ตอนที่ 156 เซิ่งจื่อช่วยกอดข้าได้ไหม(ตอนฟรี)

ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับอีกโลกหนึ่ง

ทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุดทะลักออกมาจนเกือบเต็มห้องนอน

หัวใจของซูสือเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย

ทรายยังคงรวมตัวกันและรวมกันเป็นรูปร่างต่างๆ

ดาบ วัง รูปปั้น ...... และแม้แต่เฟิงเฉาเกอ

นี่อาจดูเหมือนง่าย แต่แท้จริงแล้วเป็นการควบคุมที่สมบูรณ์!

ซูสือเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ

ตั้งแต่ได้รับไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ มันเชื่อฟังมากและดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับสายเลือดของเขา

ไม่จำเป็นต้องหล่อหลอมเลย

เมื่อคิดถึงเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกในวังใต้ดิน ซูสือมีความเข้าใจที่คลุมเครือในใจของเขา

คาดว่าการกระทำของเขาในการฆ่าสัตว์อสูรทั้งหมดในเมืองได้ลบร่องรอยสุดท้ายของความหมกมุ่นในไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับออกไป

ในขณะเดียวกัน ระบบก็ดังขึ้นในหูของเขา

[เจ้าของควบคุมไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับและมีอิทธิพลต่อโครงเรื่องต่อไป ได้รับ 70 แต้มโครงเรื่อง]

70 แต้ม!

อย่างไรก็ตาม ซูสือไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย

ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับเป็นสมบัติสูงสุด

การควบคุมทราย การปรับรูปร่าง การเปลี่ยนรูป การควบคุมแรงโน้มถ่วง ตราบเท่าที่มีความแข็งแกร่งมากพอ พลังของมันแทบจะไม่มีขีดจำกัดเลย!

หากระดับการบ่มเพาะของคนๆ หนึ่งถึงระดับสูง คนๆ นั้นจะสามารถพลิกภูมิทัศน์อันกว้างใหญ่ได้เลยด้วยซ้ำ!

ตามโครงเรื่อง เมื่ออาณาจักรซาซินได้รับสมบัตินี้ มันจะควบคุมดินแดนทะเลทรายหนึ่งหมื่นลี้ทันที และรวมอาณาจักรโอเอซิสเป็นหนึ่งเดียว!

นั่นจะเป็นมหาอำนาจเทียบเท่าหลินหลาง!

และซูสือก็ตัดโอกาส เปลี่ยนแผนการนี้ไปโดยสิ้นเชิง

ดูเหมือนว่าเจ็ดสิบแต้มจะไม่มากเกินไป

“การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้น ถ้าข้ารอให้โอเอซิสตอบสนอง มันจะก่อให้เกิดพายุเลือดอย่างแน่นอน!”

ซูสือส่ายหัว

หากเขาไม่มองการณ์ไกล และรอให้ขุมอำนาจคนอื่นตอบสนอง มันก็ยากที่จะแข่งขันเพื่อชิงสมบัติสูงสุด

สิ่งที่องค์ชายรองทำ......

หลังจากฆ่าเขาแล้ว เขาไม่ได้ให้แต้มโครงใดๆ เลยด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเพียงตัวละครที่ไม่สำคัญ

ซูสือกางฝ่ามือออก และไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ก็ลอยอยู่เหนือฝ่ามือของเขา

เจตจำนงแห่งดวงดาวภายในร่างกายของเขาถูกดึงออกมา สะท้อนไปยังไข่มุกเทวะทรายลึกลับ

ในขณะที่ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ยังคงหมุนต่อไป ทรายรอบตัวเขาก็เพิ่มขึ้น ก่อตัวเป็นวงแหวนสีทองของดวงดาว ราวกับว่ามันเหมือนกับดวงดาวในสวรรค์ทั้งเก้าจริงๆ!

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเสี่ยงมากที่จะดำลงไปใต้ดินหลายพันเมตรเพื่อให้ได้มันมา

ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับสามารถสื่อสารกับพลังแห่งดวงดาวได้!

