ตอนที่ 46 เหมือนดังที่มันเคยเป็น
ตอนที่ 46 เหมือนดังที่มันเคยเป็น
แสงของดวงอาทิตย์เริ่มอ่อนล้าลง คล้ายกับชีวิตที่หายไป เวลาทุกคนได้ตกอยู่ในความเงียบของการสูญเสีย บรรยากาศรอบกายยังไม่อึมครึมและมืดมนเท่าจิตใจของพวกเขา
เรนในตอนนี้แม้จะยังเปลือยเปล่าและมีเลือดอาบไปทั้งร่างกาย แต่ที่ตัวของเขาก็มีผ้าห่มผืนหนึ่งปกคลุมไว้อยู่ ผ้าห่มผืนนี้เป็นผู้กองเชนที่เดินไปเอามาจากเศษซากหลังจากต่อสู้มาให้
ที่จริงแล้วใจของเรนนั้นไม่ได้สนใจว่าจะเปลือยกายอยู่แม้แต่น้อย เพราะความคิดทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับเนินดินด้านหน้า มือทั้งสองของเรนนั้นเปื้อนดินโคลน ไม่ต่างจากไอราข้าง ๆ
ทั้งสองคนกำลังใช้มือโกยดินขึ้นมาฝังศพของธันวาด้วยความเศร้าโศก ดินที่ถูกขุดขึ้นมาด้วยหนึ่งกำมือแลกกับน้ำตาหนึ่งหยด กองดินค่อย ๆ สูงขึ้นอย่างช้า ๆ
หลินเข้าไปช่วยทั้งสองขุดดินฝังกลบร่างของธันวาอย่างเงียบ ๆ
ผู้กองเชนมองผู้ภาพตรงหน้า โดยมีตำรวจลีอยู่ข้าง ๆ ทั้งสองก็รู้สึกเศร้าไม่ต่างกัน
“ถ้าไม่ใช่เพราะผม เขาก็คงไม่ตาย” ลีพูดด้วยความเสียใจ เขากำมือแน่น ก่อนจะเดินเข้าไปช่วยไอราขุดดินกลบร่างของธันวา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “ผมขอโทษ”
เพี๊ยะ!
ไอราหันไปตบหน้าของลีด้วยมือที่เต็มไปด้วยดิน ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ธันเลือกจะช่วยนาย ดังนั้นอย่าได้มาดูถูกความหวังดีของเขา”
ลีอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ในใจของชายหนุ่มไม่โกรธที่โดนตบแบบนี้เลยสักนิดเดียว แม้จะเป็นคนตาขาว แต่ก็ไม่ได้โง่จนไม่สามารถเข้าใจคำพูดของหญิงสาวคนนี้
เขาก้มหน้าลงและเริ่มขุดดินต่อ
เรนขุดดินด้วยมือที่สั่น เพราะร่างกายของเขายังไม่ฟื้นตัวดี ตอนนี้ยังมาฝืนขยับอีก จึงเป็นอย่างที่เห็น
รินดาที่อยู่หลังเรน สุดท้ายก็เดินเข้ามาจับไปที่มือของเขาและกล่าวขึ้นมาว่า “นายควรจะพัก ปล่อยให้พวกเราช่วยในสิ่งที่ช่วยได้เถอะนะ”
เรนหันไปมองหน้าหญิงสาว ตอนนั้นคำพูดของธันวาที่เคยพูดกับเขาเมื่อวานตอนอยู่ที่บ้านไม้ก็แวบเข้ามาในหัวของเขา
‘ฉันเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งและสามารถทำอะไรได้มากกว่าให้นายมาคอยปกป้องตลอดแบบนี้ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้นายควรจะให้ฉันได้ทำบ้าง ไม่ใช่นายจะทำคนเดียวไปซะทุกอย่าง’
มือของเรนนั่นสั่นเบา ๆ จนแม้แต่รินดาก็รู้สึกได้
