ตอนที่ 686 เงียบสงัดราตรีไม้หอม
หลังจากสับสนมาเป็นเวลานานในที่สุดหัวหน้าโจรลี่เยี่ยนก็ตระหนักได้ว่านางไม่ได้อยู่ในแดนสวรรค์ใต้อีกต่อไปแต่เป็นหอทงเทียนใต้แดนสวรรค์ตะวันตกในสวนน้อยที่สงบด้านนอกระดับพื้นบันไดสวรรค์
นางไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงมาที่นี่ทันทีที่นางตื่นขึ้น ทั้งที่นางยังคงอยู่ในคุกใต้ดินแคว้นมรกตในแดนสวรรค์ใต้
เย่ว์หยางไม่อธิบาย
สีหน้าของเขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการเปลืองน้ำลาย
สีหน้าละอายทำให้ลี่เยี่ยนรู้สึกอึดอัดมาก นางได้แต่เพียงสอบถามสาวน้อยผู้เชี่ยวชาญพลังจิตในการควบกลั่นกลีบดอกไม้ด้วยใจนาง ด้วยการเรียนรู้ข้อมูลบางอย่างในที่สุดนางก็รู้ชื่อจริงของสาวน้อยนั้น นางเรียกว่าอี้หนาน และบุรุษที่ดุร้ายนั้นชื่อเย่ว์หยาง นอกจากสาวน้อยผู้นี้แล้วยังมีสุภาพสตรีอีกสองสามคนพวกนางหากไม่เป็นภรรยาก็เป็นคู่หมั้นของเขา ตัวอย่างเช่นหญิงงามในชุดลายปักกับทานตะวันอมฤตอสูรปราณฟ้าระดับห้าชื่อว่าโล่วฮัวหญิงงามทรงเสน่ห์ยั่วยวนกับนางพญาซัคคิวบัสนักสู้ปราณฟ้าระดับสามเรียกว่ามารกฎฟ้า
แม้ว่าระดับของมารกฎฟ้านี้ยังด้อยกว่า แต่ลี่เยี่ยนรู้สึกสัมผัสถึงอันตรายที่บอกไม่ถูกจากร่างนาง
ดูเหมือนนางจะน่ากลัว
ความรู้สึกอันตรายมาจากก้นบึ้งหัวใจนางเหมือนเมื่อตอนนางพบกับบุรุษตัวร้ายผู้นั้น
สิ่งที่ทำให้ลี่เยี่ยนรู้สึกแปลกประหลาดเป็นพิเศษก็คือแม้ว่ามารกฎฟ้าจะแข็งแกร่งที่สุด แต่ตำแหน่งของนางไม่ใช่สูงที่สุด นอกจากนี้ยังมีสตรีนักดาบสะพายดาบเทพอยู่ที่หลังของนางในกลุ่มคนเหล่านี้สตรีนางหนึ่งมีอำนาจที่สามารถตัดสินใจได้ก็คือสุภาพสตรีสาวผู้อ่านหนังสือโบราณอยู่เงียบๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กสาวผู้รักการอ่านหนังสือมีความรู้สึกที่น่าอันตรายอย่างหนึ่งคล้ายกับหญิงงามมารกฎฟ้า
นางเป็นผู้ตัดสินใจในกลุ่มแม้แต่ในบางครั้งเจ้าบุรุษดุร้ายก็ยังต้องฟังนาง
ในบรรดาสาวๆโดยเฉพาะมีเด็กสาวผู้อ่อนโยนคนหนึ่ง ลี่เยี่ยนรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่ยังมีหญิงสาวผู้อ่อนโยนในแดนสวรรค์ใต้ เทียบกับนางแล้ว ลี่เยี่ยนรู้สึกอายอาจกล่าวได้ว่าสาวน้อยผู้นี้ พอหัวเราะขึ้นมาโลกก็สดใสและตัวผ่องใสเหมือนดวงจันทร์นี้จะเป็นญาติผู้พี่ของเจ้าบุรุษดุร้ายนางชื่อเย่ว์หวี่ ยากจะจินตนาการออกที่คนดุร้ายแบบนั้นจะมีพี่สาวที่อ่อนโยนแบบนั้นได้
ต้องมีบางอย่างที่ผิดปกติแน่นอน!
เจ้าบุรุษดุร้ายนั่นนอกจากจะมีพี่สาวที่อ่อนโยนแล้วเขายังมีน้องสาวที่ว่านอนสอนง่ายนามเย่ว์ปิงอีกคน
นอกจากนี้ยังมีเด็กหญิงตัวเล็กน่ารักซุกซนและฉลาดมากเธอชอบหยิบยกปัญหายากๆ มาให้คนคาดเดาและคอยหยอกล้อเย้าแหย่กับพวกเขา จากนั้นสาวน้อยผู้นี้ไปไหนก็จะมีขนมลูกกวาดไปด้วยทุกที่ดูเหมือนเธอจะเรียกว่าเย่ว์ซวงและเป็นน้องสาวคนเล็กของเขา
โดยปกติที่นอกบ้านจะมีกลุ่มคนที่ฝึกฝนวิทยายุทธ
พวกเขาทุกคนเป็นนักสู้ระดับปราณดินยังอ่อนแอมาก
แน่นอนว่าคนเหล่านี้จะไม่ยอมรับ พวกเขาบอกว่าพวกเขาเป็นระดับปราณก่อกำเนิดไม่ใช่ระดับปราณดิน...ลี่เยี่ยนไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างปราณดินและปราณก่อกำเนิด แต่นางมีความประทับใจเจ้าอ้วนเสียงดังและคนผอมที่ชอบไล่ทุบตีเขา
คนอ้วนมีนามว่าเจ้าอ้วนไห่ และคนผอมเรียกว่าเย่คงและคนที่ไม่ชอบพูดชื่อว่าเสวี่ยทันหลาง ส่วนคนที่สุภาพชื่อว่าองค์ชายเทียนหลัว
พี่น้องฝาแฝดที่กำลังฝึกหนักโดยไม่ส่งเสียงมีชื่อว่าหลี่ชิวและหลี่เกอสาวน้อยที่ขี่กวางทะลุมิติชื่อว่าหลิวเย่ นางเป็นศิษย์ของเจ้าคนดุร้ายผู้นั้น และมีหญิงสาวเป่าเอ๋อนางเรียกตัวเองว่าดาวนำโชค นางเป็นเผ่าเอลฟ์ทอง ถ้าเป็นในแดนสวรรค์ใต้ชีวิตที่งดงามแต่อ่อนแออย่างเป่าเอ๋อหรือหลิวเย่ถือเป็นโศกนาฏกรรม เพราะทันทีที่พวกนางปรากฏตัวพวกนางจะถูกจับและถูกส่งไปเป็นทาสประมูลราคา..ส่วนที่นี่บันไดสวรรค์ พวกนางใช้ชีวิตได้ดี ลี่เยี่ยนอยู่ที่นี่เพียงสามวัน แต่นางพบว่าเป็นเหมือนสวรรค์ในแดนดิน นี่เป็นที่งดงามและมีความสุข
เย่ว์หยางเจ้าคนดุร้ายนั่นออกไปทุกๆเช้า
บางครั้งเขาจะนำเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นไปด้วยและบางเวลา เขาจะนำกลุ่มสาวๆ ไปแทน อาจกล่าวว่าเขาจะพาพวกเขาไปฝึกฝนในแดนสวรรค์ใต้
เขามีความสามารถพิเศษเที่ยวไประหว่างสองดินแดน...ลี่เยี่ยนไม่มีความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของเขาอีกต่อไป เพราะนางพบว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขา
“วันนี้ผลเก็บเกี่ยวไม่เลว พักกันให้ดี พรุ่งนี้ค่อยฝึกหนักกันต่อ!” เย่ว์หยางกลับมาอีกครั้ง เจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่นๆ ออกมาจากโลกคัมภีร์ของเขาแต่ละคนมีบาดแผลทั่วตัว แต่พวกเขามีกำลังใจที่ดี พวกเขาต้องชนะการสู้รบ เกือบทุกคืนเมื่อใดก็ตามที่เย่ว์หยางกลับมา เขาจะนำเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นกลับมาสวนน้อยด้วย
ด้วยพลังของเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆเป็นเรื่องอันตรายมากกับการอยู่ในแดนสวรรค์ใต้
มารสัมฤทธิ์ฟ้าและคนอื่นๆนั้นแตกต่าง พวกเขามีพลังระดับปราณฟ้า
ในตอนแรกลี่เยี่ยนไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้นางเข้าใจในที่สุดว่าเย่ว์หยางบุรุษผู้ชั่วร้ายนี้ฝึกทหารอย่างง่ายๆ เจ้าอ้วนไห่ เย่คง และพวกที่เหลือจะก้าวหน้ากับการสู้รบในแต่ละวันที่ผ่านไป
จุดเริ่มต้นของพวกเขาต่ำมาก
อย่างไรก็ตามด้วยคัมภีร์อัญเชิญระดับการเติบโตของพวกเขารวดเร็วมากมันเป็นความเร็วที่ลี่เยี่ยนไม่อาจคิดได้
“พาข้าไปที่นั่นด้วยสิ ข้าสามารถจัดการพวกมันทั้งหมดด้วยตัวข้าเอง”ลี่เยี่ยนรู้สึกอายเล็กน้อย ถ้านางได้สู้เคียงข้างเขา นั่นจะง่ายสำหรับพวกเขาในการจัดการศัตรูที่ทรงพลังไม่ใช่หรือ? นอกจากนี้อาการบาดเจ็บบนร่างนางก็หายดีแล้ว พิษเล็บมังกรถูกขับไล่หมดแล้วพลังของนางเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง ตอนนี้ถ้านางพบกับเสี่ยวโฉ่ว ราเชล ปีศาจเฒ่าเว่ยและคนอื่นๆนางจะล้มพวกเขาได้แน่นอน
“ไปห่างๆ เลยตอนนี้ไม่มีธุระอะไรให้เจ้าทำ” เย่ว์หยางไม่สนใจข้อเสนอของลี่เยี่ยน
“อะไรนะ? เจ้า...” ลี่เยี่ยนโกรธจัดจนแทบระเบิดอารมณ์ออกมา
“ต้องการรู้สาเหตุที่เขาฟังข้าไหม?”ประโยคเดียวพอเข้าหูลี่เยี่ยน ลี่เยี่ยนหันหน้ามาดูและพบว่าภายในร่มไม้มีสตรีคนหนึ่งกำลังอ่านหนังสือ นางจำได้ทันทีว่าสตรีผู้รักการอ่านผู้นี้ชื่อว่าเสวี่ยอู๋เสีย เกือบทุกคนจะฟังนางรวมทั้งผู้ชายดุร้ายคนนั้นด้วย แต่ทำไมนางพูดกับข้า? ปกตินางไม่เคยมองข้าเลย วันนี้เกิดอะไรขึ้น? ลี่เยี่ยนประหลาดใจเล็กน้อยนางมองดูเสวี่ยอู๋เสียและถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย “ทำไมเขาถึงได้ฟังเจ้า?”
“เพราะสิ่งที่ข้าพูดทำให้มีเหตุผล เขาฟังเหตุผล ดังนั้นเขาจึงฟังข้า” เสวี่ยอู๋เสียปิดหนังสือและตอบเหตุผล
“ข้าไม่มีเหตุผลหรือ?” ลี่เยี่ยนแทบเป็นลมนางเป็นคนโง่ที่นางบอกว่าไม่มีเหตุผลงั้นหรือ?
“วิธีคิดของท่านไม่เข้ากันกับวิธีคิดของเขา...” ถ้าท่านต้องการให้เขาฟังท่านท่านต้องใช้วิธีทำให้เขาเห็นด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าท่านเลี้ยงเด็กมนุษย์แต่ท่านไปหาอาหารที่เป็นผลึกเวทมาเลี้ยงนั่นจะไปถูกต้องได้ยังไง? ท่านแค่ต้องรู้ว่าท่านไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ท่านกลับยืนยันจะใช้กำลังบังคับให้กิน เขาดูดุร้ายไม่ใช่ว่าเพราะเขาโกรธท่าน แต่เขาเกรงว่าสักวันท่านจะเสียใจถ้าท่านบังคับทารกให้กินผลึกเวทจนขาดใจตาย ท่านรู้ไหมว่าข้าหมายความว่ายังไง?ท่านไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมา ท่านยืนยันจะใช้กำลังตามความคิดตนเอง หัวหน้าลี่เยี่ยน!แม้ว่าท่านจะอาวุโสมากกว่าข้า แต่สภาพใจของท่านค่อนข้างจะคล้ายน้องสาวของข้า พลังของท่านอาจจะดีกว่าซวงเอ๋อแต่ปากแข็งเหมือนปิงเอ๋อ เมื่อรับมือกับกิจการต่างๆ ที่นี่มีทางเลือกมากมายนักทำไมท่านไม่ใช้วิธีที่ดีที่สุด? ถ้าท่านไม่รู้ว่าวิธีไหนดีที่สุดอย่างนั้นก็ขอให้ฟังเราบ้าง” หลังจากพูดจบเสวี่ยอู๋เสียเดินออกไปโดยไม่ลังเล
“....” ลี่เยี่ยนจ้องมองนางและเป็นครั้งแรกที่นางพบว่านางยังเก่งไม่เท่าเสวี่ยอู๋เสีย
ระดับของเสวี่ยอู๋เสียด้อยกว่านาง และไม่แข็งแรงเท่านาง
แต่นางเหมือนกับพี่สาวมากกว่า
เมื่ออยู่ต่อหน้านางลี่เยี่ยนกลายเป็นเด็กหญิงน้อยทันที..
ในแดนสวรรค์
เย่ว์หยางพาเจ้าอ้วนไห่และพวกที่เหลือล้อมและฆ่าอสูรเวทปราณดินระดับแปด กับเจ้าอ้วนไห่และเย่คงมองดูพวกมัน พวกเขาสามารถใช้พลังได้มากเท่าที่พวกเขาชอบโดยไม่ต้องกังวลจะตายพวกเขาแต่ละคนมีความสำเร็จก้าวหน้าในการฝึกปรือ ว่ากันในแง่ของระดับพลังพวกเขามีความก้าวหน้าก้าวกระโดด
มารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิบาดาลไม่จำเป็นต้องให้เย่ว์หยางไปคอยดูแลพวกเขา
พวกเขาต่อสู้กับศัตรูเกือบทุกวันกับทุกเมืองเมืองแล้วเมืองเล่าในพื้นที่เมืองลมดำ
ตามข้อความบอกแจ้งของเจ้าเมืองลมดำเจ้าแคว้นมรกตและราชาใจสิงห์ตัดสินใจเข้าแทรกแซง หนึ่งเดือนต่อมาพวกเขาจะเจรจากับตัวแทนสำนักทงเทียนสำนักมังกรทะยานและวังมาร เย่ว์หยางเชื่อว่านี่เป็นแผนการชะลอการต่อสู้ของพวกเขา พวกเขาต้องส่งคนไปหาเสี่ยวโฉ่วหรือมุ่งหน้าไปแดนสวรรค์ใต้อื่นหาข้อมูลกับทุกคน ประการที่สองก็คือรวบรวมนักรบปราณฟ้าให้มากขึ้นและกลับมายังเมืองลมดำ เตรียมสู้รบข้ามดินแดนเพื่อขับไล่พวกแดนสวรรค์ตะวันตก
เจ้าแคว้นมรกตทำเช่นนี้เพื่อสันติภาพของดินแดนและเพื่อประโยชน์คนของเขา
สำหรับราชาใจสิงห์ เขาทำเพื่อสร้างชื่อเสียง
ถ้าการสู้รบข้ามพรมแดนจะบรรเทาเบาบางได้ในมือของเขา หรือเอาชนะได้ภายใต้การนำของเขา อย่างนั้นชื่อเสียงของราชาใจสิงห์จะต้องเลื่องลือมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับราชาใจสิงห์ผู้กระหายจะกลายเป็นจักรพรรดิแดนดินนี่คือโอกาสที่ดีที่สุด
เพื่อให้ได้เป็นจักรพรรดิแดนดิน ราชาใจสิงห์จะต้องมีทั้งพลังและชื่อเสียงให้มาก
นี่เป็นเพราะเขาต้องการโอกาสมากขึ้น
เย่ว์หยางคิดถึงจุดนี้มานานแล้วก่อนที่เขาจะตัดสินใจโจมตีเมืองลมดำนอกจากนี้เขาได้พูดคุยกับเสวี่ยอู๋เสียและคนอื่นๆ เขาได้ซึมซับความคิดเห็นของจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีและรู้สึกว่าการสู้รบครั้งนี้เป็นโอกาสเปิดโลกทัศน์ใหม่ในแดนสวรรค์ แผนการดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบ มีเพียงอุบัติเหตุก็คือหญิงงามผู้เป็นธิดาของเจ้าแคว้นมรกตคนเก่านางให้ข้อมูลที่คุมขังลี่เยี่ยนอย่างไม่มีเงื่อนไข ทำให้เขาก้าวหน้าในการช่วยเหลือลี่เยี่ยนมาได้..หลายวันมานี้หญิงงามนั้นยังไม่ได้มาตามหาเย่ว์หยาง แต่เย่ว์หยางคาดเดาว่าแม่หญิงผู้นั้นต้องเตรียมตัวไว้แล้ว เมื่อนางมาอีกครั้งนางจะยื่นเงื่อนไขที่เขายากจะปฏิเสธแน่
ผลึกเวท? สมบัติเซียน?
ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งสิ้น นางต้องการความร่วมมืออย่างเต็มที่และนางคงต้องการยื่นเงื่อนไขที่แสดงความใจกว้าง
สิ่งเดียวที่เย่ว์หยางต้องระวังก็คือสตรีนางนี้เป็นใครกันแน่ ถ้านางเป็นบริวารของจักรพรรดิหรือแม้แต่ราชาใจสิงห์ ก็ไม่รู้ว่านางจะเป็นหน่วยหาข้อมูลในแดนสวรรค์ใต้หรือไม่ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงจบสิ้นกัน
แน่นอนว่าก่อนที่เย่ว์หยางจะพบสถานะของอีกฝ่ายหนึ่งจะไม่ยอมเชื่อใจนางเต็มที่ เขายังจะไม่ร่วมมือกับนางเต็มที่
แม้ว่าพวกเขาจะทำงานด้วยกัน แต่พวกเขายังไม่เปิดเผยพลังที่แท้จริงหรือความลับของตนเอง
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีพูดถูกไม่มีใครเชื่อใจได้ในแดนสวรรค์ ถ้าท่านไว้ใจคนอื่น ท่านอาจเสี่ยงหาเรื่องตาย.... แน่นอนหัวกลมเปากู่เป็นข้อยกเว้น ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับการปกครองคนสิบล้านในแดนสวรรค์ หญิงงามผู้ยั่วยวนนั้นหวังว่านางจะเป็นกรณีพิเศษมิฉะนั้นเย่ว์หยางคงตัดใจทำลายดอกไม้งามก็ได้
ยามดึกกลางราตรีมีกลิ่นหอมลอยมาในอากาศ
เย่ว์หยางลืมตาและพบว่าหญิงงามทรงเสน่ห์เข้ามาในกระโจมของเขาแล้ว เขาหัวเราะเบาๆ ขณะมองดูตนเอง “ข้าระมัดระวังมากอยู่แล้วและพยายามย่องเข้ามาให้เบาเท่าที่เป็นไปได้แต่ข้าไม่คาดเลยว่าเจ้าจะพบข้าได้ เจ้ากลัวข้าขนาดนั้นเชียวหรือ?”
“ระบุเงื่อนไขของเจ้าออกมาเถอะ” เย่ว์หยางลูบอี้หนานที่ยังนอนอย่างสงบข้างเขาเพื่อที่ว่านางจะไม่ตื่นขึ้นมา
“มันไม่ง่ายสำหรับข้าที่จะหาของดีอย่างนั้นมาได้ นี่เหมาะสำหรับเผ่าพันธุ์ภูตบูรพาของเจ้าและภูตอสูรร่างมนุษย์ วิญญาณมังกรแสงด้วยของสิ่งนี้ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะสามารถเพิ่มความสามารถต่อสู้ได้อีกมากมาย” หญิงงามโยนผลึกลูกเล็กซึ่งส่งแสงเรืองรองให้เย่ว์หยาง นางยิ้มหวานจากนั้นโบกมือ “นี่แค่เริ่มต้น ครั้งต่อไปอย่าระแวงข้าได้ไหม มันทำให้ข้าเศร้าใจมาก”
“...” เย่ว์หยางพูดไม่ออก หญิงสาวพราวเสน่ห์นางนี้กลายเป็นแสงสีเขียวและหายไปภายใต้แสงจันทร์
มีแต่เพียงกลิ่นหอมเลือนรางของสาวพรหมจรรย์ลอยอยู่ในกระโจม