ตอนที่ 47 พวกเขาทุกคนคือปรมาจารย์!
ซู่คุนมองไปที่พลังต่อสู้บนเครื่องนั้นก่อนที่เขาจะขยี้ตาดูอีกครั้ง
"หยานฉีพลังต่อสู้ของเจ้างั้นหรือ"?
"ครับ"
หยานฉีพยักหน้า
ซู่คุนมองหยานฉีเป็นเหมือนกับปีศาจ
“หยานฉี เจ้าหมายความว่าเจ้าไม่ใช่ปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นต้นแต่เป็นปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นกลางแล้วงั้นหรือ?”
"ครับ ท่านซู่คุน"
ซู่คุนมองไปที่หยานฉีอย่างเหลือเชื่อ เขาคิดว่าหยานฉีที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่มนุษย์ทั่วไปอีกต่อไปแล้ว
มีปรมาจาย์ขั้นต้นจำนวนมากที่ต้องการเป็นปรมาจาย์ขั้นกลาง แต่มันยากที่จะก้าวไปที่จุดนั้นได้เหมือนกับการเอื้อมไปคว้าดาวบนท้องฟ้า
แต่ในช่วงเวลาสั้นๆแค่สิบกว่าวัน หยานฉีได้ก้าวข้ามจากปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นต้นไปเป็นปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นกลางได้?
จู่ๆซู่คุนก็นึกถึงบางสิ่งได้ เขาจำได้ว่าวันนั้นเมื่อ หยานฉีและหลืนเที่ยนเจียงได้ต่อสู้กัน ฮวงซานที่เป็นหัวหน้าโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เถิงหลงดูเหมือนจะพูดว่าเขามีร่างจิตวิญญาณและขอบเขตที่หนึ่งการรวบรวมพลัง
ร่างจิตวิญญาณและขอบเขตที่หนึ่งการรวบรวมพลัง?
หรือพูดง่ายๆก็คือ หยานฉีมีร่างจิตวิญญาณที่ฐานหลินไห่ทั้งหมดนั้นไม่มีใครมี?
ปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นกลางจะมีพลังการต่อสู้ 20,000
แต่ปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นกลางกับพลังการต่อสู้ที่มีร่างจิตวิญญาณจะมีพลังการต่อสู้ถึง 40,000!
หยานฉีตอนนี้มีพลังรบถึง 40,000 อย่างงั้นเหรอ?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ซู่คุนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง เขานึกไม่ออกว่าเหตุใดในโลกนี้จึงมีคนอย่างหยานฉีที่เป็นราวกับบุตรฟ้าประทานอยู่ด้วย
"มีอะไรหรือเปล่าครับท่านซู่คุน"
หยานฉีมองไปที่ซู่คุนโดยถามอย่างสงสัย
เมื่อซู่คุนได้ยินหยานฉีถามเขาก็นึกขึ้นได้
"หยานฉีท่านซู่มูขอให้เจ้าไปที่สภาหลินไห่"
หยานฉีตกตะลึงเขาไม่ได้คิดเลยว่าซู่คุนจะพูดเรื่องนี้
หยานฉีในตอนนี้คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องไปที่สภาหลินไห่
หลังจากออกจากโรงเรียนศิลปะการต่อสู้อสรพิษสายฟ้า เขาก็เดินทางไปที่สภาหลินไห่
ณ สภาหลินไห่
หยานฉีออกไปนอกสภาหลินไห่
เขามองไปที่สภาหลินไห่ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใหญ่ที่สุดของฐานหลินไห่ด้วยท่าทางที่มีอำนาจ!
ด้านนอกประตูใหญ่ของสภาหลินไห่ มีนักรบหลายคนคอยคุ้มกัน นักรบเหล่านี้ระดับไม่สูงมากนัก พวกเขาเป็นเพียงผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ทั่วไป
แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็รู้ดีว่าไม่เคยมีคนทั่วไปที่กล้าเข้าไปใกล้ประตูทางเข้าเลย
หยานฉีเดินไปที่ประตูของสภาหลินไห่และถูกหยุดโดยผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้หลายคนที่เฝ้าประตูอย่างรวดเร็ว
"หยุด! นี่คือสภาหลินไห่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าไปได้!"
สีหน้าของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้เหล่านี้ดูเหี้ยมมาก
“ท่านซู่มูเรียกข้ามาที่นี่”
หยานฉีกล่าว
“ท่านซู่มูเรียกตัวเจ้ามางั้นหรือ?”
ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้หลายคนประหลาดใจ "เจ้าหมายความว่าเจ้ามีตราอินทรีทองระดับสามดาวงั้นหรือ?"
หยานฉียิ้ม "ใช่ ข้ามีตราอินทรีทองระดับสามดาวนั่น"
ด้วยเหตุนี้ หยานฉีจึงหยิบตราอินทรีทองระดับสามดาวออกมา
เหล่าผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้เหล่านี้มองไปที่ตราอินทรีทองระดับสามดาวของหยานฉีและสายตาของพวกเขาก็มองไปที่หยานฉีอีกครั้ง
“งั้นข้าขอเข้าไปเลยได้ไหม”?
"ได้ ได้ ได้แน่นอนครับ"
ส่วนซู่มูนั้นได้กล่าวทักทายพวกเขาแล้ว เมื่อเขาเห็นชายคนหนึ่งมีตราประจำตำแหน่งก็พาเขาไปดู
“ท่านหยานฉี ได้โปรดตามข้ามา ข้าจะพาท่านไปหาท่านซู่มูเอง”
ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้กล่าวกับหยานฉีด้วยความเคารพ
ด้วยเหตุนี้ ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้จึงพาหยานฉีไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
ครู่ต่อมา หยานฉีก็มาถึงนอกห้องโถงใหญ่
"ท่านปรมาจรย์ซู่มูอยู่ในห้องนั้น"
โดยปกติแล้วผู้ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้จะไม่เข้าไปข้างใน เขาพียงพาหยานฉีมาส่งและจากนั้นก็หันกลับไป
หยานฉีมองไปที่ห้องโถงอันงดงามเบื้องหน้าของเขาแล้วเดินเข้าไป
หลังจากเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ความรู้สึกของอันตรายก็พุ่งเข้ามา!
เขามองไปที่ผู้คนในห้องโถงและรู้สึกหวาดกลัว
พวกเขาทุกคนล้วนเป็นคนจากระดับปรมาจารย์!