เรนไม่พูดอะไร เขาถอยออกไปเล็กน้อย นั่งลงใช้มือจับกันไว้และมองดูหลุมศพของธันวาอย่างเงียบ ๆ เวลาผ่านไปไม่นาน หลุมศพถูกกลบฝังจนเสร็จแต่เรนกลับยังนั่งมองอยู่อย่างนั้น
นอกจากเรนแล้วข้าง ๆ ก็มีไอราเธอนั่งพิงตัวของเรน มือจับกันไว้แน่น
ระหว่างทั้งสองคนไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งใด การสูญเสียครั้งนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจกันและกันได้ดีที่สุด
ไม่มีใครรบกวนเรนและไอรา คนที่เหลือต่างก็ช่วยกันรวบรวมของที่กระจัดกระจายจากการต่อสู้ ทั้งน้ำ อาหารยาและของอื่น ๆ มาได้จำนวนหนึ่ง แม้ไม่มาก แต่เพียงพอให้พวกเขาอยู่กันได้หลายวัน
ในระหว่างที่เดินผ่านศพของงูยักษ์พวกเขาก็รู้สึกสยองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลีที่กลัวงูตัวนี้จนไม่กล้าเข้าใกล้ แม้มันจะตายแล้วก็ตาม
ผู้กองเชนในตอนนี้กำลังยืนอยู่ด้านหน้างูยักษ์และใช้แหวนตรวจสอบมัน
“งูยักษ์อนาคอนด้า ระดับสัตว์ป่า ติดเชื้อระยะแรก”
หลินเดินเข้ามาด้านหลังและใช้แหวนตรวจสอบมันด้วยเช่นกัน พวกเขาอยากจะรู้ให้ได้มากที่สุด เพราะโลกนี้น่าจะมีเจ้าตัวแบบนี้จำนวนมาก
“มันเป็นระดับสัตว์ป่าเช่นเดียวกัน แต่ทำไมถึงทรงพลังกว่ากวางเอลก์ก็ตัวนั้นมาก” หลินพูดขึ้นมา โดยที่ยังคงจ้องไปที่หัวของงูยักษ์
ผู้กองเชนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “บางทีระดับอาจจะไม่ได้บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งจริง ๆ งูยักษ์ตัวนี้เป็นนักล่า มันเป็นสิ่งมีชีวิตในยอดของพีระมิด เชื้อจากศพสีดำอาจจะเข้าไปขยายพลังในการล่าและความกระหายของมันก็ได้ แถมการวิวัฒนาการของมันก็สมบูรณ์ต่างจากกวางเอลก์ที่วิวัฒนาการล้มเหลว”
หลินพยักหน้าและคิดตามสิ่งที่ผู้กองเชนพูด
“ที่จริงผมสงสัยอยู่เรื่องอื่นมากกว่า งูตัวนี้มันคืออนาคอนด้า ซึ่งไม่ใช่สัตว์ในภูมิภาคนี้ของเขต 39 แต่กลับมาโผล่อยู่ที่นี่ บางทีอาจจะเป็นการลักลอบเอาสัตว์ต่างถิ่นเข้ามา พอเกิดเรื่องมันก็คงจะวิวัฒนาการกลายเป็นแบบนี้”
ผู้กองเชนจับไปที่คางและพูด
แกร็ก!
ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังมาจากข้างทาง พวกเขาหันไปมองก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อตัวหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้ ผู้กองเชนไม่รอช้าเอารูนิกปืนลูกโม่ออกและลั่นไกสังหารทันที
ปัง!
