอมกลับมา”
“เทวทูต?” ลินลี่ย์รู้เรื่องเทวดาเหล่านี้มาบ้าง
เทวทูตก็คือเผ่าพันธุ์ทหารที่แข็งแกร่งทรงพลังที่ควบคุมโดยมหาเทพแห่งแสง ตามตำนานมหาเทพคือคนสร้างเทวทูต และแม้ว่าพวกเขาจะมีปัญญา แต่พวกเขาต้องเรียกว่าเครื่องจักรสงครามร่างมนุษย์มากกว่า มารดาของเขากลายเป็นเทวทูตหรือ?
“ทำไมมหาเทพแต่ละตนถึงรวบรวมวิญญาณบริสุทธิ์? จุดประสงค์เพื่อเสริมกองเทพเทวทูตของพวกเขาไงเล่า” พระยายมราชแค่นเสียง
“ไม่มีทางที่ข้าจะได้มารดาข้ากลับมาใช่ไหม?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
“พวกภูตผีอย่างน้อยก็ยังมีเสรีภาพของพวกเขาเอง แต่เทวทูต...” พระยายมราชชำเลืองมองลินเลี่ย์ “ลินลี่ย์! เจ้าเคยได้ยินเรื่องโกเลมมัจจุราช อาวุธสงครามร่างมนุษย์มาบ้างใช่ไหม? เทวทูตจะพิเศษกว่าโกเลมมัจจุราชเล็กน้อย พวกเขามีสติปัญญาเป็นของตนเอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหมือนกันคือ เทวทูตจะไม่มีทางหักหลังมหาเทพแห่งแสงเจ้านายพวกเขา นอกจากนี้ เนื่องจากอารมณ์นิสัยของประมุขมหาเทพแห่งแสง? ลืมเรื่องเจ้าไปได้เลย ต่อให้มหาเทพอื่นไปเยือนเขาเป็นการส่วนตัวและขอให้เขาปลดปล่อยให้อิสระเทวทูตตนหนึ่งของเขา ก็ยังไม่มีทางเป็นไปได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หัวใจลินลี่ย์ตกวูบ
ประมุขมหาเทพแห่งแสงก็ยังเป็นประมุขมหาเทพแห่งแสงอยู่นั่นเอง!
“มีอะไรอื่นอีกไหม? ถ้าไม่มีอะไรอื่นอีก, ข้าจะไปแล้ว” พระยายมราชพูดอย่างเยือกเย็น
ลินลี่ย์ไม่คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป เขารีบถาม “มีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากถาม”
“เจ้าช่างเรื่องมากจริงๆ” พระยายมราชถอนหายใจ “อย่างนั้นพูดไป” อารมณ์ของพระยายมราชที่มีต่อลินลี่ย์ในตอนนี้ดีกว่าตอนที่อยู่ภูเขาสิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้ชัดว่าลินลี่ย์กลายเป็นเทพพารากอนเปลี่ยนมุมมองนางที่มีต่อเขา นี่เป็นเรื่องธรรมดา...โดยทั่วไปมหาเทพจะชื่นชมคนที่กลายเป็นเทพพารากอนได้
ที่สำคัญการได้เป็นมหาเทพเป็นเรื่องของโชคและชะตา
แต่เทพพารากอน? นั่นเป็นเรื่องทักษะและความสามารถ
“ข้าอยากจะถามว่าถ้าวิญญาณคนผู้หนึ่งแตกสลายไป จะมีทางทำให้คนผู้นั้นกลับมามีชีวิตได้ไหม?” ลินลี่ย์ถามอย่างกระวนกระวาย บีบีที่อยู่ใกล้ อดมองลินลี่ย์ไม่ได้ “เนื่องจากพี่ใหญ่คุยเรื่องนี้.. เขาคิดถึงเรื่องปู่เดลินแน่” บีบีรู้ดีว่าเดลิน โคเวิร์ทส่งผลต่อจิตใจของลินลี่ย์ลึกซึ้งเพียงไหน
พระยายมราชหัวเราะคิก “เจ้ากำลังล้อเล่นหรือเปล่า? เมื่อวิญญาณคนๆ หนึ่งสลายไป คนผู้นั้นนับว่าตายไปจริงๆ เขาจะกลับคืนมีชีวิตได้ยังไง?”
