ตอนที่ 19-49 ระหว่างความเป็นความตาย
“ศิลาวิญญาณกำลังหล่อเลี้ยงพลังชีวิตของเขา?” บีบีรีบถาม
บลูไฟร์พยักหน้าเล็กน้อย “นี่ไม่ใช่ความลับใหญ่โตอะไร ตามตำนานมหาเทพเรดบุดถือกำเนิดจากภูเขาอะเมทิสต์เอง” ขณะที่เขาพูดบลูไฟร์มองรีสเจม
รีสเจมไม่ถือสาแต่อย่างใด เขาพยักหน้า “ใช่แล้ว นี่เป็นความจริงอะเมทิสต์ของเทือกเขาอะเมทิสต์แฝงไปด้วยพลังวิญญาณทั้งนั้น อสูรเทพอะเมทิสต์ซึ่งถือกำเนิดจากเทือกเขาอะเมทิสต์จะมีวิญญาณที่ทรงพลังนี่เป็นเรื่องธรรมดา และอสูรเทพอะเมทิสต์สามารถกลั่นสร้างพลังงานที่บริสุทธิ์ซึ่งก็คือศิลาวิญญาณ! กระบวนการสร้างศิลาวิญญาณเป็นเรื่องลำบากยากเย็นมากดังนั้นนั่นจึงเป็นสมบัติสำคัญของเราเหล่าอสูรเทพอะเมทิสต์ แม้แต่ตัวข้าเองก็สร้างศิลาวิญญาณไว้หนึ่งชิ้น ข้าใช้เพื่อปกป้องชีวิตของข้า แน่นอนว่าข้าไม่ยินดีให้คนอื่นแน่นอน”
“แม่ข้าเป็นมหาเทพด้วยพลังมหาเทพรอบตัวนางและเวลาที่ผ่านไปนานเป็นอสงไขยปีนางมอบศิลาวิญญาณให้คนอื่นแค่หนึ่งชิ้นจากที่นางมีสองชิ้นเท่านั้น” รีสเจมถอนหายใจ “ศิลาวิญญาณนี้เป็นสมบัติที่ใช้ปกป้องวิญญาณแน่นอน บางทีอาจไม่สามารถช่วยให้ป้องกันพลังโจมตีของมหาเทพ แต่...ด้วยศิลาวิญญาณไม่มีเหตุผลใดที่ต้องกลัวพลังโจมตีวิญญาณของเทพชั้นสูง”
รีสเจมมองลินลี่ย์ขณะพูด
บีบีเข้าใจเช่นกัน
อสูรเทพอะเมทิสต์ถือกำเนิดมาจากแกนเทือกเขาอะเมทิสต์เอง ขณะที่ศิลาวิญญาณ มันคือแก่นพลังงานของเทือกเขาอะเมทิสต์ ศิลาวิญญาณก้อนหนึ่งมีค่ามากกว่าอะเมทิสต์เป็นล้านล้านเท่าใครจะคิดได้ว่ามันทรงพลังขนาดไหน
“แต่พี่ใหญ่ข้า..?” บีบีพูดอย่างแตกตื่น
“ลินลี่ย์, เขา...” รีสเจมพูดอย่างจนใจ “อนิจจา,แม็กนัสนั้นเป็นพารากอนวิถีชะตาและพลังวิญญาณของเขาทรงพลังมาก พลังโจมตีนั้นทรงพลังเหนือเทพธรรมดามากมาย! แม้แต่ศิลาวิญญาณ...”รีสเจมค่อนข้างไม่แน่ใจเช่นกัน
เขาโอ้อวดไว้มากมายว่าศิลาวิญญาณนั้นทรงพลังมากแค่ไหน แต่ศัตรูครั้งนี้ทรงพลังเกินไป
“ครั้งนี้สถานการณ์ของลินลี่ย์วิกฤติ” บลูไฟร์พูดอย่างเคร่งขรึม “พลังโจมตีวิญญาณของแม็กนัสทะลวงเข้าไปในวิญญาณทั้งสี่ของร่างลินลี่ย์แล้ว พลังงานของศิลาวิญญาณยังคงเสริมพลังให้ลินลี่ย์ต่อเนื่องทำให้วิญญาณของเขาไม่ถูกทำลาย สถานการณ์นี้อันตรายมาก อันตรายจริงๆ”
หมดสติและไม่รู้ตัว
บีบีมีความทรงจำว่าทั้งเดเลียและโอลิเวอร์เคยมีประสบการณ์นี้
“เดเลียและโอลิเวอร์ก็ประสบกับเรื่องนี้ในอดีตมาเหมือนกัน พวกเขาทั้งสองคนยังรอดกลับมามีชีวิตได้” บีบีรีบกล่าว “และโอลิเวอร์เมื่อเขาหมดสติ เขากลายสภาพเป็นวิญญาณกลายสภาพ
บลูไฟร์ถอนหายใจและส่ายศีรษะ “ข้ารู้เรื่องเกี่ยวกับเดเลีย ยอดฝีมือผู้นั้นเป็นแค่ยอดฝีมือวิถีชะตาซึ่งยังไม่ถึงระดับผู้บัญชาการด้วยซ้ำ แต่คนที่โจมตีลินลี่ย์คือแม็กนัส! ข้าบอกได้แต่เพียงเท่านี้ว่า..ในบรรดาเทพชั้นสูงไม่มีใครสักคนที่เก่งกว่าแม็กนัส อย่างดีที่สุดก็แค่เสมอกับแม็กนัส”
“อย่างที่มีคำกล่าวว่าทำร้าย..ทำง่าย รักษานั้น..ทำได้ยากไม่มีใครสามารถช่วยคนที่แม็กนัสโจมตีทำร้ายได้” บลูไฟร์ส่ายหน้า
“มหาเทพ?” บีบีรีบกล่าว
“เปล่าประโยชน์” รีสเจมส่ายศีรษะ “ความจริงมหาเทพทรงพลังมากกว่าเทพชั้นสูง แต่เนื่องจากพลังปณิธานของพวกเขาน่ากลัวทำให้พวกเขาทรงพลังและไร้เทียมทาน แต่ในแง่เคล็ดความรู้ลึกลับพวกเขาไม่จำเป็นต้องเทียบได้กับพารากอน”
มารดาของรีสเจมเป็นมหาเทพ ดังนั้นรีสเจมรู้เรื่องนี้ดีมาก
มหาเทพยังคงฝึกในเคล็ดความรู้ลึกลับ
กระบวนการกลายเป็นมหาเทพมีน้อยมากที่จะทำโดยผ่านเคล็ดความรู้ลึกลับบรรดามหาเทพ 77 คน มีจำนวนน้อยมากที่สามารถกลายเป็นพารากอน! อย่างไรก็ตามพลังของมหาเทพก็ยังเหนือกว่าเทพพารากอนมาก เหตุผลก็คือฝ่ายหนึ่งเป็นมหาเทพขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นแค่เทพชั้นสูง
พวกเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน
พลังของมหาเทพยิ่งใหญ่เกินไป นี่เป็นอำนาจซึ่งจักรวาลประทานให้พวกเขาซึ่งไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้
“นอกจากนี้แม็กนัสยังเป็นพารากอนพลังโจมตีของเขาถูกผสมไปด้วยพลังพิเศษของเขาเองและด้วยพลังปณิธานของเทพพารากอน แม้ว่าจะไม่ทรงพลังเท่ากับมหาเทพ แต่เมื่อว่าถึงการรักษา นั่นไม่ใช่เรื่องของการแข่งพลัง” รีสเจมพูดอย่างจนใจ “จะช่วยวิญญาณได้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก นอกจากนี้แม็กนัสเองก็เป็นพารากอน... ไม่มีใครช่วยลินลี่ย์ได้”
บีบีกระวนกระวายใจอย่างหนัก
“เราไม่สามารถช่วยเขาได้แน่นอน”
บลูไฟร์ส่ายศีรษะ “เว้นต่อจอมเทพเข้าแทรกแซง แต่จอมเทพเป็นการเปรียบเทียบของวิถีต่างๆ เป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะแทรกแซงช่วยคนบางคน? นั่นเป็นไปไม่ได้สิ้นเชิง”
บีบีรู้สึกจนใจ
“แต่โอลิเวอร์ เขาหมดสติไปอย่างยาวนาน แต่ว่ายังรอดมาได้” บีบีรีบกล่าว “และวิญญาณของเขากลายสภาพ”
“ความจริงแล้ว เมื่อคนอยู่ในสภาวะหมดสตินี้ จะทำให้เกิดการกลายสภาพของวิญญาณได้” บลูไฟร์อดฝืนหัวเราะไม่ได้ “แต่บีบี! เจ้ารู้ไหม..ว่าโอกาสตายในสภาวะหมดสติก็ยังมีสูงมาก!”
บีบีกลัวมาก
“อย่างนั้นทำไมบางคนจึงมีวิญญาณกลายสภาพได้เมื่อพวกเขาไม่รู้สึกตัว?” บีบีรีบถาม
“แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริง” บลูไฟร์ส่ายหน้า “อย่างไรก็ตาม มีอยู่สิ่งหนึ่งถ้าโอลิเวอร์นั้นฝึกในกฎธาตุมืดและธาตุแสงเมื่อเขาหมดสติ ทันทีที่เขาหมดสติ.. เมื่อเขาดำเนินการกลายสภาพของวิญญาณได้สำเร็จ เขาจะหลอมรวมพลังงานสองรูปแบบนี้ได้ แต่ถ้าการกลายสภาพของวิญญาณเขาล้มเหลว เขาก็จะตาย”
“มีน้อยคนมากที่กลายเป็นวิญญาณกลายสภาพ” บลูไฟร์ถอนหายใจ “คนที่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สองร่างใช้พลังเทพสองรูปแบบและสามารถกลายสภาพวิญญาณได้สำเร็จ บางคนก็รอดชีวิต แต่โอกาสรอดต่ำจนน่ากลัว! มีเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ของแดนนรกที่รอดชีวิตจากกลายสภาพวิญญาณร่างแยกสามร่าง”
บลูไฟร์มองดูบีบี “คิดดูสิ ในแดนนรกมีคนอยู่เท่าใด? และคงอยู่มานานเท่าใดแล้ว? ผ่านมาหลายยุคนับไม่ถ้วนแดนนรกมีผู้ประสบความสำเร็จในการกลายสภาพวิญญาณของสามร่างแยกเพียงคนเดียว โอกาสตายสูงมากขนาดไหน?”
บีบีร่างสั่นสะท้าน
“อย่างนั้นร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สี่ร่างจะเป็นยังไง?” บีบีในตอนนี้หวาดกลัวอย่างแท้จริง เพราะลินลี่ย์มีร่างแยกสี่ร่าง ลินลี่ย์สามารถใช้พลังเทพได้สี่รูปแบบ
“ตลอดหลายปีนับไม่ถ้วนในจักรวาลทั้งหมดพิภพโลกธาตุนับไม่ถ้วนไม่มีใครสักคนที่มีสี่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์และจะประสบความสำเร็จในการกลายสภาพวิญญาณ” บลูไฟร์มีสีหน้าเคร่งขรึม “โอกาสสำเร็จเป็นศูนย์!”
หน้าของบีบีซีดขาวทันที
“แต่เพราะคนผู้หนึ่งไม่ได้สติไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะดำเนินการกลายสภาพวิญญาณ” รีสเจมรีบปลอบเขา “ก็อย่างที่เจ้าพูด เดเลียหมดสติไปเช่นกันแต่ก็ยังกลับมามีชีวิตโดยไม่มีการกลายสภาพวิญญาณไม่ใช่หรือ?”
“นั่นเป็นเพราะเดเลียมีเพียงร่างเดียว” บลูไฟร์พูดอย่างจริงจัง “แต่แน่นอนว่ายังมีความเป็นไปได้ที่บางคนที่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์พอหมดสติแล้วไม่จำเป็นต้องดำเนินการกลายสภาพวิญญาณ”
รีสเจมไม่สามารถพูดอะไรอื่นได้ ได้แต่ฝืนหัวเราะ
ร่างหลักของลินลี่ย์ทนทุกข์ทรมานจากพลังโจมตีพร้อมกับร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม บรรดาร่างแยกทั้งสี่มีเพียงร่างเดียวที่โชคดีรอดอยู่ก็คือร่างแยกธาตุไฟซึ่งยังรั้งอยู่ในทวีปยูลาน ถ้าร่างหลักและร่างแยกทั้งสามตายหมด... บีบีเข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่ลินลี่ย์จะไปถึงจุดสุดยอดของพลังอีกครั้ง บีบีเข้าใจดีว่าส่วนลึกของหัวใจลินลี่ย์เขายังปรารถนาไปให้ถึงพลังสุดยอด
นี่คือความต้องการแรกสุดของลินลี่ย์
ความจริงนั่นคือความปรารถนาของเดลิน โคเวิร์ท
เมื่อเดลิน โคเวิร์ทได้ให้คำแนะนำสั่งสอนลินลี่ย์ เขาฝากความหวังและความปรารถนาของเขาเองไว้กับลินลี่ย์ เขาหวังว่าลินลี่ย์จะต้องไปถึงจุดสุดยอดของพลังได้สักวัน สิ่งที่เดลินโคเวิร์ทหวังไว้ตอนนั้นก็คือสักวันลินลี่ย์จะไปถึงได้ในระดับเดียวกับเทพสงครามและมหาพรต แต่ตอนนี้ลินลี่ย์ก้าวข้ามพวกเขาไปไกลมาก
นอกจากนี้ความปรารถนาจะไขว่คว้าความสมบูรณ์พร้อมฝังลึกถึงกระดูกลินลี่ย์
“อย่างนั้น..อย่างนั้นเราควรทำยังไง?” บีบีแตกตื่น
“ไม่มีอะไรที่เราทำได้” บลูไฟร์ส่ายหน้า “สุดยอดวิชาของเทพพารากอน ไม่มีใครช่วยคนที่โดนโจมตีทำร้ายได้ เราแค่ต้องรอและดูว่าลินลี่ย์สามารถทำอะไรได้ ถ้าวิญญาณของลินลี่ย์ไม่ดำเนินการกลายสภาพ ก็ยังคงมีโอกาสรอดบ้าง แต่..ทันทีที่วิญญาณของลินลี่ย์เริ่มเปลี่ยนแปลง..เป็นไปได้ว่าเขาจะตายแน่นอน”
บลูไฟร์ถอนหายใจ
สำหรับคนที่มีร่างแยกถึงสี่ร่างและดำเนินการกลายสภาพวิญญาณ โอกาสสำเร็จเป็นศูนย์!
“คนอื่นอาจทำไม่สำเร็จ แต่นั่นไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดขึ้นกับพี่ใหญ่ข้า” บีบีรีบกล่าว
บลูไฟร์ส่ายหน้าเล็กน้อย “เราหาที่พักกันก่อนไม่ว่าวิญญาณของลินลี่ย์จะกลายสภาพได้สำเร็จหรือล้มเหลว นั่นขึ้นอยู่กับวาสนาแล้ว”
ทวีปยูลาน
ปราสาทเลือดมังกร
“ลินลี่ย์! เป็นอะไรไป?” เดเลียมองดูร่างลินลี่ย์สีแดง
ลินลี่ย์ธาตุไฟมีสีหน้าที่ดูน่ากลัว เขาส่ายหน้ากล่าว“ร่างหลักของข้าและร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามสูญเสียสำนึกไปแล้ว” วิญญาณของเขาถูกแบ่งออกเป็นห้าส่วนแต่ละส่วนเชื่อมโยงถึงกัน แต่ตอนนี้ร่างแยกธาตุไฟไม่สามารถรู้สึกถึงสำนึกของร่างหลักของเขาและร่างแยกศักดิ์สิทธิ์อื่น สถานการณ์วิกฤติมาก
“อะไรนะ!” หน้าของเดเลียเปลี่ยนไป
“เมื่อครู่นี้แม้ข้าคิดว่าร่างหลักและร่างแยกทั้งสามคงตายไปแล้ว แต่สิ่งที่แปลกก็คือหลังจากทุกข์ทรมานจากพลังโจมตีของแม็กนัส พวกเขายังไม่ตาย สถานการณ์ยังน่ากลัวอยู่ วิญญาณทั้งสี่ส่วนอ่อนแอมาก ไฟชีวิตพวกเขาอาจดับได้ทุกเมื่อ” ลินลี่ย์ธาตุไฟมีสีหน้าเคร่งขรึม ร่างหลักและร่างแยกอีกสามร่างของเขาสูญเสียสำนึก ปกติลินลี่ย์ไม่รู้ว่าเป็นเพราะศิลาวิญญาณที่ช่วยรักษาพลังชีวิตเอาไว้
เดเลียหน้าซีดเผือด นางกังวลไม่น้อย
“ลินลี่ย์, เจ้าและร่างแยกทั้งสามยังไม่ตายใช่ไหม?” เดเลียรู้ดีว่าถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้นก็เป็นเครื่องหมายว่าอนาคตของลินลี่ย์ถูกทำลาย ร่างแยกธาตุไฟที่ยังอยู่รอดเป็นร่างที่อ่อนแอ เดเลียเข้าใจ..ว่าลินลี่ย์ต้องการมีพลังแข็งแกร่ง เขาจะไม่ยอมรับความอ่อนแอ
“ข้าไม่รู้”
ลินลี่ย์ธาตุไฟหลับตาและพูด “ว่าเป็นหรือตาย...”
สมรภูมิมหาพิภพยังคงเงียบเหมือนเช่นเคยและมีเสียงต่อสู้บ้างเป็นครั้งคราว
ภายในภูเขารกร้าง
เรย์โฮมได้รับการติดต่อจากรีสเจมผ่านพลังมหาเทพและเขากลับมานานแล้ว บลูไฟร์ บีบีเรย์โฮมและรีสเจมอยู่พร้อมหน้ากันในห้องนั่งเล่น ขณะที่ลินลี่ย์อยู่ในห้องใกล้ๆ นอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบงันไม่มีร่องรอยชีวิตอยู่ในร่างของเขา
“ผ่านไปเจ็ดวันเต็มแล้ว ลินลี่ย์ยังไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย” รีสเจมขมวดคิ้ว
“ท่านเลย์ลิน ช่วยดูอีกครั้งได้ไหม?” บีบีรีบกล่าว
ในสี่คนนี้มีเพียงบลูไฟร์ที่กล้าตรวจสอบวิญญาณลินลี่ย์ ที่สำคัญวิญญาณของลินลี่ย์ในตอนนี้อ่อนแอมาก อ่อนแอกว่าวิญญาณคนธรรมดาเสียอีก อ่อนแอจนถ้าใครไม่ระมัดระวังอาจเป็นไปได้ว่าจะทำให้วิญญาณของลินลี่ย์ถูกลบหายไปอย่างสิ้นเชิง
“ข้าจะไปดู”
บลูไฟร์ก้าวเข้าไปในห้อง
“ข้าหวังว่าพี่ใหญ่จะมีความก้าวหน้า ข้าหวังว่าพี่ใหญ่จะก้าวหน้าได้” บีบีพูดซ้ำๆ
ครู่ต่อมาบลูไฟร์เดินออกมา หน้าผากของเขาย่นเป็นร่อง
“เป็นยังไงบ้าง?” บีบีรีบถาม
บลูไฟร์ส่ายหน้าเล็กน้อย “พลังมหาเทพวิถีชะตาซึ่งท่วมอยู่ในวิญญาณของลินลี่ย์อ่อนกำลังลงมาก และโดยเฉพาะศิลาวิญญาณลดขนาดลงมากเช่นกัน” ศิลาวิญญาณถูกสร้างจากแก่นพลังวิญญาณของมหาเทพเรดบุด ยิ่งพลังของมันถูกใช้ไปมากก็จะมีขนาดเล็กลง
เมื่อพลังงานของมันถูกใช้หมดไปศิลาวิญญาณจะหายไป
“ศิลาวิญญาณลดขนาดลงมากหรือ?” บีบีก้มหน้าเม้มริมฝีปากไม่รู้ว่าคิดอะไร
พลังมหาเทพวิถีชะตาซึ่งเจาะเข้าไปในวิญญาณของลินลี่ย์หายไปแล้ว แต่ศิลาวิญญาณกำลังลดขนาดลงเช่นกัน
สิบห้าวันที่ลินลี่ย์อยู่ในอาการวิกฤติ
ภายในถ้ำ
“พลังมหาเทพวิถีชะตาหายไปเกือบหมดแล้ว” บลูไฟร์มีรอยยิ้มที่ยากจะเห็นได้ในใบหน้า “แต่ยังมีศิลาวิญญาณเหลืออยู่เล็กน้อย แน่นอนว่าศิลาจะยังคงอยู่ได้ในที่สุดข้าคาดว่าพลังมหาเทพโจมตีวิญญาณของแม็กนัสจะหายไปวันนี้”
หน้าของบีบีมีรอยยิ้มประหลาดใจที่ยากจะเห็น
“อย่างไรก็ตามหลังจากพลังมหาเทพวิถีชะตาหายไปก็ยากจะบอกได้ว่าลินลี่ย์จะฟื้นขึ้นหรือไม่ เนื่องจากวิญญาณยังสูญเสียสำนึกอยู่ ยากจะบอกได้ว่าสถานการณ์แบบนี้จะคงอยู่นานเท่าใด” บลูไฟร์ส่ายศีรษะ
บีบีพยักหน้าเล็กน้อย
“ทุกคน, สบายใจได้ อย่างน้อยก็ยังมีหวังว่าลินลี่ย์จะฟื้นขึ้น” รีสเจมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ใช่แล้ว ยังพอมีความหวัง” บีบีพยักหน้าหนักแน่น
ขณะที่รีสเจมและบีบีกำลังรอคอยด้วยความคาดหวัง ทันใดนั้นทุกคนรู้สึกถึงระลอกพลังจากห้องของลินลี่ย์ “หรือว่าพี่ใหญ่กำลังตื่น?” บีบีดีใจ
“เกิดอะไรขึ้น?” บลูไฟร์เป็นคนแรกที่เข้าไปในห้อง
บีบี รีสเจมและเรย์โฮมตามเขาเข้าไป ภายในห้องลินลี่ย์ยังนอนนิ่งอยู่กับที่อย่างสงบไม่มีร่องรอยของชีวิตออกมาจากร่างของเขา
แต่ร่างของเขาตอนนี้คลุมไปด้วยแก่นธาตุต่างๆ แก่นธาตุดินสีเหลือง แก่นธาตุไฟสีแดง แก่นธาตุลมสีเขียวอ่อนแก่นธาตุน้ำสีฟ้าอมเขียว แก่นธาตุปริมาณมากของธาตุทั้งสี่เหล่านี้ถูกร่างลินลี่ย์ดูดรั้งเข้ามาและธาตุเหล่านั้นม้วนเป็นเกลียวอยู่รอบเขา
แม้ว่าบีบีไม่รู้ว่าร่างของโอลิเวอร์จะดึงดูดแก่นธาตุทั้งสองแบบในยามหมดสติหรือไม่ แต่บีบีรู้อยู่อย่างหนึ่ง...มีความเป็นไปได้ว่าลินลี่ย์กำลังอยู่ในช่วงการกลายสภาพของวิญญาณ
“วิญญาณกลายสภาพ?” บลูไฟร์ไม่เคยเห็นการกลายสภาพมาก่อน แต่เมื่อเห็น เขาคาดเดาได้
บีบีจ้องมองลินลี่ย์ที่ไม่ได้สติ น้ำตาคลอเบ้า
ภายใต้การกลายสภาพของวิญญาณที่มีร่างแยกสี่ร่าง? จนถึงวันนี้ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จสักคน