ตอนที่แล้วตอนที่ 18 - ร้านหยก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 - แลกเปลี่ยน

ตอนที่ 19 - ร้านหยก


2/2

ตอนที่ 19 - ร้านหยก

แต่เมื่อเจียงหลินออกมาจากร้านทอง เธอก็พบว่าร้านข้างๆนั้นเมื่อเทียบกับร้านทองแล้ว มันแตกต่างกันมาก ทั้งๆที่ร้านไม่ได้ปิด แต่ตู้เคาน์เตอร์กลับว่างเปล่า

เจียงหลินเดินเข้ามาด้วยความสงสัย มีพนักงานเดินมาต้อนรับเธอ แล้วเอ่ยถามว่าต้องการให้ช่วยอะไรไหมด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

นี่ยิ่งทำให้เจียงหลินรู้สึกสงสัย “ร้านคุณนี่มันยังไงกัน ร้านข้างๆของเต็มตู้ แต่ของคุณแทบจะว่างเปล่า”

คนที่น่าจะเป็นพนักงานถอนหายใจ “เฮ้อ อย่าพูดถึงมันเลย นี่เพราะธุรกิจหยกมีความเสี่ยงมาก ไม่กี่วันก่อนเถ้าแก่ร้านไปซื้อหินดิบมา เขามั่นใจว่าข้างในต้องมีหยกไขมันแกะคุณภาพดี แต่ไม่คิดเลยว่าพอผ่าดู จะพลาดท่าซะได้”

เจียงหลินทำการบ้านมานิดหน่อยแล้ว ดังนั้นพอมีความรู้เรื่องการเสี่ยงโชคจำพวกนี้อยู่บ้าง ที่พนักงานเล่าสมควรเป็นการเดิมพันหยก

“แต่เดิมพันครั้งเดียว ร้านถึงขั้นได้รับผลกระทบขนาดนี้เลยหรอ?” เจียงหลินถาม

“แน่นอน ได้รับผลกระทบหนักเลยล่ะ” พนักงานดูเหมือนๆไม่อยากขายสินค้า ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เจ้านายเสี่ยงเอาเงินหมุนทั้งหมดไปพนันหินก้อนนั้น แถมยังจำนองหยกบางส่วนไป คุณเห็นตู้โล่งๆพวกนี้ไหม ทั้งหมดถูกเอาไปใช้หนี้ ตอนนี้เถ้าแก่ยังไม่จ่ายเงินเดือนฉันเลย คิดว่าคงได้เลิกกิจการแน่ๆ”

“ฟังดูไม่น่าพลาดเลยจริงๆ” ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพนักงานถึงไม่มีท่าทีอยากขายของ นั่นเพราะกระทั่งเงินเดือนเขายังไม่ได้รับ เป็นธรรมดาที่จะไม่มีกะจิตกะใจทำงาน

ถึงเจียงหลินจะไม่รู้อะไรมาก แต่เธอทราบดีว่าการพนัน ‘แทงได้รวย แทงพลาดจน’ และน่าเสียดายที่เถ้าแก่ร้านนี้เป็นอย่างหลัง

“ก็ไม่เชิงซักทีเดียว” พนักงานร้านกล่าว “อย่ามองว่าครั้งนี้เถ้าแก่เสียเยอะ ที่มาได้ถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะเขาเคยพนันชนะมาก่อน ชนะมาเรื่อยๆจนสามารถซื้อร้านนี้ได้”

ตอนพนักงานร้านยังเป็นแค่เด็กฝึกงาน เขาได้ยินมาว่าเมื่อก่อนเถ้าแก่ร้านหยกแห่งนี้เคยชนะพนันหินหยก ได้เงินมาหลายสิบเท่า เป็นที่ฮือฮามากในสมัยนั้น

เจียงหลินสำรวจมองร้านค้า มองตู้ว่างเปล่าและใบหน้าเศร้าหมองของพนักงานร้าน ทันใดนั้นเธอก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นในใจ เห็นโอกาสทางธุรกิจ

เธอบอกกับพนักงานขายว่า “ในเมื่อเถ้าแก่ร้านคุณขาดเงิน งั้นเขาสนใจจะขายร้านนี้ไหม?”

ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ชุกชุมตลอดปี เนื่องจากทำเลที่ตั้งดี จึงประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานเป็นสิบปี

และเนื่องจากร้านค้าแถบนี้กำไรดีกันทั้งนั้น เลยน้อยคนนักที่จะยอมขาย บางครั้งต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้

แต่ในเมื่อเถ้าแก่ร้านขาดเงิน งั้นไม่เท่ากับว่าเป็นโชคชะตาของเจียงหลินหรอกหรือ? หากเธอจ่ายมัดจำก่อน แล้วข้ามมิติไปหาของในวันสิ้นโลกอีกซักสองสามครั้ง เธออาจซื้อมันได้!

โชคดีๆแบบนี้อาจไม่มีอีกแล้ว!

