ตอนที่แล้วตอนที่ 686 เงียบสงัดราตรีไม้หอม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 688 นางฟ้าแสงอรุณ!

ตอนที่ 687 รู้แจ้งครั้งใหม่


ขณะที่มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิบาดาลเปิดศึกใหญ่ขึ้นๆ ทุกทีในเมืองลมดำของแคว้นมรกต ยอดฝีมือของหอทงเทียนก็เข้ามาร่วมมากขึ้น

ถ้าว่ากันตามตรงก็คือ พวกเขาโล�

ความสำเร็จก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรและคนอื่นทำให้จอมปีศาจบารุธและยอดฝีมืออื่นผู้ยังตามหลังอยู่ไกลรู้สึกถึงวิกฤติ ทั้งนี้เพราะบารุธได้กินยาเม็ดพลังยุทธปราณฟ้าและได้บรรลุระดับปราณฟ้ากลายเป็นยอดฝีมือระดับปราณฟ้าคนแรกในแดนนรกในรอบพันปี เขามาพร้อมกับจ้าวปีศาจหลายตนและราชาลิช (ปีศาจกระดูก) หลายคนเพื่อแสดงความจำนงเข้าร่วมสงครามในแดนสวรรค์ เพื่อเป้าหมายให้ได้รับโอกาสนี้ บารุธและยอดฝีมือของแดนนรกได้ตัดสินใจมอบสมบัติทั้งหมดที่พวกเขาได้รับในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาให้กับเย่ว์หยาง พวกเขาจะไม่ปิดบังอะไรไว้ แม้แต่สมบัติเซียนหรืออสูรศักดิ์สิทธิ์

เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้เย่ว์หยางจอมปีศาจบารุธเชิญผู้เฒ่าหนานกงมาทำหน้าที่ร่างสัญญาเพื่อความยุติธรรม

แน่นอนว่าเย่ว์หยางผู้ถือครองพลังเทเลพอร์ตเข้าแดนสวรรค์ใต้และหอทงเทียนไม่กังวลว่ายอดฝีมือของแดนปีศาจนรกจะเล่นกลอุบายตุกติกกับเขา

ไม่มีเข็มทิศสามดินแดนของเย่ว์หยาง แม้ว่าบารุธและนักรบอื่นของปีศาจนรกในแดนสวรรค์ใต้จะฉีกสัญญาพันธมิตรของพวกเขา พวกเขาจะไม่สามารถกลับไปยังหอทงเทียนได้ พวกเขาจะไม่มีรากฐาน ไม่มีพลังจะทำเช่นนั้น

นี่คือแดนสวรรค์ และด้วยพลังของยอดฝีมือปีศาจแดนนรกเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุผ่านสถานการณ์ที่นี่

จากมุมมองของเจ้าเมืองลมดำ ไป๋ซ่ง หลงเสียงและคนอื่น สมาชิกมหาอำนาจในแดนสวรรค์ตะวันตกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญระยะทางระหว่างแดนสวรรค์ตะวันตกและแดนสวรรค์ใต้ไกลกันมาก พวกเขาไม่สามารถมาได้ทันที นอกจากนี้สุดยอดนักรบปราณฟ้าผู้ทรงพลังจะต้องเห็นด้วยกับทุกสภาวะ

เป็นไปไม่ได้ที่สงครามข้ามดินแดนจะเริ่มภายในวันเดียวอย่างนี้

พวกเขาดีใจที่พวกเขามีความได้เปรียบในพื้นที่ท้องถิ่นและและมีเวลาเตรียมตัวมาก

เจ้าแคว้นมรกตสั่งให้แม่ทัพอวี้เชวียนจวินมาด้วยแสดงให้เห็นว่าเขาจะสู้กับศัตรูนอกอย่างแน่นอน เขาจะเชิญนักรบในระดับปราณฟ้าของแดนสวรรค์ใต้เพื่อเอาชนะในการรบข้ามดินแดน

