ตอนที่แล้วตอนที่ 697 ทดสอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 699 หน้ากากผีและธงหมี

ตอนที่ 698 ส่งมอบไหมทอง


หมิงจูหน้าเขียวคล้ำ  คุณนายผู้เฒ่าชราภาพมากแล้ว  และเรื่องส่วนใหญ่จะปล่อยให้นางจัดการเป็นเรื่องปกติที่ปล่อยให้นางจัดการให้รางวัลและลงโทษ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกอู้งาน  เมื่อได้เห็นคลังสินค้ารกยุ่งเหยิงและถังเทียนนอนกรนสนั่นความโกรธเกิดขึ้นในใจนางพร้อมกับความเกลียดชังที่มีต่อเขา

‘ครั้งนี้คุณนายผู้เฒ่าดูผิดไปแน่’ นางแอบคิด

พี่น้องหญิงคนอื่นตกใจ  ตระกูลเซวียเคยเป็นตระกูลใหญ่และตกทอดกฎอย่างเคร่งครัด  สตรีทั้งหลายได้รับอิทธิพลจากกฎนี้มานานแล้ว  กฎเหล่านี้ประทับอยู่ในใจของพวกนางอย่างลึกซึ้ง  พวกนางจะเคยเห็นภาพเช่นนั้นได้อย่างไร?  แม้แต่หน่วยคุ้มกันรับจ้างทั้งหมดก็ไม่เคยประพฤติอยางนั้น

ถังเทียนนอนเหยียดยาวอยู่กับพื้นหงายหน้าและมีน้ำลายไหลออกจากมุมปาก  เสียงกรนสนั่นดังออกมาจากจมูกของเขาเป็นจังหวะ

“เสี่ยวเหยาเก็บกวาดคลังสินค้า” หมิงจูกล่าวอย่างเย็นชา

เด็กสาวผู้งดงามคล่องแคล่วว่องไวนางหนึ่งเดินออกมาและเริ่มเก็บกวาดไหมทองรอบๆคลังสินค้า  หลังจากตอนแรกตกใจคนที่เหลือก็ได้สติอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาของพวกนางเต็มไปด้วยอาการเหยียดหยามขณะมองถังเทียน

แดนบาปเต็มไปด้วยราชตระกูลและตระกูลใหญ่ที่ถูกเนรเทศ  ทั้งหมดเป็นตระกูลที่มีกฎเคร่งครัดแม้แต่ตระกูลที่สร้างความสำเร็จจากทางการทหารก็ยังอบรมดูแลผ่านมาหลายรุ่นและย่อมรู้มารยาทเป็นธรรมดา  ในแดนบาปแม้แต่การงานที่สกปรกต่ำทรามที่สุดก็ยังถือสามารยาทเป็นอย่างมาก  แม้ว่าพวกเขาจะล่มสลายทั้งหมดพวกเขาก็ยังเคยมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ในอดีต

เป็นครั้งแรกที่พวกนางพบกับคนที่น่ารังเกียจแบบนั้น

ถังเทียนหลับสนิทมาก  เขาได้ฝึกฝนกฎหลายอย่าง  แม้ว่าการสู้ระหว่างเขากับผิงเสี่ยวซานจะเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก  แต่ก็สิ้นเปลืองพลังของเขาอย่างสิ้นเชิง  การฝึกหลังจากนั้นใช้เวลาอีกสองสามชั่วโมงและด้วยความเกรงว่าจะลืมไปในวันรุ่งขึ้น เขาฝึกฝนอย่างหลงใหลตลอดทั้งคืน เขาฝืนตนเองให้อดทน และหลังจากรู้แจ้งทั้งหมดจนติดแน่นอยู่ในใจของเขา  เขาจึงหยุดฝึก

ความรู้สึกตึงเครียดที่เขามีอยู่ในใจหยุดทันที  ถังเทียนผู้ฝืนทนมาตลอดคืนถูกความอ่อนล้าเข้าครอบงำเขาทั้งหมด

ช่วงที่เขาปล่อยความรู้สึก  เขาหลับอย่างสบาย  เขาไม่รู้สึกถึงหมิงจูและพวกที่เข้ามา

“ไม่มีอะไรขาดหาย”  หลังจากรวบรวมและทำความสะอาดทั้งหมดแล้วเสี่ยวเหยาประหลาดใจ นางหันไปมองถังเทียน

“ไม่มีอะไรหายจริงๆหรือ?”  ใครบางคนถาม  “มีไหมทองมากมาย ต้องเป็นเขาที่ทำเช่นนี้!  ถ้าไม่มีอะไรหายไปทำไมเขาถึงทำกระจุยกระจายออกมาอย่างนั้น?”