เสียงปืนได้ปลุกให้ทุกคนนั้นตื่นขึ้นมาจากภวังค์ พวกเขาหันไปมองร่างของผู้ติดเชื้อที่ล้มลงตาย แต่นี่เป็นแค่ตัวแรก เพราะไกลออกไปในทุ่งเปิดโล่งข้างทางจะเห็นว่ามีอีกตัวหนึ่ง
“เลือดล่อพวกมันมา” หลินกล่าว ก่อนจะหันไปมองศพของงูยักษ์ ซึ่งเลือดนั้นไหลออกมานองไปทั่วทั้งพื้นที่นี้
“ต้องรีบออกจากที่นี่” ผู้กองเชนกล่าว ก่อนจะเดินไปเก็บของที่กองอยู่บนพื้นใส่กระเป๋าเป้
หลินเองก็เดินไปหาเรนที่นั่งอยู่กับไอรา
“เรน”
“ผมรู้แล้ว” เรนหันไปมองเธอด้วยแววตาสงบนิ่งราวกับว่าเขาทำใจได้แล้ว
หลินพยักให้กับเรน จากนั้นก็เดินไปช่วยผู้กองเชนขนของ
“ไอรา เราต้องไปแล้ว ถ้าอยู่ต่อธันอาจจะเป็นกังวลก็ได้” เรนหันไปพูดกับหญิงสาวข้าง ๆ ที่ร้องไห้จนตาแดง
“ฉันรู้แล้ว” เธอตอบกลับมาสั้น ๆ จากนั้นก็ยื่นมือไปสัมผัสที่หลุมศพที่นอกจากจะมีดินแล้วก็ยังมีแผ่นเหล็กจากซากรถปิดทับอยู่ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอะไรมาขุดศพของธันวา ด้านบนมีเหล็กอีกแผ่นปักไว้เป็นป้ายหลุมศพ
เรนลุกขึ้นยืนอย่างอ่อนแรง ก่อนจะพูดกับหลุมศพว่า “ฉันจะไม่ทำให้การเสียสละของนายสูญเปล่า”
พูดจบชายหนุ่มก็เดินหันกลับตรงไปยังศพของงูยักษ์ ปล่อยให้ไอรากล่าวลาธันวาอย่างเงียบ ๆ คนเดียว
“นายจะทำอะไร” หลินหันไปถามเรนที่เดินผ่านไปด้วยความสงสัย
ผู้กองเชน รินดา ลีมองตามการก้าวเดินของเรนไปเช่นกัน แม้เรนจะเดินช้าและอ่อนล้า แต่เขาก็เดินไปจนถึงซากของงูยักษ์อนาคอนด้า
ก่อนที่เรนจะใช้การกระทำเป็นคำตอบ
แหวนพลังของเรนปรากฏขึ้นมาพร้อมกับดูดกลืนร่างของงูยักษ์เข้าไป
หินรูนิกเปล่า + งูยักษ์อนาคอนด้า + เหรียญทองระบบ 100 เหรียญ
ราคาเหรียญทองที่ใช้ในการเปลี่ยนงูตัวนี้เป็นรูนิกนั้นสูงกว่าการเปลี่ยนปืนปกติถึงสองเท่า แต่เรนไม่สนใจเหรียญเงินที่เสียไป
ใช้เวลาไม่นานรูนิกงูยักษ์อนาคอนด้าก็ปรากฏขึ้นมา เรนมองดูรูนิกในมือ มันเป็นเหมือนลูกแก้วกลม ๆ ด้านในมีงูยักษ์อนาคอนด้าขนาดเล็กขดอยู่
เรนนั้นทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก นั้นเพราะซากของงูนั้นยังสดใหม่และร่างของงูก็เกือบสมบูรณ์ถ้าไม่นับดวงตาที่โดนทำลายและกรามที่หัก
“เขาเปลี่ยนงูตัวนี้ให้กลายเป็นรูนิก” ผู้กองเชนกล่าวขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะนึกเชื่อมโยงไปถึงร่างกายของเรนที่ใช้รูนิกแปลก ๆ นั้น เมื่อเชื่อมโยงกันแล้วผู้กองเชนก็เข้าใจในที่สุด
ที่ผ่านมาแม้ผู้กองเชนจะเห็นพลังของเรน แต่เขาก็ไม่ได้สอบถามและเรนก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง ตอนนี้พอมาเห็นกับตาผู้กองเชนก็เข้าใจแล้ว
เรนไม่ได้ใช้รูนิกงูตัวนี้ เขาเลือกจะเก็บมันไว้ในรูนิกกล่องพลาสติกอีกทีหนึ่งและเขาก็หยิบกางเกงออกมาสวมด้วยหนึ่งตัว ทำให้ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพสวมกางเกงหนึ่งตัวและมีผ้าคลุมอีกผืน
สภาพของชายหนุ่มนั้นดูโดดเดี่ยวเป็นอย่างยิ่ง จนคนอื่น ๆ ก็อดใจหายไม่ได้
“เราไปกันเถอะ” เรนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อืม” หลินพยักหน้าเบา ๆ
พวกเขาช่วยกันขนของ โดยมีคนที่ถือของในตอนนี้คือหลิน รินดาและผู้กองเชน ซึ่งผู้กองเชนต้องช่วยพยุงตำรวจลีที่เจ็บขาด้วย ส่วนเรนนั้นแค่เขาเดินยังลำบากแล้วและก็ไม่มีใครคิดจะใช้เรน
เรนพอเดินไปถึงหลุมศพของธันวา ไอราก็เช็ดน้ำตาเป็นครั้งสุดท้ายและเดินเข้ามาช่วยพยุงตัวของเรนและทั้งสองก็ออกเดินนำหน้าไป
...