ราชาใจสิงห์ไม่ได้มองโลกในแง่ดี

อย่างไรก็ตามราชาใจสิงห์ผู้เจ้าเล่ห์และมากไหวพริบได้ติดต่อกับราชาถั้วเหย่ซึ่งเป็นอาณาจักรใกล้เคียง เขาได้แลกเปลี่ยนร้อยเมืองในแคว้นมรกต ขณะที่มีเมืองรอบๆ ห้าร้อยเมือง สำหรับพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมีแหล่งทรัพยากรมากมายนับไม่ถ้วนมีรายงานว่าพบพลอยสุริยันต์ระดับศักดิ์สิทธิ์ เขาเอามาใช้เพิ่มพลังจ้าวกริฟฟินอสูรพิทักษ์ของเขา มองอย่างผิวเผินดูสมเหตุสมผล เพื่อยกระดับพลังอสูรพิทักษ์ของเขา ราชาใจสิงห์ไม่ลังเลกับการแลกเปลี่ยน

ความจริงมีแต่เพียงพวกอย่างเจ้าเมืองลมดำที่ตอนนี้เผชิญหน้ากับการโจมตีจากยอดฝีมือปราณฟ้าจากแดนสวรรค์ตะวันตก จะรู้ดีว่าราชาใจสิงห์นั้นฉลาดเพียงไหน

แน่นอนว่าราชาใจสิงห์สนับสนุนสงครามข้ามดินแดน

ถ้าพวกเขาชนะ เขาจะรู้จักกันดีว่าเป็นผู้สนับสนุนอยู่หลังฉาก

ถ้าการรบข้ามดินแดนนี้ล้มเหลว คนที่สูญเสียที่มากที่สุดไม่ใช่เขา แต่เป็นราชาถั้วเหย่

นอกจากนี้แม้ว่ายอดฝีมือของแดนสวรรค์ตะวันตกต้องการสร้างชื่อ ราชาใจสิงห์ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร นี่เป็นเพราะแคว้นมรกตไม่ได้เป็นของเขาอีกต่อไป!

ในเดือนนี้มารสัมฤทธิ์ฟ้าและคนอื่นจะมีส่วนร่วมในการสู้รบที่โหดเหี้ยมและช่วยเพิ่มพลังรบของพวกเขา นอกจากโจมตีเมืองเป็นครั้งคราว พวกเขาจะร่วมมือกันฆ่าอสูรปีศาจที่ครอบครองภูเขา ... ในทางปฏิบัติแล้วอสูรปีศาจระดับปราณฟ้าจะมีดินแดนเป็นของตนเองและแบ่งแยกเป็นเมืองเล็กเมืองน้อย

ตอนนี้พวกมันกลายเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุดของการฝึกฝนของมารสัมฤทธิ์ฟ้าและคนอื่น

เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ไม่สามารถสู้กับอสูรปีศาจระดับปราณฟ้าได้ ถ้าเป็นมารฟ้าในวังมาร ภายใต้การนำของผู้นำของเขามารสัมฤทธิ์ฟ้า ก็สามารถฆ่าอสูรปีศาจระดับปราณฟ้าได้ จากนั้นเย่คง เจ้าอ้วนไห่ และเสวี่ยทันหลางและคนอื่น แม้มีเย่ว์หยางช่วยคุ้มกัน แต่ก็ยังไม่สามารถสู้อสูรปีศาจได้ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากมายเพียงไหน เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาเพียงแต่โจมตีอสูรปีศาจที่ต่ำกว่าปราณดินระดับแปด นี่เป็นขีดจำกัดของพวกเขา...แน่นอน.. เทียบกับรุ่นผู้เยาว์ซึ่งเพิ่งย่างเข้าสู่ระดับปราณก่อกำเนิด ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้วที่พวกเขาสามารถสำเร็จพลังระดับนี้ได้

เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะผิดธรรมดาอย่างเย่ว์หยาง!

ครึ่งเดือนต่อมา ผู้เฒ่าหนานกงผู้เข้าสู่ระดับปราณฟ้าได้สำเร็จ ได้เริ่มทำหน้าที่แทนเย่ว์หยางคอยหนุนหลังให้เสวี่ยทันหลางและพวก ถึงตอนนั้นเย่ว์หยางจึงมีเวลาว่าง

เรื่องราวในแดนสวรรค์ปล่อยวางไว้ชั่วคราว เย่ว์หยางกลับมายังปราสาทสายรุ้งและตัดสินใจพักสองสามวัน

“มาสู้กัน!” หัวหน้าลี่เยี่ยนเบื่อมาตลอดในช่วงหลายวันนี้และนางรู้สึกคันไม้คันมือ

“ไม่อ้ะ” เย่ว์หยางปฏิเสธ

“เจ้าเกียจคร้านเกินไปเสียแล้ว!” ลี่เยี่ยนโกรธจัดกับความคิดเห็นของเย่ว์หยาง นางไม่รู้ว่าเย่ว์หยางทำงานอยู่ในแดนสวรรค์ นางคิดว่าเขาคือเย่ว์หยางตัวจริงเป็นเพราะเขาหาข้ออ้างเพื่อพัก

“โปรดอย่าพูด, คนจะนอน!” เย่ว์หยางทำท่าอยู่ที่ปลายเตียงจากนั้นพลิกตัวนอนหลับสนิททันที

การพักเหมือนกับเป็นการหลีกหนีลี่เยี่ยน แต่สำหรับเย่ว์หยางยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก

ทันทีที่เขาหลับ เขาเข้าสู่โลกแห่งความฝันทันที

เป็นช่วงเวลาหนึ่งแล้ว เย่ว์หยางปรากฏสัญญาณว่าจะบรรลุปราณก่อกำเนิดระดับสิบ เป็นเรื่องยากที่เทพธิดากระบี่ฟ้าจะออกมาและดูเขาฝึกชั่วขณะ ภายใต้การสังเกตของนาง เย่ว์หยางจริงจังมากกว่าปกติถึงร้อยเท่า เย่ว์หยางมีความเข้าใจกระบี่ดำกุยจ้างและกระบี่ขาวซวงหัว อย่างไรก็ตามพี่สาวคนงามก็ยังเอาชนะเขาได้เสมอ การเริ่มการฝึกกระบี่ที่สามเมื่อเขาไม่มีความสุขนานนัก

กระที่สามคือกระบี่แดง ชื่อว่าชี่เสี่ยวเลี่ยน

เย่ว์หยางคาดว่าเขาจำเป็นต้องบรรลุปราณก่อกำเนิดระดับสิบก่อนจึงจะเริ่มกลั่นพลังและเข้าใจได้อย่างเต็มที่ อย่างน้อยที่สุดเขาต้องบรรลุระดับปราณราชันย์เสียก่อน... เขาเข้าถึงหัวใจของปราณราชันย์ แต่ระดับพลังของเขายังไม่ถึง ด้วยพลังฝึกปรือและรากฐานการฝึกฝนแบบปิรามิด รากฐานที่เขามี จะวางกันเป็นลำดับชั้นกว้างไกลไม่สิ้นสุด

ถ้าเป็นคนอื่น แม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้าก็คงฝึกในลักษณะนั้นไม่ได้

นอกจากนี้เทียบกันแล้วพื้นฐานมารสัมฤทธิ์ฟ้ายังคงที่ แต่พื้นฐานทรงปิรามิดของเย่ว์หยางเทียบกับชั้นปิรามิดของพลังที่สูงขึ้นไปนั้นไม่มีทางเทียบกันได้ แน่นอนว่าพลังโจมตีของพวกเขาแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

หากจะบอกว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้าเป็นนักรบปราณฟ้าที่พิเศษที่สุด ถ้าเทียบกับนักรบปราณฟ้าธรรมดาระดับพลังของพวกเขาจะสูงขึ้นไปเป็นเส้นตรง

เหตุผลที่เย่ว์หยางสามารถสู้กับสุดยอดฝีมือได้เป็นเพราะทฤษฎีฝึกปรือของเขาแตกต่างจากคนอื่น

เป็นวิธีฝึกปรือที่ไม่มีใครสามารถทำได้ นอกจากเขาแล้วไม่มีใครอื่นทำได้อย่างเขา ต่อให้พวกเขาทั้งสองฝึกฝนพร้อมกัน พวกเขาไม่สามารแทนที่กันได้ แน่นอนว่าพลังฝึกปรือของเย่ว์หยางได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากเทพธิดากระบี่ฟ้ากอปรกับความรู้แจ้งของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีและความรู้ของมารดาสหายผู้น่าสงสาร... ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ ไม่มีใครคาดคิดได้ถึงว่าจะมีอยู่

แน่นอนว่าเพราะปัญหาเรื่องเวลา เย่ว์หยางไม่สามารถควบพลังกระบี่ชี่เสี่ยวเหลียนได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามความก้าวหน้าของเขาเห็นได้ชัด

เขาเชื่อว่าเขาจะบรรลุระดับใหม่ในไม่ช้าและก้าวหน้าไปสู่ระดับที่สูงขึ้น

มีนางอยู่ใกล้ๆ เขาเย่ว์หยางไม่กล้าเกียจคร้านแม้แต่น้อยและเพ่งสมาธิกับการฝึกฝนมากเป็นพิเศษ

เทพธิดากระบี่ฟ้าแสดงให้เห็นกระบวนก่อตัวของกระบี่สีแดงยาวร้อยเมตรโดยระบุว่านี่เป็นแนวทางที่เขาต้องตั้งใจฝึกต่อไปในอนาคต จากนั้นภายใต้สีหน้าที่ตื่นตะลึงของเย่ว์หยางนางเดินกลับไปที่ซ่อนอย่างเงียบสงบ

ทันทีที่เย่ว์หยางตื่นขึ้น เขารีบไปหาตัวเย่ว์หวี่ทันที

“เจ้าได้ความรู้ใหม่อะไรอีกหรือ?” เย่ว์หวี่ชินเสียแล้วเมื่อเห็นเย่ว์หยางเป็นแบบนี้ เมื่อใดก็ตามที่เขาวิ่งตามหานาง จะต้องมีเรื่องดีเกิดขึ้น แม้แต่ในยามเที่ยงคืนก็ตาม บางครั้งเขาจะวิ่งมาหานางและบอกนางอย่างตื่นเต้นถึงความรู้ใหม่ที่เขาค้นพบหรือทำ ผลที่ตามมาทำให้เย่ว์หวี่ต้องเตรียมปากกาและกระดาษไว้บันทึกความคิดของเย่ว์หยางไว้ทุกเมื่อ

“ถูกแล้ววิธีที่ข้าคิดใช้ภูตแสงหลอมรวมกับดาบนางฟ้ายังชัดเกินไป ข้าควรคิดได้มานานแล้ว แม้ว่าเราจะไม่มีศิลาแดงสระหงส์ เราก็ทำได้สำเร็จ” เย่ว์หยางคว้ามือเย่ว์หวี่ดึงนางไปที่ห้องทดลองอย่างมีความสุข

“เฮ้..ช้าก่อน..” เมื่อเห็นเขาใกล้ชิดนางเกินไป เย่ว์หวี่ยังคิดถึงเรื่องนี้ในฝันนาง หัวใจนางอ่อนโยน และนางไม่อาจทนปฏิเสธเขาได้

ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องหลอมรวมกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจความตั้งใจดีของเขา

นอกจากนี้เขาไม่มีความคิดอกุศลแต่อย่างใด เขาเพียงแต่มีความคิดอยู่มากมาย

เย่ว์หวี่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปลอบโยนตัวนางเอง แม้ว่านางจะอายแต่นางทำเป็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติและไม่แสดงออกมา

ในลานว่าง สาวขี้เมากำลังฝึกปรืออย่างขยันขันแข็ง นางทำเป็นมองไม่เห็น แต่หนูน้อยแพนด้าหนิวหนิวมีสีหน้าร่าเริงโบกมือให้เย่ว์หยาง

ห้องค้นคว้าทดลองเป็นพื้นที่ขนาดเล็กสำหรับเย่ว์หยางและเย่ว์หวี่ ปกตินอกจากหญิงงามอู๋เหินแล้ว จะไม่มีคนอื่นเข้ามา อู๋เหินเลื่อนเวลาไปเมื่อเดือนที่แล้วเนื่องจากสำคัญผิดว่านางกำลังจะมีลูก เกรงว่าพฤติกรรมที่ไม่ดีของเย่ว์หยางจะส่งผลต่อนาง ดังนั้นนางจึงย้ายกลับไปที่วังเทียนหลัวอยู่กับแม่สี่ในมิติลวง ต่อมานางจึงพบว่าเป็นแค่เพียงนางสำคัญผิด แต่ความต้องการเป็นแม่ที่จู่ๆ เกิดขึ้นมาทำให้นางติดตามแม่สี่เรียนรู้วิธีดูแลลูกน้อย นางจะได้รู้วิธีดูแลลูกน้อยหลังจากที่นางมีบุตรของตนเอง

แน่นอนว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวและนางเซียนหงส์ฟ้ายังไม่ต้องการให้กำเนิดบุตรไวนัก อี้หนานก็ยังไม่มีความคิดอย่างนั้นเช่นกัน

ไห่หลานเป็นจักรพรรดินีสมุทรใหม่ๆ ช่วยกิจการเย่ว์หยางทุกวัน ดังนั้นนางไม่มีเวลา

มีแต่หญิงงามอู๋เหินที่มีความเป็นไปได้เช่นนั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่านางกังวลเรื่องการศึกษาอักษรรูนสวรรค์จะส่งผลต่อลูกที่จะมีในอนาคต นางคงกำเนิดทารกให้เขาไปนานแล้ว

หญิงงามอู๋เหินอยู่ข้างกายแม่สี่ เสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวยังคงฝึกปรือกับจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี

เย่คงและพวกอยู่ในแดนสวรรค์ ไม่มีใครอยู่ในปราสาทสายรุ้ง

นอกจากพี่สาวขี้เมาผู้ฝึกวิทยายุทธและลี่เยี่ยนผู้เบื่อจะปลูกดอกไม้ในสวนน้อยกับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์แล้ว.. เมื่อประตูห้องทดลองเปิดออก เย่ว์หวี่รู้สึกว่าหัวใจนางเต้นเร็ว

แม้ว่านางจะรู้ชัดว่าเมื่อฝึกด้วยกันกับเขาแล้ว ความเข้าใจในเรื่องร่างกายของเขากับนางไม่ได้ด้อยเลย

อย่างไรก็ตามเมื่อนางหลอมรวมกับดาบนางฟ้าด้วยภูตแสงของนาง ภาพที่น่าละอายต่อหน้าทำให้นางรู้สึกอึดอัด ในอดีต เมื่อนางปรุงยา เนื่องจากระเบิดหรืออุบัติเหตุ นางยังสามารถพูดได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ตอนนี้ นางไม่สามารถใช้ข้ออ้างนั้นเพื่อหลอมรวมกับดาบนางฟ้าอีกต่อไป

“หัวใจท่านเต้นเร็วไปนิด ท่านต้องสงบจิตใจก่อน” เย่ว์หยางจับมือเย่ว์หวี่อย่างนุ่มนวล เหมือนกับใช้พลังฝึกคู่ เขาถ่ายพลังงานบริสุทธิ์ไปที่นาง

“ไม่, ก็แค่เข้าเพิ่งจะวิ่งมา ข้าดื่มน้ำก็คงหาย!” หน้าของเย่ว์หวี่แดง นางไม่ยอมรับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงหาข้ออ้างเรื่อยเปื่อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด