ตอนที่ 19-59 ปะทะฝีมือเหนือแม่น้ำดวงดาว
คนที่กลายเป็นเทพพารากอนล้วนเป็นอัจฉริยะยากจะหาใครเทียบได้เต็มไปด้วยจิตตานุภาพ พวกเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดได้รับความเคารพนับถือจากคนอื่น แม้เมื่อพวกเขาพบกับมหาเทพ พวกเขาไม่ต้องคุกเข่า พวกเขาแค่ต้องคำนับเล็กน้อย ทุกคนคงคิดได้ว่าในใจพวกเขามีความหยิ่งในศักดิ์ศรีมากเพียงไหน
“ถ้าข้าต้องการฆ่าใครสักคน... เจ้าก็ห้ามข้าไม่ได้!”
คำพูดที่เยือกเย็นของลินลี่ย์และแววตาของเขาขณะที่พูดทำให้แม็กนัสที่โกรธเพราะความตายของสหายอยู่แล้วก็ยิ่งโกรธมากขึ้นจนนัยน์ตาของเขาเป็นสีแดง
แม็กนัสวางศพของแรมสันค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ มองดูลินลี่ย์
ลินลี่ย์ไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย ขณะจ้องมองแม็กนัสกลับอย่างใจเย็น
“ครืน....” เสียงสายฟ้าดังกึกก้องไม่หยุดรอบตัวพวกเขา การสู้รบกำลังดำเนินต่อไป และทหารของโลกธาตุมืดและโลกธาตุแสงกำลังเข่นฆ่ากันด้วยวิธีการต่างๆ เลือดสาดกระเซ็นทุกที่ และประกายเทพชั้นสูงร่วงหล่นในทุกที่ตามด้วยป้ายประจำตัวของทหารคนแล้วคนเล่าและถูกเก็บไว้โดยทหารที่ยังรอดชีวิต นี่บ่งบอกว่าที่เส้นทางดวงดาวโหดร้ายอำมหิตเพียงไหน
แต่ในท่ามกลางการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมอำมหิตนี้ ลินลี่ย์และแม็กนัสยืนนิ่งกับที่จ้องมองกันไม่ขยับแม้แต่น้อย
ดูเหมือนการสู้รบของทหารเป็นพันคนรอบตัวพวกเขา สำหรับพวกเขาแล้วไม่มีอะไรมากไปกว่าอากาศ
“เป้าหมายก็คือร่างชุดขาวที่ไม่ขยับเขยื้อน พลังโจมตีวิญญาณ!” นายกองสังเกตเห็นแม็กนัสได้ชัดเจน และขณะที่นายกองออกคำสั่งผ่านสำนึกเทพ กลุ่มทหารผู้รอดในกองที่ยังเหลือเจ็ดสิบห้าคนใช้พลังโจมตีวิญญาณใส่แม็กนัสกันทุกคนทันที
แม็กนัสที่จ้องมองลินลี่ย์ด้วยความโกรธ อดหันกลับไปมองไม่ได้
“เฮอะ!” แม็กนัสแค่นเสียงเบา สายตาเปลี่ยนเป็นเย็นชา
สายตาเย็นชาของแม็กนัสกวาดมองออกไปและสร้างธนูขาวมากกว่าร้อยดอกยิงออกไป “ควั่บ” “ควั่บ!” ธนูยิงผ่านท้องฟ้าและปะทะกับพลังโจมตีวิญญาณเหล่านั้น ขณะที่ทำลายพลังโจมตีวิญญาณ ธนูใสไม่ชะลอความเร็วลงแต่อย่างใด ทั้งหมดแทงเข้าไปในร่างของสมาชิกกองร้อย ดวงตาพวกเขามีแววหวาดผวา
และจากนั้นก็เงียบ
ศพทั้งเจ็ดสิบห้าศพร่วงลงจากท้องฟ้า ประกายเทพและป้ายประจำตัวของพวกเขาร่วงตกเช่นกัน
แค่กวาดสายตาครั้งเดียวก็ฆ่าเทพชั้นสูงไปถึงเจ็ดสิบห้าคน!
