ตอนที่ 45 แม้ร่างกายจะบาดเจ็บ...แต่น้ำตาก็ยังไหลริน
ตอนที่ 45 แม้ร่างกายจะเจ็บ...แต่น้ำตาก็ยังไหลริน
“ไปเร็ว ไปเร็ว” ผู้กองเชนที่เหยียบคันเร่งขับรถตำรวจออกมาจากอุโมงค์ด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่รถจะทำได้ ขณะที่ด้านหลังนั้นมีงูยักษ์ไล่ตามมา
ทันทีที่ออกมาพ้นแสงสว่างจากด้านนอกสาดส่องมาที่รถ ผู้กองเชนยินดีมากที่ออกมาได้ แต่ว่ายังไม่ทันได้ยินดี หัวของงูยักษ์ก็ชนเข้าไปที่ข้างรถตำรวจจนเกิดการพลิกคว่ำ
โครม!!!
“เฮ้ย!!!” ผู้กองเชนร้องออกมาด้วยความตื่นตกใจ ก่อนที่ภาพจะติดไปพร้อมกับเสียงของรถตำรวจที่พลิกคว่ำตกไปยังร่องน้ำข้างทาง
“แค่ก ๆ ๆ” ผู้กองเชนรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อมีเสียงบีบรัดดังขึ้นมา ตอนนี้รถตำรวจที่พลิกคว่ำกำลังโดนงูยักษ์พันไปรอบ ๆ และบีบให้กลายเป็นเศษเหล็ก
ผู้กองเชนรีบตั้งสติ เขาต้องรีบออกไปก่อนที่จะโดนบีบอัดไปพร้อมกับรถ
ปัง!
ผู้กองเชนใช้รูนิกปืนลูกโม่ยิงซ้ำ ๆ ไปที่กระจกหน้ารถจนเป็นรูกระสุน แต่พลังงานเขาเหลือไม่มากดังนั้นยิงไปไม่กี่นิดพลังงานก็หมดแล้ว ทำให้ผู้กองเชนเปลี่ยนมาใช้เท้าถีบไปที่กระจกรถ
กระจกรถตำรวจนั้นทนทานกว่ากระจกรถทั่วไป เพราะเพื่อป้องกันตัวให้กับตำรวจที่ขับ แต่ว่าตอนนี้มันกลายมาเป็นอุปสรรคในการหนีซะแล้ว จะออกไปทางกระจกข้างก็ยาก เพราะมันโดนลำตัวของงูยักษ์บีบรัดอยู่
“ออกสิวะ ออกสิ” ผู้กองเชนถีบใส่กระจกรถอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดก็สามารถสร้างช่องที่กระจกขนาดให้ตัวรอดไปได้ แต่แล้วตอนนั้นโครงสร้างรถก็ไม่สามารถทนทานแรงรัดพันของงูยักษ์ได้อีก รถเริ่มบีบตัวเข้ามา
“บ้าเอ๊ย!!” ผู้กองเชนไม่เหลือพื้นที่ให้เขาขยับตัวเลย เขาแทบจะขดตัวแล้ว แถมทางออกที่สร้างไว้ตอนนี้ก็โดนลำตัวของงูขวางไว้แล้ว
“ฉันจะมาตายที่นี่อย่างนั้นเหรอ” ผู้กองเชนเริ่มรู้สึกกลัวแล้ว เขากำลังจะตายโดยการโดนงูนี่รัดไปพร้อมกับรถคู่ใจ แม้เมื่อก่อนเขาชอบคิดเล่น ๆ ว่าถ้าจะตายขอตายไปกับรถ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะดันเกิดขึ้นจริง
โฮกกกก.......