เสี่ยวเหยาไม่ได้คัดค้านแต่กล่าว  “ข้าได้นับไว้ก่อนแล้วใครก็ตามที่ไม่เชื่อข้าก็เข้ามาตรวจสอบด้วยตัวเอง”

สตรีที่เหลือมองหน้ากันเอง  แต่ไม่มีใครพูดสักคำ  เสี่ยวเหยาเป็นคนรอบคอบ นางไม่เคยทำผิดพลาดเมื่อรับสินค้า

สีหน้าของหมิงจูดูดีขึ้นมาก  ขโมยที่นางเกลียดที่สุดไม่ปรากฏและทำให้นางมีความคิดต่อถังเทียนในแง่ดีขึ้น แม้ว่าเขาจะน่าดูถูก แต่เขาก็ไม่ใช่ขโมย แม้ว่านางจะไม่เข้าใจว่าทำไมไหมทองมากมายถึงมากองอยู่กับพื้น  แต่เมื่อไม่มีไหมทองหายไป  นั่นก็หมายความว่าไม่มีขโมยเข้ามา

หมิงจูแค่นเสียง  “ไปกันเถอะ”

“เราจะไม่ปลุกเขาหรือ?”  เสี่ยวเหยาถาม

“ถ้าเขาอยากหลับ  ก็ปล่อยให้เขาหลับต่อไป”  หมิงจูพูดอย่างเย็นชา

ทุกคนเก็บงำความคิดของตนเองไว้  พวกนางคุ้นเคยกับอารมณ์ของหมิงจู  และรู้ว่านางโกรธจริงๆ  ถ้าหมิงจูไม่พอใจ  แม้แต่คุณนายผู้เฒ่าก็บังคับนางไม่ได้  ตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วหมิงจูถูกคุณนายผู้เฒ่าเลี้ยงดูเป็นอย่างดีในฐานะผู้สืบทอด  ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  อนาคตของตระกูลเซวียคงจะตกอยู่ในมือของหมิงจู

เมื่อคิดถึงว่าแม้แต่พวกนางก็จะไม่มีทางแต่งงานกับบุรุษที่น่ารังเกียจแบบนั้น  ทุกคนอ่อนอกอ่อนใจพร้อมกัน คุณนายผู้เฒ่าหวังว่าจะหาเขยขวัญผู้แข็งแกร่งแต่งงานเข้าตระกูลเซวียให้กำเนิดเด็กมากๆ สร้างหลักฐานให้กับตระกูลเซวีย

สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ในแดนบาปน่ากลัวมากและบรรทัดฐานในการอยู่รอดที่สำคัญที่สุดคือร่างกาย  ถ้าร่างกายของพวกเขาไม่ดีพอ  เด็กๆ ที่เกิดมาจะมีโอกาสรอดได้ยาก  นอกจากนี้แดนบาปไม่มีพลังงานและพวกเขาอาศัยแต่พลังจากเลือดเนื้อไม่ต้องคำนึงถึงเคล็ดวิชาลับอะไรทั้งนั้น แต่เริ่มโดยปรับสภาพร่างกาย ร่างกายคือพื้นฐานของทุกสิ่ง

ในช่วงไม่กี่ปีเร็วๆ นี้ตระกูลเซวียขาดแคลนงานแผนกนี้มาก และขณะที่เวลาผ่านไปพวกเขายิ่งตกต่ำมากขึ้นจนอยู่ในระดับที่อันตราย ถ้ายังไม่มีนักสู้ที่ทรงพลังปรากฏตัวในรุ่นต่อไปของพวกเขา พวกเขาจะมีปัญหาในการปกป้องทรัพย์สินและสมบัติ ถ้าไม่ใช่เพราะได้รับปกป้องจากตระกูลของเมืองจื่อจวนในช่วงไม่กี่ปีมานี้  ตระกูลเซวียอาจถูกกวาดล้างไปนานแล้ว

