ตอนที่ 19-51 หนอนกลายเป็นผีเสื้อ
ขณะนั้นเองร่างหลักของลินลี่ย์และร่างแยกอีกสามร่างฟื้นคืนสติพร้อมกันหมด ความคิดแรกของลินลี่ย์คือ ‘เกิดอะไรขึ้น? ข้ายังไม่ตายหรือ?“ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงสามสิบสี่ปีที่ผ่านมา ความจริงสำหรับร่างหลักของลินลี่ย์และร่างแยกอีกสามร่างมีความคิดว่าแค่ผ่านไปไม่กี่วินาที”
แต่ในขณะต่อมาเมื่อลินลี่ย์ติดต่อกับร่างแยกธาตุไฟได้เขาจึงเข้าใจว่าเขาอยู่ในอาการวิกฤติมานานสามสิบสี่ปี
“ข้าอยู่ที่ไหน?” ลินลี่ย์มองดูรอบๆ จากนั้นลุกขึ้นนั่ง
เมื่อเขานั่งลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงตัวของเขา
“หือ? เกิดอะไรขึ้น?” ลินลี่ย์รู้สึกได้ชัดเจนถึงระลอกพลังวิญญาณรอบตัวเขาและเขาสามารถเห็นบลูไฟร์ เรยโฮม รีสเจม และบีบีที่นั่งอยู่ในห้องข้างๆได้ชัดเจน นี่เป็นความรู้สึกที่ควบคุมได้ ความรู้สึกที่ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาควบคุมชะตาของตนเองได้แล้ว
เขารู้สึกเหมือนเป็นจักรพรรดิ เป็นความรู้สึกของการควบคุมที่แท้จริง
“ลินลี่ย์!”
“พี่ใหญ่!”
เสียงร้องเรียกดีใจดังขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกัน ความเคลื่อนไหวที่ลินลี่ย์ทำเมื่อตอนเขาลุกขึ้นนั่งทำให้คนข้างนอกทั้งสี่คนสังเกตถึงเขาได้เช่นกัน ทั้งสี่คนเข้ามาในห้องศิลาพร้อมกัน ลินลี่ย์มองดูคนทั้งสี่ข้างหน้า รีสเจมเรย์โฮมและบลูไฟร์ซึ่งพากันยินดีทุกคน ขณะที่บีบีตื่นเต้นใจจนน้ำตาเอ่อท้นอีกครั้ง
“พี่ใหญ่” บีบีโผเข้ากอดลินลี่ย์
“ฮ่าฮ่า บีบี!อย่าร้องไห้เลย เจ้าทำตัวเหมือนเด็กอีกแล้ว” ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืนและเดินออกมาจากห้องศิลา เขาหัวเราะเบาๆ
บีบีหัวเราะทั้งน้ำตาจากนั้นปาดน้ำตาแค่นเสียง “พี่ใหญ่, เป็นความผิดของท่านคนเดียวท่านอยู่ในสภาวะวิกฤตินานถึงสามสิบสี่ปี แล้วยังบอกข้าว่าไม่น่ากลัวอีกหรือนั่น?”
“อาการวิกฤติอยู่ถึงสามสิบสี่ปีได้ยังไง?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
บลูไฟร์ที่อยู่ใกล้หัวเราะ“ลินลี่ย์!สามสิบสี่ปีที่แล้วเจ้าถูกพลังโจมตีเต็มกำลังของแม็กนัสเล่นงาน แต่โชคดีที่ศิลาวิญญาณช่วยรักษาชีวิตเจ้าไว้ แต่ใครจะคาดคิดว่าระหว่างช่วงอาการวิกฤติวิญญาณของเจ้าเกิดการกลายสภาพ พลังของศิลาวิญญาณถูกใช้ออกไปอย่างรวดเร็วเราทุกคนกังวลว่าเจ้าจะไม่สามารถทนได้ แต่เจ้าก็รอดมาได้”
“วิญญาณกลายสภาพ?!” ลินลี่ย์ตกใจอย่างหนัก “ข้าน่ะหรือ?!”
