ตอนที่ 702 สนามพลัง พลังรู้แจ้งของเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
แท่นประรำด้านประตูตายของประตูเป็นตาย
หลังจากกอดพวกนางแล้ว เย่ว์หยางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารู้สึกว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียแตกต่างจากเมื่อก่อน
เดิมทีก่อนที่พวกนางจะฝึกกับจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี แม้ว่าพวกนางจะมีความก้าวหน้ามาก แต่พวกนางก็ถึงเพียงชั้นปราณก่อกำเนิดระดับห้า ตอนนี้พวกนางไม่เพียงแต่ถึงปราณก่อกำเนิดระดับหก แต่ยังมีการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพที่อธิบายไม่ถูก อาจเป็นไปได้ไหมว่าพวกนางเข้าใจสนามพลังของตนเองดีแล้ว? เย่ว์หยางประหลาดใจและดีใจ เขาใช้พลังจักษุญาณทิพย์ตรวจดูและพบว่าร่างขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำลังปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์เฉพาะรูปแบบ
พลังศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ แม้ว่าจะยังไม่อาจเทียบได้กับดาบเทพของจักรอวี้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ด้วยการหลอมรวมระหว่างนางกับพยัคฆ์ขาวอสูรพิทักษ์ของนาง ต่างก็เพิ่มพลังและประสิทธิภาพให้กัน ทำให้พลังขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพุ่งทะยานในระดับใหม่จนเย่ว์หยางต้องแปลกใจ
ในอดีตองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเป็นแค่ลูกเสือที่มีเขี้ยวคม แต่ตอนนี้นางกลายเป็นแม่เสือสาวติดปีกไปแล้ว คำอธิบายถึงความก้าวหน้าของนางด้วยคำว่าพยัคฆ์ติดปีก นับว่าเหมาะสมดีแล้ว
พลังศักดิ์สิทธิ์ในร่างของนางเป็นพลังที่ดีที่สุดที่ช่วยนางในการต่อสู้
สิ่งที่ได้มากกว่านั้นก็คือพลังศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นของพลังด้านหยิน นับว่าดีต่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่สามารถใช้ได้ แต่ขณะเดียวกันยังช่วยเสริมพลังหยางในร่างของเย่ว์หยาง.. เย่ว์หยางไม่กล้าคาดคิดว่าถ้าเขารวมพลังกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตอนนี้ เขาจะทรงพลังขนาดไหน? นี่คงไม่ง่ายเหมือนกับบวกเลขแน่นอน!
“แม่เสือสาว!, เจ้าเข้าใจสนามพลังของเจ้าตั้งแต่เมื่อใด?” เย่ว์หยางถามด้วยความประหลาดใจ
“สามวันที่แล้ว” ด้วยความพึงพอใจเล็กๆ น้อยๆ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชูกำปั้นนางและทุบอกเย่ว์หยางหยอกล้อ “เราไม่ได้โง่นะ ก่อนหน้านี้เรายังคงลดระดับการฝึกฝนเองเพื่อให้ได้รู้เรื่องสนามพลังมากขึ้น มิฉะนั้น เจ้าจะล้ำหน้าเหนือกว่าเราได้ยังไง! เมื่อจื้อจุนบอกว่าถ้าเจ้าตั้งใจเพ่งสมาธิกับพลังของสนามพลังในประตูเป็นตาย เจ้าจะสำเร็จได้เป็นสองเท่าโดยใช้พลังครึ่งเดียว แม้ว่าประตูเป็นตายยากจะทนอยู่ได้ แต่การฝึกปรือที่นี่จะดีกว่าในการสู้รบธรรมดามาก อู๋เสวียกับข้าใช้ความพยายามมากมายเพื่อเข้าประตูเป็นและเรียนรู้สนามพลังของตนเองเมื่อเข้ามาในประตูตาย ตอนนี้ถึงคราวเจ้าต้องไล่ตามเราบ้างแล้ว ฮะฮ่า.. ในที่สุดก็มีวิธีฝึกที่ทำให้ข้าเหนือเจ้าได้!”
“ขอแสดงความยินดีด้วยแม่เสือสาว เจ้าคือของจริง” เย่ว์หยางถือโอกาสประจบองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน จากนั้นมองดูเสวี่ยอู๋เสีย ใบหน้าน้อยๆ ของนางแสร้งทำเป็นว่ายังสงบ
สีหน้าของนางบ่งบอกว่าแสร้งใจเย็น แต่ความยินดีในดวงตาของนางเผยให้เห็นความภูมิใจในตัวนาง
สามารถแข็งแกร่งได้และกลายเป็นกำลังสนับสนุนคนรักนางได้
ทั้งหมดคือความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง
ตอนนี้หลังจากผ่านการฝึกฝนหนักหน่วงหลังจากประสบความยากลำบากมาเป็นล้านครั้ง ในที่สุดนางก็ได้สิ่งที่นางต้องการ เป็นไปไม่ได้ที่นางจะบอกว่านางไม่มีความสุข
ถ้าเป็นเจ้าเมืองโล่วฮัวประสบผลสำเร็จระดับเดียวกับเสวี่ยอู๋เสีย นางคงโถมตัวเข้าอ้อมกอดของอีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่สนใจคนอื่น นางคงสาธยายรำพันความลำบากยากเข็ญที่นางได้รับระหว่างนางฝึกปรือเพื่อทำให้เขาหวงแหนนาง มิฉะนั้นนางก็อาจแบ่งปันผลได้รับของนางทั้งหมดกับเขาและให้เขาชื่นชมความสำเร็จของนางก็เป็นได้
ถ้านางประสบความสำเร็จและไม่ออดอ้อนต่อหน้าคนรักนาง อย่างนั้นก็คงไม่ใช่โล่วฮัว
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโดยผิวเผินชอบชวนเขาทะเลาะด้วย แต่นางไม่อาจข่มความภูมิใจของนางแม้จะมีความสำเร็จ นางอดจะโอ้อวดเขาไม่ได้ เมื่อครู่นั้นนางยังทุบเขาเล่นและนั่นทำให้นางดีใจเล็กน้อย
แต่เสวี่ยอู๋เสียไม่ใช่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
ไม่ใช่เจ้าเมืองโล่วฮัวเช่นกัน
ทั้งไม่ใช่นางเซียนหงส์ฟ้า
นางคือเสวี่ยอู๋เสียที่ไม่มีใครเหมือน หัวใจนางเต็มไปด้วยอารมณ์นานัปประการ นางบิดนิ้วของนางเบาๆ มองผิวเผินแล้วนางยิ้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากระหว่างนางกับเขา พวกเขามองกันและกันและยิ้มให้กัน และจากนั้นพวกเขาก็เข้าใจความตั้งใจของกันและกัน นอกจากนางแล้ว ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครที่สามารถทำความเข้าใจเขาได้โดยปริยาย
แม้ว่าเย่ว์หยางก็รู้ว่าเสวี่ยอู๋เสียก็มีความเข้าใจพลังของสนามพลังและเตรียมพร้อมพลังใจของนางเอง แต่ด้วยจักษุญาณทิพย์ของเขา เขาตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถเห็นพลังของเสวี่ยอู๋เสียแค่เพียงเหลือบมองได้ เขาร้องออกมาอย่างตกใจทันที “อะไรกันนี่? เกิดอะไรขึ้น? เจ้าสร้างเครื่องมือเทพได้หรือนี่? ข้าเห็นว่าพลังของเจ้ายากจะหยั่งถึง...”
เสวี่ยอู๋เสียยิ้มมุมปากอย่างงดงาม รอยยิ้มดีใจปรากฏลึกในดวงตานาง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกังวลห่วงใยนางเล็กน้อย เนื่องจากนางยังไม่ให้คำตอบ
นางยื่นมือและแตะไหล่ของเย่ว์หยาง “ตาดีจริงๆ แม้ว่าสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ข้ารู้แจ้งมาจากมุกทั้งสี่จะเกินที่ข้าคาดไปมาก แต่ก็ยังด้อยกว่าสนามพลังวิญญาณของนาง”
หัวใจของเย่ว์หยางเต้นแรงร้อยเท่า “สนามพลังวิญญาณหรือ?”
“อู๋เสียฝึกฝนหนักหน่วงจริงๆ ข้าไม่เคยคิดว่าในประตูเป็นตายนางจะใช้คัมภีร์โบราณหลอมรวมกับปณิธานไร้เทียมทานที่ทิ้งไว้โดยยอดฝีมือโบราณที่มีพลังระดับปราณราชันย์ ตอนนี้คัมภีร์ของนางกลายเป็น ‘คัมภีร์สัจธรรม’ เป็นสมบัติระดับเทียมเทพ อสูรพิทักษ์สตรีหิมะน้ำแข็งยกระดับกลายเป็นเทพธิดาหิมะน้ำแข็ง คาดว่าในไม่ช้านี้ก็คงจะก้าวหน้าอีก” เสียงนุ่มนวลของจักรพรรดินีราตรีดังขึ้นเต็มไปด้วยความชื่นชม “ความรู้เข้าใจของอู๋เสียและเชี่ยนเชี่ยนในเรื่องสนามพลังนับว่าไม่เลว ตอนนี้โล่วฮัวกำลังฝึกหนักเช่นกัน”
“ทำไมท่านไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้?” เย่ว์หยางคว้ามือของเสวี่ยอู๋เสีย เขารู้ว่านางจะต้องฝึกปรืออย่างหนักเพื่อความสำเร็จ
“....” เสวี่ยอู๋เสียยิ้มงดงามไม่มีที่ติ
นางรู้ว่าเขาใส่ใจนาง และไม่บ่นโทษว่านางไม่บอกเขาเรื่องความก้าวหน้า
นางสามารถรู้สึกถึงความกังวลของเขาจากส่วนลึกของหัวใจนาง
บางครั้งคำพูดก็ไม่จำเป็นสำหรับเขากับนาง เพราะหัวใจของพวกเขาเชื่อมโยงและเข้าใจกันและกัน
เสวี่ยอู๋เสียลูบมือของเย่ว์หยางด้วยมือขาวดุจหยกของนางอย่างนุ่มนวล เมื่อมองดูดวงตาที่ลึกล้ำของเขายิ้มให้ ความลำบากในการฝึกปรือทั้งหมดหายไปในทันทีทันใด เหลือไว้แต่เพียงหัวใจสองดวงที่แนบชิดกันแบ่งปันความสุขและความรักห่วงใยกันและกัน
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหงุดหงิดเล็กน้อย
นางยังคงรู้และเข้าใจสนามพลังเซียนที่พัฒนาขึ้นโดยของวิเศษทั้งสี่ แล้วทำไมเจ้าเด็กบ้านี่ถึงไม่จับมือนางบ้าง? เขามักจะทำตัวดีกับเฉพาะสาวน้อยอู๋เสียอย่างเดียว!
นางยื่นมือข้างหนึ่งไปกุมมือของเขาและเขาไม่ยอมดึงนางเข้ามาหา ความจริงเป็นนางต่างหากดึงเขาเข้ามาหา
อย่างไรก็ตาม ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาหลุดมือไปแน่!
“ด้วยประสบการณ์ความสำเร็จ ทุกคนจะทำได้ในอนาคต ประตูเป็นตายยังไม่ต้องพูดถึงในขณะนี้ แต่อย่างน้อยที่สุด เราจะต้องผ่านการทดสอบประตูเป็นตายให้ได้เสียก่อน” จักรพรรดินีราตรีปล่อยให้เสวี่ยอู๋เสีย และองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเพลิดเพลินกับช่วงเวลาสงบสุขเสียก่อน นางพาเขาไปที่เจ้าเมืองโล่วฮัวผู้ใกล้จะถึงขีดจำกัดความอดทนเต็มที่ขณะฝึกปรือที่ประตูตาย ร่างของเจ้าเมืองโล่วฮัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อเห็นเย่ว์หยางอยู่ที่นี่ นางมีความสุขโถมตัวเข้ากอดเย่ว์หยางและจูบเขาจนหนำใจ โดยไม่สนใจว่าทุกคนกำลังมองดูจากด้านข้าง
“ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?” สีหน้าดีใจของเจ้าเมืองโล่วฮัวหมองลงทันที “ข้ายังไม่สามารถรู้แจ้งสนามพลังได้ ถ้าเจ้ามาในภายหลัง ก็คงจะดีอยู่หรอก”
“ไม่เป็นไร บางทีเจ้าอาจจะรู้แจ้งอำนาจสนามพลังก็ได้ แต่ข้ายังไม่สำเร็จเลย!” เย่ว์หยางจูบหน้าผากนางเบาๆ และกล่าว “กลับไปพักในโลกคัมภีร์กันเถอะ อู๋เหินก็อยู่ด้วย จะได้ไม่เบื่อเกินไป จะได้มีแรงกระตุ้นผ่านอุปสรรคจนฝึกปรือสำเร็จได้”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ วันนี้ข้าขี้เกียจ!” เจ้าเมืองโล่วฮัวแลบลิ้นและภายใต้การนำทางของเสี่ยวเหวินหลี นางเข้าไปในโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยาง
หลังจากกิจกรรมรักของนางจบลง นางจะกลับมาเริ่มฝึกต่อ
จักรพรรดินีราตรีบอกเคล็ดเย่ว์หยางให้ฝึกที่ประตูตาย ขณะที่เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ประสบการณ์ของพวกนางคอยหนุนเสริม
ประสบการณ์ของพวกนางอาจไม่มีประโยชน์ต่อเย่ว์หยาง แต่อย่างน้อยที่สุด เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องลองผิดลองถูกเมื่อเขาทำไม่ถูกทาง นี่เป็นเหตุผลใหญ่ที่นักสู้ที่มีอาจารย์ดีและมีสหายดีสามารถก้าวหน้าได้เร็วกว่านักสู้ที่ฝึกฝนด้วยตัวเองคนเดียว
จักรพรรดินีราตรีเตือน “สิ่งที่เจ้าต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คือจุดที่ประตูตายที่เจ้าฝึกนั้นมีกฎโบราณที่นักสู้รุ่นโบราณเหลือทิ้งไว้ ภายในนั้นเป็นโลกพิเศษ ถ้าเราเรียกด้านนอกว่าประตูเป็น อย่างนั้นภายในก็คือโลกหนึ่ง ภายในโลกของประตูตายทุกอย่างที่คงอยู่จะตรงกันข้ามกับประตูเป็น ทุกอย่างที่คงอยู่เป็นของจริง
“คงอยู่จริง?” เมื่อเย่ว์หยางได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเขาตื่นเต้นเล็กน้อย ดูเหมือนเขามีแรงบันดาลใจบางอย่าง แต่เขาไม่สามารถจับประเด็นได้สำเร็จ
“ข้าไม่รู้ว่ากระแสความคิดที่มีอยู่ในนั้น มีมากมายเท่าใด แต่พลังปณิธานเทพที่ยังเหลืออยู่จะกลายเป็นข้อบกพร่องในหัวใจพวกเขา และเปลี่ยนเป็นปีศาจเงาที่คงอยู่แท้จริง พวกเขาต้องใช้ใจของเขาปฏิเสธสิ่งเหล่านี้จริงๆ ตราบใดที่ปณิธานของเขาอยู่เหนือกระแสความคิดภายใน อย่างนั้นเขาจะได้รับความก้าวหน้า” จักรพรรดินีราตรีอธิบาย
“เป็นการลบล้างโดยสิ้นเชิงหรือไม่?” “เหมือนกับประตูเป็นหรือเปล่า?” หลังจากเย่ว์หยางได้ยินเช่นนี้ เขาคิดชั่วขณะ จากนั้นถาม
“แน่นอน” คำตอบสำหรับจักรพรรดินีราตรีเป็นเช่นนี้
“ข้าใช้ปณิธานของข้าเพื่อป้องกันความคิดนี้ และเพียงแต่มุ่งเน้นการเสริมพลังเท่านั้น” วิธีการขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนต้องปลดปล่อยดาบเทพจักรพรรดิอวี้และจากนั้นใช้สภาวะการฝึกดาบของนางตามปกติ
“ในทางตรงกันข้าม วิธีการของข้าหลอมรวมกับอีกฝ่ายโดยตรงและเปลี่ยนเขาเป็นหนังสือของข้า ทำกับเขาเหมือนกับว่าข้ากำลังอ่านหนังสือและคงไว้ระดับเดียวกันตามปกติหรือในระดับสูงในอาณาจักรที่ไม่มีตัวตน” เสวี่ยอู๋เสียยังคงระบุวิธีการของนาง
“ข้าเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้วตอนนี้...” เย่ว์หยางพยักหน้า แต่ก่อนที่จะก้าวเข้าประตูตาย เขาหันหน้ามาถาม “สนามพลังของจื้อจุนคืออะไร?”
