ตอนที่ 703 สำเร็จ
ลมไร้ลักษณ์นั้นเงียบ
อากาศรอบตัวถังเทียนที่ปั่นป่วนและทันใดนั้นกลับเงียบสนิท ความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงครอบคลุมตัวถังเทียน
ชี่ ชี่!
โลหิตฉีดพุ่งออกมาจากขาของถังเทียน คล้ายกับแนวของเส้นเลือด
“เอ๊ะ!”
บุรุษที่สวมชุดยาวหรูหรามองจากระยะไกลและอารมณ์เขาเปลี่ยนเขาไม่รู้สึกถึงความผันผวนอะไร เขามองดูมือกระบี่ระยะห่างออกไปผู้มีสีหน้าตกใจ
ฉัวะ ฉัวะ!
เลือดสองสายพุ่งออกจากไหล่ทั้งสองของถังเทียน
หน้าของบุรุษผู้นั้นจริงจัง ที่ระดับของพวกเขาความผันผวนที่กฎธรรมชาติสร้างขึ้นไม่สามารถหลบสายตาของพวกเขาได้ แต่การโจมตีของเบนสันไร้รูปไร้ลักษณ์และไม่สร้างแรงผันผวนในอากาศแต่อย่างใด
‘เป็นไปไม่ได้!’
ไม่มีแสง ไม่มีเสียงไม่มีแม้แต่ระลอกในอากาศ แต่นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถทำสำเร็จได้ ไม่มีแม้แต่แรงกระเพื่อมจากกฎธรรมชาติ สามารถซ่อนเอาไว้ได้ นั่นน่ากลัวเกินไป มีเพียงวิธีเดียวที่จะหยุดพลังโจมตีอย่างนั้น และนั่นก็คือหมุนสนามพลังไปยังมุมที่ไม่ตาย
‘เบนสันแข็งแกร่งมากเชียวหรือ?’
บุรุษชุดหรูลอบตกใจ สายตาของเขาจับจ้องที่เบนสัน ‘ตามที่เบนสันคาดไว้! ชื่อของตระกูลมัวร์จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งขณะที่ทุกคนดูถูกความแข็งแกร่งของเบนสัน’
เขาไม่แม้แต่จะมองดูบุรุษหน้ากากผี บุรุษหน้ากากผีไม่น่าทึ่งเหมือนเช่นก่อนแล้ว ตอนนี้บุรุษหน้ากากผีเป็นเหมือนแกะที่เชื่องเชื่อแล้ว ‘เวลาตายของเขาถูกเบนสันกำหนดไว้แน่นอน เบนสันจะกระชับโซ่ล่ามคอของเขาเมื่อใดก็ได้’
‘คนผู้นั้นตายแล้ว’
ความคิดของบุรุษอาภรณ์หรูเพ่งอยู่ที่ความปั่นป่วนที่การสู้รบสร้างขึ้น พลังแข็งแกร่งที่เบนสันแสดงออกมาทำลายสมดุลของเมืองจื่อจวน องค์ประกอบธาตุไม่สามารถปกปิดได้ต่อไป
ในแดนบาป ผู้แข็งแกร่งเป็นจ้าวและนักสู้ที่แข็งแร่งสามารถค้ำยันตระกูลได้ แดนบาปไม่มีประชากรมากแต่แรกเริ่มครึ่งหนึ่งถูกทิ้งไว้ให้อยู่ในสภาพที่อันตรายและรุนแรง ด้วยกำลังคนไม่มากนี้ ได้กำหนดเส้นทางสำหรับแดนบาปทำให้ไม่สามารถมีกองทัพเหมือนดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ต่อไป การใช้นักสู้ผู้แข็งแกร่งนั้นเด่นชัดมาก
มือกระบี่เป็นคนตรงมากกว่า เขาหันกายและเตรียมตัวจากไป ขณะที่เขาหมดความสนใจการต่อสู้ที่สูญเสียความน่าสนใจ
ทันใดนั้นดูเหมือนเขาจะมีความรู้สึกบางอย่างและหันกลับไปดู
ดวงตาหมองของบุรุษหน้ากากผีที่หมองพลันสว่างเจิดจ้าขณะที่เขายังถูกพลังที่มองไม่เห็นล้อมโจมตี
เพราะเหตุผลบางอย่างมือกระบี่กลั้นลมหายใจ เขาจับด้ามกระบี่โดยไม่รู้ตัว
ถังเทียนต่อยหมัดออก เพลิงแดงพุ่งออกมา
‘หอกเพลิงแดงอีกแล้วหรือ?’ เบนสันหรี่ตา ‘ดูเหมือนว่าคู่ต่อสู้ผู้นี้จะมาได้สุดทางแล้วจริงๆ เขาไม่เคยใช้การโจมตีซ้ำ แต่ตอนนี้เขาใช้การท่าเดียวกันเหมือนเดิมได้อย่างไร’