“ถูกแล้ว เจ้านั่นแหละ ทำไมเจ้าไม่ทดสอบดูว่าเจ้าค้นพบอะไรบ้าง?” บลูไฟร์หัวเราะขณะยุเขา“ความเปลี่ยนแปลงบางอย่างไม่สามารถเห็นได้จากการมองอย่างผิวเผิน แต่เจ้าสามารถรู้สึกได้ด้วยตัวเอง”
“ใช่แล้ว, พี่ใหญ่ ลองดูก็ได้ มาดูกันว่าวิญญาณของท่านเปลี่ยนไปยังไง” บีบีพูดอย่างตื่นเต้น “ท่านเป็นคนแรกสุดที่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สี่ร่างที่ผ่านการกลายสภาพวิญญาณ”
“จะเป็นยังไงบ้างสำหรับคนที่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สี่ร่างและผ่านกลายสภาพของวิญญาณ?” ตาของรีสเจมเป็นประกายสงสัยขณะที่เขามองดูลินลี่ย์
“ข้ามีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สี่ร่าง แต่สามารถผ่านการกลายสภาพของวิญญาณน่ะหรือ?”
ลินลี่ย์เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ แต่เขายังหลับตาเริ่มตรวจสอบสภาพวิญญาณของตนอย่างระมัดระวัง!
ภายในทะเลจิตสำนึกของเขา
เหนือทะเลจิตสำนึกมีสีรุ้งงดงามลอยอยู่ พลังวิญญาณของเขาเป็นเหมือนกับน้ำในมหาสมุทรที่มีคลื่นม้วนตัว พลังงานวิญญาณนี้ดูเหมือนแก้วผลึกใสเหมือนกระจก สิ่งที่เฉพาะตัวที่สุดก็คือวิญญาณรูปกระบี่!
วิญญาณรูปกระบี่ลอยอยู่เหนือทะเลจิตสำนึก
แต่วิญญาณรูปกระบี่ในตอนนี้กลายสภาพเป็นสีใส มีชั้นพลังงานสีเทาคลุมอยู่รอบวิญญาณรูปกระบี่ ดูเหมือนค่อนข้างธรรมดา และไม่สะดุดตาเหมือนวิญญาณรูปกระบี่สีรุ้งอย่างที่มีแต่ก่อนหน้านั้น
“ให้ความรู้สึกที่ทรงพลังเฉพาะแบบ” ลินลี่ย์พึมพำกับตนเองเงียบๆ
คนอื่นแม้แต่บลูไฟร์ผู้ตรวจสอบวิญญาณของลินลี่ย์ก็ยังไม่พบอะไรเฉพาะอย่างในวิญญาณปัจจุบันของลินลี่ย์ มีแต่เพียงลินลี่ย์ที่รู้สึกได้
“ความรู้สึกของการควบคุม เป็นความรู้สึกเฉพาะแบบ” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง
และจากนั้นลินลี่ย์หยุดคิดเรื่องนั้นขณะที่เขาเริ่มตรวจสอบด้านอื่นอย่างระมัดระวัง
“อา.สมบัติมหาเทพสำหรับปกป้องวิญญาณของข้า!” ลินลี่ย์พบด้วยความประหลาดใจว่ารูโหว่ในสมบัติมหาเทพสำหรับปกป้องวิญญาณมีการซ่อมแซมตัวเองในระดับความเร็วที่น่าประหลาดใจ ไวกว่าในอดีตเมื่อตอนที่เขาเป็นเทพชั้นสูงถึงพันเท่า และการซ่อมแซมนี้เป็นกระบวนการซ่อมสมบัติมหาเทพที่แท้จริง!