“นางเป็นคนที่มีประวัติศาสตร์การอยู่ในประตูยาวนานที่สุด ไม่มีใครสามารถใช้ประตูตายฝึกฝนได้เป็นระยะเวลายาวนาน แต่นางสามารถใช้มันขังตัวเองฝึกฝน นานที่สุดก็คือหนึ่งเดือน ดังนั้นเทียบกับระดับปราณราชันย์ที่ไม่เหมือนใครแล้ว และสนามพลังนางจึงไร้เทียมทาน” หลังจากนางพูดจบ เย่ว์หยางอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
พระเจ้า! แม้แต่จักรพรรดิอวี้ก็ยังอยู่ได้เพียงวันเดียว นางอยู่ที่นั่นได้ยังไงตั้งเดือนหนึ่ง?
แม้ว่านี่จะไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับพลัง แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าปณิธานของนางสามารถต้านทานการแทรกแซงของปณิธานเทพที่หลงเหลือจากยอดฝีมือรุ่นก่อน...
เย่ว์หยางมองดูเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนด้วยสายตาที่สงสัย แน่นอนว่าพวกนางทั้งสองคนเข้าใจว่าเขาต้องการถามอะไร องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตอบว่าชั่วโมงหนึ่ง เสวี่ยอู๋เสียให้คำตอบว่าสามชั่วโมง นางทำได้ดีกว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน และได้รับความก้าวหน้าจากปณิธานและพลังเทพที่ยอดฝีมือสตรีทิ้งเอาไว้ นางกลายเป็นหนึ่งเดียวกับคัมภีร์โบราณ และกลายเป็นสนามพลังศักดิ์สิทธิ์และได้คัมภีร์สัจธรรมซึ่งเป็นสมบัติระดับเทียมเทพ
“ข้าจะพยายามอย่างหนัก!” เย่ว์หยางไม่ถามจักรพรรดินีราตรี เขารู้ว่านางต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวัน บางทีอาจสอง หรือสามวัน มิฉะนั้นสนามพลังดารารายของนางคงไม่มีพลังเหลือล้นอย่างนั้น
“เจ้าสามารถคงอยู่ได้นานเท่าใดเมื่อเข้าประตูตายครั้งแรก?” จักรดินีราตรีสงสัย มาตรฐานของคนธรรมดาจะไม่ดีเท่าเย่ว์หยาง
“ห้านาที” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคาดเดาว่าน่าจะนานกว่านั้นเล็กน้อย แต่ก็ประมาณห้านาที
“มากกว่าสิบนาที” เสวี่ยอู๋เสียรู้สึกว่าเย่ว์หยางสามารถทนได้นานกว่าสิบนาทีแน่นอน
คาดไม่ถึงว่าเย่ว์หยางเผ่นกลับมาในเวลาไม่ถึงนาที
หญิงงามทั้งสามคนตะลึง
ไม่รอให้พวกนางถาม เย่ว์หยางรีบถาม “จื้อจุนนั่งขัดสมาธิอยู่ในประตูตายนี่ ตัวจริงหรือตัวปลอม?”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนปาดเหงื่อที่หน้าผาก “หนึ่งในนั้นจริง แต่อาจจะกลายเป็นมากกว่าสองสามร้อยก็ได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องจื้อจุนไป เจ้าคิดมากไปเอง!”
เย่ว์หยางส่ายศีรษะ “ข้าจะรออีกนิดแล้วค่อยเริ่มฝึก มีจื้อจุนอยู่ในนั้น ข้ากังวลเกินกว่าจะมีสมาธิได้” ก่อนที่เขาจะพูดจบ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียแทบล้มกับพื้น ไม่รู้จะพูดยังไงกับเขา
อย่างไรก็ตามก่อนที่เย่ว์หยางจะรู้ตัว จื้อจุนปรากฏตัวทันที
นางคว้าแขนเขาและโยนเข้าประตูตายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ตอนนี้ฝึกต่อได้หรือยัง?”