ตอนที่แล้วตอนที่ 19-61 รวมคะแนน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19-63 กลับมาได้  

ตอนที่ 19-62 ใครเป็น ใครตาย?


เส้นทางกลับพิภพเต็มไปด้วยผู้คนนับไม่ถ้วน  และผนังตามเส้นทางมีแสงสีรุ้ง

ลินลี่ย์และบีบีอยู่ในท่ามกลางฝูงชน บินตรงไปที่ทางออก

“เกือบถึงนั่นแล้ว!”  ลินลี่ย์รู้สึกร้อนรุ่มสั่นสะท้าน

“ดิ๊กซี่, พี่ใหญ่เยล จอร์จ..และ..ท่านพ่อข้า!”  แม้ว่าเขาจะถึงระดับพลังสุดยอดแล้ว ลินลี่ย์ก็ยังกระกระวายอยู่ดี  “ข้าหวังว่าพวกเขายังมีชีวิต!”  การเข่นฆ่ากันมีอยู่ในดินแดนภูตผี  และความจริงที่ว่าบิดาของเขาตายมาเกือบสามพันปีที่แล้ว  หมายความว่าโอกาสที่บิดาของเขาจะตายจริงๆ มีสูงมาก

ลินลี่ย์หันไปมองบีบี แม้แต่บีบีเองก็กระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด

“บีบี! ไม่เป็นไร  ทุกคนจะต้องรอดชีวิตเช่นกัน”  ลินลี่ย์บอก

“ใช่แล้ว”  บีบีพยักหน้าทันที  ขณะที่พวกเขาคุยกัน พวกเขาเห็นว่าข้างหน้าประตูมิติที่เต็มไปด้วยแสงสีดำของยมโลกปรากฏขึ้น

พวกเขาก้าวเข้าไปข้างในพร้อมกับกลุ่มคน  บีบีและลินลี่ย์ผ่านเข้าไปในประตูมิติมาถึงหอประชุมกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง

ภูเขาเฟลมบอน ที่ประตูมิติข้างในนั่นเอง

เมื่อลินลี่ย์มาจากที่นี่เพื่อเข้าสมรภูมิมหาพิภพ  มีคนอยู่ที่นี่น้อยมาก แต่บัดนี้ทั่วทั้งหอประชุมเต็มไปด้วยผู้คน  เสียงตะโกนสามารถได้ยินได้  “ทุกคนโปรดเข้ามาที่นี่มาเปลี่ยนป้ายประจำตัวและรับบันทึกความดีความชอบทางทหาร!  ทหาร, พวกเจ้าทุกคนไปตั้งแถวตรงโน้น  ส่วนผู้บัญชาการมากับข้า!”

ลินลี่ย์และบีบีหันไปมองและเห็นว่าคนพูดก็คือทูตมหาเทพชายชราผมขาวกัลเลนนั่นเอง

ภายในหอประชุม มีโต๊ะมากมายหลายตัว  แต่ละตัวจะมีเจ้าหน้าที่จดบันทึกนั่งอยู่หลังโต๊ะ  เจ้าหน้าที่จดบันทึกจะบันทึกผลงานทางทหารอย่างต่อเนื่อง  และภายในทางเดิน มีการเข้าแถวยาว ทุกคนต้องไปเปลี่ยนป้ายประจำตัวทหารและบันทึกผลงานเอาไว้ก่อนที่พวกเขาจะจากไป  มีแต่เพียงพื้นที่ข้างหน้าทูตมหาเทพกัลเลนที่ว่างเปล่า

