ตอนที่แล้วบทที่ 69 แรงกดดันต่อตระกูลเซียว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 71 เจ้ามีค่าพอที่จะเป็นตัวแทนของข้า?

บทที่ 70 นายน้อยหลี่กลับมาแล้ว!


หลี่หรานและเยว่เจียนหลี่กำลังเดินทางไปบนอากาศ

“ข้าจะไปเมืองหวู่หยาง แล้วเจ้าล่ะ? กลับไปที่นิกาย?” หลี่หรานถาม

เยว่เจียนหลี่ส่ายหัวและพูดว่า “นิกายได้ส่งข้อความมาบอกให้ข้าไปที่ภูเขาเฟยหยุน”

อันที่จริงนางได้รับข่าวนี้มานานแล้ว นางแค่แสร้งทำเป็นไม่เห็นมัน

นางลังเลที่จะออกจากหมู่บ้านหยุนเซียว

หลี่หรานถอนหายใจ “ไม่รู้ว่าข้าจะได้เจอเจ้าอีกเมื่อไหร่”

เยว่เจียนหลี่เอียงศีรษะและพูดว่า “เจ้าและข้าแตกต่างกัน มันจะดีกว่าถ้าเราไม่ต้องเจอกันอีก”

นางไม่รู้ว่าทำไม แต่จมูกของนางรู้สึกแสบเล็กน้อยเมื่อพูดแบบนี้ และหัวใจของนางก็รัดแน่น

หลี่หรานเองก็คุ้นเคยกับลักษณะการพูดของนาง

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าขอหลีกเลี่ยงเจ้าเสียดีกว่า...” เขาพูดอย่างจงใจ

“เจ้ากล้า!” แก้มของเยว่เจียนหลี่พองออก “ถ้าเจ้ากล้าซ่อนตัวจากข้า ขะ-ข้าจะฆ่าเจ้า!”

“……” หลี่หรานยิ้มและพูดว่า “เจ้ารู้เพียงวิธีต่อสู้และฆ่าฟันเท่านั้น เจ้าไม่สามารถมีคู่ครองด้วยนิสัยเช่นนี้ได้”

เยว่เจียนหลี่พ่นลมอย่างเย็นชา “วิถีแห่งกระบี่เป็นสหายของข้า ข้าไม่ต้องการบุรุษ!”

“เอาล่ะๆ เจ้าคือนักดาบอมตะผู้สูงศักดิ์ อย่าทำลายโลกละกัน เข้าใจไหม?” หลี่หรานพูดต่อว่า “หากไม่มีธุระแล้วข้าขอตัวก่อน”

“เดี๋ยวก่อน” เยว่เจียนหลี่หยุดเขาและพูดเบาๆว่า “เจ้าต้องระวังตัวด้วย เรื่องของซ่งชิงซงนั้นร้ายแรงมาก ข้าอาจถูกเรียกไปที่ภูเขาเฟยหยุนเพราะเรื่องนี้”

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่เปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นภายในอาณาจักรลับ”

“เจ้าไม่ควรอยู่ด้านนอกเป็นเวลานาน เจ้าควรรีบกลับไปที่นิกายและรอให้เรื่องสงบลง” นางยังคงเตือนเขาต่อ นางไม่ได้มีท่าทางของนักดาบอมตะแม้แต่น้อย

“โอเค ข้าเข้าใจแล้ว” หลี่หรานลูบหัวของนาง “เจ้าไม่เห็นเหรอว่าข้าเป็นใคร? ฮ่าวเยว่งั้นหรือ ถ้าเขาต้องการแตะต้องข้า เขาควรจะคิดก่อนลงมือ”

“จิ๊ เจ้านี่มันแย่ที่สุด...” ใบหน้าของเยว่เจียนหลี่เปลี่ยนเป็นสีแดง แต่นางไม่ได้ปัดมือของหลี่หรานออก

“งั้นคราวนี้ข้าจะไปจริงๆแล้ว”

“เอ่อ...”

“ลาก่อน ภรรยาตัวน้อย”

“คะ...ใครเป็นภรรยาของเจ้ากัน!” เยว่เจียนหลี่กำลังจะชักกระบี่ของนางออกมา ในขณะที่หลี่หรานได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะที่นางกัดฟัน “ไอ้คนโรคจิต อย่าให้ข้าจับเจ้าได้ก็แล้วกัน!”

หลังจากพูดแบบนั้นออกไป มุมปากของนางก็อดไม่ได้ที่จะขดเป็นรอยยิ้ม ดวงตาของนางเป็นประกาย “คราวหน้าอย่าให้ข้าเจอเจ้าก็แล้วกัน เจ้าคนพาล...”

***

เมืองหวู่หยาง

นี่คือเมืองหลวงของราชวงศ์ เป็นนครรัฐที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในจักรวรรดิฮ่าวเทียน

ห้ามบินเหนือเมืองหลวงของราชวงศ์โดยเด็ดขาด

หลี่หรานร่อนลงนอกเมืองและเดินไพล่หลังไปที่ประตูเมือง

กำแพงเมืองหวู่หยางนั้นสูงและแข็งแรง เหนือประตูเมืองขนาดใหญ่มีคำว่า [หวู่หยาง] ถูกสลักไว้และทาสีด้วยสีเงิน

ถ้อยคำที่สลักไว้บนกำแพงดูโอ่อ่า

ว่ากันว่าสองคำนี้เขียนโดยจักรพรรดิโบราณของตระกูลเซิง ผู้ถูกเล่าขานว่าสามารถกำจัดปีศาจทั้งมวลได้

การตรวจตราที่ประตูเมืองนั้นเข้มงวดมาก คนที่รอเข้าเมืองต่างต่อแถวเพื่อรอเจ้าหน้าที่

หลี่หรานยืนอยู่ที่ด้านหลังของแถว

มันเป็นฤดูหนาว แต่เขาสวมเพียงเสื้อคลุมสีขาวบางๆ และใบหน้าของเขาก็หล่อเหลาหาที่เปรียบมิได้ เห็นได้ชัดว่าภูมิหลังของเขานั้นไม่ธรรมดา

เขาดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้างทันที

เมื่อถึงตาของเขา เจ้าหน้าที่ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นพวกเขาก็อุทานว่า “นายน้อยหลี่ ท่านกลับมาแล้ว?!”

หลี่หรานตกตะลึง “เจ้ารู้จักข้า?”

เจ้าหน้าที่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ท่านหล่อเหลาและสง่างามราวกับหิ่งห้อยในคืนมืดมิด ข้าจะจำท่านไม่ได้ได้อย่างไร”

หลี่หรานพูดไม่ออก “……”

ในฐานะที่เป็นเมืองหลวง เมืองหวู่หยางมีผู้บ่มเพาะจำนวนมากเข้าและออกทุกวัน ทำให้มีเหล่าผู้มีอำนาจผ่านมากันเป็นว่าเล่น

การตรวจตราที่ประตูเมืองกลายเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง ถ้าใครประมาทก็อาจจบชีวิตลงได้

ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่และทหารจึงเตรียมสมุดภาพที่มีหน้าของบุคคลสำคัญที่พวกเขาไม่สามารถยั่วยุได้เป็นพิเศษ

สำหรับหลี่หราน เขาอยู่ด้านบน อีกทั้งยังมีระดับความอันตรายถึงห้าดาว!

“นายน้อยหลี่อยู่ที่นี่แล้ว ทำไมเจ้ายังไม่มาที่นี่เพื่อต้อนรับเขาอีก!”

เจ้าหน้าที่ทั้งหมดละทิ้งงานของพวกเขาและวิ่งมาทันที

พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าหลี่หรานและโค้งคำนับ

“นายน้อยหลี่ ยินดีต้อนรับกลับครับ!”

‘ท่าทางของพวกเขาทำให้ข้านึกถึงโรงอาบน้ำ’ หลี่หรานไม่สามารถบ่นได้และเดินเข้าไปในเมืองภายใต้สายตาเคารพของทุกคน

หลี่หรานยืนอยู่บนถนนของเมืองหวู่หยางและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ถนนที่ทำจากหินคุณภาพสูงนั้นกว้างมาก และร้านค้าก็ตั้งเรียงรายอยู่เต็มถนน

สิ่งก่อสร้างเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบโบราณ

ถนนคราคร่ำไปด้วยผู้คนและเสียงตะโกนของพ่อค้าเร่

ไกลออกไป เขาสามารถเห็นพระราชวังของจักรพรรดิได้อย่างชัดเจน

พระราชวังที่อยู่ตรงกลางนั้นตั้งอยู่ในจุดที่สูงที่สุด จากระยะไกล ใครๆก็สามารถสังเกตเห็นความโออ่าของมันได้

พระราชวังโดยรอบตั้งอยู่ในระดับความสูงต่างๆ ราวกับดวงจันทร์ที่ถูกรายล้อมด้วยหมู่ดาว

“เมืองนี้มีโครงสร้างที่ดีจริงๆ” หลี่หรานพยักหน้า

ครั้งนี้เขากลับมาที่เมืองหวู่หยางด้วยเหตุผลสองประการ

ประการแรกคือการยกเลิกการหมั้นหมาย

และประการแรกที่สองคือการมอบผลไม้วิญญาณ

หลี่หรานยังคงให้ความสำคัญกับข้อตกลงนี้

หลังจากช่วงเวลานั้น เขาและเซียวชิงเกอถือเป็นสหายกัน

ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายกังวลเรื่องความปลอดภัยของเขาและยืนกรานที่จะมอบผลไม้วิญญาณให้กับเขา เขาให้ความสำคัญกับความรู้สึกนี้มาก

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากชื่อซุนชิงชิงแล้ว เขาก็ไม่รู้สิ่งใดอีก

“ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้บอกที่อยู่ของนางด้วยซ้ำ นางบอกว่าเมื่อข้ามาถึงเมืองหวู่หยาง ข้าจะเจอนางโดยธรรมชาติ... ช่างลึกลับดีจริงๆ”

ขณะนั้นเอง มีกลุ่มคนวิ่งผ่านเขาไป

หลี่หรานเรียกหนึ่งในนั้นไว้ “พี่ชาย เจ้ารู้วิธีไปที่คฤหาสน์ตระกูลซุนไหม?”

“ข้าไม่รู้” บุคคลนั้นส่ายหัวและพูดว่า “ตระกูลหลี่ไปที่ตระกูลเซียวเพื่อท้าประลอง ทำไมเจ้ายังมองหาคฤหาสน์ตระกูลซุนอยู่อีก? เจ้าไม่ต้องการดูเหตุการณ์สนุกๆหรอ?”

“ตระกูลหลี่กับ... ตระกูลเซียว?” หลี่หรานตกตะลึง

ข้อมูลนี้สำคัญเกินไป!

//////////