“โอว..” ร่องรอยความหวังสุดท้ายในใจของลินลี่ย์สลายไป
เขาไม่ได้ยึดเป็นความหวังเป็นจริงเป็นจังแต่แรก นั่นเป็นความหวังเล็กน้อย
พระยายมราชเลิกคิ้ว และจากนั้นมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้านาง “ลินลี่ย์! จริงๆ แล้วอาจมีโอกาสเล็กๆ ที่คนซึ่งวิญญาณแตกสลายไปแล้วจะกลับมามีชีวิตได้”
“หือ?” ตาของลินลี่ย์เป็นประกายแหลมคมทันที และเขาจ้องมองพระยายมราชเขม็ง “ท่านมหาเทพ, วิธีอะไรหรือ?”
พระยายมราชถูกสายตาของลินลี่ย์มองจนตกใจ แต่นางเพียงแต่รู้สึกขบขันมากขึ้น “คนที่วิญญาณแตกสลายไปจะตายอย่างแน่นอน นี่คือมุมมองของมหาเทพ แต่ตามตำนาน จอมเทพแห่งชีวิตคือผู้เชี่ยวชาญในวิถีชีวิตที่แท้จริง ตัวนางเองก็คือวิถีชีวิต ความเป็นไปแห่งจักรวาลควบคุมโดยวิถีแห่งชีวิต ข้าไม่สามารถช่วยวิญญาณที่แตกสลายไปของวิญญาณดวงหนึ่งได้.. แต่จอมเทพแห่งชีวิตอาจจะทำได้”
“ใช่แล้ว, ใช่แล้ว” ลินลี่ย์อดรู้สึกตื่นเต้นยินดีไม่ได้ “ความเป็นไปของจักรวาลควบคุมโดยกฎวิถี จอมเทพแห่งชีวิตในฐานะตัวตนของวิถีคงจะสามารถช่วยท่านผู้นั้นได้แน่นอน”
“นี่เป็นแค่การคาดเดาของข้า ข้าไม่ใช่จอมเทพ ข้าไม่อาจยืนยันแน่ใจได้ว่าจอมเทพจะสามารถช่วยคนผู้นั้นได้หรือไม่” พระยายมราชหัวเราะอย่างเยือกเย็น “อย่างไรก็ตาม เท่าที่ข้าเห็นจอมเทพมีพลานุภาพทุกอย่าง ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรในจักรวาลที่พวกท่านกระทำไม่สำเร็จ ที่สำคัญคือ พวกท่านคือกฎวิถี!”
นี่เป็นแค่การคาดเดาของพระยายมราช แต่การคาดเดานี้เป็นสิ่งที่ลินลี่ย์รู้สึกว่าเป็นไปได้!
จอมเทพแห่งชีวิตควบคุมเหนือชีวิต บางทีคงจะช่วยให้เป็นไปได้อย่างแท้จริง
“ที่นี่ข้าไม่เหลือเวลาให้เจ้าแล้ว” พระยายมราชพูดอย่างสงบ “หกคนที่เจ้าพูดถึงทั้งหมดกระจายอยู่ทั่วยมโลก ข้าจัดการให้นำตัวพวกเขามาที่ภูเขาสิ้นหวัง เวลานี้เจ้าควรรีบเร่งไปที่ภูเขาสิ้นหวัง ไปสมทบกับครอบครัวและสหายของเจ้า” ทันทีที่พูดคำพูดเหล่านี้จบ..
ร่างพลังงานของพระยายมราชก็หายไป กลืนเข้าไปกับโลก
ที่สำคัญนี่คือร่างพลังงาน
ลินลี่ย์และบีบีมองหน้กันเอง
“พี่ใหญ่! ขอแสดงความยินดีด้วย” บีบีหัวเราะ
ลินลี่ย์ยิ้มกว้าง ข้อสงสัยทั้งหมดของลินลี่ย์ได้รับการคลี่คลายเมื่อได้ยินข่าวนี้จากพระยายมราช บิดาของเขาและสหายของเขาสามารถกลับมาได้....ขณะที่มารดาของเขา นางกลายเป็นเทวทูตของโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ปู่เดลิน บางทีเขาอาจได้พบจอมเทพแห่งชีวิต ลินลี่ย์จะสามารถขอให้เขาช่วยชุบชีวิตได้
ความหวังเล็กน้อยนี้ทำให้ลินลี่ย์เต็มไปด้วยปณิธานและพลังงาน!
“ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี” ลินลี่ย์พูดกับตัวเองเงียบๆ
“บีบี! ไปกันเถอะ เราจะไปภูเขาสิ้นหวัง” ลินลี่ย์ไม่ต้องการพักอยู่ที่ภูเขาเฟลมบอนแห่งนี้ เขาออกไปพร้อมกับบีบีทันที และจากนั้นขึ้นอสูรโลหะโดยสารมุ่งหน้าสู่ภูเขาสิ้นหวังอย่างรวดเร็ว
แคว้นนอร์ทบอน ยมโลก รังโจรสิบแปดขุนเขา หนึ่งในภูเขาแห่งหนึ่ง
เมฆดำม้วนตัวอยู่ในอากาศด้านบนเหมือนกับมังกรดำคลุมเต็มท้องฟ้า พระจันทร์สีเลือดดูน่ากลัวมองเห็นได้เลือนราง
ขณะนั้นจอร์จนั่งอยู่ที่หน้าต่างในห้องของเขา เขาแหงนหน้าจ้องมองพระจันทร์สีเลือดที่ดูน่ากลัว
“สมบัติที่ข้าสะสมไว้น่าจะพอซื้อบ้านในเมืองได้” จอร์จพึมพำกับตนเอง “ที่สำคัญยิ่งกว่า, ข้าจำเป็นต้องหาโอกาสไปในเมือง ถูกแล้ว, อีกสามเดือนกองคาราวานจะถูกส่งไปที่เมืองเพื่อขายสิ่งของที่เราปล้นได้ อย่างนั้นจากนี้ไปมีเวลาอีกสามเดือน!”
ตลอดเวลาช่วงนี้จอร์จรอคอยอย่างเชื่องช้าไม่เร่งรีบ แม้ว่าเขาจะเป็นพ่อบ้านให้โจรเหล่านี้ทำหน้าที่แบ่งสมบัติให้ แต่จอร์จไม่กล้ายักยอกมากเกินไป เขาใช้เวลาหลายปีในหน้าที่รับผิดชอบ เขาจัดการแบ่งสมบัติเพื่อยอดฝีมือเหล่านี้ที่รู้แต่เพียงการฝึกและฆ่า ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการจัดการสมบัติ ดังนั้นนี่จึงเป็นหน้าที่สบายๆ สำหรับเขา ในหลายปีมานี้พวกโจรก็รู้สึกชอบจอร์จมาก
ขณะที่พวกเขาเห็น พ่อบ้านคนนี้เป็นคนใจกว้าง ใจดีและจัดสรรแบ่งปันอย่างยุติธรรม ทุกคนเห็นด้วยและยอมรับการตัดสินของเขา
ทันใดนั้น...
“น้องสิบสอง!” มีเสียงตะโกนกึกก้องดังขึ้น
“ใครกัน?” จอร์จขมวดคิ้ว และเดินตรงไปที่ห้องนั่งเล่น
มีคนค่อนข้างมากโผล่ออกมาจากในปราสาท หัวหน้าของสาขาภูเขานี้ เป็นคนหัวโล้น ตัวโตก็ก้าวเดินเข้ามาด้วย “เฮ้, พี่ใหญ่ มีเรื่องเร่งด่วนอะไร?” ขณะที่เขาพูด เขาให้ลูกน้องของเขาไปต้อนรับ เขาสามารถบอกได้เลยว่าผู้พูดคือหัวหน้าใหญ่ของโจรสิบแปดขุนเขา
รัศมีดวงจันทร์สีเลือดที่น่ากลัวเหมือนจะฉายครอบคลุมไปทั้งเทือกเขาจนอาบไปด้วยสีเลือด
“น้องสิบสอง, เร็วเข้า!” เสียงทุ้มดังกึกก้อง
จอร์จอยู่ด้านหลังคนหัวโล้นตัวโต ตอนนี้จอร์จยังจำคนแคระไว้เคราที่เข้ามาถึง ข้างตัวเขาคือบุรุษชุดม่วงผมทอง คนแคระเคราดกนี้เป็นหัวหน้าโจรสิบแปดขุนเขา ‘คลีโอพัตรา’ “คนที่อยู่ข้างหัวหน้าใหญ่เป็นใคร?” จอร์จค่อนข้างสงสัย เป็นไปได้อย่างไรที่มีคนระดับพวกเขาและจอร์จไม่รู้จัก ทั้งยังมีระดับสูงด้วยหรือ?
“คนที่อยู่ข้างข้าคือภูตเจ็ดดาว ท่านบีเวอร์ลีย์” คนแคระเคราดกกล่าว
บุรุษหัวโล้นคำนับทันที “ใต้เท้า”
บุรุษชุดม่วงผมทองยิ้มอย่างสงบให้เขา แต่จากนั้นสายตาของเขามองเห็นจอร์จยืนอยู่ข้างหลังคนหัวโล้น จอร์จเห็นเช่นนี้ก็ตกใจ “ทำไมภูตเจ็ดดาวผู้นี้ถึงจ้องมองข้า?” ขณะที่จอร์จเห็นว่า ยอดฝีมือระดับภูตเจ็ดดาวถือว่าเป็นสุดยอดฝีมือของยมโลก
“เจ้าคือจอร์จใช่ไหม?” บุรุษผมทองชุดม่วงพูดอย่างเยือกเย็น
“เอ่อ..ขอรับ” จอร์จตกใจ
“ชีวิตในชาติก่อนของเจ้า เจ้ามาจากพิภพยูลานใช่ไหม?” รอยยิ้มที่ยากจะได้เห็นปรากฏอยู่ที่ใบหน้าของบุรุษผมทองชุดม่วง
จอร์จตะลึง แต่เขายังพยักหน้ายอมรับ
“ดีมาก, ตามข้ามา” บุรุษชุดม่วงกล่าว
“ใต้เท้าบีเวอร์ลีย์ ข้าขอบังอาจถาม ทำไมท่านถึงเอาตัวจอร์จไป?” บุรุษศีรษะโล้นรีบกล่าว เขามีความพอใจมากที่ได้จอร์จเป็นพ่อบ้านในช่วงหลายปีมานี้ จอร์จดูแลงานทุกอย่างเป็นอย่างดีไม่มีอะไรต้องกังวล เขาไม่อยากปล่อยให้จอร์จจากไป
บุรุษชุดม่วงอดหงุดหงิดไม่ได้
“น้องสิบสอง” หัวหน้าคนแคระเคราดกอดตะคอกคุกคามไม่ได้
“หัวหน้า, ให้ข้าตามเขาไปเถอะ” จอร์จรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณที่เขาปกป้องเขา แต่เขารู้เช่นกันว่าคำขอของภูตเจ็ดดาวเป็นเรื่องที่โจรพวกนี้ไม่กล้าปฏิเสธ
“จอร์จ...” บุรุษโล้นมองดูเขา จากนั้นตบไหล่จอร์จ
จอร์จฝืนยิ้มเช่นกัน แต่ในใจของเขาเต็มด้วยความรู้สึกยากทำใจ “ข้าเตรียมตัวมาหลายปีแล้ว เราเตรียมตัวจะไปในเมือง..ทำไมจู่ๆ คนพวกนี้ถึงปรากฏตัวออกมารับตัวเขาไป? เป็นเรื่องยากจะคาดการณ์กับเรื่องที่เกิดขึ้นในการเดินทางครั้งนี้ เท่าที่เห็นการกลับไปพบกับน้องสามและคนอื่นจะกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเสียแล้ว”
“ไม่ต้องห่วง, นี่ไม่ใช่เรื่องร้ายสำหรับเจ้า” บุรุษผมทองชุดม่วงชำเลืองมองดูเขา จากนั้นพูดอย่างเยือกเย็น “มหาเทพเป็นผู้จัดการเรื่องนี้”
“มหาเทพ?”
จอร์จและคนรอบๆ ตกใจ
“เจ้าตามข้ามา” บุรุษชุดม่วงมองดูจอร์จและพูดเสียงราบเรียบ
“ขอรับ” จอร์จไม่กล้าขัดขืน แต่ในใจของเขา เขาตกตะลึงสงสัย “ข้าเป็นแค่ผู้น้อย ทำไมถึงได้รับความสนใจจากมหาเทพถึงขนาดต้องส่งคนมารับข้า?” จอร์จไม่เข้าใจ แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้คือติดตามภูตเจ็ดดาวจากไป