ตอนที่ 19-58 พลังของลินลี่ย์
ทั้งสองเส้นทางเดินของแม่น้ำดวงดาว มีแสงสีรุ้งฉายพุ่งออกมาจนเต็มท้องฟ้า
ทหารที่อยู่ในค่ายของโลกธาตุมืดและโลกธาตุแสงในเวลานี้ต่างสู้รบกันอย่างดุเดือด หากมีคนมองขึ้นไปในท้องฟ้า จะเห็นได้ว่าทั้งสองทางเดินดวงดาวหน่วยทหารหน่วยแล้วหน่วยเล่าเคลื่อนขบวนเหมือนกับมังกรเข้าไปในทางเดินดวงดาว ทางเดินดวงดาวไม่ต่างจากเครื่องบดเนื้อ เครื่องบดเนื้อสำหรับเทพชั้นสูง!
ในสงครามป่าเถื่อนนี้ไม่มีทางให้คนพันคนดาหน้าไปพร้อมกันได้ ทางเลือกเดียวก็คือใช้สำนึกเทพในการจัดระเบียบและให้กองร้อยทหารลงมือพร้อมกัน
ตอนนี้กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนยืนอยู่กับที่เช่นกัน
ในฝูงคนหลายหมื่น กลุ่มของลินลี่ย์ไม่เป็นที่สังเกตเท่าใดนัก แต่ศัตรูบางคนยังจำพวกเขาได้
“โจมตีวิญญาณ! เป้าหมายคือ สิบเอ็ดคนข้างหน้าห่างออกไปสามสิบเมตร!” หัวหน้ากองของหน่วยทหารร้อยคนออกคำสั่งผ่านสำนึกเทพ และในทันใดนั้นผู้รอดที่ยังเหลือแปดสิบสองคนของกองร้อยโจมตีวิญญาณทันที พลังโจมตีวิญญาณที่โปร่งแสงเหล่านั้นพุ่งออกมาเหมือนกับมีดขาวหลายสิบเล่มตรงเข้าหาสิบเอ็ดคนในบริเวณกลุ่มลินลี่ย์
รีสเจมแค่หัวเราะ
“พวกเขาหาที่ตาย!” ทันใดนั้นหน้าผากของรีสเจเปล่งแสงสีม่วงทันที
แสงสีม่วงแผ่ระลอกพลังออกไปทันใดปะทะใส่ทหารกองร้อยนั้น อย่างไรก็ตามมีกลุ่มคนมากมายที่อยู่ใกล้เคียงมีจำนวนหนาแน่นเกินไป ดังนั้นพลังโจมตีของรีสเจมส่งผลต่อทหารทั้งสองฝ่ายขณะที่ห้าสิบสามคนเป็นทหารฝ่ายศัตรู นั่นเป็นแค่ครึ่งหนึ่งของหน่วยศัตรู ที่มีกลุ่มคนนับร้อย
จากจุดนี้อาจกล่าวได้ว่ากลุ่มคนนั้นมีรวมกันอยู่หนาแน่น
การโจมตีครั้งเดียวนี้ทำร้ายคนไปห้าสิบห้าคน ห้าสิบสามคนตายทันที และรอดเพียงสองคน
ป้ายห้าสิบสามป้ายร่วงทันที
“ป้ายประจำตัว!” ทันใดนั้นทหารที่อยู่ใกล้สองสามคนเริ่มทะเลาะแย่งชิงป้าย และในพริบตา ป้ายทั้งหมดก็ถูกเก็บ ทุกแห่งทั่วสนามรบ มีป้ายร่วงอย่างต่อเนื่อง ป้ายร่วงแต่ละครั้งก็หมายถึงความตายของคนๆ หนึ่ง
“แย่แล้ว รีบไปเร็ว” นายกองหวาดกลัวจนสีหน้าเปลี่ยน และเขารีบพาหน่วยของตนหนีไปทางอื่น
“เข้มแข็งดีมาก” บีบีหัวเราะ
“เกือบทั้งหมดนั้นยังไม่เป็นระดับอสูรเจ็ดดาวด้วยซ้ำ การฆ่าพวกเขาเป็นเรื่องง่ายๆ แน่นอน พลังที่ข้าโจมตีไปนั้นไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น แต่ก็ตั้งใจโจมตีกลุ่ม” รีสเจมพูดเหยียดหยาม “ทุกคน, ดูให้ดี ใครเป็นผู้บัญชาการ! เราจะยืนเฉยอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เราต้องให้ความสนใจตัวเราเอง เมื่อครู่นี้เป็นหัวหน้ากองร้อย หลังจากดึงดูดความสนใจแล้ว เป็นไปได้ว่านายกองร้อยนั้นจะต้องรวบรวมคนมาสู้กับเรา”
รีสเจมมีประสบการณ์มาก เขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถยืนอยู่ในที่เดียวได้นาน
“ตามข้ามา” ลินลี่ย์พูด
เมื่อลินลี่ย์พูด รีสเจม บีบีและเรย์โฮมไม่มีใครคัดค้านแม้แต่น้อยติดไปด้านข้างลินลี่ย์พลางเดินขึ้นไปข้างหน้า
แม้ว่าทางเดินดวงดาวจะเต็มไปด้วยเลือดและความโหดเหี้ยมอำมหิต ลินลี่ย์เหมือนกับว่ากำลังเดินเล่นชมสวนขณะเดินผ่านเข้าไป หน่วยใดก็ตามที่บุกโจมตีใส่เขาล้วนเจ็บตัวจากแรงผลักที่ดันพวกเขาออกไปด้านข้าง
“รีสเจม! สนามพลังอะเมทิสต์ของเจ้าทรงพลังมากจริงๆ” มีเสียงหัวเราะดังขึ้นใกล้ๆ
กลุ่มของลินลี่ย์หันไปมอง คนพูดคือวูดริจที่วันนี้แต่งชุดยาวสีดำ เห็นได้ชัดว่าวูดริจสามารถเคลื่อนไหวผ่านการต่อสู้ที่ยุ่งเหยิงได้อย่างง่ายดาย เขาชำเลืองมองลินลี่ย์ “รีสเจม! ดูแลสหายของเจ้าให้ดี ที่อย่างนี้อันตรายมาก! อสูรเจ็ดดาวก็อาจตายได้”
หลังจากพูดเสร็จวูดริจกลายเป็นร่างเลือนรางหายไปในระยะไกลออกไป
วูดริจเคลื่อนผ่านการต่อสู้ที่ยุ่งเหยิงเหมือนกับปลาที่คล่องแคล่วอยู่ในน้ำ
“วูดริจนี่.. สายตาเป็นยังไงกัน? เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าเป็นท่าน พี่ใหญ่เป็นคนใช้สนามพลังโน้มถ่วง” บีบีแค่นเสียง
“อย่าไปถือสาเขา” ลินลี่ย์จ้องมองข้างหน้า “ขึ้นไปข้างหน้าก็คือใจกลางทางเดินดวงดาวแล้ว นี่คือสถานที่มีการต่อสู้ดุเดือดอำมหิตที่สุด ข้าพบผู้บัญชาการศัตรูอยู่มากที่ข้างหน้าแล้ว ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์ใจเยือกเย็นเหมือนคย ความอดกลั้นทางจิตเกี่ยวข้องกับพลังของนักสู้ด้วยเหมือนกัน
คนอ่อนแอจะกังวลและหงุดหงิดไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ตัวอย่างเช่นทหารธรรมดาเหล่านั้น พวกเขาสามารถตายได้ทุกเมื่อ
แต่สำหรับคนแข็งแกร่งอย่างเช่นวูดริจพวกเขาจะรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ ตราบเท่าที่พวกเขาระมัดระวังไม่เข้าไปใกล้และระวังผู้บัญชาการฝ่ายศัตรู และตราบเท่าที่พวกเขาไม่ถูกโจมตีจากกลุ่มใหญ่ พวกเขาจะไม่เป็นอะไร
และสำหรับคนระดับลินลี่ย์ ก็เหมือนกับว่าเขากำลังออกไปเดินเล่น
“ลินลี่ย์! ดูข้างหน้าสิ!” รีสเจมส่งเสียงเรียกด้วยความประหลาดใจ
ลินลี่ย์เบนสายตาไปดู ห่างออกไปหลายกิโลเมตร เขาเห็นคนชุดดำถูกทหารฝ่ายโลกธาตุแสงผนึกกำลังกันมากกว่าพันคนโจมตีเขา พลังโจมตีวิญญาณรวมเข้าด้วยกันและมีบางคนใช้ทักษะเทพธรรมชาติด้วยเช่นกัน พลังโจมตีรวมกันของคนมากกว่าพันคนระดมลงที่บุรุษชุดดำและเขาหลบอย่างรวดเร็ว แต่เขายังโดนพลังโจมตีไปร้อยสาย
ผลกระทบกับเขาไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หลังจากนั้นทหารมากกว่าพันคนระดมโจมตีด้วยพลังโจมตีวัตถุ
“ครืนน...” พลังโจมตีเป็นกลุ่มนี้จากยอดฝีมือระดับอสูรหกดาวมากกว่าพันคนพร้อมกับอสูรเจ็ดดาวบางส่วนเป็นเหมือนพายุทำลายล้างสำหรับบุรุษชุดดำ บุรุษชุดดำกลายเป็นผุยผงทันที และผู้บริสุทธิ์บางส่วนที่อยู่ใกล้ๆ ก็เหลือแต่เถ้าถ่านเช่นกัน
ประกายเทพ และป้ายประจำตัวสีดำ แหวนเก็บสมบัติและสร้อยดำร่วงหล่น
ลินลี่ย์มองดูแต่ไกล และลอบส่ายศีรษะ
“เจ้าเนบ็อทผู้นี้โชคร้ายจริงๆ” รีสเจมแค่นเสียงในใจบอกลินลี่ย์และอีกสองคน “เขาคงดึงดูดความสนใจจากศัตรู แต่เนบ็อทเองไม่รู้ตัว เนื่องจากมีคนฝ่ายโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนมาก ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะรวบรวมกองร้อยสักสิบกองมาระดมโจมตีใส่เขา โจมตีแค่สองครั้ง โจมตีวิญญาณครั้งหนึ่งและโจมตีด้วยพลังโจมตีวัตถุอีกครั้งหนึ่ง เขาก็ถูกสังหาร! แม้ว่าเขาจะมีสมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณก็ตาม แต่ไม่มีประโยชน์”
พลังโจมตีวิญญาณและพลังโจมตีวัตถุทำได้รวดเร็วมาก
โดยทั่วไปไม่ว่าผู้บัญชาการทั้งหมดจะเร็วแค่ไหนก็สามารถหลบได้เพียงหนึ่งหรือสองเมตร มีแต่เทพพารากอนที่สามารถหลบออกไปได้หลายสิบเมตรในการเคลื่อนไหวครั้งหนึ่ง และทั้งยังทำให้มิติบิดเบือน จึงไม่กลัวการโจมตีเป็นกลุ่ม
“อันตรายมากสำหรับผู้บัญชาการในการต่อสู้ด้วยเช่นกัน” บีบีพูดพลางถอนหายใจ
ไม่ว่าจะเป็นในยมโลกหรือในแดนนรก ก็ยากที่อสูรหกดาวพันคนจะถูกเรียกมาเพื่อระดมกำลังโจมตี แต่ที่นี่ในการสู้รบนี้ ทุกคนเป็นเทพชั้นสูง ดังนั้นจึงง่ายที่จะเชื่อมโยงทหารพันคนให้รวมพลังโจมตี ดังนั้น... บางคนไม่อาจทำให้เด่นเกินไป ถ้าเจ้าดึงดูดความสนใจ เจ้าต้องเตรียมเผ่นทันที!
“คนอื่นเอาไว้ก่อน” สายตาลินลี่ย์มองเห็นใครบางคนในที่ไกล “ข้าพบเป้าหมายที่ยอดเยี่ยม!”
“โอว?” รีสเจม บีบีและเรย์โฮมมองตามเช่นกัน
“พวกเขานั่นเอง!” ดวงตารีสเจมเป็นประกายแฝงด้วยความอำมหิต “ครั้งนี้เราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้!”
“ฆ่าพวกเขาให้หมด!” บีบีจ้องมองพวกเขาอย่างดุร้าย
ห่างจากพวกเขาไปสามกิโลเมตร มีสามคนกำลังไล่ตามคนชุดเทาด้วยความเร็วสูง สองในนั้นเป็นคุ้นหน้า คนหนึ่งคือบุรุษชุดทองโอมาน ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นบุรุษชุดม่วงเชกวิน คนที่อยู่ข้างๆ คือแรมสันที่ผนึกกำลังกับพวกเขา
แม้ว่าแรมสันจะเป็นผู้บัญชาการที่ควบคุมค่ายทหาร แต่เมื่อสงครามที่โหดเหี้ยมเริ่มขึ้น กองร้อยทหารจะเคลื่อนไหวกันเอง ไม่มีประโยชน์ที่ผู้บัญชากการของพวกเขาจะอยู่กับพวกเขาด้วย เขามีบริวารหลายคนที่รับมอบหน่วยทหารไปดูแล ขณะที่ตัวเขาเองไปกับสหายสองคนเพื่อล่าและฆ่าผู้บัญชาการฝ่ายศัตรู กลุ่มโอมานสามคนมีความมั่นใจในพลังของพวกเขา
“ฮ่าฮ่า เจ้าต้องการหนีหรือ?” แรมสันบินเข้ามาด้วยความเร็วสูง
“เฟี้ยวววว!” แสงสีทองยิงออกมาจากนิ้วของแรมสัน มิติฉีกขาดขณะที่แสงยิงตรงเข้าหาบุรุษชุดเทาที่กำลังหนี “ปัง!” ร่างบุรุษชุดเทาระเบิดพลังสีดำทันที และเขาหันมามาใช้หมัดต้านรับแสงสีทองก่อนจะหนีต่อไป
แต่ในทันทีที่เขาชะงักเพื่อโจมตีตอบโต้ โอมานและเชกวินก็รายล้อมเขาไว้
“เจ้าไม่มีทางหลบหนีไปได้!” โอมานหัวเราะลั่น ร่างของเขาเปล่งรัศมีสีขาวขณะที่คทาหนามหวดใส่บุรุษชุดเทา
“แคล้ง!” บุรุษชุดเทายกแขนทั้งสองรับแรงกระแทกจากคทาหนามโดยตรง
แต่ทันใดนั้นหลังจากนั้นหนามแหลมบนคทายิงใส่กะโหลกของบุรุษชุดเทา มีเสียงโลหะดังแคล้ง หนามแทงเข้าไปในหน้าของบุรุษชุดเทา แต่ไม่ใช่เป็นการโจมตีเผด็จศึก
“ปัง!” จากนั้นแสงสีทองทะลวงเข้าศีรษะของบุรุษชุดเทา
แรมสันเหยียดมือ และแสงสีทองบินกลับเข้ามาในมือของเขา นี่คือคือหอกโบราณที่ไม่มีการตกแต่ซึ่งคลุมไปด้วยอักษรรูนวิเศษ
“ฮ่าฮ่าเก็บป้ายประจำตัวนี้ได้เร็วมากจริงๆ นี่เป็นป้ายที่สามแล้ว” แรมสันยื่นมือเก็บป้ายสีแดงเข้ม ขณะที่โอมานพูดด้วยความมั่นใจเต็มที่ “แรมสัน! ใครจะหยุดเราทั้งสามที่รวมกำลังกันได้เล่า?”
“โอมาน เพื่อนเก่าเรากำลังมา” เชกวินส่งสำนึกเทพบอกและหัวเราะเบาๆ
โอมานและแรมสันมองตามเชกวินทันที เพียงแต่เมื่อเห็นร่างทั้งสี่บินเข้ามาหาโดยมีลินลี่ย์เป็นผู้นำ
“เจ้าลินลี่ย์นั่นยังไม่ตายอีกหรือ?” โอมานตกใจ
“ฮ่าฮ่า...” สายตาโอมานเปลี่ยนเป็นอำมหิต “ดีแล้วที่เขาไม่ตาย! สองครั้งก่อนเราไม่สามารถฆ่าเขาได้ ครั้งนี้ข้าจะกำจัดเขาให้ได้!”
“ปล่อยเจ้าเรย์โฮมให้ข้าเอง ครั้งก่อนข้าไม่ได้ฆ่าเขา ครั้งนี้เราจะทำให้จบ” เชกวินมองเรย์โฮมที่อยู่ไกล “แรมสัน! เจ้ารีบแยกไปก่อน ไปหาท่านแม็กนัส ถ้าเจ้าเจอกับบีบี เจ้าจะตายเปล่า ในบรรดาสี่คน รีสเจมรับมือยากที่สุด ขอให้ท่านแม็กนัสมา มีแต่เขาที่รับมือรีสเจมได้”
“ก็ได้” แรมสันรู้ว่าบีบีเป็นหนูกินเทพ และไม่พยายามฝืนสู้
แต่ขณะที่แรมสันหันหน้าจะจากไป
“ไม่จำเป็นต้องหนี!” เสียงเยือกเย็นดังก้องในใจพวกเขา
แรมสัน โอมานและเชกวินจ้องมองข้างหน้าด้วยความประหลาดใจ ลินลี่ย์ที่บินมาพร้อมกับรีสเจม เรย์โฮมและบีบี จู่ๆ ก็เพิ่มความเร็วขึ้น “วูบบบ!” เหมือนกับสายลมพัด เขาเคลื่อนผ่านกลุ่มคนหนาแน่นบนทางเดินดวงดาวเหมือนกับร่างเลือนราง ลินลี่ย์มาถึงก่อนพวกสามคน!
“นี่...” โอมานและอีกสองคนตะลึง
รีสเจมและอีกสองคนยังอยู่อีกไกล แต่ลินลี่ย์มาถึงแล้ว ความเร็วของลินลี่ย์น่ากลัวมาก... มากเกินกว่าพวกเขาจะทนรับได้
โอมานและอีกสองคนนึกย้อนถึงสิ่งที่แฮมเมอร์บอกพวกเขาในวันประชุม แฮมเมอร์พูดถึงยอดฝีมือของเผ่ามังกรฟ้านี้ไว้ชัดเจน
“หรือว่าจะเป็นเขา?” กลุ่มของโอมานทั้งสามคนไม่กล้าเชื่อ แต่ขณะเดียวกันทั้งสามคนลนลานใช้สุดยอดวิชาของพวกเขา!
“ครืน...”
หมัดของลินลี่ย์กวาดผ่านและราวกับว่าจักรวาลจะกดทับพวกเขา รังสีดำร้อยแปดสายรายรอบพวกเขา ตรึงพวกเขาบีบอัดพวกเขาไว้ด้วยพลังแข็งแกร่งน่ากลัว ความเร็วระดับผู้บัญชาการของพวกเขาตกลงเป็นพันเท่า พวกเขาได้แต่ดูหมัดของลินลี่ย์กวาดใส่พวกเขา โดยไม่สามารถป้องกันไว้ได้แม้แต่น้อย
“ปัง!” หมัดกระแทกใส่หัวโอมาน
ร่างของโอมานสั่นเล็กน้อย มองอย่างผิวเผินเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่...ภายในศีรษะของเขาถูกเขย่าจนเละ ป้ายทองร่วงจากร่างของเขา ขณะเดียวกันสมบัติเทพประเภทปกป้องวิญญาณก็ร่วงลงเหมือนกัน
“ลินลี่ย์ ยั้งมือไว้ก่อน” เสียงตวาดดังก้องอยู่ในใจของลินลี่ย์
“แม็กนัส?” ริมฝีปากของลินลี่ย์ยิ้มขึ้น
“หยุดมือ!” แม็กนัสแตกตื่น
“ครืน...” หมัดของลินลี่ย์กระแทกใส่อย่างไม่ยั้ง ในทันทีหลังจากเขาฆ่าโอมาน เขากวาดมือใส่เชกวินและแรมสันที่อยู่ใกล้ สองคนนี้ถูกพันธนาการด้วยแรงบีบอัดที่น่ากลัวไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย
ร่างไร้ชีวิตของแรมสันทรุดลงทันที และป้ายทองตกลงจากร่างของเขา
ส่วนเชกวิน ร่างของเขาสั่นทันทีและรีบถอยอย่างรวดเร็ว จ้องมองลินลี่ย์ด้วยความอัศจรรย์ “เขา..เขาแข็งแกร่งมากมายขนาดนี้ได้ยังไง?!” ขณะที่เขาทรมานจากพลังบีบอัด เขามีความรู้สึกว่าเขาไม่สามารถต่อต้านได้ นี่ทำให้เชกวินถึงกับกลัวจนตัวสั่น
“สมแล้วที่เจ้าเป็นคนที่มีชื่อจากสมบัติมหาเทพปกป้องทั้งสองรูปแบบ การฆ่าเจ้าเป็นเรื่องยาก” ลินลี่ย์ชำเลืองดูเชกวินที่ถอยออกไป จากนั้นเก็บป้ายทองทั้งสองป้าย
“พี่ใหญ่!” ตอนนี้เองบีบี รีสเจมและเรย์โฮมมาถึงพอดี
“เราได้เพิ่มอีกสองป้าย” ลินลี่ย์หันไปยิ้มให้บีบี
“พี่ใหญ่ระวัง” บีบีเตือนทางใจทันที
ลินลี่ย์หันไปและเห็นร่างเลือนรางพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง เร็วจนเทียบเท่ากับความเร็วก่อนหน้านั้นของลินลี่ย์ แม็กนัสกำลังอยู่ในอารมณ์ที่โกรธ! แม็กนัสลงมายืนข้างศพแรมสันประคองไว้ในอ้อมแขนของเขา เขาโกรธจัดจนกล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก
แม็กนัสไม่สนใจว่าโอมานจะตาย
แต่แรมสัน นั่นคือสหายรักของเขา! เป็นสหายที่แท้จริง!
แม็กนัสเงยหน้าจ้องมองลินลี่ย์อย่างเย็นชา เขาพูดด้วยเสียงเบา “ข้าบอกเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว ให้หยุดมือไว้ก่อน!”
ลินลี่ย์จ้องมองแม็กนัสอย่างเยือกเย็น เขาตอบด้วยเสียงอ่อนโยน “ถ้าข้าต้องการฆ่าใคร... เจ้าก็ห้ามข้าไม่ได้!”