หมิงจูขบริมฝีปาก  นางควบคุมตระกูลเซวียมานานมากแล้ว และนางรู้ชะตากรรมที่ตระกูลเซวียประสบอยู่ในเวลานี้  ตระกูลเซวียไม่สามารถหาพันธมิตรที่แท้จริงได้  และการที่มีสตรีทั้งหมดไม่สามารถปกป้องตนเองได้สำหรับกลุ่มอิทธิพลถือว่าเป็นแรงดึงดูดใจที่มิอาจต้านทานได้  ถ้าพวกนางแต่งงานเข้าไปในตระกูลใหญ่นี้ได้ วิชาลับของตระกูลเซวียในการเลี้ยงหนอนไหมทองอาจต้องเปลี่ยนมือ  และในพริบตาตระกูลเซวียจะถูกกลืนจนไม่เหลืออะไร

แต่เมื่อคิดถึงความจริงที่ว่านางจะต้องแต่งงานกับคนที่เกียจคร้านแบบนี้หมิงจูหวั่นเกรงมาก ต่อให้เขามีตำแหน่งชื่อเสียง หมิงจูพบว่าเป็นเรื่องยากจะยอมรับ

เมื่อเห็นว่าหมิงจูมีท่าทีดูไม่ดี  เสี่ยวเหยาพูดอย่างนุ่มนวล  “พี่หมิงจู วันนี้คือวันที่เราจะส่งมอบไหมนะ”

หมิงจูรู้สึกตัวและอุทานทันที “โอว”  นางทำหน้าเหยเกทันทีเสี่ยวเหยารู้ทันทีว่านางพูดผิด

“คุณหนูหมิงจูอยู่ที่นี่หรือเปล่า”  เสียงใสดังขึ้น

ประกายตาที่ว้าวุ่นวูบผ่านนัยน์ตาของหมิงจู นางพยายามสงบจิตใจและแสดงท่าทางสงบและตรงไปที่ลานบ้าน บุรุษหนุ่มรูปงามยืนเอามือไพล่หลังเดินอย่างสบายในลานบ้านชมดูไม้ดอกและไม้ต้นอย่างเพลิดเพลิน

“คุณชายฉิน!”  หมิงจูเรียกอย่างสุภาพและคำนับ

“คุณหนูหมิงจู!”  คุณชายฉินคำนับตอบ  หน้าของเขามีรอยยิ้มสดใสเหมือนดวงตะวันทำให้หมิงจูงง

นางปัดไรผมของนางเพื่อปิดบังความผิดพลาดของนาง  “คุณชายสามารถเรียกให้คนมารับไหมไปก็ได้  ทำไมต้องมาด้วยตนเองเล่า?”

“ทุกคนกำลังยุ่งมากและข้าก็ว่างอยู่พอดี นอกจากนี้ข้าต้องการพบกับคุณหนูหมิงจู ดังนั้นนี่เป็นงานที่ข้าเต็มใจทำ” ตาของฉินจื่อซานมีประกายหลงใหล เสียงของเขาไม่เพียงแต่ไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาไม่ให้ความสำคัญแต่กลับซื่อสัตย์และเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง

เสี่ยวเหยาได้แต่ลอบถอนหายใจอยู่ด้านข้าง  ทุกคนรู้ว่าคุณชายฉินชื่นชอบหมิงจู แม้แต่คุณนายผู้เฒ่าก็ยังเงียบกับเรื่องนี้แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  ตระกูลฉินคือตระกูลเมืองจื่อจวนและเป็นเจ้าเมืองปกครอง  ตระกูลจื่อจวนดูแลตระกูลเซวียและถ้าฉินจื่อซานขอนางแต่งงานก็คงเป็นเรื่องยากที่คุณนายผู้เฒ่าจะปฏิเสธเขา  แต่การตัดสินใจหลักยังขึ้นอยู่กับหมิงจู

แต่นางไม่ได้ตอบสนองต่อการรุกเร้าของคุณชายฉิน

นางถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นผู้สืบทอดตั้งแต่อายุน้อย  และเคยคิดถึงประโยชน์ที่ดีที่สุดของตระกูลเซวีย  ถ้านางยอมตกลงกับเขาจริง  อย่างนั้นนอกจากต้องรวมเข้ากับตระกูลฉินแล้วก็จะไม่มีทางอื่นเหลือสำหรับตระกูลเซวีย

หมิงจูหลบสายตาที่ร้อนแรงของฉินจื่อซานและกล่าว  “ทุกอย่างพร้อมแล้ว  คุณชาย, เชิญ”

ไหมทองของตระกูลเซวียไม่ใช่ว่าจะขายให้ใครก็ได้และลูกค้าของพวกนางก็คือตระกูลจื่อจวน ไม่เพียงแต่ไหมทองจะถักเป็นชุดและเกราะเบาได้เท่านั้น  แต่ยังใช้ทำเป็นสายธนูได้ดีอีกด้วย  ตระกูลจื่อจวนซื้อไหมทองไปสร้างธนูที่แข็งแรง

หน้าของเสี่ยวเหยาเปลี่ยน  นางไม่สามารถห้ามพวกเขาได้  และหมิงจูก็พาคุณชายฉินเข้ามาในคลังสินค้าแล้ว

“ข้าได้ยินมาว่าตระกูลของเจ้าซื้อบุตรเขยมาหรือ?”  ฉินจื่อซานหัวเราะ  “ข้าสงสัยว่าข้าจะพบเขาเป็นการส่วนตัวได้ไหม?”

หน้าของหมิงจูเปลี่ยนทันใดนั้นนางตระหนักได้ทันทีว่าถังเทียนยังคงหลับอยู่ในคลังสินค้า!  ‘โอวตายแล้ว,ข้าโกรธถังเทียน จนข้ากลายเป็นคนว้าวุ่นทำเรื่องราวผิดพลาดข้าก็แค่เรียกใครบางคนมาขนไหมออกจากคลังสินค้าก็จบแล้ว’  หมิงจูไม่อาจคิดได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าถังเทียนและคุณชายฉินพบกัน

หมิงจูฝืนยิ้ม  “ข้าไม่คิดเลยว่าข่าวจะแพร่กระจายไปข้างนอกทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆ  เขาเป็นแค่บ่าวคุณนายผู้เฒ่าเห็นเขาเป็นเด็กน่าสงสารและรู้สึกว่าตระกูลของเรามีงานมากมายต้องทำ แต่ว่ามีแต่สตรีทั้งนั้น ดังนั้นเราต้องการให้ใครสักคนมาช่วยเป็นแรงงาน”

“เป็นอย่างนี้นี่เอง  สิ่งที่ข้าได้ยินก็แค่ข่าวลือ  เป็นข้าที่แย่จริงๆ”  ฉินจื่อซานขอโทษหมิงจู

หมิงจูฝืนยิ้มและพูดต่อ  “คุณชาย ท่านสุภาพเหลือเกินท่านกีดกันจนข้าดูเป็นคนนอกห่างไกลไปแล้ว”

ทั้งกลุ่มเดินมาถึงหน้าคลังสินค้า  หมิงจูหยุดทันที

‘จะทำยังไงดี… ข้าจะทำยังไง...’

ฉินจื่อซานรออยู่ชั่วครู่  เมื่อเห็นว่าหมิงจูไม่เปิดประตูเสียที  เขาสับสน “แม่นางหมิงจู?”

หมิงจูที่กำลังสับสนสะดุ้งตกใจ นางผลักเปิดประตูโดยไม่รู้ตัวทำให้เกิดเสียงดังปัง

ภาพของถังเทียนกำลังหลับพร้อมกับกรนสนั่นปรากฏออกมาอีกครั้ง  เสี่ยวเหยาวอดเอามือปิดหน้าไม่ได้  นางไม่สามารถทนมองได้อีกต่อไป  ช่างน่าอายเหลือเกิน

คุณชายฉินอึ้ง พูดไม่ออกไปพักหนึ่ง  “คนใช้ของพวกเจ้าหลับได้หลับดีจริงๆ”

หมิงจูรู้สึกตัวรีบสงบใจและตอบ  “เขาเฝ้าคลังสินค้าติดต่อกันสองสามคืนแล้วและเหนื่อยเกินไป เราคงต้องเงียบ จะได้ไม่ปลุกเขาให้ตื่น”

คุณชายฉินพยักหน้าชื่นชม  “แม่นางหมิงจูเห็นแก่ผู้อื่นและใจดียิ่งนักจื่อซานนับถือท่านจริงๆ”  เขาไปคุยกับบริวารของเขา  “พวกเจ้าทุกคนค่อยๆ ขนย้ายเบาๆ”

ก่อนนี้ เขาได้ยินว่าแม่เฒ่าเซวียซื้อบุตรเขยและต้องการจะดูเขา  เมื่อเห็นสภาพถังเทียนในปัจจุบันความหนักใจของเขาหายไปหมด เขาเชื่อว่าหมิงจูคงไม่ตาบอดชอบคนที่น่ารังเกียจแบบนั้น เมื่อยืนยันว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่มีท่าทีคุกคามเขาแม้แต่น้อย  เขาสงบใจได้และไม่รู้สึกหึงหวงแต่อย่างใด  เขาไม่อยากกวนใจอีกฝ่ายและทำให้เขาเสียศักดิ์ศรี

ถังเทียนกำลังฝัน

เขาฝันว่าสมาพันธ์ชาวยุทธกำลังรุกรานกลุ่มดาวหมีใหญ่  ทวีปซางโจวเต็มไปด้วยเปลวเพลิงสงครามและการสู้รบรุนแรงบ้าคลั่ง เขาฝันว่าเชียนฮุ่ยตกอยู่ในอันตราย ว่าปิงกำลังร่วมกับทุกคนต่อสู้จนตาย ฝันว่าถังโฉ่วเตรียมตัวตายเพื่อเมืองของเขา  หลิงซิ่วไม่ตื่นขึ้นอีกต่อไป  อาเฮ่อบาดเจ็บสาหัส เขาฝันว่าจิ่งหาวถูกกระบี่ทิ่มแทงนับครั้งไม่ถ้วน  ชาวหมาป่าล้มลงทีละคนๆศัตรูระลอกแล้วระลอกเล่าหนุนเนื่องเข้ามา ฝันว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่ถูกฉีกขาดกระจุย ไฟเผาผลาญจนท่วมท้องฟ้า

ความเจ็บปวดและความแค้นยากจะหยั่งท่วมไปทั้งตัวของเขาทำให้เขาสั่นตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าและตะโกนก้องฟ้า

ทันใดนั้นถังเทียนตื่นขึ้นและตระหนักว่าเขาลุกขึ้นนั่ง

แฮก..แฮก...แฮก...

เขากำลังหลั่งเหงื่อท่วมตัวขณะที่เขาตั้งใจมองดูกำแพงและหอบหายใจ  ‘งั้นก็เป็นแค่ความฝัน... น่ากลัวจริงๆ!’

ความเคลื่อนไหวกะทันหันของถังเทียนทำให้ทุกคนตกใจกลัวหมิงจูขมวดคิ้วและถามด้วยความไม่พอใจ “เสี่ยวถัง เป็นอะไรไป?”

ถังเทียนไม่ได้ยินนาง  เขาจ้องมองดูผนัง  ‘โชคดี..โชคดีที่เป็นแค่ความฝัน.. ไม่ว่ายังไงก็ตาม ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น!’

“คุณหนูถามคำถามเจ้า!”  คนใช้ที่อยู่ข้างหมิงจูทนดูไม่ได้อีกต่อไป  นางตะคอกเสียงดังใส่ถังเทียน  เนื่องจากนางไม่เคยเห็นคนไร้วินัยเช่นนี้

ถังเทียนไม่พูดถึงอารมณ์ของเขา  เขายืนขึ้น โดยไม่มองพวกนาง ไม่พูดอะไรสักคำเขาเดินออกไปจากคลังด้วยสีหน้าดำคร่ำเครียด

ทุกคนมองหน้ากันและกัน  มันแปลกมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด