ตอนที่ 696 ผิงเสี่ยวซาน
ผิงเสี่ยวซานระมัดระวังตัวมาก
เรื่องที่แม่เฒ่าตระกูลเซวียใช้เงินสองแสนเหรียญซื้อบุตรเขยได้แพร่กระจายออกไป สองแสนเหรียญเป็นเงินจำนวนมาก และการตัดสินใจของแม่เฒ่าก็เด็ดเดี่ยวชัดแจ้งเหมือนกลางวันอยู่แล้ว
ตระกูลเซวียมีสตรีมากมายเกินไปและมีบุรุษน้อยเกินไปมาเป็นเวลานานแล้ว และทุกคนรู้ว่าความหวังจะกอบกู้สถานการณ์ของพวกเขากลับกลาย พวกเขาลอบอิจฉาสตรีทุกคนในตระกูลเซวียงดงามและมีนิสัยอ่อนโยน ‘เจ้านั่นโชคดีจริงๆ!’
กลายเป็นหนูตกถังข้าวสารอย่างนั้น ผิงเสี่ยวซานไม่เชื่อว่าจะมีใครดิ้นรนออกมาได้และคงจะยินกับความรักของหญิงสาวทั้งหลาย สายตาของแม่เฒ่าตระกูลเซวียมีมาตรฐานสูงส่งหลายคนที่ขายให้ตระกูลเซวียเพื่อแต่งงาน แต่พวกเขาถูกแม่เฒ่าตระกูลเซวียปฏิเสธหมด แต่คนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้านี้กลับได้รับเลือกจากแม่เฒ่าได้ยังไง?’
แต่คนที่เข้าสู่ตระกูลเซวียไม่มีทางออกไปได้ง่าย แม่เฒ่าเกรงว่าความลับหนอนไหมทองจะรั่วไหล ดังนั้นจึงยอมรับให้บุรุษแต่งงานเข้าในตระกูลและบุรุษผู้มีความทะเยอทะยานคงจะไม่ยินดี
ผิงเสี่ยวซานต้องการจะแต่งงานเข้าในตระกูล และยังเต็มไปด้วยความอิจฉา ความสนใจของเขาหวนกลับไปที่คลังสินค้า เขาเจาะจงเลือกวันนี้เนื่องจากตระกูลเซวียยังวุ่นวายเกินไป
‘ฮึ่ม.. เจ้าได้สาวงามไปครอง ส่วนข้าขอไหมทองก็แล้วกัน’ ผิงเสี่ยวซานลอบยินดี ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเข้ามาในคลังสินค้าของตระกูลเซวียดังนั้นจึงมีความคุ้นเคยกับสถานที่ เขามีนิสัยมากระแวง จึงไม่ได้ขโมยอะไรมากในแต่ละครั้ง เขารู้ว่าเนื่องจากเขาไม่มีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่ง ถ้าเขาเอาด้ายไหมทองมามากเกินไป ก็จะดึงดูดความสนใจของคนอื่น ถ้าพวกเขาสืบขึ้นมา เขาจะไม่สามารถหลบหนีได้ ตราบใดที่มีอะไรผิดปกติ เขาจะอยู่เฉยๆและไม่เสี่ยง
ในความมืดเขารออยู่อย่างอดทน ฟังความเคลื่อนไหวอย่างเงียบกริบ
คลังสินค้ามืดสนิทและเงียบ
ผิงเสี่ยวซานไม่กล้าประมาท การเคลื่อนไหวของเขาเงียบและระมัดระวังตัวเต็มที่ ตระกูลผิงเคยเป็นตระกูลใหญ่ บรรพบุรุษของพวกเขาเป็นสายลับและหน่วยสอดแนมทุกคนเคยมีช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สร้างความดีความชอบครั้งแล้วครั้งเล่าและได้ความนับถือ ตระกูลผิงมีวิชาพรางตัวและซ่อนตัวซึ่งตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่น่าเสียดายคนฝีมือดีของตระกูลผิงตายในสงครามกับทวีปกวงหมิง และมีเพียงเก้าคนถูกเนรเทศมายังแดนบาป
หลังจากผ่านไปสามรุ่น เหลืออยู่เพียงผิงเสี่ยวซาน
แต่การทำงานหนักจากสามรุ่นก่อนไม่ได้อะไรเลย วิชาพรางตัวของตระกูลผิงผ่านการแก้ไขนับไม่ถ้วน วิชาทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้พลังงานเหล่านั้นถูกยกเลิกและสิ่งที่เอามาใช้แทนก็เป็นวิชาที่ต้องใช้พลังและความแข็งแรงจากกาย พวกเขาเริ่มสำรวจศักยภาพของร่างกาย และประเพณีนี้ตกทอดเฉพาะในตระกูลผิงเท่านั้น
แดนบาปมีคนอยู่หลายพันครอบครัว ทั้งหมดนั้นมีมรดกเป็นของตนเอง แต่มีเพียงหนึ่งในสิบที่เหลือรอดจนถึงวันนี้พวกเขาทั้งหมดหายสาบสูญไปภายในแดนบาป แต่ตระกูลที่เหลืออยู่ก็คือผู้โชคดีรอดชีวิตจากช่วงที่โหดร้ายและสยดสยอง และมรดกของพวกเขาทั้งหมดเหมาะสมกับแดนบาป
ผิงเสี่ยวซานควบคุมทุกความเคลื่อนไหวในร่างของเขาได้เป็นอย่างดี กล้ามเนื้อทุกมัดของเขาสามารถทำให้เบาได้ดุจขนนก ร่างกายทุกตารางนิ้วของเขาเชื่อฟังทุกความคิดของเขา
การเคลื่อนไหวของเขาช้ามาก เคลื่อนไหวด้วยความเร็วใกล้เคียงกับรูปปั้น เบ้าตาของเขาไม่มีการสะท้อนแสงราวกับว่าไม่มีลมหายใจในตัวเขา ไม่มีเสียงหัวใจเต้น ไม่มีความอบอุ่น ไม่มีลมหายใจ เขาเป็นเหมือนหินที่ไร้ชีวิต สิ่งมีชีวิตที่ยังคงอยู่รายรอบตัวเขา ทุกการเคลื่อนไหวที่เขาสร้างขึ้น ทุกมัดกล้ามในร่างเขาเคลื่อนไหวเล็กน้อยมากรวมกับการเคลื่อนไหวของอากาศ
ถ้าอากาศเป็นสระน้ำ ผิงเสี่ยวซานก็เป็นสระที่เต็มด้วยน้ำไม่ก่อให้เกิดระลอกหรือกระแสไหลเวียน
เมื่อเท้าของเขาสัมผัสพื้น,ฝุ่นบนพื้นผิวก็ไม่ขยับ
ผิงเสี่ยวซานมั่นใจในวิชาพรางตัวของเขามาก ครั้งหนึ่งเขาเคยเฉียดผ่านนักสู้ที่มีชื่อเสียงและทรงพลังภายในระยะเพียงสามเมตร และนักสู้ผู้นั้นก็ยังไม่รู้สึกถึงเขา การใช้วิชาขโมยก็เหมือนกับใช้ค้อนทุบถั่วนั่นเอง
ผิงเสี่ยวซานรู้ตำแหน่งของไหมทองเหมือนกับหลังฝ่ามือของเขา
เขารีบมาถึงมุมที่เก็บกลุ่นเส้นไหมทอง และในระยะใกล้เขาสามารถได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเส้นไหมทอง เส้นไหมทองจะไม่มีกลิ่นสำหรับคนธรรมดา แต่ผิงเสี่ยวซานมีความรู้สึกแหลมคมมาก เส้นไหมทองมีกลิ่น แต่ว่าจางมาก และกลิ่นที่จางมากนี้ไม่ว่าจะพยายามใช้วิธีกลบกลิ่นยังไงก็ตาม จะไม่มีทางลบหายไปได้ อาศัยเพียงเท่านี้ เขาสามารถแยกแยะระหว่างผลิตภัณฑ์ของจริงและปลอมได้
นิ้วที่ดูเหมือนจะไม่มีชีวิตกลับกลายเป็นมีชีวิตในทันใด เขาคลี่ถุงและดึงไหมทองออกมาเล็กน้อย จากนั้นผนึกเก็บกลับเข้าไป ทำให้ดูเหมือนไม่ได้มีการแตะต้อง เมื่อตระกูลเซวียมาตรวจ พวกเขาจะไม่รู้สึกว่ามันหายไป
หลังจากได้ของแล้วผิงเสี่ยวซานหมุนตัวโดยไม่ลังเล เตรียมพร้อมจะจากไป
ผิงเสี่ยวซานเพิ่งจะหมุนตัวกลับมาตาของเขาหรี่แคบทันที
บุรุษที่ไม่คุ้นเคยปรากฏอยู่ด้านหลังเขาโดยไม่รู้ตัว
หัวใจของผิงเสี่ยวซานสะดุ้ง อีกฝ่ายปรากฏอยู่ด้านหลังโดยที่เขาไม่รู้!
ยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญในการพรางตัวทุกคนจะเชี่ยวชาญในการพรางโต้ตอบและหลอกล่อ แต่เขาไม่รู้สึกถึงอีกฝ่ายหนึ่งเลย ดังนั้นเขาจึงรู้ว่า นั่นคือยอดฝีมือ!