“นี่ ....” พนักงานขายนิ่งคิดอยู่พักหนึ่ง แต่นึกหาคำอธิบายไม่ออก เอาจริงๆเถ้าแก่ร้านค่อนข้างงี่เง่ามาก นอกจากเรื่องหยกแล้ว เขาไม่สนใจอะไรเลย ต่อให้อยากขาย เกรงว่าคงไม่สนใจเตรียมการ

“ฉันตอบไม่ได้ คงต้องลองถามเถ้าแก่ดู”

“รบกวนคุณแล้ว” เจียงหลินกล่าวพลางก้มหัว

“รอสักครู่” พนักงานขายเข้าไปในห้องด้านในเพื่อช่วยเจียงหลินถาม

ระหว่างรอเบื่อๆ เจียงหลินหันไปคุยกับพนักงานขายคนอื่น และมองหยกบนเคาน์เตอร์อีกครั้ง

การรอคอยช่างน่าเบื่อ เจียงหลินเดินไปสำรวจดูรอบๆร้าน และพบว่าพื้นที่ของที่นี่สมควรมีขนาดเท่ากับร้านทองข้างๆ แค่มีห้องพิเศษสร้างเพิ่มเข้ามา การออกแบบตกแต่งดูไม่ค่อยเรียบร้อย

สักพักพนักงานขายก็ออกมา เชิญเจียงหลินเข้าไปข้างใน

ทันทีที่เข้ามา เจียงหลินก็พบว่าห้องนี้ไม่เหมือนห้องทำงานของพวกเถ้าแก่ที่เห็นตามในทีวี มีเพียงโต๊ะไม้ใหญ่กับเก้าอี้เถ้าแก่ตัวนึง ในสายตาเธอมันดูเหมือนห้องประชุมมากกว่า

ตรงกลางโต๊ะมีหินหยาบสองก้อน และเครื่องมือบางอย่างที่เจียงหลินไม่ทราบชื่อ ตามพื้นรกไปด้วยสายไฟ ใกล้กำแพงมีเครื่องดนตรีหลายอย่างไม่ทราบชนิด

เจียงหลินเข้ามาในห้อง แต่เถ้าแก่ร้านหยกยังคงวุ่นอยู่กับการส่องหินดิบด้วยไฟฉาย ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเจียงหลินเลย สมาธิทั้งหมดของเขาใช้ไปกับหินขุรขระรูปร่างประหลาด

เมื่อส่องไฟโดนจุดหนึ่งของหินดิบ มันสะท้อนแสงสีเขียวออกมา แต่ส่วนที่เหลือไม่มีสีเลย

เจียงหลินเดาว่านี่น่าจะเป็นหินที่เถ้าแก่เดิมพันพลาด สีหยกไม่สวย มีหยกอยู่แค่บนชั้นผิวบางๆข้างบนเท่านั้น

เจียงหลินเคยอ่านหนังสือและพบว่าเคยมีกรณีเช่นนี้มาก่อน

ใช้เวลาสักพัก เถ้าแก่ร้านเพียงชำเลืองมองเจียงหลิน ตอนแรกเพียงกวาดมองแบบภาพรวม แต่แล้วสายตาเขาก็จ้องเธอค้าง วางหินดิบในมือลง

เจียงหลินมองเขาอย่างสงสัย ในใจกำลังคิดว่าเธอไปทำอะไรให้เขาขุ่นเคืองรึเปล่า?

ในที่สุดเถ้าแก่ร้านก็พูดขึ้น น้ำเสียงของเขาตึงเครียดมาก “ขอดูกระดุมหยกที่คุณใส่อยู่จะได้ไหม?”

ที่แท้ก็แค่ขอดูกระดุมหยก! เจียงหลินไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่ เธอถอดออกแล้วยื่นให้เขาพร้อมเชือก

เถ้าแก่ร้านหยกไม่ได้รับกระดุมหยกจากมือเจียงหลินตรงๆ แต่รีบหยิบผ้ากำมะหยี่สะอาดจากข้างโต๊ะแล้ววางมันลง จากนั้นพูดกับเจียงหลินว่า “หยกไม่ควรส่งต่อผ่านมือ คุณวางมันลงตรงนี้ วางตรงนี้”

เจียงหลินวางกระดุมหยกลงบนผ้า กำมะหยี่

ต่อมา เจียงหลินเห็นเถ้าแก่ร้านหยิบบางอย่างที่ดูเหมือนเป็นแว่นขยายหลายชั้น พร้อมส่องไฟฉายใส่กระดุมหยก

หลังจากดำเนินการหลายอย่างที่เจียงหลินไม่สามารถเข้าใจได้ เถ้าแก่ร้านหยกก็ชั่งน้ำหนักกระดุมหยก และใส่มันเข้าไปในเครื่องอีกครั้งเพื่อตรวจสอบบางอย่าง

เจียงหลินเฝ้ามองทุกอย่างด้วยความงุนงง

ในที่สุด เถ้าแก่ร้านวัยกลางคนก็คืนกระดุมหยกให้เจียงหลินอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ตลอดเวลาสายตาเขาจ้องอยู่แค่กับมัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เจียงหลินจะทันรับกระดุมหยกคืน เสียงของเถ้าแก่ร้านได้ดังขึ้น เขาเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

“คุณมาเจรจาขอซื้อร้านใช่ไหม ฉันยินดีแลกเปลี่ยนมันกับกระดุมหยกก้อนนี้ คุณสนใจไหม?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด