บทที่ 73 ข้ามองเจ้าเป็นเหมือนน้องสาว แต่เจ้าต้องการที่จะยั่วยวนข้า?
ห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ตระกูลเซียว
ตั้งแต่ผู้นำตระกูลเซียวไปจนถึงผู้อาวุโสนอก บรรดาผู้อาวุโสทั้งหมดต่างมารวมกันที่นี่ กลุ่มคนนั้นมากกว่าวันที่หลี่หยุนฮ่าวมาเยี่ยมเสียอีก
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ชายคนหนึ่ง
หลี่หราน
ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นฝันร้ายที่สุดของตระกูลเซียว แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นผู้กอบกู้... สิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกซับซ้อน
หลี่หรานพูดอย่างสงบกับเซียวชิงเกอว่า “พูดมา คำอธิบายของเจ้าคืออะไร?”
เซียวชิงเกอพูดเสียงเบาด้วยความลำบากใจ “ข้าขอโทษ เหตุผลที่ข้าปกปิดตัวตนจากท่านก็คือข้าไม่คิดว่าข้าคู่ควรกับท่าน ตอนนี้ข้าเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาและท่านก็โดดเด่นมาก ข้าไม่มีความมั่นใจที่จะเปิดเผยตัวตน...”
เมื่อเห็นท่าทางเสียใจของนาง หลี่หรานก็พูดอย่างใจเย็นว่า “เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของผู้คนในโลกไม่โดดเด่นเท่าข้า นี่เป็นเรื่องปกติมาก เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกต่ำต้อย”
‘คนที่มีการบ่มเพาะสูงกว่าข้าและหล่อเหลากว่าข้า?... โทษที บุคคลเช่นนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก’
เซียวชิงเกอย่นจมูกของนาง “หลงตัวเอง...”
อย่างไรก็ตาม นางร่าเริงขึ้นมาก
หลี่หรานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าไว้ใจข้ามาก เจ้าไม่เพียงบอกข้าทุกอย่างเกี่ยวกับอาณาจักรลับ แต่เจ้ายังเต็มใจที่จะมอบผลไม้วิญญาณให้ข้าด้วย”
เซียวชิงเกอยิ้ม “ถ้าข้าไม่เชื่อใจท่านแล้วจะให้ข้าเชื่อใจใคร? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รู้ใจท่าน หัวใจของข้าทั้งหมดล้วนเป็นของท่าน”
“ฮะ?” หลี่หรานผงะ “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
เซียวชิงเกอตอบอย่างเขินอายว่า “ข้ารู้ว่าท่านชอบข้ามาหลายปีแล้ว ข้ารู้ด้วยว่าข้าเป็นผู้หญิงที่สำคัญต่อท่าน... อันที่จริง ขะ-ข้าก็ชอบท่านเช่นกัน!”
หลังจากที่นางพูดจบ ใบหน้าเล็กๆของนางก็แดงขึ้น ดวงตาที่สดใสของนางเต็มไปด้วยหยดน้ำ
เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงคำว่า ‘คู่หมั้น’ ของหลี่หรานในลานประลอง นางก็รู้สึกเหมือนตกอยู่ในบ่อน้ำผึ้ง
อย่างไรก็ตาม หลี่หรานตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
“ข้าชอบเจ้ามาโดยตลอด? ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้?” หลี่หรานรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ข้ามองเจ้าเป็นเหมือนน้องสาว แต่เจ้าต้องการที่จะยั่วยวนข้า?”
เซียวชิงเกอรู้สึกสับสน
อะแฮ่ม!
ในขณะนั้นเอง เซียวเหนียนไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป เขาพูดว่า “มีใครอยากจะอธิบายให้ข้าฟังไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“อ๊ะ!”
ตอนนั้นเองที่เซียวชิงเกอจำได้ว่าคนในตระกูลของนางยังคงอยู่ข้างๆ นางก้มหน้าลงด้วยความอับอายทันที
“นายน้อยหลี่ ทำไมท่านไม่อธิบายให้ข้าฟังแทนล่ะ?” เซียวเหนียนถาม
หลี่หรานกล่าวว่า “ปัญหาคือข้าก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกัน!”
เซียวเหนียนพูดไม่ออก
หลังจากนั้นไม่นาน เซียวเหนียนก็เข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“กล่าวอีกนัยหนึ่งคือชิงเกอไปที่เทือกเขาสือว่านเพียงลำพังและได้รับการช่วยเหลือจากท่าน จากนั้นพวกเจ้าทั้งคู่ก็เข้าสู่อาณาจักรด้วยกัน?”
เซียวเหนียนลูบคางของเขา “ช่างบังเอิญเสียนี่กระไร มันคือโชคชะตาอย่างแท้จริง!”
“มันคือโชคชะตาจริงๆ” หลี่หรานพยักหน้า
เซียวเหนียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งและถามคำถามที่ทุกคนกังวล “นายน้อยหลี่ ท่านต้องการยกเลิกการหมั้นหมายนี้หรือไม่?”
สิ่งนี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับตระกูลเซียวและตระกูลหลี่เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับวิหารโหยวหลัวอีกด้วย!
ในตอนนี้ ทัศนคติของหลี่หรานมีความสำคัญอย่างยิ่ง
“การหมั้น?” หลี่หรานลังเล
จริงๆแล้วจุดประสงค์ของเขาในการลงมาจากวิหารโหยวหลัวคือการมาที่ตระกูลเซียวเพื่อยกเลิกการหมั้น
อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเซียวชิงเกอทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง
นางกล้าหาญ อดทน และจริงใจ แม้ว่านางจะตกลงสู่โลกของปุถุชน แต่นางก็ไม่รู้สึกท้อแท้ นางมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับความเป็นไปได้ทั้งหมด
สิ่งสำคัญที่สุดคือรูปลักษณ์ของนางดีมาก นางสวยและสดใส แม้ว่านางจะไม่มีกลิ่นอายที่เย็นชาเหมือนท่านอาจารย์ แต่นางก็ดูอ่อนเยาว์และน่ารัก
ถ้าหลี่หรานพูดว่าเขาไม่ชอบนาง นั่นก็คงเป็นเรื่องโกหก
สิ่งเดียวที่เขากังวลในตอนนี้คือท่านอาจารย์ของเขาจะหึงหวงถ้านางรู้เรื่องนี้
เมื่อนึกถึงความหึงหวงของเหลิงอู่เหยียน หลี่หรานก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
นางจะฆ่าเขาแน่นอน!
ในขณะนั้นเอง เซียวชิงเกอกล่าวว่า “หลี่หราน ท่านไม่จำเป็นต้องลำบากเพื่อข้า แม้ว่าท่านจะถอนหมั้น แต่ใจของข้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
“การหมั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชะตากรรมของเรา มันไม่ได้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงของพวกเรา”
“ข้าไม่สามารถผูกมัดท่านไว้กับตระกูลเซียวเพียงเพราะสัญญาการหมั้นหมาย มันไม่ยุติธรรมสำหรับท่าน”
นางพูดอย่างนุ่มนวล แต่คำพูดของนางเต็มไปด้วยความรักอย่างลึกซึ้ง
สมาชิกคนอื่นๆของตระกูลเซียวต่างก็กังวล
การหมั้นหมายนี้สำคัญมากสำหรับตระกูลเซียว เซียวชิงเกอจะโง่ขนาดนี้ได้อย่างไรในเวลาเช่นนี้?
เซียวเหนียนไม่พูดอะไร
เขาให้ทั้งสองเป็นคนตัดสินใจ
หลี่หรานมองนางอย่างจริงจังและส่ายหัว “ข้าจะตัดสินใจได้ด้วยตัวเองเกี่ยวกับการแต่งงานของข้า ส่วนการแต่งงานครั้งนี้... ข้าจะไม่ยกเลิก!”
เขาตัดสินใจเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ
สำหรับท่านอาจารย์...
อย่างเลวร้ายที่สุด เขาอาจจะถูกนางทุบตีอย่างรุนแรง แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถปล่อยสถานการณ์ตรงหน้าไปได้
หัวใจของเซียวชิงเกอกำลังจะหลอมละลาย “หลี่หราน...”