ในการสืบทอดมรดกของจักรพรรดิโบราณ ซูสือสัมผัสได้ถึงเจตนาแห่งดวงดาว แต่มันเป็นเพียงภาพเท่านั้น ไม่ใช่แก่นสำคัญ

ในทางกลับกัน ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับควบแน่นแก่นแท้ของโลกและมีความสามารถในการควบคุมแรงโน้มถ่วง เหมือนกับดาวเคราะห์ที่หดขนาดลง และสามารถเพิ่มพลังของดวงดาวให้สูงขึ้นไปอีกขั้น!

ดวงตาของซูสือปิดลงเล็กน้อย และเสื้อผ้าของเขาก็โบกสะบัด

ในทะเลแห่งจิตสำนึก เจตจำนงแห่งดวงดาวสื่อสารกับไข่มุกศักดิ์สิทธิ์และแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

เสียงบี๊บยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา

[กำลังไตร่ตรองไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับ พลังแห่งดวงดาวเพิ่มขึ้น......]

[กำลังไตร่ตรองไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับ พลังแห่งดวงดาวเพิ่มขึ้น......]

[กำลังไตร่ตรองไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับ พลังแห่งดวงดาวเพิ่มขึ้น......]

ไม่รู้ว่านานแค่ไหนก่อนที่ซูสือจะตื่นขึ้นจากอาการเหม่อลอย

นอกหน้าต่างบนท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาวแล้ว

มองเข้าไปในตันเถียนของเขา

เขาเห็นว่าในวิหารสีเหลือง แกนกลางสีทองเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าบนท้องฟ้า ล้อมรอบด้วยแสงดาวระยิบระยับของทางช้างเผือก

ดาวดวงหนึ่งสว่างไสวมาก มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำลายทุกสิ่งได้!

มันเป็นการเสริมพลังที่เกิดจากการไตร่ตรองไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับ!

นี่เป็นเพียงดาวดวงเดียวที่สว่างขึ้น

ถ้าเขาทำให้ทางช้างเผือกสว่างไสวทั้งหมด มีแนวโน้มว่าเขาจะสามารถดึงดวงดาวด้วยมือข้างเดียวได้!

ซูสือพยักหน้า พึงพอใจอย่างมาก

เปิดหน้าต่างระบบ

[เจ้าของ: ผู้สังหารบุตรแห่งโชคชะตา– ซูสือ]

[สถานะ: พลังปราณแห้งเหือด กำลังฟื้นฟู]

[พรสวรรค์: ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์]

[อาณาจักร: อาณาจักรแก่นทองคำ (ขั้นสมบูรณ์)]

[เคล็ดบ่มเพาะ: ผสานเก้าธาตุแห่งฟ้าดิน(วัฏจักรแรก), พระสูตรสวรรค์ (สมบูรณ์), เคล็ดลมหายใจแห่งขุมนรก(สำเร็จอย่างมาก) เคล็ดบ่มเพาะเทพขุมนรก(สำเร็จเล็กน้อย), สวรรค์ประจักษ์(สมบูรณ์) ]

[แต้มโครงเรื่อง: 110 แต้ม]

เมื่อเขาไปถึงเมืองหลวงเว่ยหยาง แต้มโครงเรื่องของเขาหมดไม่เหลือ

แต่การตายของฉูหยินให้เขาสี่สิบแต้ม และไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทรายลี้ลับให้เจ็ดสิบ

เป็นอีกครั้งที่มีแต้มมากกว่าร้อย

อย่างไรก็ตาม ซูสือไม่คิดที่จะใช้มันในตอนนี้

กล่องสุ่มครั้งก่อนทำเขาใจสลาย เขาควรเก็บไว้ซื้อเมล็ดพันธุ์ไฟ

ถ้าเขาสามารถเพิ่มพลังของไฟเทพดวงดาวได้ต่อ เขาอาจพยายามลองหมุนวัฏจักรที่สองของเคล็ดผสานเก้าวัฏจักรแห่งฟ้าดินได้

"และมันยังช่วยหยูเจียวหลงไล่พิษเย็นได้อีกด้วย"

พอคิดถึงนักบุญหยูที่ควันขึ้นตอนอาย ซูสือก็ส่ายหัวอย่างขบขัน

โดยปกติจะเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาไม่คิดเลยว่านางจะอาการหนักแบบนั้น

ก็อก ก็อก

ตอนนี้ มีเสียงเคาะประตูห้อง

ความคิดของซูสือถูกดึงกลับ เขารีบเก็บไข่มุก

เขาเดินไปเปิดประตูห้อง

ซูสือสับสน"มันดึกแล้วนะ ท่านมาทำอะไร?"

หยูเจียวหลงลังเลอยู่นาน"เซิ่งจื่อ ข้าหนาว.."

พอเห็นใบหน้าซีดเซียบว ซูสือก็รู้ตัวว่าพิษเย็นคงจู่โจมนางอีก

"เข้ามาก่อนสิ"

"อืม"

หัวของหยูเจียวหลงก้มต่ำ นางเดินเข้าห้อง

ประตูห้องปิดสนิท

อากาสเงียบสงัด และแสงเทียนก็ริบหรี่

หยูเจียวหลงนั่งบนเก้าอี้ นิ้วของนางกุมชุดตัวเองแน่น มีร่องรอยของความตึงเครียดในดวงตา

พอเห็นนางเงียบ ซูสือก็คิดว่านางกำลังทนกับพิษเย็นและอดถอนหายใจไม่ได้"ท่านคงลำบากมากใช่ไหม?"

หยูเจียวหลงกัดริมีฝปาก

นางไม่รู้ว่านางเป็นอะไร

พิษเย็นไม่ได้ระเบิดขึ้นครั้งนี้ และในอดีต นางก็ทนมันได้ทุกคืน

แม้มันจะเจ็บปวด นางก็สามารถทนได้จนถึงเช้า

แต่นับตั้งแต่นอนกับเขา ความเจ็บปวดนี้ที่นางเคยชินกลับกลายเป็นทนไม่ได้

แม้นางจะไม่อยากยอมรับ แต่นางอยากให้ซูสือกอด

นางอยากนอนอย่างสบายใจในอ้อมกอดแสนอบอุ่น

ซูสือคว้าเอวนางและรู้สึกถึงความเย็นในมือ

แต่มันไม่ได้แย่เท่าครั้งก่อน

ไฟสีทองลุกโชนในฝ่ามือเขา ช่วยไล่พลังงานเย็นจากตัวหยูเจียวหลง

ซูสือพูด"ครั้งนี้พิษเย็นไม่ได้ร้ายแรง แค่จับไว้ก็พอแล้ว ไม่ต้องห่วง นักบุญหยู"

หยูเจียวหลงพูด"แต่ข้าอยากให้เซิ่งจื่อกอดข้า'

"...หะ?"

ซูสือตัวแข็ง

หยูเจียวหลงมองเขา ควันขาวโชยเหนือหัวนาง"ข้าหนาว ถ้าเซิ่งจื่อไม่ถือสา ช่วยกอดข้าเหมือนคืนก่อนได้ไหม?"

ซูสือขมวดคิ้ว"แน่ใจนะ?ท่านต้องถอดชุดนะ..."

หยูเจียวหลงลังเล"เซิ่งจื่อ หลับตาก่อน"

ซูสือหลับตา

มีเสียงถอดชุด

วินาทีต่อมา ร่างกายนุ่มและเย็นก็เข้าสู่อ้อมกอดเขา

หยูเจียวหลงขดตัวในอ้อมกอดเขา ตัวนางสั่นเบาๆขณะที่นางกระซิบ

"รบกวนเซิ่งจื่อทำให้ข้าอุ่นแล้ว"

"???'

ซูสือกลืนน้ำลาย

นางหมายความว่าจะใช้ร่างกายข้าเป็นเครื่องทำความอุ่น?

วังยักษ์มาร

อวิ๋นฉีหลัวนอนอย่างเบื่อหน่ายบนเตียง นิ้วเรียวลูบจี้หัวใจไม่หยุด

"มันดึกแล้ว ซูสือจะหลับยังนะ?"

ซูสือกลับมาพร้อมไป่ชิง

สาวใช้นั่นดูเหมือนจะอยากอุ่นเตียงให้เขา

มันบอกไม่ได้ว่าทั้งสองจะ....ไหม

ความคิดแวบผ่านหัวนาง"ไปแอบดูดีไหมนะ?"

ตอนความคิดนี้เริ่ม มันก็ยากจะกำจัด

"แค่ดูก็พอ"

ราวกับนางเป็นโจร อวิ๋นฉีหลัวกางสัมผัสนางไปคลุมจวนเซิ่งจื่อ

แต่ ภาพที่นางเห็นกลับทำให้นางตัวแข็งทื่อ

"หยูเจียวหลง?!!!!"