‘ได้เวลาฆ่าเจ้าแล้ว’
เบนสันผ่อนคลายและกางนิ้วออกจากนั้นรวบนิ้วอีกครั้ง
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะเลือดพุ่งออกจากทั่วร่างของถังเทียน ในพริบตาก็มีบาดแผลมากมายบนตัวของเขา
หน้ากากผีเขียวดำยังคงเงียบ แต่รังสีเยือกเย็นในดวงตาเขาสว่างเจิดจ้ามาก ภายในละอองเลือดบุรุษหนุ่มเหยียดหลังต่ำค้างในอากาศไม่สนใจบาดแผลบนร่างกายราวกับว่าแผลเหล่านั้นไม่มีผลอะไร
ฉากภาพเหมือนกับจะหยุด ร่างนั้นบิดเหมือนกับสายธนูที่ถูกเหนี่ยวเต็มไปด้วยพลังเคลื่อนไหวที่สง่างามเหมือนกับว่าเขาเตรียมจะระเบิดพลังออกมา ตัดกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยละอองเลือดฉากนี้ทำให้ทุกคนมองดูอย่างชื่นชม เป็นภาพที่ยากจะเห็น
ความรู้สึกว่าเขาเต็มไปด้วยพลังสร้างความตกใจให้กับทั้งมือกระบี่และบุรุษอาภรณ์หรู
เบนสันถึงกับสีหน้าเปลี่ยน
‘แย่แล้ว!’
เขาเพียงแต่มีเวลารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่หมัดของบุรุษหน้ากากผีก็มาถึงแล้ว
หมัดที่ใช้นั้นไม่มีการเคลื่อนไหวที่ยากปล่อยออกง่ายเหมือนกับกระแสน้ำซึ่งระเบิดพลังที่มิอาจหยุดยั้งได้ออกมา
วินาทีต่อมาถังเทียนหรี่ตาแคบเหมือนเข็มหมัดของเขากระแทกใส่อากาศข้างหน้าเขา
‘เขา..เขาหาเจอได้ยังไง?’
เบนสันถูกความตกใจครอบงำ พลังดาบสายลมนั้นเป็นพลังโจมตีที่ลึกลับและไร้ลักษณ์นุ่มนวลเหมือนสายน้ำ และเขาไม่สร้างความผันผวนในอากาศตามกฎไร้ลักษณ์ วิชาสังหารของเขาไม่ใช่สิ่งที่บุรุษหน้ากากผีจะสามารถรู้สึกได้!
‘แต่เขาพบพลังดาบสายลมได้!’
‘นั่นเป็นไปได้อย่างไร!’
‘วิชาดาบสายลม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาพบเจอได้ยังไง?’
‘คนผู้นี้ หลอกมาโดยตลอดหรือ?’
ในขณะนั้น ความคิดทั้งหมดผุดขึ้นมาในใจของเบนสัน แต่ทันใดนั้นเขาสงบจิตใจได้ทันที เขามั่นใจในตนเอง พลังดาบสายลมถูกปิดบังซ่อนเร้นอย่างดี และศัตรูไม่สามารถจับได้ แต่เขารู้จุดอ่อนของวิชานี้ ดังนั้นเขาจึงออกแบบช่องว่างของดาบสายลมอย่างระมัดระวัง
ใครจะคิดกันว่าคนที่ดูเหมือนหยาบกร้านและตัวใหญ่อย่างเบนสันหน้าดำจะเจ้าเล่ห์มากขนาดนั้น?
หมัดที่สร้างเพลิงแดงเป็นเหมือนลูกไฟพุ่งเข้าหาอย่างดุดันและรวดเร็ว
‘เดี๋ยวก่อน!’
‘นั่นไม่ใช่เพลิงแดง!’
เพลิงแดงเปลี่ยนเป็นสีเทา
หน้าของเบนสันเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่มีเวลาตั้งตัว และช่องว่างลมข้างหน้าของเขาระเบิด
พลังโจมตีของทั้งสองคนปะทะกันโดยตรงช่องว่างลมภายในที่เบนสันควบคุมอยู่สูญเสียความควบคุมทำให้เกิดการระเบิดต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
พลังเยือกเย็นที่น่ากลัวทำให้หน้าของเบนสันเปลี่ยนไปอีก ร่างของเขาชา และเขาสับสน ‘นี่มันคือกฎธรรมชาติแบบไหนกัน?’
ขนาดของการระเบิดมากเป็นประวัติการณ์ คลื่นระเบิดเสียงที่น่ากลัวและแรงระเบิดกวาดผ่านเบนสันไปทำให้เขารู้สึกถึงพลังที่ถล่มภูผาพลิกมหาสมุทรปะทะใส่เขาทำให้เขาสูญเสียการควบคุมและปลิวออกไป
ถังเทียนปลุกเพลิงสุญญตาและปลอมหลอกว่าเป็นเพลิงแดงและหลอมรวมเข้ากับกฎที่เขาเพิ่งเรียนรู้ และทุ่มเทออกไปในการโจมครั้งเดียว
และเพราะหมัดนี้
ถังเทียนผู้ปล่อยหมัดอยู่ในอากาศเงียบหน้ากากเขียวดำยังดูอดทนและเย็นชา ดวงตาที่เจิดจ้าพลันหมองลงสิ่งที่มาแทนที่คือความยืดหยุ่นที่หยั่งรู้ไม่ได้
แรงระเบิดปล่อยเสียงออกมาราวกับภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย
เอ๋...
บุรุษหนุ่มหลังหน้ากากหน้าเบี้ยว ‘อ๊าคคคค,เจ็บโคตร…’
‘ถ้ามีดนตรีประกอบจะทำให้ข้าหล่อขึ้นไหม? หรือบางทีข้าควรจะชูมือขึ้นแล้วตะโกน ‘หนุ่มชาวฟ้า ลุย ลุย ลุย?’ดีไหม? หรือว่าข้าควรทำบางอย่างให้ตัวข้าดูแข็งแกร่งทรงพลังขึ้นดี? ถ้าเสี่ยวซิ่วซิ่วได้เห็นภาพนี้ เขาจะต้องนอบน้อมพินอบพิเทาต่อข้าแน่ๆใช่ไหม? หรือว่าอาโมรี่ก็ทำด้วย...’
‘โอ้เวร.. ลืมไป! เราไม่มีเวลา!รำคาญชิป!’
ถังเทียนรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาหมุนตัวไปและย่อตัวแหงนหน้ามอง
ปัง แรงระเบิดกระแทกจากด้านหลังของเขาทำให้แผลทั่วตัวปริออกเลือดไหลออกมาอีก ถังเทียนตาลายเล็กน้อย เขาครางแต่ยังทนได้
เขาไม่ต่อต้านพลัง ไม่ใช่เพราะเขาไม่ต้องการ แต่เป็นเพราะเขาทำไม่ได้ และร่างของเขาปลิวออกไป
ฉากภาพรอบตัวเขาผ่านไปอยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว สายตาของถังเทียนไม่เคยละไปจากร่างที่ยืนอยู่ชั้นบนสุดของป้อม
ความเร็วของถังเทียนเร็วจัดจนเกิดภาพเงาลวงตาตาหลังเขา
ทุกคนตกใจกับขนาดของพลังระเบิด แรงระเบิดที่น่ากลัวกระแทกใส่เขาโดยตรง ทั่วทั้งถนนสายตะวันตกถูกกวาดทำลายและผู้สังเกตการณ์กำลังพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อต้านทานแรงระเบิด ขณะนั้นไม่มีใครสังเกตว่าถังเทียนบินออกไป
ดารินตกใจจนหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ จากตำแหน่งของนางนางสามารถเห็นพลังระเบิดขนาดใหญ่กวาดล้างถนนตะวันตกสภาพแวดล้อมโดยรอบถูกกวาดหายไปจากแรงระเบิด
ทันใดนั้นจุดดำเล็กปรากฏในสายตานางพลันขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว
‘เดี๋ยวก่อน นั่นคือ...’
ใบหน้าผีที่น่ากลัวมีแววประสงค์ร้าย เขากางแขนกางขาเหมือนกับตาข่ายกระโจนเข้ามาหานางด้วยเร็วอย่างน่าประหลาด
‘ไม่...’
ใจของดารินว่างเปล่า นางตกใจอย่างสิ้นเชิงรู้สึกเหมือนกับว่านางกำลังจะถูกกิน
สายลมกระชากกวาดผ่านร่างนางไป
‘เฮ้อ..ได้ตัวเจ้าแล้ว!’
เบื้องหลังหน้ากาก ถังเทียนยิ้มดีใจ เขาใช้มือและกอดหานปิงหนิง แต่วินาทีต่อมาเขามีสีหน้าชะงักค้างตลอดทั้งตัวหานปิงหนิงถูกพันธนาการและนางอ่อนแอมาก
‘แย่แล้ว’ เมื่อถังเทียนตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติทั้งคู่ก็ไม่สามารถหยุดได้แล้ว
ครืน ครืน ทั้งสองคนกลิ้งไปสองสามเมตร
ถังเทียนสะบัดศีรษะไล่ความมึนงงและยืนขึ้น หานปิงหนิงยังเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็งแต่คอของนางแดง
ถังเทียนกำจัดเข็มแสงที่หลังนางทันที
“ตาย!”