ในอดีตสิ่งที่เขาทำได้ก็คืออุดปะรอยโหว่ซึ่งไม่ใช่การซ่อมที่แท้จริง
แต่ตอนนี้รอยโหว่ของสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณค่อยๆหดลง
เมื่อผ่านไปวันเดียวรอยโหว่ก็หายไป สมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณได้รับการซ่อมแซมอย่างสมบูรณ์
“เป็น.... เป็นไปได้อย่างไร?” ลินลี่ย์ไม่กล้าเชื่อเรื่องนี้
ความเร็วที่สมบัติมหาเทพชนิดปกป้องวิญญาณสามารถซ่อมตัวเองได้มีความสัมพันธ์กับพลังวิญญาณของนักสู้ ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขากลายสภาพเป็นทรงพลังเพียงไหน แต่เพราะสามารถซ่อมแซมสมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณด้วยความเร็วระดับนั้น? เขายังรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อ “ด้วยความเร็วระดับนี้เป็นไปได้ว่าในอีกสองสามปี สมบัติมหาเทพจะได้รับการซ่อมแซมอย่างสมบูรณ์”
ลินลี่ย์พบว่าวิญญาณส่วนอื่นๆของร่างแยกทั้งสามก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
“น่าเสียดาย,ร่างแยกธาตุไฟของข้าไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อเปลี่ยนแปลงเช่นกัน แต่ผลก็คงเหมือนกันในอนาคต เมื่อร่างแยกธาตุไฟผสานเข้ากับร่างหลักของข้าและร่วมกับวิญญาณส่วนอื่น พวกเขาจะแลกเปลี่ยนพลังงานกันและจะค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงตามมาเช่นเดียวกัน” ลินลี่ย์เข้าใจว่าก็เหมือนกับวิญญาณของร่างหลักของเขา ความจริงวิญญาณของร่างหลักของเขาก็ยังเป็นวิญญาณระดับเซียน
แต่เมื่ออยู่ด้วยกันกับวิญญาณอื่น วิญญาณหลักของเขาและวิญญาณร่างแยกอื่นเป็นส่วนหนึ่งของร่างทั้งหมดและอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน วิญญาณต่างๆ จะเติมเต็มซึ่งกันและกันทำให้วิญญาณของร่างเดิมมีพลังเพิ่มขึ้นไปโดยปริยายเช่นกัน ที่สำคัญ พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันมาตั้งแต่ต้น
“วิญญาณกลายสภาพ? นั่นหมายความว่าข้าสามารถหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่แบบได้ไม่ใช่หรือ?” ลินลี่ย์อดลองทดสอบมิได้ ก่อนอื่นเขาใช้พลังเทพชั้นสูงทั้งสามแบบ ดินลมและน้ำ
ภายในร่างของลินลี่ย์พลังเทพสามอย่างเริ่มหมุนวนไปรอบๆคล้ายมังกรน้ำ เมื่อพลังสามแบบสัมผัสกันและกัน ราวกับว่าพลังเหล่านั้นเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่มีร่องรอยการขัดแย้งผลักดันแม้แต่น้อย กระแสพลังทั้งสามของพลังเทพชั้นสูงภายใต้การควบคุมของลินลี่ย์ผสานหลอมรวมกันทั้งหมดและจากนั้นขณะที่เขาทำเช่นนั้นสีสันก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
ก่อนนี้พลังเหล่านี้เป็นสีเหลืองเข้ม เขียวอ่อน และสีฟ้าอ่อนตอนนี้พอหลอมรวมด้วยกันก็กลายเป็นสีหยกเข้ม สีเข้มจัดจนเกือบเป็นสีดำ
พลังสีหยกเข้มนี้โคจรอยู่ในร่างของลินลี่ย์
“ทรงพลังมาก” ลินลี่ย์ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น
ขณะเดียวกันลินลี่ย์พลังธาตุไฟระดับเทพแท้หลอมรวมเข้าไปด้วย เมื่อพลังเทพธาตุไฟสัมผัสกับพลังเทพสีหมึกเข้มที่ทรงพลังก็ถูกหลอมรวมเข้าไปด้วยเช่นกัน!
“เอ๊ะ? พลังอ่อนลงจริงๆ หรือ?” ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าหลังจากพลังเทพสีหยกเข้มหลอมรวมกับพลังเทพธาตุไฟดูเหมือนจะมีผลกระทบภายใน ทำให้พลังอ่อนตัวลงเล็กน้อย “เป็นไปได้ว่าเพราะข้ายังไม่ถึงระดับเทพชั้นสูงในพลังธาตุไฟ?” นี่เป็นการคาดเดาของลินลี่ย์
ไม่ใช่แค่สุ่มๆหลอมรวมให้มากขึ้นแล้วจะดีขึ้น
ก็เหมือนกับกองทัพ ถ้ากองกำลังทหารฝีมือดีมีทหารอ่อนแอเพิ่มเข้าไปก็จะส่งผลให้ประสิทธิภาพการรบลดลง
“ใช่แล้ว เมื่อโอลิเวอร์บรรลุระดับเทพแท้เขาบอกว่าเมื่อร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขาถึงระดับเทพแท้ ตอนนั้นพลังของเขาจึงจะเพิ่มขึ้นอีกมาก” ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจเป็นอย่างดี
ในการหลอมรวมสมดุลก็มีความจำเป็น
ดินลม น้ำ แหล่งพลังเทพทั้งสามนี้เป็นระดับเทพชั้นสูงกันหมด สำหรับธาตุไฟเป็นระดับเทพแท้ จึงค่อนข้างอ่อนแอ
“ลินลี่ย์ ลินลี่ย์!” เสียงของรีสเจมดังขึ้นรบกวนความคิดของลินลี่ย์
ภายในห้องศิลาอีกสี่คนกำลังมองมาทางลินลี่ย์ รีสเจมกระตุ้น “เฮ้, ลินลี่ย์ เป็นอะไรไป?อย่าเอาแต่ยืนนิ่งเหมือนคนงี่เง่าเลย บอกเราว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ไปคุยกันในห้องโถงเถอะ” ลินลี่ย์หัวเราะขณะพูด
กลุ่มของลินลี่ย์ห้าคนเข้าไปในห้องโถงนั่งล้อมรอบโต๊ะหินยาว
“ลินลี่ย์!เจ้ากลายสภาพวิญญาณได้สำเร็จไหม?” บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“ถูกแล้ว” ลินลี่ย์พยักหน้า
บลูไฟร์ตาเป็นประกายและถอนหายใจชื่นชม “ตามตำนานกล่าวว่า ถ้าหลอมรวมพลังเทพสองกฎธาตุพลังจะเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ถ้าหลอมรวมสามกฎธาตุพลังจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า! ถ้าหลอมรวมพลังสี่กฎธาตุ..ไม่มีใครรู้แน่ แต่บางทีน่าจะมีพลังเพิ่มเป็นพันเท่า แม้จะใช้พลังมหาเทพก็ทำให้คนผู้หนึ่งมีพลังเพิ่มขึ้นสองสามร้อยเท่าเมื่อเทียบกับเทพชั้นสูง”
“ลินลี่ย์!เจ้าเป็นยังไงบ้าง? เจ้าหลอมรวมพลังเทพสี่แบบได้ พลังของเจ้าเป็นยังไง? ยังแข็งแกร่งกว่าเมื่อตอนเจ้าใช้พลังมหาเทพหรือไม่?” รีสเจมถามอย่างคาดหวัง
พลังมหาเทพนั้นแข็งแกร่ง แต่มีขีดจำกัด ทำให้คนมีพลังแข็งแกร่งกว่าเทพชั้นสูงธรรมดาถึงสองสามร้อยเท่า
“ข้ารู้สึก...” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ “ว่าหลังจากหลอมรวมพลังเทพสามกฎธาตุ พลังของข้าเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยเท่าแน่นอน ข้ารู้สึกได้..ว่าเทียบกับเมื่อตอนที่ข้าใช้พลังมหาเทพวิถีทำลายล้าง!” ลินลี่ย์มีทักษะทางกฎธรรมชาติธาตุดิน และเมื่อเขาใช้พลังมหาเทพวิถีทำลายล้าง จึงไม่ได้ให้ผลเต็มที่ครบถ้วนเพียงแต่พลังของเขาเพิ่มขึ้นราวๆ ร้อยเท่า เทียบได้กับการหลอมรวมพลังเทพสามแบบ
บลูไฟร์พยักหน้าเล็กน้อย ทั้งหมดเป็นไปตามที่บลูไฟร์คาดหวัง
“อย่างนั้นสี่กฎธาตุเล่า?” รีสเจมรีบกล่าว
“ข้าเองไม่แน่ใจเหมือนกัน” ลินลี่ย์หัวเราะ
“เจ้าไม่แน่ใจได้ยังไง?” รีสเจมจ้องมอง และบีบีที่อยู่ใกล้ๆเริ่มหัวเราะ “รีสเจม! ร่างแยกธาตุไฟของพี่ใหญ่ยังเป็นแค่เทพแท้ ถ้าพลังระดับเทพแท้หลอมรวมกับพลังเทพชั้นสูงข้าคิดว่าพลังจะไม่เพิ่มเท่าใดนัก”
รีสเจมตกใจจากนั้นหัวเราะเก้อเขิน “ข้าลืมไป ลินลี่ย์เจ้าเองเพิ่งฝึกมาเพียงสองพันปี”
เป็นเรื่องจริง สำหรับผู้ที่ฝึกมาแค่เพียงสองพันปีจนได้ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ถึงสามร่างนับว่าน่ากลัวมากแล้ว แต่แน่นอนว่าในแดนนรกมีอัจฉริยะมากมาย บางคนฝึกได้เร็วกว่าลินลี่ย์แต่..สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือไม่มีแม้แต่คนเดียวในจักรวาลที่ดำเนินการกลายสภาพวิญญาณได้สำเร็จเต็มที่ด้วยร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ถึงสี่ร่าง
อย่างน้อยตอนนี้ลินลี่ย์เป็นคนเดียวแน่นอน
“น่ากลัว, น่าเกรงขามจริงๆ” บลูไฟร์ถอนหายใจชื่นชม “วิญญาณกลายสภาพเป็นเรื่องน่ากลัวจริงๆ เมื่อร่างแยกธาตุไฟของเจ้าถึงระดับเทพชั้นสูงด้วยเช่นกันและเจ้าหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่ชนิดได้ พลังของเจ้ายังจะเหนือมากกว่าคนที่ใช้พลังมหาเทพเสียอีก! แต่ผลตอบแทนที่เจ้าได้รับก็คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่เจ้าต้องเผชิญพบเจอมา เวลานั้นเจ้าแทบจะเอาชีวิตไม่รอด”
“ต้องบอกว่าเกือบไปจริงๆ” บีบีพยักหน้าเช่นกัน
“ท่านเลย์ลิน” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วทันที
“มีอะไรหรือ?” บลูไฟร์ถามด้วยความสงสัย
ลินลี่ย์ส่ายหน้า “ข้ามีความรู้สึกอย่างหนึ่งในตอนนี้ ความรู้สึกเฉพาะแบบ! ความรู้สึกที่ควบคุมได้! ความรู้สึกที่ควบคุมวัตถุธาตุและแม้กระทั่งพื้นที่มิติ” ขณะที่ลินลี่ย์พูดเขากำหมัด“ข้ามีความรู้สึกที่แปลก เหมือนกับว่าข้าสามารถทะลวงมิติด้วยการต่อยเต็มแรงได้” ขณะที่ลินลี่ย์พูดเขากระแทกหมัดออกเต็มแรง
ลินลี่ย์ไม่ได้อยู่ในร่างมังกรแปลงไม่ได้ใช้พลังมหาเทพ ในเรื่องใช้กฎธาตุเขายังอ่อนกว่าพารากอนมากมาย
“เฟี้ยววว!”
ขณะที่เขาปล่อยหมัดพื้นที่มิติดูเหมือนระเบิดราวกับเกิดระเบิดใหญ่บนผิวทะเลสาบปรากฏริ้วมิติฉีกขาดขนาดมหึมา
“นี่...”
บีบีตะลึงและรีสเจมเรย์โฮมต่างพูดไม่ออก บลูไฟร์ตาเป็นประกาย
ก่อนหน้านี้ลินลี่ย์ต้องอยู่ในร่างมังกรแปลงใช้พลังมหาเทพและใช้อาวุธประกายเทพจึงจะฉีกมิติได้ แต่เมื่อเทียบกันแล้ว...พลังยังไม่รุนแรงเท่ากับหมัดนี้
“พี่ใหญ่! ท่าน, หมัดของท่านแทบจะเทียบเท่ากับฝ่ามือของพารากอนไบเออร์แล้ว”
ไบเออร์ใช้ฝ่ามือง่ายๆฟันจนเกิดรอยฉีกขาดของพื้นที่มิติขนาดใหญ่
“ข้า.. ข้าไม่แน่ใจ” ลินลี่ย์ค่อนข้างงงงวย “ข้าแค่รู้สึกถึงพลังควบคุมนี้เหมือนกับว่าข้าสามารถฉีกเปิดมิติได้ง่าย แต่ข้าคาดไม่ถึงว่าข้าจะสามารถทำเช่นนั้นได้”
“ลินลี่ย์!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ลินลี่ย์หันไปมอง คนพูดก็คือบลูไฟร์ ตอนนี้สีหน้าของบลูไฟร์บ่งบอกว่าร่าเริงอารมณ์ดี “ฮ่าฮ่า..ลินลี่ย์ นั่นคือพลังเจตจำนงหรือปณิธานของเจ้าที่ผสานเข้ากับพลังกฎธรรมชาติ! เนื่องจากปณิธานของเจ้าครอบคลุมกฎธรรมชาติเจ้าจึงสามารถควบคุมโลกได้ นี่คือพลังวิเศษที่เจ้ามีตอนนี้! พลังที่มีแต่พารากอนและมหาเทพเท่านั้นมี! พลังโจมตีทุกอย่างที่มีปณิธานของเจ้าและเพิ่มระดับสูงขึ้นจนน่าทึ่ง”
“พลังปณิธาน?” ลินลี่ย์ตะลึง
“พลังที่มีแต่เฉพาะเทพพารากอนและมหาเทพเท่านั้น?” บีบีและรีสเจมก็ตะลึงเหมือนกัน
ลินลี่ย์ทดสอบความรู้สึกของการควบคุมนี้ เขารู้สึกราวกับว่าเขามีพลังเหนือระลอกมิติและการเคลื่อนที่โดยรอบ
นี่คือสิ่งที่เขาไม่เคยมีมาก่อน!
ในสมรภูมิมหาพิภพลินลี่ย์เคยแต่รู้สึกถึงอันตราย แต่บัดนี้เขามีความรู้สึกว่าเขาควบคุมชะตาของเขาเองได้ ความรู้สึกถึงการยืนอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตอื่นและมองลงมายังพวกเขา
“ข้าไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้เลย และไม่ได้คาดหวังเรื่องนี้ไว้เลยจริงๆ” บลูไฟร์ยากจะเชื่อได้จริงๆ “วิญญาณกลายสภาพก่อนหน้านี้จะมีพลังมากขึ้น แต่แม้การกลายสภาพวิญญาณสามรูปแบบหาได้ยากมากที่ตลอดจักรวาลโลกธาตุที่จะไม่พัฒนาพลังด้านนี้! ใครจะคาดกันเล่าว่า..วิญญาณกลายสภาพกับร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ ยังคงจะได้รับพลังแบบนี้จริงๆ!”
“มีเหตุผล วิญญาณกลายสภาพกับร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สี่ร่างจะเป็นวิญญาณที่ทรงพลังมากยิ่งกว่าวิญญาณกลายสภาพกับร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สามร่าง! สำหรับวิญญาณของคนที่มีพลังได้สูงขนาดนั้น..จะรู้สึกแต่เพียงว่าโลกธรรมชาติมอบพลังนี้ให้กับคนผู้นี้” บลูไฟร์ตื่นเต้นมาก
และจากนั้นเขาหันไปมองลินลี่ย์อย่างกระตือรือร้น “ลินลี่ย์ มา, มาเถอะ, โจมตีข้ามาลองโจมตีข้าให้ข้าทดสอบและดูว่าพลังของเจ้าเป็นยังไง! มาดูกันว่าเจ้าผู้มีวิญญาณกลายสภาพของสี่ธาตุที่เป็นไปไม่ได้จะทรงพลังมากมายขนาดไหนหรือว่าพารากอนจะมีพลังมากขนาดไหน!”
++++++++
*** ทำความเข้าใจ
วิญญาณกลายสภาพ– คือผู้ปรับสภาพวิญญาณต่างสายกฎธาตุตั้งแต่สองสายธาตุ (หรือวิถี) สามารถหลอมรวมเคล็ดลับต่างกฎสายธาตุได้ตามชนิดของร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ อาจมีพลังน้อยกว่า เท่ากับ หรือมากกว่าพารากอน แต่ไม่ใช่พารากอน
พารากอน– คือเทพชั้นสูงผู้หลอมรวมทุกเคล็ดลับในสายกฎธาตุได้อย่างบริบูรณ์