เรนและไอรา พร้อมด้วยกลุ่มยังเดินต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยสภาพที่เหนื่อยล้า สุดท้ายพวกเขาก็ต้องแวะหาที่หยุดพัก เพราะความมืดกำลังมาเยือน
โดยสถานที่พักนั้นเป็นโกดังเก็บของหลังหนึ่งที่อยู่บนเส้นทางที่พวกเขาเดิน ซึ่งมันอยู่ใกล้กับหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่อีกฝั่งของถนนห่างไปประมาณ 300 กว่าเมตร
แม้ตรงนี้อันตราย แต่ว่าก็ดีกว่าต้องไปที่หมู่บ้านตรงนั้นหรือนอนด้านนอก หลังจากผู้กองเชนงัดเข้าไปในโกดังหลังนี้และเข้าไปด้านในได้ พวกเขาก็พบว่าสถานที่นี้มันไม่ใหญ่มากนักมีทางเข้าออกสองทางคือประตูหน้าและประตูทางด้านหลัง
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะมันดูแลความปลอดภัยได้ง่าย
ภายในโกดังมีฝุ่นจับในบางพื้นที่ แต่บางส่วนก็ยังคงได้รับการทำความสะอาด เพราะดูเหมือนเจ้าของโกดังจะแวะมาสถานที่นี้บ่อย ๆ
ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในโกดังก็เริ่มจัดการหาอะไรมาก่อกองไฟเพื่อสร้างความอบอุ่น ในโกดังมีไม้อยู่ ซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิงได้
ขณะที่ไฟเริ่มติดความมืดก็เริ่มมาเยือน แต่แล้วตอนนั้นก็มีเสียงสายฝนตกลงมาอย่างครั้ง ทำให้พวกเขาเริ่มขมวดคิ้วให้กับความผิดปกติของฝนเหล่านี้อีกครั้ง
ฝนที่ตกลงมานี้คล้ายกับเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นจนทุกคนเริ่มสงสัยแล้วว่ามันเป็นการจงใจหรือไม่ แน่นอนว่าเป็นแค่ความคิดเท่านั้น เพราะใครกันจะควบคุมให้ฝนปนเปื้อนตกได้กัน
ขณะที่ฝนตกนั้นเองเรนก็เดินออกไปท่ามกลางน้ำฝน
เรนหลับตาลงอย่างช้า ๆ สัมผัสถึงสายฝนที่ตกและปล่อยให้น้ำฝนที่เย็นเยียบเหล่านั้นไหลผ่านไปตามร่างกาย น้ำฝนไม่ได้เพียงแค่ชะล้างเลือดของงูยักษ์ตามตัวของเรนออกไปเท่านั้น แต่ยังชะล้างจิตใจที่อ่อนแอของเขาไปด้วย
เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แววตาของเรนก็กลับมามั่นคงและสงบนิ่งเหมือนดังที่มันเคยเป็น