“เป็นแบบนั้นไปได้อย่างไร?” ทหารบางคนสังเกตเหตุการณ์นี้ได้ และพวกเขาหวาดกลัวจนสีหน้าเปลี่ยน แต่...การต่อสู้ที่เส้นทางดวงดาวปั่นป่วนเกินไป มีคนเพียงไม่กี่สิบคนที่สังเกตเห็นแม็กนัสแสดงพลังของเขา ส่วนที่เหลือไม่ทันสังเกตแม้แต่น้อย ที่สำคัญมีคนตายต่อเนื่องตามเส้นทางดวงดาว ไม่มีใครสังเกตว่ามีคนตายรวดเดียวเจ็ดสิบห้าคน
“พี่ใหญ่” บีบีและคนอื่นค่อนข้างกังวลเช่นกัน
“ไม่ต้องห่วง พวกเจ้าทุกคนตอนนี้ถอยไปก่อน” ลินลี่ย์บอกผ่านสำนึกเทพ “กับแม็กนัส แม้ว่าข้าไม่มั่นใจว่าจะชนะ แต่ข้าจะไม่แพ้แน่นอน!”
“ลินลี่ย์! ที่สำคัญแม็กนัสนี้เป็นพารากอน อย่าประมาท นอกจากนี้เขาก็มีสมบัติมหาเทพเช่นกัน” รีสเจมบอกทางใจ ขณะที่เขาพูด บีบีและเรย์โฮมถอยไปกันหมด เพราะพวกเขารู้ว่า..เมื่อลินลี่ย์และแม็กนัสเริ่มสู้กัน ภาพจะแตกต่างจากตอนต่อสู้ที่ลินลี่ย์กับบลูไฟร์ซ้อมมือกัน
เมื่อยอดฝีมือระดับเทพพารากอนต่อสู้กันเอง การถอยหลบจากการโจมตีของพวกเขาแม้เล็กน้อยก็ยังอาจคุกคามชีวิตของผู้บัญชาการธรรมดาได้
ตอนนี้ลินลี่ย์และแม็กนัสไม่ให้ความสนใจคนอื่น เหมือนกับว่าทั้งโลกนี้มีพวกเขาเพียงสองคน!
แม็กนัสจ้องมองลินลี่ย์ เขาพูดเสียงเบา “เจ้ายังไม่ตายจริงๆ!”
“อะไรกัน, เจ้าเสียใจงั้นหรือ?” ลินลี่ย์ยิ้มเยือกเย็น มีแววเย้ยหยันอยู่ในรอยยิ้มของเขา
“ข้าไม่เสียใจ” แม็กนัสกลับมีความคิดกระจ่างอีกครั้ง “เพราะข้ารู้ว่า แม้ว่าเจ้าไม่ตายในครั้งก่อน แต่คราวนี้...เจ้าจะตายแน่นอน”
“เจ้ามั่นใจมากจริงๆ” ลินลี่ย์มองดูแม็กนัส ขณะพูดเหมือนกับว่าเขามีระดับเสมอกัน “แต่ครั้งก่อน เจ้าก็ยังมั่นใจมากว่า หลังจากข้าบาดเจ็บจากพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุด ข้าจะต้องตายแน่นอน แต่ผลจริงๆ เป็นยังไงเล่า? ครั้งก่อนนั้นข้าทำลายความมั่นใจของเจ้า ครั้งนี้..ข้าจะทำลายมันอีกครั้ง!”
หน้าของแม็กนัสยิ่งน่ากลัวมากขึ้น
“ฮ่าฮ่า...” ทันใดนั้นแม็กนัสเริ่มหัวเราะเย็นชาทันที “ใครจะโอ้อวดตัวเองยังไงก็ได้! วันนี้, ข้าจะให้เจ้ารู้ความแตกต่างระหว่างเจ้ากับเทพพารากอน” แม็กนัสไม่เชื่อจริงๆ ว่าลินลี่ย์กลายเป็นเทพพารากอน เพราะครั้งก่อนเมื่อเขาลงมือกับลินลี่ย์ เขาสามารถบอกได้ว่าลินลี่ย์ยังห่างกับเทพพารากอนมากมายนัก
ผู้บัญชาการธรรมดาเมื่ออยู่ต่อหน้าเทพพารากอน จะต้องพบกับหายนะแน่นอน
“ปัง!” ขณะหัวเราะ แม็กนัสเริ่มเคลื่อนไหว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นจนถึงขีดจำกัดทันที และเขาเคลื่อนไหวเหมือนภาพฝันเลือนราง พุ่งเข้าหาลินลี่ย์ทั้งตัว ขณะเดียวกันมือขวาของแม็กนัสสวมถุงมือดำกลายสภาพเป็นกรงเล็บ และเขาตะปบใส่ศีรษะของลินลี่ย์ “วีดดดด แครก..” รูมากมายในช่องมิติระเบิดพลังออกมา
เมื่อกรงเล็บโจมตีออกมา เหมือนกับว่าพื้นที่มิติกลับกลายเป็นอ่อนแอ
“เจ้าคิดว่าตัวเองสูงส่งนักหรือ!” เสียงคำรามกึกก้องอยู่ในทางเดินดวงดาว
“ปัง!”
ประกายกระบี่แสงสีดำแทงใส่ฝ่ามือแม็กนัส จักรวาลดูเหมือนจะสั่นสะเทือน ขณะที่แม็กนัสเองไม่สามารถต้านได้ถูกกระแทกถอยหลัง ในพื้นที่มิติที่พวกเขาต่างผลัดกันโจมตี มีช่องว่างมิติสีดำปรากฏหลายที่ และช่องว่างมิติที่น่ากลัวเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดกลืนกินทหารหลายสิบคนที่อยู่ใกล้ๆ หายไป
“รอยแยกมิติ? มิติเกิดรอยแยกขนาดใหญ่แบบนั้นได้ยังไง?” ที่ทหารที่ยังสู้กันอย่างดุร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่อยู่รอบลินลี่ย์และแม็กนัส ในที่สุดก็เข้าใจว่าสองสุดยอดฝีมือปรากฏตัวแล้ว
แต่นั่นใช้กับพวกเขาไม่ได้ ที่สำคัญ ทหารที่อยู่ข้างหลังพวกเขาทั้งสองฝ่ายทั้งโลกธาตุมืดและโลกธาตุแสงยังคงต่อสู้ยันกันอยู่ต่างก็โถมเข้าสู้ศัตรูในการรบ!
“เจ้า..เจ้า..” แม็กนัสจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความทึ่ง “เจ้ากลายเป็นเทพพารากอนแล้วหรือ?”
“เจ้าคิดว่าตนเองสูงส่งนักหรือ!” ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้
ด้วยพลังควบคุมโลกของลินลี่ย์ เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่าแม็กนัสไม่ได้ใช้พลังมหาเทพเมื่อตอนโจมตี! เทพพารากอนคนหนึ่งผู้ไม่ใช้พลังมหาเทพโดยทั่วไปก็สามารถฆ่าผู้บัญชาการได้ง่าย แต่...ใช้วิธีอย่างนั้นกับลินลี่ย์ค่อนข้างจะเป็นการหยิ่งเกินไป
“เจ้ากลายเป็นเทพพารากอนจริงๆ หรือ?” แม็กนัสไม่อยากเชื่อ แต่พลังที่ลินลี่ย์เพิ่งใช้ออกนั้นเป็นของจริง
“ข้าต้องขอบคุณเจ้าที่ใช้พลังโจมตีสุดกำลังเมื่อก่อนนี้” ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ “ถ้าเจ้าไม่ต้องการฆ่าข้า จนทำให้ข้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เป็นตายเท่ากัน บางทีข้าคงไม่มีทางก้าวหน้าได้มากขนาดนี้” ลินลี่ย์ไม่ยอมรับว่าเขาเป็นพารากอน แต่เมื่อได้ยินคำพูดของลินลี่ย์ แม็กนัสถือว่าเป็นการยอมรับ
“มิน่าเล่าเจ้าถึงได้หยิ่งยโสนัก เพราะเจ้ากลายเป็นเทพพารากอนนี่เอง” หน้าของแม็กนัสบึ้งตึง “แต่ลินลี่ย์ ต่อให้เจ้าเป็นเทพพารากอน ข้า, แม็กนัสจะสั่งสอนเจ้าในวันนี้..ว่าเจ้าไม่สมควรฆ่าสหายของข้า!”
เมื่อแม็กนัสพูดจบ เขาเคลื่อนไหวอีกครั้งทันที
“ครืนนน...”
ในพริบตาเดียว ลินลี่ย์มองเห็นหมัดสีดำเต็มพื้นที่สายตา และพลังมหาเทพวิถีชะตาระเบิดพลังออกมาเต็มที่ ดูเหมือนว่าพื้นที่มิติโดยรอบบีบอัดเขาและหมัดนี้ดูเหมือนจะบรรจุพลังเพียงพอจะทำลายล้างโลกได้ เป็นพลังที่หยุดไม่ได้!
“ไม่ใช้พลังโจมตีวิญญาณ แต่ใช้พลังโจมตีวัตถุ?” ลินลี่ย์ไม่ลังเลแม้แต่น้อยสะบัดกระบี่แทงใส่เต็มแรงทันที
“โรววววว...” รังสีดำ 108 สายยิงออกมาเหมือนกับมังกรจากกระบี่เงาลวงกลืนแม็กนัสไว้ภายใน ในทันใดนั้นแม็กนัสรู้สึกเหมือนกับว่าได้ยินเสียงมังกรคำราม และจากนั้นก็รู้สึกถึงพลังบีบอัดที่ทรงพลัง พลังบีบอัดนี้ทำให้แม้แต่พลังโจมตีของเขาก็ได้รับผล
กระบี่ของลินลี่ย์ หมัดของแม็กนัส!
พลังโจมตีทั้งสองปะทะกัน
“ปั้ก...” เสียดังทุ้มลึกเหมือนเสียงตีกลอง
มิติแตกกระจายทันที รอยแยกมิติปรากฏขึ้นเป็นร้อยรอย และพลังของมหาเทพนั้นหลอมรวมกับพลังของปณิธานกระจายออกไปทุกตำแหน่ง แรงระเบิดพลังงานนี้มีพลังปณิธานแฝงอยู่ภายใน และเหมือนกับธนูแหลมคมยิงทะลุร่างทหารที่อยู่โดยรอบ
ทหารร้อยคนที่อยู่ใกล้ลินลี่ย์และแม็กนัสได้รับผลกระทบ ร่างของพวกเขากลายเป็นฝุ่นธุลีไปในทันที! ขณะที่ทหารบางคนที่อยู่ด้านหลังพวกเขา ทุกคนถูกกระแสพลังแทงทะลุอกหรือไม่ก็ขา บางคนโชคร้ายถูกแทงทะลุศีรษะ โชคร้ายที่รังสีพลังงานรุนแรงและหนาแน่นเกินไป
ในพริบตาเดียวภายในรัศมีร้อยเมตรโดยรอบ มีศพเป็นร้อยร่วงลงจากท้องฟ้า
“อะไร...อะไรกันนี่?” พวกทหารรบกันอยู่แต่เดิมตกตะลึงกันหมด พวกเขาลดอาวุธลงอย่างช่วยไม่ได้ และหันไปมองดูต้นเหตุที่ทำให้คนมากมายตายอย่างต่อเนื่อง ไม่มีคนมีชีวิตในพื้นที่ซึ่งลินลี่ย์และแม็กนัสต่อสู้กัน
ในทางเดินดวงดาว นี่เป็นพื้นที่ว่างด้านหลัง นี่ทำให้ทหารสังเกตได้ว่าคนสองคนกำลังสู้กันภายใน
“ปัง!” “ปัง!”
ร่างเลือนรางปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่าและมิติแตกเกิดรอยฉีกขาด แรงสะท้อนจากพลังมหาเทพที่พวกเขาใช้ทำให้ทหารจำนวนมากตายอย่างต่อเนื่อง
“ถอย เร็วเข้า ถอยก่อน!” พวกทหารหวาดกลัวได้แต่ถอยอย่างแตกตื่นยืดระยะจนอยู่ห่างลินลี่ย์และแม็กนัส
“เร็วจนน่ากลัวจริงๆ!” พวกทหารรู้สึกใจสั่นสะท้าน “หรือว่าพวกเขาเป็น....”
ทหารเหล่านี้นับได้ว่าเป็นยอดฝีมือในแดนนรกหรือไม่ก็ในยมโลก และพวกเขามีประสบการณ์สูง แต่ผลกระทบอย่างเหลือเชื่อจากการปะทะกันของลินลี่ย์และแม็กนัสทำให้พวกเขารู้สึกหวาดผวา แม้แต่เศษพลังงานที่เหลือยังสามารถฆ่าอสูรหกดาวและอสูรเจ็ดดาวได้อย่างง่ายดาย? นี่มันพลังแบบไหน?
มิติของสมรภูมิมหาพิภพ....มีรอยฉีกของมิติขนาดเป็นร้อยได้จริงๆ หรือ? นี่เป็นการโจมตีโดยใช้พลังระดับใดแล้ว?
พวกเขาตกตะลึง กลัวจนทำอะไรไม่ถูก!
มีเส้นทางในแม่น้ำดวงดาวสองสาย และทั้งสองทางเดินนำเข้าไปสู่การรบพร้อมๆ กัน เป้าหมายคือเอาชนะฝ่ายตรงข้ามและไปให้ถึงฝั่งตรงข้าม นั่นคือสัญลักษณ์ของชัยชนะ ถ้าชัยชนะคือการชิงทางเดินดวงดาวได้สองเส้นทาง ฝ่ายหนึ่งของสงครามมหาพิภพจึงจะนับได้ว่าได้ชัยชนะ ถ้าชนะได้รับทางเดินดวงดาวหนึ่งเส้นทางแต่เสียไปหนึ่งเส้นทาง ก็ถือว่าเสมอกัน
แต่ตอนนี้ การต่อสู้ระหว่างลินลี่ย์และแม็กนัสทำให้ตกอยู่ในความวุ่นวาย
พวกเขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้าในบางครั้ง และจากนั้นก็บินลงมาเคลื่อนไหวต่อสู้ด้วยความเร็ว
ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้พวกเขาในระยะพันเมตร!
ดังนั้นที่ใจกลางของหนึ่งในเส้นทางดวงดาวจึงเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเป็นธรรมดา เหตุนี้จึงทำให้การต่อสู้ในทางดวงดาวด้านนี้ชะงัก ขณะที่ทหารและผู้บัญชาการหลายคนเพ่งความสนใจกับการดวลระหว่างสุดยอดฝีมือทั้งสองนี้
“พวกเขา? แม็กนัส...และนั่นสหายของรีสเจม?” ผู้บัญชาการสามตาสีหน้าเปลี่ยน
ผู้บัญชาการหลายคนสังเกตได้จากในระยะไกล
“เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง? นั่นคือคนที่ชื่อลินลี่ย์ไม่ใช่หรือ?” วูดริจจ้องฉากภาพการต่อสู้ที่น่ากลัวระหว่างลินลี่ย์และแม็กนัส “แม็กนัสกับลินลี่ย์ พวกเขากำลังต่อสู้ยันกันหรือ?” เมื่อมองดูการต่อสู้สะท้านโลกที่เกิดขึ้นในระยะห่าง วูดริจไม่อยากเชื่อว่าลินลี่ย์ผู้ที่เขาดูถูกจะสามารถสู้เสมอได้กับเทพพารากอน วูดริจสะบัดหน้าแรงๆ ไม่กล้าเชื่อสิ่งที่ตนเองเห็น
“ลินลี่ย์?”
แม้ว่าคนเหล่านั้นที่อยู่ฝ่ายโลกธาตุมืดก็ไม่เคยให้ความสนใจลินลี่ย์ ทั้งหมดที่พวกเขารู้ก็คือชื่อลินลี่ย์ ตอนนี้พวกเขาเห็นว่าเป็นลินลี่ย์ก็เป็นต้นเหตุของความปั่นป่วนนี้ด้วย พวกเขาอดรู้สึกตกใจอย่างหนักมิได้
“ลินลี่ย์ผู้นี้น่ากลัวเกินไป”
เชกวินเพียงคนเดียวที่รอดตายในหน่วยของเขาจากฝ่ายโลกธาตุแสงยังรู้สึกหวาดผวาในใจ
“นี่ใครกัน?” ผู้บัญชาการอีกมากของฝ่ายโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่รู้จักลินลี่ย์
“ฮ่าฮ่า...ข้าบอกพวกเจ้าทุกคนนานแล้วว่าเขาทรงพลังมาก บางทีอาจเป็นเทพพารากอน” แฮมเมอร์จ้องการต่อสู้ไกลๆ เขาอดหัวเราะลั่นไม่ได้ “พวกเจ้าไม่มีใครเชื่อข้า! ฮ่าฮ่า..พวกเจ้าเห็นไหมนั่น? เห็นไหม?”
ในสองเส้นทางดวงดาว การสู้รบในเส้นทางสายหนึ่งถูกบังคับให้ชะงัก
“เร็วเข้า รีบเปลี่ยนเส้นทาง เสริมกำลังไปที่อีกเส้นทางเดินหนึ่ง! ฉวยโอกาสคว้าชัยชนะแรกให้สำเร็จในอีกเส้นทางเดินหนึ่ง!” ผู้บัญชาการบางส่วนตั้งหลักได้เร็วกว่า เมื่อรู้ว่าการสู้รบที่เส้นทางเดินด้านนี้ชะงัก พวกเขาจัดขบวนทัพไปช่วยอีกเส้นทางหนึ่ง พวกเขาต้องได้รับชัยชนะในเส้นทางนั้นก่อน แล้วจึงจะพูดได้
ลินลี่ย์กับแม็กนัสยังคงต่อสู้กันในกลางแม่น้ำดวงดาว ขณะที่พวกเขาสู้ต่อไป ทหารที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งสองฝ่ายที่มุ่งกำจัดฝ่ายตรงข้ามหยุดชะงักการสู้รบชั่วคราว
ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ลินลี่ย์หรือแม็กนัส
พลังมหาเทพหลอมรวมกับพลังปณิธาน..เมื่อพลังกวาดล้างออกไป แม้แต่พวกผู้บัญชาการก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ง่ายๆ นี่มันอะไรกัน
ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง พวกทหารนับไม่ถ้วนและผู้บัญชาการที่มองดูการสู้รบที่นิ่งกลัวด้วยความอัศจรรย์ใจนี้ มีหลายคนที่วันนี้พวกเขาได้เข้าใจว่าเทพพารากอนนั้นมีพลังน่ากลัวเพียงไหน!
“ปัง!”
ผู้บัญชาการและพวกทหารเห็นแต่เพียงภาพเลือนรางเคลื่อนไหว หนึ่งในนั้นบินขึ้นไปข้างบน ขณะที่อีกคนหนึ่งยืนนิ่งกับที่บนพื้น ทั้งสองแยกจากกัน แม็กนัสลอยนิ่งอยู่กับที่ในอากาศ มีรอยเลือดหยดจากริมฝีปากของเขา อย่างไรก็ตามเขาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บแทบจะทันที
และบนพื้นมียอดฝีมือที่ยืนอยู่ตลอดทั้งร่างคลุมเต็มไปด้วยเกล็ดสีทองฟ้า และหนามแหลมปรากฏจากหลังของเขา ลินลี่ย์! ตาสีทองเข้มของลินลี่ย์จ้องมองข้างบน “แม็กนัส..เจ้า...พารากอนวิถีชะตาคิดจะแข่งพลังโจมตีวัตถุกับข้าใช่ไหม? เจ้ายังมีฝีมือไม่ถึง!”