ตอนที่ 19-46 สงครามยังไม่จบ
พื้นที่รกร้างมีคนสามคนกำลังเดินเคียงไหล่ไปตามพื้นที่
“ท่านแม็กนัส! ตรงนี้แหละ” โอมานกล่าว
แม็กนัสมองไปรอบๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย “เมื่อกลุ่มของรีสเจมสี่คนไล่ตามพวกเจ้าทั้งสามพวกเขาแยกย้ายกันและแยกกันโจมตี อย่างนั้นจากตรงนี้เป็นศูนย์กลางมาเริ่มค้นหาพื้นที่เป็นวงกลมกัน” แม็กนัสเชื่อว่ากลุ่มของรีสเจมไม่ควรจะไปไกลนัก พวกเขาน่าจะพักอยู่ในที่ใกล้ๆ
“ขอโทษที่ต้องรบกวนท่านแม็กนัส” เชกวินหัวเราะ
“ข้าแค่คิดว่าออกไปเดินเล่น” แม็กนัสพูดหัวเราะอย่างสบายใจ “แต่ถ้าเราจะทำเช่นนี้ เจ้าต้องเตรียมตัวเจ้าให้ดี อาจจะต้องใช้เวลานานมาก”
ถ้าหลายอย่างดำเนินการไปได้เร็ว อาจจะใช้เวลาวันหรือสองวัน แต่ถ้ารีสเจมพักไกลออกไปเป็นแสนกิโลเมตรบางทีพวกเขาอาจต้องใช้เวลามากกว่าร้อยปี
“ท่านแม็กนัส ถ้าท่านยังอดทนรอได้เราสองคนจะใจร้อนได้ยังไงในเมื่อเรามาพร้อมกับท่าน?” เชกวินและโอมานติดตามแม็กนัสและตรวจรอบตัวพวกเขาอย่างระมัดระวัง กล่าวโดยทั่วไปรัศมีสำนึกเทพของผู้บัญชาการค่อนข้างเล็ก แต่สำหรับของนักสู้วิญญาณกลายสภาพหรือพารากอนหรือผู้ใช้พลังมหาเทพรัศมีจะใหญ่กว่ามาก
ที่สำคัญเทพชั้นสูงพารากอนมีพัฒนาการวิญญาณเช่นกัน
สามคนเริ่มจากจุดนี้และขยายวงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นเรื่องที่น่าเบื่อแต่แม็กนัสไม่รีบร้อนแม้แต่น้อยและยังดำเนินการตามแผนอย่างสบายใจเหมือนกับว่าเขาเดินเที่ยวชมสมรภูมิมหาพิภพ
เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน และในพริบตาเดียวผ่านไปสามเดือน
ระหว่างการเดินทางของพวกเขา ทุกครั้งที่แม็กนัสพบเจอภูเขาหรือยอดเขาเขาจะค้นหาลึกลงไป วันนี้พวกเขามาถึงภูเขาเขาแกะ!
“ภูเขาเขาแกะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ข้าจะต้องใช้เวลาตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มสักเล็กน้อย” แม็กนัสสั่งพวกเขาและจากนั้นเขาบินเข้าไปใกล้ภูเขาเขาแกะ ตอนแรกเขายืนอยู่ที่เชิงภูเขาเขาแกะทำการตรวจสอบอย่างรอบคอบ แต่ครู่ต่อมาเสียงของเขาดังขึ้นในใจของโอมานและเชกวิน “ฮ่าฮ่า.. พวกเจ้าทั้งสองคนมาที่นี่ ข้าพบพวกเขาแล้ว”
หลังจากค้นหาเป็นเวลาสามเดือน แม้แต่แม็กนัสก็รู้สึกมีความสุขที่ได้พบเป้าหมาย
“พบพวกเขาแล้วหรือ?”
โอมานและเชกวินมีท่าทีดีใจและมีเสียงหัวเราะดังขึ้นขณะที่พวกเขาเข้ามาหาทันที
“พวกเจ้าทั้งสองคนอย่าเพิ่งทำอะไร” แม็กนัสสั่งในใจ
ในฐานะเทพพารากอน พลังวิญญาณของเขาขยายขอบเขตอีกครั้งเว้นแต่เทพพารากอนตั้งใจเปิดเผยรัศมีวิญญาณของเขา ตราบเท่าที่เขาระมัดระวังผู้บัญชาการจะไม่สามารถรู้สึกถึงตัวเขาได้เลยแม้แต่น้อย ในเบื้องต้นเมื่อไบเออร์กำหนดตำแหน่งลินลี่ย์และพวกได้ เขาจะใช้วิธีเดียวกัน
เพียงแต่หลังจากไบเออร์จงใจเปิดเผยรัศมีพลังของเขาทำให้ลินลี่ย์และพวกตระหนักว่าเขามาแล้ว จากนั้นไบเออร์จึงเข้าไปในทางเดิน
“ทั้งสี่คนชุมนุมอยู่ด้วยกันในที่เดียวและคุยกัน รีสเจมและอีกสี่คนรู้จักหาความสนุกให้ตัวเองจริงๆพวกเขาสร้างสิ่งก่อสร้างที่น่าประทับใจเพื่อตัวเองภายใน” แม็กนัสหัวเราะอยู่ในใจ ขณะต่อมาแม็กนัสพูดด้วยน้ำเสียงเข้าใจ “โอว, หนูกินเทพนั่นชื่อบีบี อีกสองคนชื่อลินลี่ย์กับเรย์โฮม”
เห็นได้ชัดว่าเขารู้ชื่อพวกเขาจากการสนทนาของพวกเขา
“ลินลี่ย์ บีบี เรย์โฮม?” เชกวินและโอมานจดจำชื่อนี้ไว้ ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ทราบชื่อศัตรู
“เตรียมตัวลงมือ” แม็กนัสกล่าวพลางหัวเราะอย่างใจเย็น “ทำตามที่ข้าแนะนำ...” แม็กนัสให้ภารกิจกับโอมานและเชกวินไปดำเนินการ
ภายในที่พักในภูเขาเขาแกะ
หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีได้ชัยชนะ กลุ่มของลินลี่ย์กลับมาถ้ำสร้างภายในภูเขาเขาเขาแกะอีกครั้ง กลุ่มของลินลี่ย์สี่คนมีความสุขเพลิดเพลินอยู่ที่นี่ ร่างแยกอื่นของลินลี่ย์เพ่งอยู่กับการฝึกฝน ขณะที่ร่างหลักของเขาอยู่พูดคุยกับบีบีและรีสเจม
“มา...ดื่ม” รีสเจมหัวเราะขณะชูแก้ว
ลินลี่ย์บีบีและเรย์โฮมหัวเราะร่าเริงยกแก้วดื่มฉลองและวางพร้อมกัน
“บีบี, ในฐานะพี่เจ้าข้าไม่ต้องการข่มเจ้า” รีสเจมตบไหล่บีบีจากนั้นหัวเราะ “แต่ดูข้าสิ ข้ายังใช้เวลาฝึกเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่มาสนุกกับทุกคนได้เป็นครั้งคราว แต่เจ้าเล่า? ทันทีที่เจ้าฝึกได้วันหรือสองวัน เจ้าก็หมดความอดทนฝึกต่อเสียแล้วเจ้าจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดกว่าจะหลอมรวมแบบนี้ได้?”
“หลอมรวม?” บีบีลูบจมูก จากนั้นหัวเราะ “ช่างเถอะ,ยิ่งกินประกายเทพมากเอาไปเสริมร่างกายข้าให้ถึงขีดจำกัด เกี่ยวกับเรื่องที่ปู่บอกข้ายังอยู่ห่างจากขีดจำกัดอีกมาก มันยากสำหรับข้าในการเริ่มสร้างอาวุธประกายเทพเอง” ขณะที่เขาพูด บีบีคว้าประกายเทพชั้นสูงจากนั้นโยนใส่ปาก
บีบีได้ประกายเทพชั้นสูงมามากจากเบรุต ประกายเทพชั้นสูงสำหรับเบรุตถือว่าไม่มีอะไรเลย ที่สำคัญกล่าวตามธรรมดาประกายเทพไม่สามารถทำลายได้ คนอื่นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นจำนวนประกายเทพในยมโลกแดนนรกและสถานที่อื่นจึงมีเพิ่มต่อเนื่อง
แต่แน่นอนว่ามหาเทพจะเก็บประกายเทพเช่นกันเพื่อลดจำนวนประกายเทพในที่ต่างๆ มิฉะนั้นถ้ามีประกายเทพมากเกินไปก็จะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า สิ่งที่มหาเทพทำก็คือรวบรวมประกายเทพให้มากและพอได้จำนวนหนึ่ง จอมเทพจะมาเก็บรับไป
ถ้าเบรุตต้องการประกายเทพ เขาสามารถได้รับเป็นจำนวนมากจากมหาเทพเพื่อให้บีบีได้กิน
“กินประกายเทพ นั่นก็น่าทึ่ง” รีสเจมถอนหายใจชื่นชม “ข้าอยากทำบ้างเหมือนกัน แต่ข้าทำไม่ได้”
บีบีตกใจ จากนั้นก้มมองดูประกายเทพที่เขาถือไว้ เขาเริ่มหัวเราะทันที “รีสเจมข้าไม่ทันสังเกตมาก่อนว่าเจ้าพูดอะไร แต่เมื่อเจ้าพูดถึงข้ารู้สึกจริงๆว่าการกินประกายเทพเป็นความสามารถเฉพาะที่คนอื่นทำไม่ได้นอกจากข้า อือและมีปู่ของข้าด้วย” ขณะเขาพูดบีบีโยนประกายเทพขึ้นในอากาศและหล่นลงมาเข้าไปในปากของเขา
หลังจากกินแล้ว บีบีเลิกคิ้วมองลินลี่ย์และรีสเจม
ลินลี่ย์เมื่อเห็นเช่นนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้
ก่อนหน้านี้ลินลี่ย์แบกรับภาระมากมายแต่ตอนนี้ชีวิตของลินลี่ย์ค่อนข้างดำเนินไปอย่างง่ายดาย ที่สำคัญเขาได้รับป้ายผู้บัญชาการสี่ป้ายแล้ว “ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำก็คือรอช้าๆ จนกว่าจะได้บทสรุปของสงครามสุดท้าย” ลินลี่ย์ไม่ได้เตรียมตัวเข้าร่วมรบครั้งสุดท้ายแม้แต่น้อย
หลังจากได้รับป้ายผู้บังคับบัญชาพอแล้ว ลินลี่ย์อย่างมากก็ดูสงครามสรุปผลครั้งสุดท้าย ลินลี่ย์ไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถได้รับป้ายผู้บัญชาการมากกว่าสิบและเอาไปแลกกับสมบัติมหาเทพ
ขณะนั้นเอง...
“เอ๊ะ? สำนึกเทพ?” กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนลุกขึ้นยืนตะลึง พวกเขารู้สึกได้ถึงสำนึกเทพที่ทรงพลังกวาดผ่านมาทางพวกเขา สิ่งที่กลุ่มของลินลี่ย์ไม่รู้ก็คือ...นี่คือสำนึกเทพที่แม็กนัสตั้งใจเปิดเผยหลังจากตรวจสอบดูเป็นเวลานานและเตรียมการรบ
“ไม่เป็นพารากอนก็คงเป็นเทพชั้นสูงวิญญาณกลายสภาพ” ลินลี่ย์ได้ข้อสรุปนี้ทันที
“ปัง!” เสียงระเบิดดังอย่างรุนแรง
“รีสเจม!” เสียงอ่อนโยนดังขึ้นกลุ่มของลินลี่ย์สี่คนมองผ่านประตูไปที่ลานว่าง พวกเขาสามารถเห็นคนสามคนกำลังบินเข้ามาถึงที่ลานว่างทันที กลุ่มของลินลี่ย์ตั้งใจมองคนกลุ่มนี้ ผู้นำเป็นบุรุษหน้าขาวซีดไร้เครามีคิ้วสีขาวลู่ลง เมื่อเห็นคนผู้นี้กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนกลัวทันที
“เราพบกันอีกแล้ว” โอมานหัวเราะเย็นชา
“เป็นสามคนนี้จริงๆ” ลินลี่ย์รู้บางอย่างเกี่ยวสุดยอดฝีมือ “ผู้นำคือแม็กนัส คาดกันว่าเป็นเทพพารากอนตัดสินจากสำนึกเทพที่เขาเพิ่งส่งออกมา เขาคงจะเป็นเทพพารากอนจริงๆ ข้างเขาก็คือโอมานและเชกวิน ร่างจริงของเชกวินเป็นอสูรวิเศษ ‘ราชสีห์กลืนฟ้า’ ที่น่ากลัว!”
เชกวินรับมือยากกว่าโอมาน! สำหรับแม็กนัส เขายิ่งไร้เทียมทาน
การมาถึงของคนทั้งสามทำให้กลุ่มลินลี่ย์รู้สึกหวาดกลัว
“เฮ้, พวกเจ้าจะทำอะไร?” รีสเจมก้าวออกมาและตะโกนลั่น ขณะที่รีบส่งสำนึกเทพบอกลินลี่ย์และคนอื่น “สถานการไม่ดี แม็กนัสนั้นเป็นเทพพารากอน เชกวินมีสมบัติเทพปกป้องวิญญาณซึ่งบีบีไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าเราสู้กับพวกเขาเราไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย มีแต่ต้องหนีเท่านั้น! เราจะกระจายกันหนีไปในทุกทิศยิ่งหนีได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี”
“เราจะทำอะไรน่ะหรือ?” แม็กนัสหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“ปัง!” พื้นหินอ่อนราบสีเทาพลิกตัวเหมือนถูกพายุกวาดพัดเข้าหาแม็กนัสและพวกอีกสองคนป้องกันสายตาของพวกเขาไว้
“หนี!” รีสเจมร้องบอกแตกตื่น
ลินลี่ย์ บีบี และเรย์โฮมไม่คิดจะสู้ ไม่ลังเลแม้แต่น้อยพวกเขาหันหลังหนีวิ่งทะลุผนังหินทันที
“พี่ใหญ่! หนีเร็วตอนนี้ท่านกับเรย์โฮมตกอยู่ในอันตราย” บีบีส่งสำนึกเทพเตือน บีบียังเข้าใจว่าในบรรดาสี่คนเขาเป็นคนที่มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด คนอื่นไม่สามารถฆ่าเขาได้ ขณะที่รีสเจม คนอื่นไม่กล้าฆ่าเขา ดังนั้นลินลี่ย์และเรย์โฮมตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายมากที่สุด”
ร่างของลินลี่ย์ผสานเข้ากับผนังหินโดยตรงและจากนั้นผ่านเข้าไปด้วยความเร็วสูง
ทักษะเดินเดิน!
“พวกเจ้าไม่มีใครที่หนีไปได้!” เสียงเยือกเย็นดังขึ้น ขณะเดียวกันในรัศมีหลายร้อยเมตรภูเขาศิลาเริ่มถล่มทลายกลายเป็นผุยผง ที่แปลกก็คือส่วนหนึ่งของภูเขาเขาแกะหายไป และศิลามากมายร่วงลงมาร่างที่กำลังหนีของลินลี่ย์และคนอื่นถูกเปิดเผยทันที
“พลังอะไรกันนี่?” ลินลี่ย์ตะลึง
นี่คือพลังประเภทจำกัดพื้นที่ พลังที่ทำให้คนอื่นยากจะต่อต้านได้ หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไป “วิถีชะตา!” ลินลี่ย์รู้ว่าในบรรดาสี่วิถี วิถีชะตาแข็งแกร่งที่สุด เป็นวิถีที่น่ากลัวที่สุด วิถีชะตาฝึกได้ยากมาก ‘เวทศักดิ์สิทธิ์’ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการใช้คำสั่งวิถีชะตายังไม่ถือว่าเป็นพื้นฐานของวิถีชะตาด้วยซ้ำ
เทพพารากอนที่ฝึกมาทางสายวิถีชะตารับมือยากกว่าเทพพารากอนอื่น
สองร่างบินเข้ามาด้วยความเร็วสูง ‘ควั่บ’ ‘ควั่บ’สองคนที่บุกเข้ามานี้จ้องมองลินลี่ย์และคนอื่นอย่างเย็นชา
“เจ้าไม่มีทางหนีได้ ข้าบอกเจ้าไปแล้ว” แม็กนัสพูดอย่างเย็นชา
“แม็กนัส! เจ้าจะทำอะไร” รีสเจมพูดอย่างโมโห คนที่ฝึกมาทางวิถีชะตายากจะรับมือได้ แม็กนัสยังรับมือยากกว่าไบเออร์เสียอีก!
“ไม่ต้องต้องห่วง ข้าเพียงแต่จัดการกับสองคนนี้...” แม็กนัสชี้ไปที่ลินลี่ย์และเรย์โฮมขณะหัวเราะ “ลินลี่ย์กับเรย์โฮม เมื่อเราฆ่าสองคนนั้นเสร็จ เรื่องนี้ก็จบ รีสเจม,เจ้ากับอีกคนรั้งอยู่ในสมรภูมิมหาพิภพต่อไปได้”
“ฝันไปเถอะ!” บีบียืนข้างลินลี่ย์คำรามด้วยความโกรธ
ลินลี่ย์จ้องมองโอมานด้วยความสงสัย จากนั้นก็เป็นแม็กนัสที่อยู่ใกล้ ลินลี่ย์รู้ว่าครั้งนี้หลายอย่างน่ากลัวจริงๆ! แม็กนัสเป็นเทพพารากอน ขณะที่โอมานและเชกวินก็น่ากลัวมาก เอาชีวิตรอดได้ยังเป็นเรื่องยาก
“ถ้าท่านเลย์ลินอยู่ที่นี่คงจะมีความหวังบ้าง แต่แม้ว่าท่านเลย์ลินรู้ว่าข้าตกอยู่ในอันตราย เขาคงต้องใช้เวลามากกว่าจะมาถึง” ลินลี่ย์รู้ดีว่าแม้แต่มหาเทพก็ยังไม่สามรถเทเลพอร์ตได้มากกว่าพารากอนสักเท่าใด
ครั้งนี้นับว่าอันตรายมาก
“แม็กนัส! เจ้า..” รีสเจมกำลังจะพูด
แม็กนัสตะคอก “รีสเจม, เจ้าอย่าขวางเป็นดีที่สุด ด้วยความสำเร็จในพลังวิญญาณของข้า ไม่ใช่เรื่องยากถ้าจะฆ่าเจ้า จงยืนดูอยู่เฉยๆ”
อาการสนองตอบต่อแม็กนัสของรีสเจมก็คือใช้หอกสีม่วงพุ่งใส่เขา
“น่าเบื่อ” แม็กนัสโบกมือ และแส้ยาวปรากฏขึ้น แส้ยาวม้วนตัวในอากาศและพันรอบหอกจากนั้นม้วนตัวยาวลงไปหารีสเจม ไวมากจนในขณะที่รีสเจมเตรียมใช้ทักษะเทพธรรมชาติเขาถูกแส้ยาวมัดเอาไว้
ทันใดนั้นรีสเจมถูกแส้เงินยาวมัดตัวอย่างแน่นหนา
“เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้า” แม็กนัสพูดอย่างใจเย็น
“ลงมือ” แม็กนัสสั่งโอมานและเชกวิน
ลินลี่ย์และเรย์โฮมไม่หนี เพราะพวกเขารู้ว่าอยู่ต่อหน้าแม็กนัส พวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้ ในแง่ฝีมือและความเร็วพวกเขาเหนือกว่ามากมาย เมื่อพวกเขาหนีจากการโจมตีของไบเออร์ พวกเขาสามารถทำได้เพียงเพราะเป้าหมายของไบเออร์อยู่ที่บีบี เขาไม่ต้องการฆ่าคนอื่น
แต่ครั้งนี้กลับตรงกันข้าม แม็กนัสไม่ต้องการฆ่าบีบีหรือรีสเจม แต่เป็นลินลี่ย์และเรย์โฮม
ลินลี่ย์และโอมานจ้องมองหน้ากัน
“เขาต้องการฆ่าข้า แต่ให้ข้าตาย ข้าจะเอาโอมานไปพร้อมกับข้า” ลินลี่ย์แปลงร่างเป็นมังกรพร้อมกับเสียงดัง ‘ปัง’ ทำให้พลังมหาเทพสายทำลายล้างแผ่ออกจากร่างของเขาทันที
ร่างของโอมานก็มีพลังมหาเทพลุกโพลงเหมือนกัน โอมานหัวเราะเย็นชาใส่ลินลี่ย์ “งั้นเจ้าก็คือลินลี่ย์ ครั้งก่อนข้าปล่อยให้เจ้าหลบหนีไปได้ ครั้งนี้เจ้าไม่มีทางหนีไปได้
“การสู้ครั้งสุดท้ายของเรายังไม่จบ ครั้งนี้มาสู้กันต่อ” ลินลี่ย์จ้องมองโอมานอย่างเย็นชา ก่อนนี้ลินลี่ย์ยังฝีมือห่างจากโอมานมาก แต่เดี๋ยวนี้พอลินลี่ย์หลอมรวมสี่เคล็ด ผลการสู้ครั้งนี้จะเป็นเช่นไร?