เบนสันคำราม แม้เมื่อเทียบกับพลังระเบิดที่ทรงพลัง แต่เสียงของเขาก็ยังทรงพลัง
ถังเทียนแตกตื่นตกใจ เขาหันไปมองและสังเกตเห็นจุดดำกำลังพุ่งมาหาเขาด้วยความเร็วสูง ‘ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เบนสันกับราชสีห์ที่โกรธ ราชสีห์ที่ตัวดำไปหน่อย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....’
ถังเทียนก้าวไปข้างหน้าและคว้าตัวดารินที่กำลังตะลึง
เมื่อเห็นเช่นนั้น เบนสันตาแทบถลน
‘ไม่!’
รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเทียนหายไป เขาผ่อนลมหายใจคว้าตัวดารินใช้พลังเหวี่ยงนางไปทางอื่น
ปัง,ละอองเลือดพุ่งออกอีกครั้งหลังจากเขาเหวี่ยงนางออกไป
ดารินพุ่งออกไปเหมือนลูกธนูพุ่งไปทางซ้ายมือของถังเทียน
“ว้ายยย...”
ดาลินกรีดร้องได้ยินเข้าหูทุกคน เบนสันระเบิดพลังเต็มที่ทันใดนั้นเขาเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศทันที เขาวิ่งตรงไปที่ดาริน
ถังเทียนถอนหายใจโล่งออก เขาใช้มือและเท้าของเขาคลานไปที่ประตูและดึงธนูออกมา ‘หมีโลหิตนี่มันน่าตลกจริงๆ’ เมื่อดูรูปลักษณ์ที่น่ากลัวของมัน ถังเทียนรู้สึกว่าทนดูไม่ได้เลย ‘ไม่, หานปิงหนิงจะต้องวาดอีกตัวหนึ่ง...’
ทหารยามของบ้านตระกูลมัวร์ตื่นจากอาการตะลึงในที่สุด เมื่อพวกเขาเห็นว่าถังเทียนต้องใช้ทั้งแขนและขาดึงธงออกมา พวกเขารู้ว่าเขาใช้พลังไปทั้งหมดแล้วจึงรีบฮือวิ่งเข้าไปหา
หน้าของหานปิงหนิงพลันเย็นชาโดยไม่ต้องตั้งท่าอะไร รังสีพลังแผ่ออกจากร่างนาง
โดยมีนางเป็นศูนย์กลางน้ำแข็งก่อตัวบนพื้นที่นางยืนตระหง่านแม้จะไม่มีกระบี่ แต่สำนึกกระบี่ยะเยือกทะลักอยู่ในอากาศ
พวกยามที่กำลังวิ่งเข้ามาหาพวกเขาหยุดอยู่กับที่
มือกระบี่ที่สังเกตดูในอากาศอดอุทานไม่ได้ ตาของเขาเป็นประกายในฐานะที่เป็นมือกระบี่ เขามีความรู้สึกที่ไวต่อสำนึกกระบี่ และความสนใจของเขามีมากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นสำนึกกระบี่ที่บริสุทธิ์มากด้วยความสามารถสร้างธารน้ำแข็งได้โดยไม่สูญเสียสำนึกกระบี่ที่แท้จริง สายตาของมือกระบี่ผู้นั้นมองดูด้วยความชื่นชม มือกระบี่หลายคนไขว่คว้าหาพลังรูปแบบต่างๆ รวมทั้งในกฎธรรมชาติต่างๆ แน่นอนว่าพวกเขาสามารถเพิ่มพลังพวกเขาได้ในตอนแรก แต่วิชาของพวกเขาจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องเกินไป จะกลายเป็นเรื่องที่ยากมากกว่าที่พวกเขาจะก้าวหน้าไปถึงระดับที่แน่นอน
มีแต่คนผู้ยึดมั่นในแก่นแท้อย่างรวดเร็วเท่านั้นจึงจะสามารถได้รับสุดยอดวิถีกระบี่
ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากด้านหลังคว้าแขนหานปิงหนิงไว้ทำให้รังสีพลังน้ำแข็งเริ่มสะเทือนและสลายหายไป
ถังเทียนคว้ามือหานปิงหนิงข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งถือธงและเริ่มวิ่งทั้งสองกลายเป็นภาพเลือนรางและหายไป
สิ่งที่เหลือก็คือองครักษ์ประจำป้อมที่ได้แต่มองหน้ากันเอง