ตอนที่ 688 นางฟ้าแสงอรุณ!
เย่ว์หวี่ดื่มน้ำสองสามอึกเพื่อสงบจิตใจให้มั่นคง
สำหรับแสงอักษรรูนในห้องนางไม่ได้วางผลึกเวทที่ใช้ส่องแสงตามปกติ
ภายในห้องนอกจากแสงสองสามสายที่มาจากผลึกเวทไม่มีแสงอื่นอีก อย่างไรก็ตามเย่ว์หวี่รู้ว่าเขาเห็นนางได้ชัด แม้ว่านางจะไม่มีเนตรราตรีเห็นได้ชัด การไม่เปิดไฟก็แค่มีผลทางจิตวิทยาที่ทำให้นางเองไม่รู้สึกอึดอัดใจ เย่ว์หวี่กัดริมฝีปากเบาๆ และรีบกำจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวนางออกไป..คำพูดของบิดานางกับปู่ห้าต่างกัน บางทีปู่ห้าอาจจะจำผิด ข้ามาจากตระกูลเย่ว์ ข้าเป็นพี่สาวของเขา ไม่ต้องคิดอะไรมาก!
นางถอดสร้อยออกจากคอและเก็บไว้ในแหวนเก็บของ
นี่คือหลักฐานสำคัญที่สุดที่ไม่อาจถูกทำลายได้
นางสูดหายใจลึกพยายามอย่างดีที่สุดทำให้หัวใจที่เต้นเร็วอยู่ในความสงบ
อย่าคิดมากเกินไป นี่เป็นแค่การทดลองปกติ ก็เหมือนกับพญาไม้ไตตันที่เขาปรับปรุงสร้างให้ปิงเอ๋อไม่มีเรื่องอะไรที่แย่
นอกจากนี้การทดลองร่วมกันจะช่วยเขาได้มาก เขาต้องการความเข้าใจและการทดลองที่มากขึ้น นางต้องร่วมมือในการค้นคว้าของเขา ตระกูลและทุกคนฝากความหวังไว้ที่เขา นางจะไม่ลากเขาให้ตกต่ำเพราะตัวนางเอง
ในที่สุดเย่ว์หวี่ก็หาข้ออ้างในใจได้และลอบถอนหายใจปล่อยความคิดให้เป็นอิสระ จากนั้นตาของนางกลายเป็นมุ่งมั่นขึ้นและนางกวาดความคิดที่ไขว้เขวออกไปจากใจนาง นางหลับตาและเข้าสู่อาณาจักรวิญญาณที่เขาได้รับการฝึกปรือมาอย่างปกติ เย่ว์ปิงประสบความสำเร็จโดยไม่ตั้งใจในอาณาจักรวิญญาณมาครั้งหนึ่งแล้วแต่คนที่ประสบผลสำเร็จจริงๆ ก็คืออี้หนาน แต่มาหลังจากได้คำแนะนำจากจักรพรรดินีราตรีและแม่สี่ทุกคนก็มุ่งมั่นฝึกปรือในสภาวะอาณาจักรวิญญาณกับเย่ว์หยาง
เพียงแต่ความแตกต่างกันก็คือเรื่องของเวลาและวิธี
เย่ว์หยางไม่สามารถทำเช่นนี้ได้เมื่อนางยังตื่นอยู่ วิธีที่นางยังคงสภาพใจให้อยู่ในอาณาจักรวิญญาณก็คือตอนหลับ เหมือนกับว่านางตื่นขึ้นจากฝัน แม้แต่นางก็ไม่สามารถบอกได้ว่านางหลับหรือไม่
เสวี่ยอู๋เสียก็สามารถคงอยู่ในสภาวะนี้ได้ทุกที่ทุกเวลาขณะอ่านหนังสือ ฝึกปรือ หรือหลับก็ได้ นางเป็นคนเดียวที่สามารถคงอยู่ในสภาพนั้นได้ตลอดวัน องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่สามารถทำได้ นางจะคงสภาวะอยู่ได้โดยการฝึกดาบหรือฝึกคู่กับเย่ว์หยาง อี้หนานทำได้ดีกว่า นอกจากฝึกกับเย่ว์หยางแล้วตราบเท่าที่นางปล่อยให้เขาคิดเกี่ยวกับตนเองนางสามารถเข้าสู่สภาวะจิตวิญญาณได้ เจ้าเมืองโล่วฮัวสามารถเข้าสภาวะจิตวิญญาณได้เมื่อนางปลูกดอกไม้หรือได้กลิ่นดอกไม้ ในทำนองเดียวกันสาวงามอู๋เหินก็สามารถอยู่ในสภาวะจิตวิญญาณนี้ได้เมื่อนางศึกษาอักษรรูน
นางเซียนหงส์ฟ้าอาจจะเกินหน้าใครๆอยู่บ้าง วิธีการของนางเกินไปกว่าคนธรรมดาจะทำได้ นางสามารถคงอยู่ได้ในสภาวะจิตวิญญาณเมื่อนางมีสัมพันธ์กับเขา
นางสามารถร่วมฝึกกับเขาได้อย่างมีความสุข
วิธีการของเย่ว์หวี่เพื่อเขาสู่อาณาจักรจิตวิญญาณค่อนข้างจะพิเศษก่อนอื่นนางต้องไม่มองหน้าของเขา แต่จะจับมือเขา หลับตานาง และรู้สึกถึงกระแสพลังปราณโคจรในร่างของเขา...นางนิ่งๆ ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ แต่ทำให้ง่ายสำหรับเขาที่จะทำให้เปิดรับพลังได้ง่าย
ขณะที่เย่ว์หวี่รับกระแสพลังปราณของเย่ว์หยางมากขึ้น ร่างของเย่ว์หวี่ค่อยๆ สว่างขึ้น
ผิวของนางเรืองแสงขึ้น
พลังงานหยินธาตุน้ำของนางหลอมรวมกับพลังหยางของเขากลายเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์ขึ้นโคจรกลับเข้าไปในร่างทั้งสอง
ภูตแสงซึ่งพยายามหลอมรวมกับเย่ว์หยางหลายครั้งแต่ล้มเหลวปรากฏตัวอีกครั้ง นางยอมรับเจ้านายอย่างเย่ว์หวี่นานแล้วหากแต่นางไม่มีร่างหยาบ นางไม่สามารถหลอมรวมกับดาบนางฟ้าของเย่ว์หวี่ได้ ความทรงจำที่สูญสลายไปทำให้ภูตแสงไม่กล้ายอมรับพลังบริสุทธิ์จากเพลิงอมฤตของเย่ว์หยาง แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่มีเจตนาร้ายก็ตามแต่นางก็ยังหลบตามสัญชาตญาณ
ครั้งนี้เย่ว์หยางไม่ได้เอาศิลาแดงสระหงส์ที่ปรับแต่งด้วยเพลิงอมฤตออกมาเหมือนที่เคยทำคราวก่อน
การช่วยให้ภูตแสงเข้าไปในศิลาแดงสระหงส์ซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานก็หมายความว่าต้องไม่มีแรงต่อต้านจากภูตแสงแม้แต่น้อย นางหลอมรวมกับศิลาแดงสระหงส์เองอย่างมีความสุข...
เพลิงอมฤตเปล่งประกายชำระศิลาแดงสระหงส์ที่หลอมรวมกับภูตแสงมากกว่าเดิม
ตอนแรกภูตแสงมีความหวาดหวั่นบ้าง
อย่างไรก็ตามนางพบได้อย่างรวดเร็วว่าเพลิงอมฤตไม่ได้ทำให้เกิดการทำลายล้างแต่เป็นเหมือนการขึ้นสวรรค์
ความกลัวของภูตแสงหายไปวิญญาณของนางร้องร่าเริงจากการอาบเพลิงอมฤตอย่างต่อเนื่อง ในท่ามกลางเปลวเพลิงที่ที่ร้อนแรงภูตแสงเป็นเหมือนนกฟีนิกซ์ที่เพิ่งถือกำเนิดบินขึ้นไปในท้องฟ้า สยายปีกแสงออกและวิญญาณทั้งร้องร่าเริง แม้ว่าความทรงจำที่สูญเสียไปจะไม่มีทางฟื้นกลับมาได้อีกแต่เศษเสี้ยวความทรงจำที่เหลืออยู่ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ ในทันใดนั้นภูตแสงพบตัวเอง...ว่าภายใต้การหล่อเลี้ยงของปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยางและเมื่อนางชำระตัวขั้นสุดท้ายกับเพลิงอมฤทธิ์นางเลือกจะลืมเรื่องไม่ดีในอดีตและเก็บความทรงจำดีๆ และสัญชาตญาณใช้สร้างตัวเอง
จิตวิญญาณนางตื่นเต้น
ภาพของนางเหมือนกับนางฟ้าที่เปล่งรัศมีพร้อมกับหลั่งน้ำตาปลื้มปีติ
เย่ว์หยางส่งสัญญาณมือแนะนำนางกางเขนโอบกอดเย่ว์หวี่ว่าที่เจ้านายนางไว้แน่น ขณะเดียวกันนางหลอมรวมร่างกับเย่ว์หวี่โดยไม่ได้ตั้งใจ
ร่างของเย่ว์หวี่สะท้านเล็กน้อยเหมือนกับว่านางต้องการเป็นอิสระในช่วงเวลาที่สำคัญ
แต่ในเวลาอันรวดเร็วนางฟื้นตัวได้และกลับสู่ความสงบ
ดาบนางฟ้าบนร่างของนางค่อยๆละลายหลังจากสภาพจิตใจของเย่ว์หวี่ผ่อนคลายไม่กีดกันขัดขวางมันเปลี่ยนกลับไปเป็นดาบเงินและโคจรอยู่รอบเจ้าของนาง เย่ว์หยางตวาดเบาๆ และรีบยกระดับพลังปราณราชันย์แสดงถึงพลังควบคุมที่เขาไม่เคยใช้ได้ง่ายๆ มาก่อน ไพ่ทำนายชะตาแสดงพลังกฎสวรรค์ที่เหนือล้ำและเด็ดขาดกับตัวเย่ว์หยาง แม้แต่เย่ว์หยางไม่มีทางรู้ว่าพลังนี้แฝงความลับไว้เท่าใด..ตอนนี้เย่ว์หยางตระหนักว่าเขาสามารถควบคุมได้เล็กน้อยทั้งที่ยังมีสติ
นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขารู้แจ้งระดับปราณราชันย์ซึ่งเขาสามารถควบคุมพลังกฎสวรรค์
แม้ว่าพลังกฎสวรรค์ที่เย่ว์หยางสามารถควบคุมได้จะมีเพียงหนึ่งในพันของพลังปรกติ เขาก็ยังเคลื่อนไหวให้การควบคุมของเขาประสบผลสำเร็จ
ทันทีที่พลังกฎสวรรค์ออกมา วัตถุรอบตัวเย่ว์หยางหายไปหมดไม่เหลืออะไร เพราะผลก็คือเขาควบคุมได้เล็กน้อยศิลาแดงสระหงส์ ดาบนางฟ้าและภูตแสงได้รับการปกป้องโดยกฎสวรรค์ทำให้ไม่ได้รับอันตราย
เสื้อผ้าของเย่ว์หวี่หายไปไม่เหลือทันทีเผยให้เห็นร่างขาวดุจหยกหิมะของนาง ผมยาวของนางสยายโบกสะบัดตามสายลมและภายใต้การซึบซับพลังหยางของเย่ว์หยางพลังหยินในร่างนางสร้างกระแสหมุนวนแปลกประหลาด รอบตัวนางและพวกเขาทั้งสอง เย่ว์หยางถือศิลาแดงสระหงส์ด้วยมือข้างหนึ่งอีกข้างหนึ่งเป็นดาบนางฟ้าซึ่งเริ่มสานเข้าหากันและเปลี่ยนแปลงเป็นดาบยักษ์กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เขากำลังเตรียมหลอมรวมทั้งสองให้เป็นหนึ่งเดียว
ศิลาสระหงส์ถูกฝังลงในดาบนางฟ้าและพลังงานระหว่างวัตถุทั้งสองหลอมรวมเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์
แสงแปลกประหลาดฉายไปทั่วห้องทดลอง
เย่ว์หยางกระตุ้นปราณก่อกำเนิดของเขาและปรับแต่งด้วยเพลิงอมฤต เขาเตรียมเปลี่ยนดาบนางฟ้าชั้นเงินให้เป็นนางฟ้าสงครามใหม่
แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างนางฟ้าสงครามอย่างอิคคาผู้มีเลือดเนื้อ ความคิดและวิญญาณให้สำเร็จและยังครอบครองคัมภีร์อัญเชิญซึ่งสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าอสูรเทพ เย่ว์หยางยังมั่นใจว่าสามารถสร้างนางฟ้าศึกระดับศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับที่นักรบยุคก่อนได้ทำไว้
จากระดับเงินจนถึงระดับศักดิ์สิทธิ์...แม้ว่าจะมีพลังของศิลาแดงสระหงส์และภูตแสง ก็ยังยากจะอธิบายได้
หนึ่งนาที สิบนาที
จากนั้นหนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง
แม้ว่าจะอยู่ในดินแดนไร้ตัวตน เย่ว์หวี่รู้สึกได้ว่าเย่ว์หยางอ่อนเพลียอย่างชัดเจน
ทุกครั้งที่คุณภาพของดาบนางฟ้าเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับจะมีความยากลำบากถึงสิบเท่ายิ่งกว่าเย่ว์หยางฆ่าศัตรูที่ทรงพลังเสียอีก เย่ว์หวี่กัดริมฝีปาก นางเข้าใจความตั้งใจของเขาและรู้ความมุ่งมั่นของเขา ดังนั้นนางไม่ห้ามเขา เมื่อระดับเงินเพิ่มขึ้นเป็นระดับทองเขาใช้ผลึกเวทที่เตรียมเอาไว้ก่อนนั้น เมื่อถึงระดับทองจะเพิ่มขึ้นเป็นระดับแพลตตินัม เย่ว์หยางไม่มีทางเลือกอื่นต้องดึงเพลิงอมฤตมาใช้กลั่นผลึกเวทใหม่.. เย่ว์หวี่ไม่รู้ว่าเขากลั่นผลึกปีศาจไปมากเท่าใดทั้งหมดที่นางรู้ก็คือมันใช้พลังงานไปนับไม่ถ้วน
หัวใจของนางเจ็บปวดแต่นางไม่ห้ามเขา นางสนับสนุนเขา สนับสนุนเขาอย่างเต็มที่
ก็แค่เป็นการช่วยเล็กน้อย
ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย!
ความอายและความคิดฟุ้งซ่านเย่ว์หวี่ทิ้งไปนานแล้วนางเพียงแต่หวังว่านางจะช่วยเขาได้มากขึ้น ไม่ว่านางจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญ...เย่ว์หวี่หยดน้ำทิพย์เข้าปากเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าเขาสามารถอาศัยแต่พลังฟื้นตัวของนาง เขาคงอ่อนเพลียจนตาย
ปริมาณพลังงานที่ใช้ไประหว่างกระบวนการควบคุมพลังกฎสวรรค์เกินกว่าความคาดหวังไปมากแต่เย่ว์หยางไม่อาจตัดใจหยุดได้
นอกจากการเพิ่มคุณภาพของดาบนางฟ้าแล้วระดับของเย่ว์หยางเองก็ยังเพิ่มแบบก้าวกระโดด
หลังจากผ่านไปสามชั่วโมงระดับของดาบนางฟ้าก็เพิ่มขึ้นเป็นระดับเพชร
คุณภาพไม่สามารถทำให้ก้าวหน้าได้อีกต่อไป เพียงแต่สิ่งที่ยังทำให้ก้าวหน้าได้ก็คือวิญญาณของอาวุธนี้..ในช่วงขีดจำกัดของเย่ว์หยางสติของเขาเริ่มเลือนราง ทันใดนั้นเขาจำได้ว่าเลือดของเขาอาจจะใช้ประโยชน์ ก่อนที่เขาจะหมดสติ เขาร้องออกมา “หยดเลือดทำสัญญา!” เขาเห็นภูตแสงลอยเข้ามาหาเขายกดาบนางฟ้าและฟันใส่แขนเขาทันทีหวังว่าจะยืมเลือดช่วยให้เลือดนางทำสัญญาระหว่างนางกับดาบนางฟ้า
เย่ว์หยางไม่สามารถดำเนินการขั้นสุดท้ายได้เสร็จสิ้นเขาสูญเสียการควบคุมวิญญาณและทรุดตัวลงก่อน
เย่ว์หวี่กอดเขาไว้แน่นและฟันสีไข่มุกของนางกัดริมฝีปาก น้ำตานางไหลรินลงมาผสมกับเลือดที่ริมฝีปากของเขา
เลือดและหยดน้ำตา
ภูตแสงใช้มือช่วยประคองนางแต่หยดเลือดกลับผ่านเข้าไปในตัวนางซึ่งเกิดจากพลังงานและหยดลงอย่างไม่มีจำกัด
ศิลาแดงดูดซับเลือดและน้ำตาของดาบนางฟ้าที่หยดลงบนศิลาแดงสระหงส์อย่างลี้ลับ มันเปล่งแสงเรืองรองสดใสภูตแสงที่มีน้ำตานองหน้าทำท่าโอบกอดทั้งเย่ว์หวี่และเย่ว์หยางไว้ ในที่สุดนางเปลี่ยนเป็นประกายแสงและเข้าไปอยู่ในศิลาแดงสระหงส์...
ดาบนางฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและแตกสลายไป
ภายในแสงสว่างเจิดจ้ามีร่างใหม่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นกลายเป็นร่างนางฟ้าศึกภายในเวลาไม่ถึงวินาทีมันเปลี่ยนแปลงไปเป็นรูปดาบนางฟ้าและกลับเข้าไปในร่างของเย่ว์หวี่ประกอบเข้ากับร่างที่ละเอียดอ่อนของนางสร้างเป็นเกราะตั้งแต่ด้านบนศีรษะจรดเท้าดูงดงามสมบูรณ์แบบมากกว่าดาบนางฟ้าแต่ก่อน ระดับของมันเกินกว่าที่เย่ว์หยางคาดไว้ไปมากข่มเป้าหมายเดิมที่จะสร้างนางฟ้าศึกชั้นศักดิ์สิทธิ์และให้กำเนิดอาวุธที่ใกล้เคียงกับอาวุธเทพ เป็นนางฟ้าศึกแบบใหม่ที่ต่างจากอิคคา แต่มีวิญญาณและจิตสำนึก แค่ไม่มีร่างหยาบและคัมภีร์อัญเชิญ
คัมภีร์อัญเชิญของเย่ว์หวี่ลอยออกมาและพลิกหน้าเองโดยอัตโนมัติ มีชื่อในหน้านั้นว่า นางฟ้าแสงอรุณทำสัญญาวิญญาณ อาวุธระดับเทียมเทพ..
เย่ว์หวี่ไม่ได้ตื่นเต้นที่ได้นางฟ้าแสงอรุณ
นางเพียงแต่กอดเย่ว์หยางผู้อยู่ในสภาวะจำศีลเนื่องจากความเหนื่อยล้าอย่างเงียบงัน น้ำตานางหยดใส่ร่างของเขานางปล่อยให้เขานอนอยู่ในอ้อมกอดนาง และนางกอดเขาอย่างเงียบงันไม่นานจากนั้นนางส่งเขากลับไปที่ห้องนอน จากนั้นนางออกมาอย่างเงียบงัน
เย่ว์หวี่ไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจนาง นางทำใจไว้แล้ว
ในอนาคตไม่ว่ายังไงก็ตามนางจะเป็นเหมือนนางฟ้าแสงอรุณคอยปกป้องน้องชายผู้โง่เขลาที่ทำร้ายจิตใจนางผู้นี้!