ที่สำคัญผู้บัญชาการหายาก

“ท่านกัลเลน”  ลินลี่ย์ร้องเรียกพร้อมกับหัวเราะเบาๆ  ขณะเขาบินเข้าไปหา

“ลอร์ดลินลี่ย์!  ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านสามารถรอดชีวิตกลับมาได้”  กัลเลนเมื่อเห็นลินลี่ย์และบีบีก็เริ่มยิ้ม  ใบหน้าที่เคร่งขรึมและตะโกนสั่งการแสดงออกต่อทหารธรรมดาเท่านั้น สำหรับผู้บัญชาการที่อยู่ระดับเดียวกับเขา  เขาค่อนข้างแสดงความเป็นมิตร

“เป็นยังไงบ้าง? เจ้าได้รับผลงานความชอบทางทหารครั้งนี้บ้างไหม?”  กัลเลนหัวเราะ

“ข้ามีพอ”  ลินลี่ย์พยักหน้า

กัลเลนมองดูลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ  จะได้รับสมบัติมหาเทพจำเป็นต้องได้ป้ายผู้บัญชาการฝ่ายศัตรูสิบป้าย  “ข้าไม่รู้เลยนะนี่  ท่านลินลี่ย์, โปรดมอบป้ายประจำตัวให้ข้า  ข้าจะดูแลจัดการให้สหายที่อยู่ข้างๆ เจ้าเช่นกัน  ถ้าเขาไปกับบริวารของขา  เขาจะต้องใช้เวลาเข้าแถวอีกนาน”

ลินลี่ย์หันไปมองแถว แน่นอนว่าแถวยาวต่อเนื่องจนวนรอบหอประชุมใหญ่ และหลายคนต้องยืนรอในกลางอากาศ

ลินลี่ย์และบีบีดึงป้ายสีแดงและป้ายขาวของพวกเขาออกมายื่นส่งให้

นี่คือกฎที่เคร่งครัดมาก  ถ้าพวกเขาไม่มีป้ายประจำตัวของพวกเขา พวกเขาจะต้องตาย

“เนื่องจากเจ้ามีผลงานทางทหารที่เพียงพอแล้ว  ไม่มีความจำเป็นต้องให้ข้าลงบันทึกไว้  เจ้าสามารถไปพบมหาเทพได้โดยตรง และพวกเขาจะสร้างสมบัติมหาเทพให้เจ้า”  กัลเลนพูดพร้อมกับหัวเราะ “มหาเทพมีสำเนาบันทึกความดีความชอบที่ผู้บัญชาการทำได้ในสงครามมหาพิภพแล้ว  เจ้าแค่แสดงป้ายตราที่เจ้าได้รับมา และมหาเทพก็จะรู้เอง”

ขณะที่เขาพูดกัลเลนชี้ไปที่ทางเดินว่างข้างหลังเขา

“เจ้าสามารถออกไปทางส่วนบุคคลนี้และไปพบกับมหาเทพได้” กัลเลนหัวเราะ

“พบกับมหาเทพ?  พบมหาเทพด้วยตนเอง?”  บีบีพูดด้วยความประหลาดใจ

กัลเลนหัวเราะ “แน่นอนว่าไม่  มหาเทพไม่เสียเวลามาเองแน่นอน มหาเทพที่เจ้าจะได้พบเป็นโครงสร้างพลังงาน  ร่างจริงของมหาเทพอยู่ห่างไกลออกไปในอีกส่วนหนึ่งของยมโลก

“ท่านลินลี่ย์!”  เสียงทักทายเป็นกันเองดังขึ้น  ลินลี่ย์และบีบีหันไปมองทั้งคู่  คนพูดเป็นบุรุษผมดำชุดม่วง

“เวอร์ธิงตัน!”  ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย  ลินลี่ย์เคยพบผู้บัญชาการคนนี้มาก่อนและยังจำเขาได้

กัลเลนเมื่อเห็นเขาก็หัวเราะทันที  “โอว, ลอร์ดเวอร์ธิงตัน ขอแสดงความยินดีด้วย”  ทุกคนที่รอดออกมาจากสมรภูมิมหาพิภพสมควรได้รับการแสดงความยินดี  กัลเลนพูดต่อ “ลอร์ดเวอร์ธิงตัน!  ครั้งนี้ท่านได้รับผลงานทางทหารเพียงพอไหม?  ลอร์ดทาร์ทารัสลินลี่ย์ได้มาพอแล้ว  และเขาเข้าไปหลังท่านร้อยปีเชียวนะ”

“ข้ายังได้ไม่มากพอ  เอานี่มีป้ายผู้บัญชาการสามป้าย  บันทึกลงไปด้วย”  เวอร์ธิงตันเอาป้ายทองสามป้ายออกมาวางและป้ายแดงโลหิตของเขาเอง  จากนั้นหัวเราะเบาๆ  “กัลเลน!  สำหรับท่านลินลี่ย์ได้รับผลงานทางทหารเป็นเรื่องสมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว  จะเอาข้าไปเทียบกับท่านลินลี่ย์ได้ยังไง?  ที่สำคัญท่านลินลี่ย์เป็นเทพพารากอน”

ใบหน้าของกัลเลนมีท่าทีประหลาดใจทันทีขณะที่เขาหันไปจ้องมองลินลี่ย์

“เทพพารากอน?”  กัลเลนตะลึง

“ธรรมดามาก”  เวอร์ธิงตันหัวเราะลั่น  “ท่านลินลี่ย์ประฝีมือกับเทพพารากอนแม็กนัสในอากาศเหนือเส้นทางดวงดาวของสมรภูมิมหาพิภพ  ผู้บัญชาการอื่นและทหารนับไม่ถ้วนในตอนนั้นไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ถอยและหยุดการต่อสู้!  แม็กนัสโดนท่านลินลี่ย์ไล่ต้อนเข้าไปในมิติปั่นป่วน”

กัลเลนไม่อยากเชื่อ

“ท่านทั้งสองเชิญสนทนากันต่อไปเถิด  ข้าจะไปพบกับมหาเทพ”  ลินลี่ย์พูดพลางยิ้ม และจากนั้นตรงไปตามทางที่อยู่ด้านหลังกัลเลนพร้อมกับบีบี  ลินลี่ย์ได้ยินเสียงสนทนาด้านหลังของเขา

“ลินลี่ย์กลายเป็นเทพพารากอนหรือ?  เรื่องมันเป็นยังไง  เล่ารายละเอียดให้ข้าฟังที”

“ข้าจะคุยเรื่องนี้กับเจ้าภายหลัง  แต่เมื่อครู่นี้เจ้าเรียกท่านลินลี่ย์ว่าเป็นลอร์ดทาร์ทารัส  นี่มันเรื่องอะไรกัน?  เขาเป็นผู้อาวุโสของเผ่ามังกรฟ้าไม่ใช่หรือ?”

ลินลี่ย์ไม่ได้ยินคำพูดที่ตามมาหลังจากนั้น  เพราะเขาเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์  อุโมงค์นี้กว้างขวางมาก  อย่างน้อยราวๆ ห้าเมตรและสูงสี่เมตร  ผนังของทางเดินทั้งหมดเรืองแสงสีเขียว ทำให้มองดูเหมือนภาพพิศวง  หลังจากไปได้ชั่วครู่..

ข้างหน้าของลินลี่ย์ปรากฎทางสี่แยก

“เราจะไปทางไหนกันดี?”  บีบีค่อนข้างงง

ลินลี่ย์มองอุโมงค์อย่างระมัดระวัง  แต่ไม่มีใครที่นี่  ทันใดนั้นมีเสียงดังขึ้นในใจของลินลี่ย์  “ลินลี่ย์!  พวกเจ้าทั้งสองจงเข้ามาทางอุโมงค์ซ้ายมือ จากนั้นเดินต่ออีกเล็กน้อย เจ้าจะพบกับข้า”

“พระยายมราช!”  ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย

“บีบี!  มาทางนี้”  ลินลี่ย์พาบีบีไปที่อุโมงค์ซ้ายมือ  หลังจากนั้นเดินไปประมาณร้อยเมตร พวกเขาออกจากอุดมงค์ก็มาถึงโถงกว้างมีแสงสว่างแห่งหนึ่ง

ลินลี่ย์มองกราด ไม่มีใครนั่งอยู่บนบัลลังก์ภายในหอโถง  แต่ด้านข้างหอโถงมีร่างน้อยที่สง่างามในชุดยาวสีม่วง ผมของนางยาวประบ่า  ทันใดนั้นร่างนี้หันหน้ากลับมาขณะที่ลินลี่ย์กวาดสายตามองนางเขาอดรู้สึกใจสะท้านไม่ได้

“มหาเทพ” ลินลี่ย์โค้งศีรษะคำนับ

นี่คือพระยายมราช ประมุขมหาเทพแห่งยมโลก แต่ลินลี่ย์ตอนนี้มีความรู้สึกว่าแม้พระยายมราชจะมีราศีที่สง่างาม  แต่รัศมีไม่กล้าแข็ง  ลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่าร่างนี้ควรเป็นร่างแยกที่มหาเทพสร้างขึ้นจากพลังงาน

“เลื่อมใสจริงๆ”  พระยายมราชมองดูลินลี่ย์ริมฝีปากนางแย้มเล็กน้อย  “ลินลี่ย์!  ยากนักที่ข้าจะยอมชื่นชมใครสักคน  อย่างไรก็ตาม...ตอนนี้ข้าชื่นชมเจ้าจริงๆ  ที่สำคัญแม้ว่าข้าจะเป็นพระยายมราช แต่ในแง่กฎธรรมชาติข้ายังไม่ได้เป็นแม้แต่เทพพารากอน  แต่เจ้าเป็นได้!  น่าเกรงขามจริงๆ!”

ลินลี่ย์ตะลึง

เมื่อคุยกับรีสเจม ลินลี่ย์รู้ว่าการเป็นมหาเทพไม่มีอะไรเกี่ยวกับว่าจะเป็นเทพพารากอนหรือไม่  มหาเทพหลายคนไม่ได้เป็นเทพพารากอน  แต่ลินลี่ย์ไม่คิด..ว่าแม้แต่คนที่ทรงพลังที่สุดอย่างพระยายมราชก็ยังไม่เคยเป็นเทพพารากอน

อย่างไรก็ตามลินลี่ย์เองไม่ใช่เทพพารากอน เป็นแค่วิญญาณกลายสภาพ

แต่ลินลี่ย์ไม่ต้องการจะเปิดเผยเรื่องนี้ชั่วคราว  ดังนั้นเขายอมรับให้คนอื่นเรียกเขาว่าเทพพารากอน  ที่สำคัญวิญญาณกลายสภาพจากสี่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องน่าทึ่งเกินไป

“ผ่านไปแค่พันปีเจ้ามาถึงระดับนั้นได้จริงๆ”  พระยายมราชถอนหายใจชื่นชม

“ท่านมหาเทพ”ลินลี่ย์คำนับเล็กน้อย จากนั้นพูดด้วยความเคารพ “ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ของเรา  สำหรับแต่ละป้ายผู้บัญชาการที่ข้าได้รับ ท่านจะช่วยข้าหาคนผู้หนึ่งและอนุญาตให้พวกเขาได้รับความทรงจำคืน  ตอนนี้ข้ามาขอร้องท่านอีกครั้ง  ท่านมหาเทพ! โปรดทำตามข้อตกลงนี้ด้วย”  ลินลี่ย์พูดเรื่องตรงกับที่ใจคิด

พระยายมราชชายตามองลินลี่ย์ นางยังคงเปล่งรัศมีที่สง่างามสูงส่งมองดูสิ่งมีชีวิตอื่น

“เป็นทูตของข้าเถอะ”  พระยายมราชพูดตามปกติ

ลินลี่ย์ตกใจเล็กน้อย

ลินลี่ย์ไม่ต้องการเป็นทูตมหาเทพ  แต่คนพูดคือพระยายมราช  ถ้าพระยายมราชช่วยครอบครัวและสหายของเขาเพียงเพื่อแสวงหาประโยชน์ คงไม่มีอะไรที่ลินลี่ย์สามารถทำได้

“ท่านมหาเทพ”  บีบีพูดอย่างไม่พอใจ  “หรือว่าท่านจะบังคับพี่ใหญ่ของข้า  ท่านมหาเทพ”

พระยายมราชชำเลืองมองบีบีและสายตาที่เยือกเย็ฯนั้นทำให้หัวใจของบีบีสั่น  พระยายมราชพูดอย่างเยือกเย็น  “แน่นอนว่าไม่!  ในฐานะของประมุขมหาเทพ  ข้าพูดอะไรไว้ ข้าจะรักษาคำพูดเป็นอย่างดี  ป้ายผู้บัญชาการแต่ละป้าย ข้าจะช่วยตามหาคนให้เจ้าและจะให้คนผู้นั้นได้รับความทรงจำคืน  ส่วนการเชิญให้เจ้าเป็นทูตของข้าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง  เจ้าสามารถปฏิเสธได้”

ลินลี่ย์คำนับเล็กน้อย  จากนั้นปฏิเสธโดยอ้อม  “อภัยให้ข้าด้วยเถิด ท่านมหาเทพ!  ตอนนี้ข้ายังไม่พร้อมจะเป็นทูตของผู้ใด”

“ก็ดีเหมือนกัน”  น้ำเสียงของพระยายมราชพลันเย็นชา  “ตามข้อตกลงของเราเจ้าเอาป้ายผู้บัญชาการออกมา  ข้าขอเตือนเจ้าล่วงหน้าไว้ก่อน  โอกาสที่คนที่เจ้าตามหามีโอกาสตายสูงมาก... ถ้าคนที่เจ้าตามหาตายไปแล้ว  เจ้าจะตำหนิผู้อื่นไม่ได้  ข้าเพียงแต่ทำหน้าที่ค้นหาและฟื้นฟูความทรงจำของพวกเขา”

“แน่นอน” ลินลี่ย์สูดหายใจลึก จากนั้นเอาป้ายผู้บัญชาการออกมาสี่ป้าย รวมกับบีบีอีกสองป้าย

“หก?”  พระยายมราชเลิกคิ้ว “อย่างนั้นพูดไป เจ้าต้องการตามหาใคร

“คนแรกเป็นสหายสนิทของข้าตั้งแต่อยู่ที่พิภพยูลาน  เยล ดอว์สัน!”  ลินลี่ย์รีบบอก

พระยายมราชพยักหน้าเล็กน้อย  “รอเดี๋ยวก่อน  ร่างจริงของข้าต้องมองหาผ่านหัวใจยมโลก”  ที่สำคัญพระยายมราชแม้อาศัยพลังของนางเอง ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะค้นหาภูตผีตนเดียวในยมโลกจากรายชื่อที่ให้มา  แต่หัวใจยมโลกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง  นี่คือกฎที่เข้มงวดที่ควบคุมยมโลกเองผ่านวัตถุธาตุ

นี่คือหัวใจยมโลก!

โดยการอาศัยหัวใจยมโลก ใครๆ สามารถค้นหาใครก็ได้ที่ถูกเปลี่ยนเป็นภูตผีหลังจากตายไปแล้ว

“ข้าหวังว่าพี่ใหญ่เยลจะยังมีชีวิตอยู่”  ลินลี่ย์รู้สึกกังวล ขณะที่บีบีอดคว้ามือของลินลี่ย์ไม่ได้

“พบเขาแล้ว”  พระยายมราชพยักหน้า  “หืม? แปลก, เขาเป็นวิญญาณอาฆาตดวงหนึ่ง”

“วิญญาณอาฆาต?”  ลินลี่ย์พูดด้วยความตกใจ

“ถูกแล้ว  มีภูตผีอยู่หลายรูปแบบ โดยทั่วไป เมื่อคนธรรมดาตายและกลายเป็นวิญญาณอาฆาต เป็นเพราะพวกเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังเต็มหัวใจ ความโกรธและต้องการจะฆ่า เป็นธรรมดาที่พวกวิญญาณอาฆาตจะมีอยู่ทั่วไปในกลุ่มภูตผี”  พระยายมราชชำเลืองมองลินลี่ย์  “โชคของเจ้าไม่เลว ไม่เพียงแต่เขายังมีชีวิตอยู่  แต่เขายังเป็นภูตผีระดับเซียนอีกด้วย  ต่อไป”

ลินลี่ย์สูดหายใจลึก จากนั้นกล่าว  “พี่รองของข้า จอร์จ”

“เหรอ?”  พระยายมราชยิ้มมุมปาก

ลินลี่ย์จ้องมองพระยายมราช  “จอร์จพี่รองของเจ้ายังมีชีวิตอยู่เช่นกัน  นอกจากนี้เขาเป็นเทียมเทพตนหนึ่ง ข้าไม่จำเป็นต้องฟื้นฟูความทรงจำของเขา”

“เขากลายเป็นเทพแล้ว?”  ลินลี่ย์อดดีใจไม่ได้

ค่อยสมเหตุผล  ดิ๊กซี่และจอร์จตายตอนเป็นเซียนทั้งคู่  ภูตผีระดับเซียนจะมีโอกาสกลายเป็นเทพแน่นอน

“คนที่สาม”  พระยายมราชพูดอย่างสงบ

“คนที่สามเป็นพี่ชายภรรยาของข้าชื่อว่าดิ๊กซี่”  ลินลี่ย์รีบบอก  ลินลี่ย์ต้องยอมรับว่า หัวใจยมโลกนี้เป็นของวิเศษมหัศจรรย์แท้จริง  ด้วยข้อมูลเพียงพื้นฐาน ก็สามารถหาครอบครัวและสหายได้  ลินลี่ย์ไม่รู้ว่า..ในความเป็นจริงแค่ใช้ชื่อลินลี่ย์ หัวใจยมโลกสามารถค้นหาทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาได้ทันที”

สำหรับพระยายมราช การค้นหาคนๆ หนึ่งและการค้นหาคนสิบคนก็แทบจะเหมือนกัน  นอกจากนี้...พระยายมราชจะไม่บอกลินลี่ย์ในเรื่องนี้

“ดิ๊กซี่?  นี่, เขากลายเป็นเทพไปแล้วเช่นกัน”  พระยายมราชกล่าว  “อย่างไรก็ตามร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขาตาย  ขณะที่ร่างระดับเซียนยังซ่อนตัวอยู่ในแดนภูตผี  เขาไม่จำเป็นต้องให้ข้าฟื้นฟูความทรงจำเช่นกัน”

ลินลี่ย์รู้สึกว่าดีใจนัก  แม้แต่ดิ๊กซี่ก็กลายเป็นเทพ  จากนั้นก็สูญเสียร่างแยกศักดิ์สิทธิ์  เขายังมีชีวิต  ตอนนี้เหลืออีกสี่คน  คนต่อไปคือฮ็อก บิดาของเขา!

บิดาของเขา...

“ฮ็อกบิดาของข้า!”  ลินลี่ย์พูดช้าๆ

พระยายมราชค้นหาชั่วครู่ จากนั้นพยักหน้าและกล่าว  “สี่คนที่เจ้าค้นหายังปลอดภัยดีทุกคน  สองคนกลายเป็นเทพ ขณะที่อีกสองคนเป็นเซียน บิดาของเจ้าในตอนนี้เป็นภูตผีระดับเซียน อืม.. มิน่าเล่าบิดาเจ้าถึงยังมีชีวิตอยู่ได้  เขาเป็นสมาชิกเผ่ามังกรฟ้านี่เอง วิญญาณของเขาน่านับถือ”

แม้ว่าฮ็อกจะไม่ได้รับความทรงจำ  แต่เขาก็ยังเป็นสมาชิกเผ่ามังกรฟ้า  วิญญาณของเขายังมีพลังมากกว่าวิญญาณของภูตผีทั้งหมด

“ท่านพ่อ..ยัง...”  ลินลี่ย์ดีใจแทบคลั่ง

เขารู้สึกกลัวมาก  แต่ในที่สุดผลที่ออกมาน่าทึ่งจริงๆ  ทั้งสี่คนที่เขาค้นหายังปลอดภัย

ความจริง นี่ต้องเกี่ยวข้องกับทั้งสี่เองด้วย  ผู้แข็งแกร่งกว่ายิ่งมีโอกาสรอดสูงกว่า  มีสองที่เป็นภูตผีระดับเซียนในตอนต้น ดังนั้นโดยทั่วไปจึงมีโอกาสรอดสูงกว่าตั้งแต่แรก  เยลตายด้วยความรู้สึกเกลียดชังและกลายเป็นวิญญาณอาฆาตทรงพลังมากขณะมีชีวิต  ขณะที่ฮ็อก วิญญาณของเขาก็ทรงพลังมากเช่นกัน

“อีกสองเป็นพ่อแม่น้องชายของข้า”  ลินลี่ย์รีบกล่าว  ลินลี่ย์ตระหนักว่านอกจากเยลคนแรกแล้ว มหาเทพเทพสามารถตอบเขาได้ทันทีเกี่ยวกับสถานะของคนอื่น กระบวนการค้นหารวดเร็วมาก

“ใช่แล้วพ่อและแม่ของข้า”  บีบีรีบพูด  “แต่ข้าไม่รู้ชื่อพวกท่าน”

“ข้าไม่ต้องการชื่อ  แต่เจ้าต้องรอเวลาก่อน”  พระยายมราชชำเลืองมองบีบี

ลินลี่ย์มองให้กำลังใจบีบี  เขาคุยทางใจ  “ไม่ต้องห่วง บีบี พ่อแม่เจ้าเป็นอสูรวิเศษระดับเก้า  พวกเขาทรงพลังมากขณะมีชีวิต  และพวกเขาเป็นชาวตระกูลเบรุต  วิญญาณของพวกเขาย่อมทรงพลัง  มีโอกาสมากที่พวกเขาจะรอดชีวิตอยู่!”

“ใช่แล้ว”  บีบีสูดหายใจลึก  จากนั้นพยักหน้า

ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าตอนนี้บีบีกระวนกระวายมาก  ที่สำคัญคือ บีบีไม่เคยพบพ่อแม่ของเขามาก่อน พวกเขารอเวลา  และจากนั้น...

“โชคของเจ้าไม่เบาจริงๆ”  พระยายมราชมองบีบีด้วยความประหลาดใจ  “พ่อแม่เจ้าเป็นภูตผีระดับเซียน และเป็นเซียนที่ทรงพลังแข็งแกร่ง”

“ยอดเยี่ยม!”  บีบีกำหมัด ตื่นเต้นจัดจนหน้าแดง

ลินลี่ย์มีความสุขกับบีบีด้วยเช่นกัน  ตั้งแต่เขาผ่านการกลายสภาพวิญญาณ  ดูเหมือนว่าโชคของเขาพลอยก้าวหน้าไปด้วย  ทุกคนที่เขาค้นหายังมีชีวิตอยู่

ทันใดนั้น...

ประกายความคิดหนึ่งวาบผ่านเข้ามาในใจลินลี่ย์  “พ่อแม่บีบี อย่างนั้น..แม่ของข้าล่ะ?”  บีบีไม่เคยเห็นพ่อแม่ของเขา  แต่ลินลี่ย์ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับมารดาของเขาเหมือนกัน  แม้ว่าเขาจะไม่เคยพบมารดา  แต่นางก็ยังเป็นมารดาของเขา  มารดาของเขาเอง!”

“ท่านมหาเทพ  ท่านสามารถหาคนให้ข้าเพิ่มอีกคนได้หรือไม่?”  ลินลี่ย์พูดอย่างกระวนกระวาย

“ไม่, หกป้าย ก็หกโอกาส”  พระยายมราชพูดอย่างใจเย็นไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

บีบีที่อยู่ใกล้รีบกล่าว  “ท่านมหาเทพ สองคนที่พี่ใหญ่ข้าขอท่านค้นหาเป็นเทพไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องคืนความทรงจำ  พวกเขาไม่ควรจะถูกนับด้วย จริงไหม  หรือจะบอกว่าสองคนรวมกันก็ควรนับเป็นครั้งเดียว”

“เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใครถึงตัดสินเรื่องนี้ได้?” มหาเทพชำเลืองดูบีบี  “โอกาสหกครั้งถูกใช้ไปหมดแล้ว”

ลินลี่ย์อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้

“แต่แน่นอนว่า...ถ้าเจ้ายินดีเป็นทูตให้ข้าในฐานะมหาเทพของเจ้า  ข้ายินดีจะค้นหาให้เจ้าสองสามครั้ง”  พระยายมราชพูดขึ้นทันที

ลินลี่ย์ตะลึง

เขาต้องกลายเป็นทูตมหาเทพงั้นหรือ?

“พี่ใหญ่” บีบีอดมองลินลี่ย์ไม่ได้

“ท่านมหาเทพ”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะพูด  “ความจริง ป้ายผู้บัญชาการป้ายเดียวไม่มีค่าอะไร  เนื่องจากสถานะของข้า  ถ้าข้าออกไป..ข้าสามารถหาผู้บัญชาการอื่นและยืมป้ายจากเขาได้  อาจกล่าวได้ว่าข้าเป็นหนี้บุญคุณคนผู้นั้น  ข้าเชื่อว่าคนอื่นคงเห็นด้วยกับคำขอของข้า”

เป็นหนี้บุญคุณลินลี่ย์เพื่อแลกเปลี่ยนกับป้ายผู้บัญชาการ?  ผู้บัญชาการหลายคนยินดีจะมีส่วนร่วมในข้อตกลงนี้แน่

“ก็จริง”  พระยายมราชพยักหน้า

“อย่างนั้นท่านมหาเทพ..เอาอย่างนี้เป็นไง  ถ้าท่านสามารถหาคนที่ข้าต้องการหาได้  อย่างนั้นข้ายินดีเป็นทูตให้ท่าน  ถ้าท่านไม่สามารถหาคนผู้นี้ หรือนางตายไปแล้วอย่างนั้นเรื่องเป็นทูตให้ท่านก็เป็นอันตกไป”  ลินลี่ย์มองดูพระยายมราช

พระยายมราชมองดูลินลี่ย์ชะงักเล็กน้อย  จากนั้นหัวเราะและพยักหน้า  “ตกลง, ข้ายอมรับ”  การค้นหาคนอีกครั้งหนึ่งสำหรับพระยายมราชไม่ใช่เรื่องใช้ความพยายามมากแต่อย่างใด  พระยายมราชรู้ว่าถ้านางไม่เห็นด้วย บางทีลินลี่ย์คงไปหายืมป้ายผู้บัญชาการมาจากคนอื่น

“I want to search for my mother…” Linley said slowly .

“ข้าต้องการค้นหา...แม่ของข้า...”  ลินลี่ย์พูดช้าๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด