บทที่ 61 จักรพรรดิผลาญสวรรค์?
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลี่หรานที่จะควบคุมเยว่เจียนหลี่
อย่างแรก เขาผนึกนางด้วยผนึกสกดวิญญาณ จากนั้นเขาก็โอบนางไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!” เยว่เจียนหลี่จ้องมองเขาอย่างเกลียดชัง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธ
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องรับปากว่าจะไม่ฟันข้าด้วยกระบี่ของเจ้า” หลี่หรานเป็นกังวลเล็กน้อย
“เจ้าสัตว์ร้าย!” เยว่เจียนหลี่รู้สึกกระวนกระวายและกัดมือของหลี่หราน
“บัดซบ เจ้าเป็นหมาหรือไง? อย่ากัดมือข้า!”
“……”
ในขณะนั้นเอง ข้อความก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า:
【สิ้นสุดการทดสอบสุดท้าย】
หลังจากข้อความหายไป แสงสีขาวที่คุ้นเคยห่อหุ้มพวกเขาทั้งสองไว้ และพวกเขาก็ปรากฏตัวในพระราชวังอีกแห่งหนึ่ง
พระราชวังนี้โออ่ากว่าเดิมมาก
มันเต็มไปด้วยพลังปราณอมตะ และสุรเสียงของพลังอมตะที่หมุนวนในหูก็ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในแดนสวรรค์
ตรงหน้าคนทั้งสอง ชายชราที่มีกลิ่นอายความเป็นอมตะกำลังมองพวกเขาอย่างอ่อนโยน
“ยินดีด้วย พวกเจ้าผ่านการทดสอบสุดท้ายแล้ว” เสียงของชายชราเป็นมิตรมาก
เยว่เจียนหลี่รีบผละออกจากอ้อมกอดของหลี่หรานและจัดเสื้อผ้าของนางด้วยใบหน้าแดงก่ำ
แค่ก แค่ก
หลี่หรานเคลียร์คอของเขาอย่างงุ่มง่าม “ท่านเป็นใครกัน?”
เสียงของชายชราดังขึ้นอย่างแจ่มชัด “เจ้าหนู เจ้าผ่านความยากลำบากและอุปสรรคเหล่านั้นมาเพื่อรับมรดกของข้าไม่ใช่หรือ? แต่เจ้ากลับไม่รู้กว่าข้าเป็นใคร?”
“จักรพรรดิอมตะ?” หลี่หรานและเยว่เจียนหลี่มองหน้ากัน และหัวใจของพวกเขาก็เต้นแรง
‘คนผู้นี้คือจักรพรรดิอมตะโบราณ?’
เยว่เจียนหลี่ถามอย่างระมัดระวัง “ข้าขอทราบนามที่น่านับถือของท่านได้หรือไม่?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เสียงหัวเราะของชายชราดังก้องในห้องโถง “เด็กโง่! ข้าคือจักรพรรดิอมตะจากสมัยโบราณ จักรพรรดิผลาญสวรรค์!”
“จักรพรรดิผลาญสวรรค์?” เยว่เจียนหลี่ปิดปากของนางและอุทานด้วยความตื่นตระหนก “ท่านคือจักรพรรดิผลาญสวรรค์ที่เคยพิชิตโลกทั้งใบ?!”
เขาเป็นคนยิ่งใหญ่จริงๆ!
มีข่าวลือว่าเขาควบคุมเพลิงสวรรค์มากกว่าสิบประเภทและก่อกำเนิดยุคสมัยใหม่
อาณาจักรลับนี้กลับเป็นมรดกของจักรพรรดิผลาญสวรรค์!
แม้ว่านางจะดูไม่แยแส แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่หัวใจของนางจะสั่นไหวในขณะนี้
ในทางกลับกัน หลี่หรานไม่ขยับ เขายืนกอดอกขณะที่สังเกตชายชรา
“จักรพรรดิอมตะในสมัยโบราณไม่ได้สูญสิ้นไปแล้วหรอกหรือ? ทำไมท่านยังอยู่ที่นี่?”
ชายชราลูบเคราของเขาและพูดว่า “ร่างที่แท้จริงของจักรพรรดิผู้นี้ได้ออกไปนอกอวกาศแล้ว เหลือไว้เพียงจิตสำนึกอันเบาบางของจักรพรรดิผู้นี้ที่จะปกป้องอาณาจักรลับ รอคอยใครบางคนที่ถูกกำหนดให้มาถึง”
“แล้วเหตุใดจึงเลือกมาถึงสองคน? แล้วใครจะเป็นผู้ได้รับมรดกนี้?” หลี่หรานถามต่อ
“นี่...”
ชายชรากลอกตาและพูดว่า “เป็นเพราะเจ้าทั้งคู่มีชะตาชีวิตร่วมกัน แต่ละคนสามารถได้รับครึ่งหนึ่งของมรดก! ไม่ต้องกังวล การบ่มเพาะของข้าผู้นี้กว้างใหญ่ไพศาล แม้ว่ามันจะเป็นครึ่งหนึ่งของมรดก แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเจ้าที่จะเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิ!”
“ครึ่งหนึ่งของมรดก?” หลี่หรานรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ในขณะนั้นเอง เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในใจของเขา:
【ภารกิจใหม่】
【อสูรจิ้งจอกแดงแสร้งทำเป็นจักรพรรดิผลาญสวรรค์ หวังที่จะขโมยร่างกายเพื่อออกจากอาณาจักรลับ โปรดฆ่ามัน!】
‘เจ้านี่มันตัวปลอมจริงๆด้วย’ หลี่หรานหัวเราะเยาะ
ในขณะนั้นเอง ชายชราก็กระตุ้นว่า “อย่าเสียเวลาเลย ใครจะเป็นคนรับมรดกก่อน?”
เขาดูกระตือรือร้นมาก
เยว่เจียนหลี่รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติและดึงชายเสื้อของหลี่หรานอย่างเงียบๆ
“มันแปลก...”
หลี่หรานทำราวกับไม่สังเกตเห็น เขารีบพูดว่า “ข้าเอง ข้าจะรับมันก่อน!”
“หลี่หราน!” เยว่เจียนหลี่ต้องการเตือนเขา แต่หลี่หรานหันกลับมาและขยิบตาให้นาง
นางเข้าใจทันทีและปิดปากเงียบ
“เอาล่ะ ผ่อนคลายและเปิดประตูหัวใจของเจ้าไว้ ข้าจะมอบมรดกให้เจ้า!”
มือของชายชราส่องแสงสีแดงสดในขณะที่เขาค่อยๆกดมันลงบนมือของหลี่หราน
เมื่อเห็นว่าแสงสีแดงกำลังจะสัมผัสแขนของหลี่หราน ดวงตาของชายชราก็ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น แต่ทันใดนั้นก็มีมือใหญ่มาจับที่ข้อมือของเขาไว้แน่น
“หือ? เจ้ากำลังทำอะไร?” ชายชราขมวดคิ้ว
“เจ้าเป็นอสูรจิ้งจอกแดง ถูกไหม? เจ้านี่ชอบแอบอ้างตัวเป็นคนอื่นจริงๆ!”
“อะไรนะ?!” เมื่อชายชราได้ยินชื่อนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาพยายามดึงมือกลับอย่างร้อนรน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่หลี่หรานจับมือของเขาไว้ แสงสีขาวพร่างพราวก็ปรากฏขึ้น!
“หมัดสยบมาร!”
แสงสีขาวเป็นเหมือนกรดแก่ กัดกร่อนข้อมือของชายชราในทันที ขณะที่ชายชราส่งเสียงขู่และปล่อยควันสีดำออกมาเล็กน้อย
“อา!” ชายชราส่งเสียงโหยหวนอย่างน่าเวทนา เขาไม่ได้มีท่าทางของนักพรตเต๋าอมตะอีกต่อไป
“จักรพรรดิผลาญสวรรค์? คิดว่าพวกเราโง่หรือไง?” หลี่หรานหัวเราะอย่างเย็นชา
ทักษะระดับศักดิ์นี้เป็นของแสลงสำหรับปีศาจอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ชายชรายังอ่อนแอมาก ร่างกายของเขาถูกแสงสีขาวกัดกร่อนอย่างง่ายดาย
“ปล่อยข้าเถิด ได้โปรดปล่อยข้าไป ข้าจะส่งต่อมรดกให้ท่าน!” ชายชราคร่ำครวญและร้องขอความเมตตา
อย่างไรก็ตาม หลี่หรานยังคงไม่ขยับเขยื้อนและเปิดใช้งานการโจมตีจากกำปั้นของเขาอย่างเต็มที่
ร่างกายของชายชราราวกับหิมะที่กระทบกับแสงแดดจ้า เขาถูกกัดกร่อนอย่างรวดเร็วภายใต้แสงสีขาว และในที่สุดก็กลายเป็นปีศาจจิ้งจอกสีแดงเข้ม
มันดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น
“นี่คืออะไร?” เยว่เจียนหลี่ปิดปากของนางด้วยความตกใจ
อันที่จริง อสูรจิ้งจอกแดงก็เหมือนกับเถาอู้ พวกมันเป็นปีศาจที่ถูกผนึกไว้ที่นี่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผนึกถูกคลายออก พวกมันจึงสามารถหาโอกาสหลบหนีได้
อย่างไรก็ตาม ผลที่ตามมาคือมันได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่มีความแข็งแกร่งเหลืออยู่แม้แต่น้อย
แม้ว่ามันจะออกจากโลงศพมาได้ แต่ก็ยังติดอยู่ในอาณาจักรลับนี้
ครั้งนี้ อสูรจิ้งจอกแดงบังเอิญเจอกับหลี่หรานและคนอื่นๆที่มาแสวงหาโชคลาภ มันจึงคิดแผนที่จะสวมรอยเป็นจักรพรรดิผลาญสวรรค์
มันพยายามที่จะหลบหนีจากสถานที่นี้และกลายเป็นคนใหม่ผ่านร่างกายของผู้อื่น
น่าเสียดายที่ระบบมองเห็นมันได้อย่างง่ายดาย...
ร่างกายของอสูรจิ้งจอกแดงสั่นสะท้าน เสียงของมันเล็กแหลมจนเสียดหู “ข้าขอร้องล่ะ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าจะนำมรกดอมตะที่แท้จริงมาให้...”
ปัง!
หลี่หรานแทงหัวของมันด้วยหอก
“หนวกหูจริง”
//////////