ผิงเสี่ยวซานมีประสบการณ์เที่ยวไปตามลำพัง ในขณะนั้นมือของเขาสั่นและไหมทองในมือของเขาพุ่งใส่ถังเทียน ไหมทองที่นุ่มเปล่งเสียงฟิ้ว ฟิ้ว แหวกอากาศ ตามมาด้วยการระเบิดในอากาศซึ่งเป็นการเสียดสีระหว่างไหมทองที่พุ่งด้วยความเร็วสูงและอากาศ
ถังเทียนประหลาดใจ พลังโจมตีของฝ่ายตรงข้ามค่อนข้างแข็งแกร่งทรงพลัง
‘นี่คือท่าแมวตะปบของกรงเล็บเพลิงภูตพราย’
พลังที่เข้มข้นของไหมทองถูกบรรจุไว้อย่างหนาแน่นไม่สูญสลายไป พลังที่แฝงมานั้นสามารถทะลวงแผ่นเหล็กได้สองสามนิ้ว
ทันใดนั้นถึงเทียนหรี่ตาไหมทองที่มีประกายและเพลิงเฉียดผ่านไปโดยไม่เหลือประกายใดๆ
เส้นไหมทองนี้ปล่อยพลังผันผวนออกมาน้อยมาก ซ่อนประกายและเสียงแหลมไว้ภายในเหมือนกับนักฆ่าในเงามืด
ความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงคลุมตัวถังเทียน
ถังเทียนสูดหายใจลึกและปล่อยหมัด
หมัดนี้ของเขาดูเหมือนจะช้ามากแต่สร้างพลังครอบคลุมพื้นที่คลังสินค้าทั้งหมด อากาศดูเหมือนจะหยุดนิ่ง
หมัดของถังเทียนทำให้หน้าของผิงเสี่ยวซานเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขารู้แน่ว่าเขาเผชิญกับยอดฝีมือ!
เขากระโจนขึ้นไปเหมือนกับภูตพรายโดยไม่ลังเล และเหินออกไป
เกิดประกายไฟที่สับสนในอากาศ และระลอกที่ดูเหมือนยากสังเกตหยุดทันเวลาต่อหน้าต่อตาถังเทียนหมัดของเขาพุ่งเป็นแนวโค้งที่ไม่ธรรมดา ราวกับว่าเขาได้วางแผนมานับครั้งไม่ถ้วนราวกับว่าเขารู้พลังโจมตีของฝ่ายตรงข้ามเขาแล้ว ประกายไฟแปลบปลาบเสียงแหลมชัด แม้ไหมทองที่ยากจะมองเห็นก็ปรากฏให้เห็นระลอกพลังเบาบางปรากฏราวกับแรงกระเพื่อมของน้ำ
แต่ในต่อหน้าหมัดนี้ระลอกเหล่านั้นเป็นเหมือนพื้นหลังประกอบฉาก ไม่มีรัศมี ไม่มีเสียงเกิดขึ้น ไม่มีความผันผวนของพลังงาน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นหมัดที่เขาฝึกมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ได้รับความสนใจจากผิงเสี่ยวซานอย่างสิ้นเชิง
ปัง
เหมือนกับฟองน้ำที่แตกไปประกายในพื้นที่ทั้งหมด เสียงที่แสบแก้วหูและความปั่นป่วนของไหมที่น่ากลัวหายไปเหมือนกับควัน
แสงที่เต็มท้องฟ้าหายไป ทุกอย่างสูญเสียการควบคุมมีเพียงหมัดที่ดูเหมือนถูกแช่แข็งอยู่ในอากาศ
ผิงเสี่ยวซานที่กำลังบินแสดงสีหน้าตกใจ มีเพียงเรื่องเดียวที่อยู่ในใจของเขา ก็คือหนี!
แม้ว่าเขาจะตกใจกับหมัดนั้น แต่ร่างกายของเขาก็ยังสามารถตั้งตัวได้ เหมือนกับปลาที่แหวกว่าย ระลอกที่เบาบางสะท้อนออกจากร่างของเขา ร่างของเขาเหมือนกระจกสะท้อนแสงได้ อากาศรอบตัวเขาพร่ามัวทันทีและร่างของเขาเลือนลางอย่างรวดเร็ว
ฝ่ามือข้างหนึ่งกวาดผ่านระลอกอากาศเข้ามาทันที
ผิงเสี่ยวซานรู้สึกว่าคอตึงร่างของเขาที่กำลังจะหายไปถูกดึงกลับมาอย่างรวดเร็ว
ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังดึงกระสอบทรายขณะที่เขาดึงร่างหนึ่งออกมา ทันใดนั้นถังเทียนสีหน้าเปลี่ยน เขาถอยห่างจากผิงเสี่ยวซานทันที เผียะ ภาพเงาตามหลังของผิงเสี่ยวซานแตกกระจายทันที
ภาพลวงตาแตกกระจายสลายไปอย่างรวดเร็ว สร้างเป็นวังวนบางๆและกลายเป็นหลุมดำขนาดเล็กอีกครั้ง
ถังเทียนมองดูหลุมดำเล็กนั้นด้วยสีหน้าตกใจ เขาประหลาดใจ ‘กฎธรรมชาติอวกาศ เจ้านั่นใช้กฎธรรมชาติอวกาศได้จริงๆ!’
เขาไม่อยากเชื่อตาตนเอง ช่องว่างที่พังทลายนั้นอันตรายมาก
ถังเทียนรู้สึกกลัวอยู่ในใจ ก่อนนี้ เขาลงมือโดยไม่คิด แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามสามารถใช้กฎธรรมชาติอวกาศได้ เขาจะไม่เสี่ยงอันตราย ช่องว่างที่พังทลายก่อให้เกิดหลุมดำอวกาศ
หลุมดำอวกาศคืออาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในกฎธรรมชาติอวกาศ ด้วยพลังในปัจจุบันของถังเทียนถ้าเขาขืนแตะหลุมดำสักนิด เขาอาจตายได้ทันที
ถังเทียนไม่ได้อยู่ในสถานการณ์อันตรายอย่างนั้นมานานทำให้ขนผมในร่างกายลุกชัน
เขาไม่เคยคิดเลยว่าแดนบาปจะเป็นที่อันตรายนักแค่เพียงขโมยน้อยคนหนึ่งก็สามารถใช้กฎธรรมชาติอวกาศได้ อวกาศ เวลา ความเป็นตายคือกฎธรรมชาติยั่งยืนของโลกและเป็นกฎที่ทรงพลังมากที่สุด กฎที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามนี้เป็นตัวกำเนิดพื้นฐานของทุกโลก เมื่อกฎทั้งสามเข้ามาพัวพันเอง มันจะทำให้ทุกอย่างก่อตัวนับไม่ถ้วน มีคำกล่าวว่ากฎธรรมชาตินับหมื่นกำเนิดจากกฎที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามนี้
แม้ว่ากฎที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามนั้นจะยิ่งใหญ่ก็ตาม แต่ในเวลาเดียวกัน กฎเหล่านี้ยากจะฝึกได้ มันไม่ใช่แค่กฎเดียวเท่านั้น แต่มันคือระบบกฎใหญ่ทั้งสาม คนมากมายต่างก็ตามหา แต่ไม่เคยมีใครกล้าพูดว่าพวกเขาคุ้นเคยกฎที่ยากจะเข้าใจทั้งหมด
นั่นคือเหตุผลที่ถังเทียนตกใจ
‘อวกาศหลุมดำนั่นเป็นกฎธรรมชาติอวกาศระดับสูง’
เพราะกฎระดับสูงปรากฏอยู่กับขโมยได้นั้นเหลือเชื่อเกินไป จากนั้นถังเทียนก็ตระหนักได้ว่าอันตรายที่เขารู้สึกมาจากไหมทองเป็นเพราะกฎอวกาศได้แทรกซึมเข้าไป
‘โธ่เว้ย นี่มันที่ประหลาดแบบไหนกันนี่!’
ถังเทียนที่เพิ่งจะรู้แจ้งกฎรู้สึกเหมือนกับว่าโดนน้ำแข็งราดใส่ทั้งตัวความรู้สึกยินดีที่มีในใจเขาหายไปหมด ทันใดนั้นเขาตระหนักได้ว่าความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับแดนบาปน้อยมากจริงๆ
‘ถ้ากฎที่นี่ไม่ถูกตรวจสอบ อย่างนั้นก็คงไม่ง่าย’
ถังเทียนรู้สึกปวดหัว
ในท่ามกลางความมืดหน้าของถังเทียนเปลี่ยน แต่เขาไม่รู้ว่าในมือของเขา ผิงเสี่ยวซานเองก็ถูกความตกใจครอบงำ
ผิงเสี่ยวซานรู้สึกเหมือนกับว่าคอของเขาถูกคีมเหล็กหนีบเอาไว้ เขาขยับไม่ได้สักนิ้ว แขนขาทั้งหมดของเขาเหยียดตรง ตลอดทั้งร่างแข็งค้างและไม่มีความคิดตอบสนองเหลืออยู่เหมือนกบในห้องทดลอง
เขามองดูพื้นที่ห่างจากหน้าของเขาครึ่งเมตรอย่างตกใจ ผิงเสี่ยวซานรู้สึกจิตใจมืดมน
‘เจ้าหมอนี่....เป็นใครกัน...’