ขณะที่ผู้กองเชนตกอยู่ในความสิ้นหวังก็มีเสียงคำรามดังขึ้นมา ทำให้แม้แต่ผู้กองเชนยังตื่นตกใจกับเสียงนี้ หลังจากสิ้นเสียงคำรามงูยักษ์ที่พันไปรอบรถอย่างบ้าคลั่งก็เหมือนจะหยุดชะงักลง ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงต่อสู้อย่างรุนแรง งูยักษ์ไม่สนใจบีบรัดรถของผู้กองเชนอีก เพราะมันกำลังโดนบางสิ่งคุกคาม
‘เกิดบ้าอะไรขึ้น! เสียงนั้นมันตัวอะไร!!’ ผู้กองเชนตั้งคำถามขึ้นในใจ
ผู้กองเชนรีบพาตัวเองออกมาจากซากรถที่บีบอัด โดยการออกไปทางช่องหน้ารถที่กระจกหน้ารถโดนบีบจนหลุดไปแล้ว เขามุดลงไปที่ร่องน้ำและคลานออกมา
ปัง!
ลำตัวของงูกระแทกไปที่รถตำรวจที่โดนบีบจนเละกลิ้งออกไปหลายสิบเมตร โชคดีที่ผู้กองเชนนั้นเลือกจะรีบออกมาจากซากรถไม่อย่างนั้นเขาคงติดไปกับซากรถแล้ว
ผู้กองเชนที่อยู่ในร่องน้ำเงยหน้ามองดูว่าอะไรที่กำลังสู้อยู่กับงูยักษ์ตัวนี้และภาพตรงหน้าก็ต้องทำให้เขาตื่นตกใจ มีครึ่งมนุษย์ครึ่งหมีขนสีดำสูงสามเมตรกำลังต่อสู้อยู่กับงูยักษ์
“เรน นั้นคือเขา” ผู้กองพึมพำออกมาด้วยความตกตะลึงและทึ่งกับสิ่งที่เห็น
“ตาย!!!” เรนตวาดลั่นด้วยภาษามนุษย์และใช้กรงเล็บหมีของเขาข่วนไปที่ตามลำตัวงูยักษ์
เกล็ดของงูยักษ์ไม่อาจจะทานทนกรงเล็บหมีของเรนได้ กรงเล็บข่วนจนสร้างบาดแผลให้กับงูยักษ์อย่างร้ายแรง งูยักษ์ดิ้นไปมาด้วยความบ้าคลั่ง มันใช้ลำตัวฟาดไปมั่ว ๆ ใส่เรน
แต่เรนก็สามารถรับการโจมตีไว้ได้
งูยักษ์รู้ตัวแล้วว่าถ้ายังสู้มันจะตาย มันจึงพยายามเลื้อยหนี นี่เป็นครั้งแรกที่งูยักษ์คิดจะหนี แต่มีหรือที่เรนจะยินยอม
“ย๊ากกก....!” เรนใช้กรงเล็บที่ยาว 30 เซนติเมตรของเขาทั้งสองข้างแทงไปที่ลำตัวของงูยักษ์
ฟ่อ...งูยักษ์ร้องด้วยความเจ็บปวด มันหันหัวกลับมาจะใช้ปากกัดเรน
ฟันของงูยักษ์อนาคอนด้าเรียงยาวเหมือนเลื่อยพร้อมที่จะกัดและเขมือบเหยื่อ แต่มันยากหน่อยที่จะกินเรนในสภาพนี้ เรนอ้าแขนกว้างก่อนจะจับเข้าไปที่ของงูยักษ์ก่อนจะกำมือจนกรงเล็บหมีแทงเข้าไปที่ขากรรไกรของงู ก่อนออกแรงบีบเข้าหากัน
หมีดำภูเขานั้นนับว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีพละกำลังสูงมาก สามารถต่อสู้กับเสือโคร่งได้ แถมเจ้าตัวต้นแบบที่ใช้สร้างรูนิกตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในพวกแรก ๆ ที่กลายพันธุ์ ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐบาลได้ฆ่ามันและภายหลังเปลี่ยนให้เป็นรูนิก ตอนนี้มันอาจจะเป็นหนึ่งในระดับสัตว์ป่าที่ทรงพลังอันดับต้น ๆ ไปแล้ว
ต่อให้การรัดด้วยลำตัวของงูจะทรงพลังมากแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ถ้ามันไม่ได้ใช้ แถมงูยักษ์ที่บาดเจ็บสาหัสจนแม้แต่ดวงตาก็ยังบอดทั้งสอง มันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรนแล้ว
งูยักษ์พยายามดิ้นรนด้วยความสิ้นหวัง แต่ก็สายไปแล้ว แรงบีบของแขนทั้งสองของเรนที่สูงใหญ่ 3 เมตรมหาศาลจนแม้แต่เหล็กยังไม่สามารถทนทานได้
แกร็ก!
ขากรรไกรของงูยักษ์ทั้งสองแตกหักติดมากับมือของเรน
“ตาย!!!” เรนที่ถือขากรรไกรทั้งสองในมือได้ใช้มันแทงเข้าไปใต้เพดานปากของงูยักษ์อนาคอนด้าซ้ำ ๆ จนเลือดพุ่งกระฉูด งูยักษ์ไม่มีทางหนีออกไปได้ เพราะปากด้านล่างของมันโดนขาของเรนเหยียบและจิกด้วยกรงเล็บติดแน่นอยู่กับพื้น
เรนเสียบมันจนเลือดอาบไปทั้งร่างของเขา จนในที่สุดขากรรไกรของงูยักษ์ก็เสียบเข้าไปจนทะลุผ่านเข้าไปใต้กะโหลกแทงสมองของงูยักษ์ตรง ๆ
งูยักษ์โดนทำลายสมองก็เลือดพุ่งกระฉูดและตายไปในทันที แต่ร่างของมันยังบิดไปมาอยู่สักพักก่อนจะแน่นิ่งไป
ฉากที่น่าเหลือเชื่อนี้ถูกเห็นผ่านดวงตาของผู้กองเชน เขาอ้าปากค้างด้วยสีหน้าทึ่ง
‘มนุษย์ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ’ ผู้กองเชนเริ่มตั้งคำถามในใจถึงภาพที่เห็นตรงหน้า
อันที่จริงไม่ใช่แค่ผู้กองเชนที่คิดแบบนี้ แต่ยังรวมถึงหลิน รินดาและลีที่อยู่ไกลออกไปก็มีสีหน้าท่าทางและความคิดเหมือน ๆ กับผู้กองเชน
เรนในสภาพครึ่งมนุษย์ครึ่งหมีได้ยืนนิ่งในสภาพตัวอาบไปด้วยเลือด ตอนนั้นเองแววตาของเรนก็หันไปสบตากับผู้กองเชน
ผู้กองเชนถึงกับสั่นด้วยความหวาดกลัว แววตาของเรนนั้นมันเหมือนสัตว์ร้ายกระหายเลือด ผู้กองเชนถึงกับกลืนน้ำลายและขยับขาถอยหลังตามสัญชาตญาณ
เรนเดินเข้าไปหาผู้กองอย่างช้า ๆ
“หรือว่าสติเขาจะหลุดไปแล้ว” ผู้กองเชนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว เรนในตอนนี้ไม่เหมือนกับชายหนุ่มที่เขาคุ้นเคยในสองสามวันที่ผ่านมาแล้ว เขาเหมือนสัตว์นักล่ามากกว่า ซึ่งเขากำลังบ้าเลือดแยกไม่ออกระหว่างมิตรและศัตรู
ขณะที่เรนเดินก็ทั้งรอยเท้าเลือดที่คล้ายกับหมีไว้ ที่กรงเล็บยังมีเลือดหยดลงมา ส่งให้สภาพของเรนนั้นน่ากลัวเข้าไปอีก
ผู้กองเชนกำรูนิกปืนลูกโม่ในมือแน่น แม้จะไม่มีพลังงานแล้ว แต่มันก็ไม่หายไป เขาเอื้อมมืออย่างระวังหวังจะหยิบกระสุนในกระเป๋าเสื้อที่สำรองไว้มาบรรจุในลูกโม่
แววตาของเรนมองไปตามมือของผู้กองเชนในทันที ทำให้ผู้กองเชนถึงกับหยุดชะงักเพราะการกระทำของเขาเป็นสัญญาณเตือนอันตรายต่อเรน
“เรน”
ตอนนั้นเสียงของอาจารย์หลินก็ดังขึ้นมา ทำให้เรนละสายตาจากผู้กองเชนไป
เรนมองไปที่หลิน เขาจำหญิงสาวคนนี้ได้
“อาจารย์หลิน”
“ธันวา”
ก่อนจะเหลือบไปมองร่างของธันวาที่ไอรากอดร่ำไห้อยู่ เรนเหมือนจะได้สติขึ้นมา ร่างกายของชายหนุ่มค่อย ๆ หดลงและกลับมาเป็นมนุษย์ในสภาพตัวเปลือยเปล่าและทั้งร่างมีแต่เลือด
แววตาของเรนนั้นเริ่มหลังน้ำตาออกมา เขาเดินเข้าไปทางร่างที่เรนนอนอยู่ แต่ว่าการยกขาก้าวแต่ละก้าวนั้นยากมากราวกับว่าร่างกายของเรนหนักมาก
สุดท้ายเรนก้าวไปได้เพียง 3 ก้าวเท่านั้น ตัวของเขาก็ล้มฟุบไปกับพื้น
“เรน” หลินรีบวิ่งเข้ามาหาเรนด้วยความเป็นห่วง
“นายอย่าเป็นอะไรนะ” หลินพยายามจับเรนหงายหน้า เพื่อตรวจดูเขา
ก่อนหน้านั้นเรนโดนอัดกระแทกใส่เพดานของอุโมงค์จนบาดเจ็บหนักอยู่ก่อนแล้วและเขายังฝืนใช้สภาวะสอง ผสานร่างอีกครั้ง มันยิ่งทำให้ร่างกายต้องแบกรับภาระมากขึ้น พอปลดปล่อยสภาวะออกผลทั้งหมดก็ย้อนเข้ามาใส่ตัวของเรนทันที
ลมหายใจของเรนนั้นหนักอึ้งมาก แต่เขายังไม่ตาย แววตาเรนพยายามมองไปที่ธันวา
“ธัน...” เรนพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแกล้ม
แม้ร่างกายจะเจ็บ...แต่น้ำตาก็ยังไหลริน
เรนรู้ว่าสภาพร่างของธันวานั้นหมายถึงอะไร ใบหน้าที่แหลกเละ กระดูกคอที่ทิ่มแทงออกมาและเลือดที่ไหลกองท่วมร่าง เขาดูออกว่าตอนนี้ธันวานั้นได้จากไปแล้ว เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขานั้นตายแล้ว
สิ่งที่น่ากลัวของความตาย คือความเจ็บปวดจากการเห็นคนที่เราห่วงใยต้องจากไป มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมาก
ภาพที่เรนพบเจอธันวาครั้งแรกได้ย้อนเข้ามา ชายคนนี้เป็นคนเพียงคนเดียวจากทั้งมหาลัยที่กล้าเข้ามาทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง แถมยังคอยช่วยเหลือเรื่องราวหลาย ๆ อย่าง เป็นเพื่อนที่เขาก็ไม่รู้ว่าจะหาได้จากที่ไหนอีก
แต่ตอนนี้เพื่อนคนนั้นได้จากไปแล้ว เหมือนที่พี่ชายเพียงคนเดียวของเขาที่จากไป
หลินมองดูภาพตรงหน้าและน้ำตาของเรนที่ร้องออกมา เธอรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของเรนผ่าน้ำตาที่ไหลออกมาผสมเข้ากับเลือด จนมันเหมือนกับน้ำตาสีเลือด
ภาพนี้ทำให้หลินนั้นร้องไห้ออกมาด้วย เธอจึงดึงเรนเข้ามากอดไว้เรน โดยหวังว่าอ้อมกอดของเธอจะช่วยลดความเจ็บปวดในใจของเรนได้บ้าง
...