บทที่ 8 คนในเมืองช่างหัวหมุนจริงๆ
บทที่ 8 คนในเมืองช่างหัวหมุนจริงๆ
ประมาณสิบนาทีให้หลัง
เฉินอวี่หรานเปลี่ยนชุดลำลองลงมาจากชั้นบน
เมื่อเห็นหลี่จิ้งนั่งตัวตรงอย่างสำรวมบนโซฟา เธอพูดติดตลกว่า
"ผ่อนคลายหน่อย ฉันไม่กินคนหรอกนะ"
หลี่จิ้งยิ้มแห้งๆ แต่ยังคงนั่งตัวตรงเหมือนเดิม
ไม่ใช่ว่าเขาตื่นเต้นหรืออะไร
ประเด็นคือเฉินอวี่หรานไม่ใช่แค่สาวรวย แต่ยังเป็นผู้ตรวจการที่ยังทำงานอยู่! ไม่ว่าจะก่อนข้ามมิติหรือหลังข้ามมิติ หลี่จิ้งก็เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ตรวจการ เขาจึงรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง
เห็นคนตรงหน้ายังคงนั่งท่าทางกระวนกระวาย เฉินอวี่หรานยิ้มน้อยๆ แล้วนั่งลงบนโซฟาตัวตรงข้าม พลางวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะกาแฟ
"เกี่ยวกับเรื่องเช่าร่วม ฉันมีสองเรื่องที่ต้องชี้แจง"
เฉินอวี่หรานเปิดประเด็น มองตรงมาที่เขา
"หนึ่ง บ้านหลังนี้ฉันซื้อเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ได้เช่า"
"เอ่อ..."
หลี่จิ้งงงงัน
ที่เฉินอวี่หรานบอกว่าวิลล่าหลังนี้เธอซื้อเอง เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
เมืองเจียงไห่แม้จะที่ดินมีราคาแพง
แต่ในเขตเป่ยเฉิงนี้ ก็แค่นั้นเอง
เป็นเขตชานเมืองห่างไกล จะแพงก็คงไม่ได้แพงมากนัก
วิลล่าหลังนี้ ราคาน่าจะประมาณสิบห้าล้านหยวน
สำหรับหลี่จิ้ง สิบห้าล้านเป็นตัวเลขมหาศาล
แต่สำหรับเฉินอวี่หราน เงินแค่นี้จะนับว่าเป็นอะไรงั้นเหรอ? เธอยังเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนที่มีมูลค่าหลายสิลล้านเลย!
ปัญหาคือถ้าวิลล่านี้เป็นของเฉินอวี่หราน งั้นก็ไม่มีเรื่องเช่าร่วมใช่ไหม?
นี่...ไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้เลย
"สอง ประกาศเช่าร่วมนั้นไม่ใช่ฉันเป็นคนลง แต่เป็นพ่อฉันที่ทำโดยพลการ"
"..."
หลี่จิ้งพูดไม่ออก
พูดตามตรง
ตั้งแต่เจอเฉินอวี่หราน เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
เมื่อคืนที่เขาได้พบกับเฉินอวี่หราน แค่ตอนบันทึกปากคำเท่านั้น
แต่จากคำพูดและวิธีถามคำถามของเธอ ก็พอจะเห็นได้ไม่ยาก
เฉินอวี่หรานเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและมีความคิดเป็นของตัวเอง
รวมกับการที่อายุยังน้อยก็เป็นผู้ตรวจการระดับสองแล้ว เธอเป็นสาวเก่งอย่างแท้จริง
สาวเก่งแบบนี้จะดูแลตัวเองไม่ได้ ต้องการคนซักผ้าทำอาหารดูแลงั้นเหรอ?
แม้จะต้องการจริง
เธอก็คงไม่ถึงกับหัวหมุนขนาดลงประกาศเช่าร่วมที่ค่อนข้างกำกวมแบบนั้นบนอินเทอร์เน็ต
ตอนนี้รู้ว่าประกาศเช่าร่วมเป็นพ่อของเฉินอวี่หรานเป็นคนลง หลี่จิ้งก็เข้าใจแล้ว
คนที่หัวหมุน ไม่ใช่เฉินอวี่หราน
แต่เป็นพ่อของเธอ!
เรื่องนี้ หลี่จิ้งไม่รู้จะพูดอะไรดี
ได้แต่คิดว่า
คนในเมืองช่างหัวหมุนจริงๆ
เห็นหลี่จิ้งหน้าเหวอ เฉินอวี่หรานก็ไม่ปิดบังอะไร
"พูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็รู้สึกจนปัญญาเหมือนกัน"
ถอนหายใจเบาๆ เธอเริ่มระบายความอัดอั้นราวกับกำลังเทน้ำ...
กำลังจะพูดอะไรต่อ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟก็ดังขึ้นกะทันหัน
เหลือบมองเห็นเบอร์ที่แสดงบนหน้าจอ เฉินอวี่หรานขมวดคิ้ว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย
ไม่รู้ว่าในโทรศัพท์พูดอะไร สีหน้าเธอเปลี่ยนไปมา พูดว่า "รู้แล้ว" แล้วตัดสาย จากนั้นก็ลุกพรวดขึ้น
"มีเหตุการณ์บางอย่างในเขตรับผิดชอบ สำนักงานคนไม่พอ ฉันต้องไปก่อน ถ้านายว่างๆ ช่วยพาหมาไปเดินเล่นหน่อยนะ"
พูดพลางเดินออกจากวิลล่าอย่างรวดเร็ว
หลี่จิ้งยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไร เฉินอวี่หรานก็โบกมือเรียกกระบี่บินขึ้นสู่ท้องฟ้า กลายเป็นสายแสงพุ่งไปไกล
มองสายแสงที่หายลับไปในพริบตา หลี่จิ้งงงงันไปชั่วขณะ
นี่...คือผู้ตรวจการที่ยังทำงานอยู่งั้นเหรอ?
ปฏิบัติการรวดเร็วทันใจ แค่โทรศัพท์มาก็ออกไปทันที
ถึงขนาดไม่สนใจว่ายังมีคนนอกอยู่ในบ้าน?
หันไปมองกุญแจที่เฉินอวี่หรานทิ้งไว้บนโต๊ะ หลี่จิ้งก็เก็บกุญแจขึ้นมา
ได้อยู่เป็นเพื่อนคุ้มกัน ได้อยู่ห้องพักในวิลล่าฟรี ยังใช้ครัวได้ตามใจชอบ
งานนี้ คุ้มมาก
สำคัญคือไม่ต้องเสียเงิน แบบนี้สิถึงจะเยี่ยม!
(จบบท)