หากไม่ใช่ว่ามีคนจำนวนมากอยู่รอบๆ นางคงจะกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของหลี่หรานแล้ว
เซียวเหนียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
บุตรสาวของเขาไม่เพียงพบคู่ชีวิตที่ดีเท่านั้น แต่ตระกูลเซียวยังมีโอกาสได้พักหายใจอีกด้วย
‘แต่เป็นไปไม่ได้ที่หลี่หรานจะอยู่ในเมืองหวู่หยาง หากตระกูลเซียวต้องการอยู่รอด พวกเราต้องพึ่งพาตนเอง!’ เขารู้อยู่แก่ใจ
“ยังไงก็ตาม” หลี่หรานคิดอะไรบางอย่างได้และหยิบผลไม้สีแดงออกมา
ทั้งห้องโถงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่น
“นี่สำหรับเจ้า” หลี่หรานมอบผลไม้สีแดงให้เซียวชิงเกอ
เซียวเหนียนตกตะลึงไปครู่หนึ่งและถามด้วยความสงสัยว่า “มันคืออะไรกัน? มันมีกลิ่นอายอมตะ และจากรูปลักษณ์ภายนอก มันดูเหมือนสมุนไพรวิญญาณที่หายาก!”
ดวงตาของเซียวชิงเกอกระชับขึ้นในขณะที่นางพูดว่า “มันคือผลไม้วิญญาณจากหุบเขาสมุนไพรอมตะในอาณาจักรลับ โอกาสเดียวของข้าที่จะเริ่มต้นใหม่บนเส้นทางอมตะ!”
สมาชิกตระกูลเซียวอ้าปากค้างอย่างพร้อมเพรียงกัน
“สมุนไพรอมตะ?”
“ผลไม้วิญญาณ?”
“เริ่มต้นเส้นทางอมตะอีกครั้ง?”
นี่เป็นเรื่องสำคัญเกินไปสำหรับตระกูลเซียว
เซียวเหนียนเงียบเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะยืนขึ้นและคำนับอย่างสุดซึ้งต่อหลี่หราน “นายน้อยหลี่ ไม่ว่าชิงเกอจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ท่านคือผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อตระกูลเซียวของข้า!”
ผู้อาวุโสตระกูลเซียวคนอื่นๆลุกขึ้นและโค้งคำนับอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณท่าน นายน้อยหลี่!”
มันคือสมุรไพรอมตะ!
ไม่ต้องพูดถึงโลกมนุษย์ มันหายากมากแม้แต่ในหมู่นิกายชั้นนำ
แต่หลี่หรานกลับเต็มใจที่จะมอบมันให้เซียวชิงเกอ
ความเสน่หาแบบนี้ตราตรึงใจผู้คนจริงๆ
หลี่หรานส่ายหัวและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องมากพิธี สิ่งนี้เป็นของนาง ข้าแค่คืนมันให้กับเจ้าของ”
สมาชิกของตระกูลเซียวไม่ได้เก็บคำพูดของเขามาใส่ใจ
มนุษย์ธรรมดาจะได้รับสมุนไพรอมตะได้อย่างไร?
หลี่หรานมองไปที่เซียวชิงเกอและพูดว่า “ไปกันเถอะ หาห้องเงียบๆแล้วข้าจะปกป้องเจ้าเอง”
เซียวชิงเกอพยักหน้า
เซียวเหนียนนำทั้งสองไปที่ห้องฝึกฝนใต้ดิน
สองชั่วโมงต่อมา...
พลังปราณบนท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์ตระกูลเซียวควบแน่น บทสวดของความเป็นอมตะดังไม่หยุดหย่อน เงาที่คลุมเครือเบื้องหลังเสียงสะท้อนนั้นดูเหมือนกับราชสีห์และนกฟีนิกซ์กำลังเผชิญหน้ากัน
เซียวชิงเกอได้พลิกชะตากรรมของนางและกลับไปสู่เส้นทางอมตะอีกครั้ง!
//////////