ตอนที่ 19-44 ผลการต่อสู้
ศพของมอนเตโลนอนอยู่บนพื้น พื้นที่นี้ยังคงเงียบสนิทมีเสียงลมหนาวหวีดหวิวเป็นครั้งคราว
ลินลี่ย์เก็บป้ายประจำตัวสีทองพร้อมกับยิ้ม “นี่คือป้ายทองที่สองที่เราได้รับในศึกนี้!” ในขณะนี้สิ่งเดียวที่ลินลี่ย์เห็นก็คือป้ายทองนี้ สำหรับเกราะสมบัติมหาเทพของมอนเตโล ลินลี่ย์แค่เหลือบมองผ่านไป เกราะสมบัติมหาเทพนี้มหาเทพจะทวงคืนในเวลาต่อมา
บีบีวิ่งมาสมทบพูดด้วยความตื่นเต้น “พี่ใหญ่ ชิ้นที่สองแล้ว! ก่อนนี้เมื่อสตรีผมเขียวตายป้ายทองนั้นเป็นของรีสเจม นี่ก็จะเป็นของเรา ตอนนี้เรามีป้ายผู้บัญชาการรวมสี่ป้ายแล้ว!”
“ใช่แล้ว, สี่ป้าย! พ่อของข้า พี่ใหญ่เยลจอร์จและพี่ชายของเดเลีย เรามีเพียงพอแล้ว!” ลินลี่ย์ถอนหายใจโล่งอก
บีบียิ้มเช่นกัน
“พี่ใหญ่, ท่านคิดว่าปู่เดลินจะกลับมามีชีวิตได้ไหม?” บีบีพูดทันที
ลินลี่ย์อึ้ง
“ปู่เดลิน?” ภายในใจของลินลี่ย์ เหตุการณ์จากสองพันปีที่แล้วกลับมาปรากฏอีกครั้ง เวลานั้นเขาเป็นแค่เด็กน้อยธรรมดาเด็กหนุ่มที่ปู่เดลินแนะนำช่วยให้เติบโต
ในชีวิตของลินลี่ย์ปู่เดลินและบีบีถือว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะกี่พันปี หมื่นปี หรือเวลาจะผ่านไปมากก็ตาม ลินลี่ย์ไม่เคยลืมปู่เดลิน ความตายของปู่เดลินฝังเป็นบาดแผลลึกในใจของลินลี่ย์ยากจะลบเลือน
“วิญญาณของปู่เดลินสลายไปแล้ว” ลินลี่ย์พูดพลางถอนหายใจ
“ถ้าวิญญาณคนสลายไปนั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกหรือ?” บีบีไม่ยินยอมจะรับผลเช่นนี้
“เพียงแต่เมื่อวิญญาณยังเหลือรอดอยู่ก็สามารถไปอยู่ในรูปของภูตผีได้” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “บีบี พอแค่นี้ก่อนเถอะ ไปหาเรย์โฮมและรีสเจมกัน”
ความตายของปู่เดลิน..ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ลินลี่ย์รู้สึกทรมานและทุกข์ใจ
“ก็ได้” บีบีหยุดพูดเรื่องนี้ ติดตามลินลี่ย์ไปทันที พวกเขาตรงไปยังที่ซึ่งพลังมหาเทพทะลักออกมา
ข้างภูเขารกร้างเรย์โฮมกับโชวีย์กำลังสู้รบกันอย่างหนัก
เรย์โฮมแปลงร่างเป็นยักษ์สูงสิบเมตร ตลอดทั้งร่างแข็งแกร่งเหมือนเหล็ก ราชาในเผ่าพันธุ์ไตตันดิน!
สายตาที่ดุร้ายของเรย์โฮมจ้องมองคนตัวเล็กที่อยู่ข้างหน้าเขา แขนทั้งสองของเขาเป็นเหมือนดาวตกกระแทกใส่ครั้งแล้วครั้งเล่าบางครั้งก็เหยียบย่ำ บางครั้งก็เตะถีบ การเคลื่อนไหวง่ายๆแต่ละครั้งจะทำให้มิติสั่นสะเทือน แผ่นดินบางครั้งก็ลอยขึ้น บางครั้งก็ยุบลงเป็นไปตามความต้องการของเรย์โฮม
“วูบบบ!” โชวีย์ยังคงหลบอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
“พลังโจมตีของเจ้ายักษ์นี่แข็งแกร่งมากเหลือเกินโดยเฉพาะหลังจากที่เขาแปลงร่างแล้วความเร็วของข้ายังด้อยกว่าเขา” โชวีย์ตื่นตระหนกอย่างหนัก และแสงสีขาวคลุมรอบร่างของกระจายออกเหมือนกับไหมแสง คอยปกป้องเขาไว้ “ข้ามีเพียงโอกาสเดียว ต้องทำให้สำเร็จ”
ทันใดนั้น...
สายแพรแสงสีขาวพุ่งเข้าหาอกของเรย์โฮม มือยักษ์ของเรย์โฮมตบใส่ทันที และสายแพรทั้งหกมีห้าสายพันรอบศอกขวาเรย์โฮม ขณะที่อีกหนึ่งสายที่เหลือกลายเป็นเหมือนกระบี่แหลม มันยิงเข้าใส่อกของเรย์โฮม!
“โรววววววว!”
เรย์โฮมร่างยักษ์ตวาดเสียงดังลั่นทันที เสียงร้องของเขาทำให้ตัวพื้นที่มิติเป็นระลอก หมัดบนร่างของเขาเต็มไปด้วยอักษรรูนเรืองแสงทันที แสงสีทองฉายออกมาจากอักษรรูนวิเศษและเรย์โฮมเหวี่ยงหมัดในทันใด หมัดกระแทกใส่สายแพรสีขาว
หน้าของโชวีย์เปลี่ยนไปทันที “เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?”
“แคล้ง!” สายแพรสีขาวแทงใส่อกของเรย์โฮมแทงเข้าไปได้เล็กน้อย แต่แทงลึกเข้าไประดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถแทงเข้าไปได้มากกว่านี้
“โรวววว!” เรย์โฮมคำรามอย่างดุร้ายใช้แขนทั้งสองโอบรัดตัวโชวีย์ไว้
โชวีย์ยังคงตะลึงและรีบถอยอย่างแตกตื่น ขณะที่เขาเตรียมจะหลบแนวโจมตีของเรย์โฮม ทันใดนั้นฝ่ามือยักษ์ทั้งสองยิงลำแสงสีขาวทันที ลำแสงทั้งสองเหล่านี้มีจุดแสงสีทองระยิบระยับอยู่บนผิวและยิงออกมาด้วยความเร็วสูงในระยะไกลใส่โชวีย์ที่กำลังถอยหนี
“ไม่!” โชวีย์ปล่ยอสายแพรขาวจำนวนมากออกจากร่างของเขาสร้างเป็นชั้นป้องกันทันที
“ปัง!”
ลำแสงสีขาวประกายทองทั้งสองกระแทกเข้ากับร่างของโชวีย์ สายแพรป้องกันหลายชั้นรอบตัวโชวีย์แตกทีละชั้นๆจากนั้นลำแสงทั้งสองพุ่งเข้าไปในร่างของ มีเสียงดังน่ากลัว และโชวีย์กลายเป็นผุยผง
ร่างของเรย์โฮมย่อขนาดลง
“แฮก แฮก!” อกของเรย์โฮมสะท้อนขึ้นลงเขาหอบหายใจหนักหน่วงอยู่สองสามครา หน้าของเขาซีด สุดยอดไม้ตายที่เขาเพิ่งใช้ไปเป็นบางอย่างที่เขาจะไม่ใช่ออกในช่วงวิกฤติ เมื่อเขาใช้ไม้ตายนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ พลังของเขาจะลดลงอย่างมาก และต้องใช้เวลามากกว่าจะฟื้นคืนพลัง
“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าโชวีย์ผู้นี้ยากจะรับมือได้” เรย์โฮมต้องพักอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะฟื้นฟูเรี่ยวแรง “โชคดี เราได้รับป้ายผู้บัญชาการอีกป้าย”
เรย์โฮมมองจากมุมสายตาของเขาเห็นป้ายผู้บัญชาการอยู่บนพื้น ขณะที่แหวนอีกสองวง เรย์โฮมไม่สนใจดู เขารู้ว่าเป็นแหวนเก็บสมบัติ ขณะที่อีกชิ้นเป็นสมบัติมหาเทพสำหรับปกป้องวิญญาณ
“ควั่บ!” “ควั่บ!”
ประกายรัศมีสองสายเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
“เอ๊ะ?” เรย์โฮมหันไปมอง จากนั้นก็ถอนหายใจ คนมาใหม่คือลินลี่ย์กับบีบี
“เรย์โฮม เจ้าฆ่าโชวีย์ได้แล้วหรือ?” ลินลี่ย์เห็นผงธุลีบนพื้นอดหัวเราะไม่ได้
“ข้าต้องเปลืองกำลังเพิ่มอีกเล็กน้อยกว่าจะฆ่าเขาได้” เรย์โฮมมีรอยยิ้มที่ยากจะเห็น“โชวีย์นั่นฝึกมาทางกฎธาตุน้ำและมีทักษะป้องกันตัว แม้ด้วยพลังโจมตีของข้าข้ายังต้องใช้วิชาต้องห้ามเพื่อฆ่าเขา จริงสิ, เจ้าฆ่ามอนเตโลได้แล้วหรือ?” เรย์โฮมมีแววคาดหวังในสายตา เดิมทีเป็นสหายรักของเขาที่ถูกมอนเตโลฆ่าตาย
“ฆ่าไปแล้ว” ลินลี่ย์พลิกมือ “นี่คือป้ายผู้บัญชาการของเขา”
“ดี!”
เรย์โฮมอดลิงโลดดีใจมิได้
ขณะนั้นเอง มีรัศมีสายหนึ่งเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง กลุ่มลินลี่ย์สามคนหันไปมอง คนที่เพิ่งมาถึงคือรีสเจม รีสเจมชำเลืองมองป้ายผู้บัญชาการในมือของลินลี่ย์ และเขาอดหัวเราะมิได้ “ฮ่าฮ่า, มอนเตโล เจ้าบัดซบนั่น ในที่สุดเขาก็ตายจนได้! เจ้าผู้นั้นกวนโมโหข้านักในครั้งก่อน ข้าอยากเห็นนักว่าในอนาคตเขายังจะโอ้อวดอะไรอีก เรย์โฮม! เจ้าฆ่าโชวีย์หรือ?”
“ใช่แล้ว” เรย์โฮมเอาป้ายผู้บัญชาการออกมา
“เฮ้..รีสเจมแล้วเจ้าเล่า?” บีบีหัวเราะและลินลี่ย์หัวเราะขณะมองดูรีสเจม ทุกคนต่างก็อยู่ในอารมณ์ดีกันหมด
“ข้าน่ะหรือ?” รีสเจมได้แต่หัวเราะอย่างขัดเขิน “เอ่อ..ก็นะ..มันน่าขายหน้าเล็กน้อย แม้ว่าข้าจะเหนือกว่าเขาในเรื่องความเร็ว แต่โอมานยากจะจัดการได้จริงๆ เขาสามารถรับพลังโจมตีของข้าได้และจากนั้นเราทั้งสองสู้กันในใต้ดินเป็นหลัก เจ้านั่นความจริงหนีลงไปในใต้ดินลึกมากหนีลงไปถึงที่มีริ้วมิติกระจายตัว...ที่นั่นอันตรายมากในที่สุดข้าก็ต้องถอดใจ”
รบกันลึกลงไปใต้ดินอันตรายมากแน่นอน
“สำหรับโอมานถูกท่านบังคับให้ต้องทำเช่นนั้นนับเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับเขาแล้ว” ลินลี่ย์เข้าใจว่านอกจากเขาจะไม่มีทางเลือกอื่น โอมานจะไม่ทำเช่นนั้น
แม้ว่าพลังของโอมานจะยอดเยี่ยม แต่เมื่อติดอยู่ในสนามพลังอะเมทิสต์เขาย่อมเสียเปรียบอย่างมาก เนื่องจากอาวุธมหาเทพของรีสเจม โอมานสามารถป้องกันได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปถ้าเขาพลาดท่าแม้แต่ครั้งเดียว ก็เป็นอันจบสิ้น สำหรับเขาถ้าต้องดำดินลึกลงไปก็หมายความว่าโอมานพยายามดิ้นรนหาโอกาสรอดในท่ามกลางทะเลแห่งความตาย
“ฮ่าฮ่า, ที่สำคัญที่สุด เราฆ่ามอนเตโลได้ ไม่ว่ายังไงเราได้ชัยชนะหลักไปแล้ว” รีสเจมเริ่มหัวเราะ “ครั้งนี้ เราได้ป้ายผู้บัญชาการมาสามป้าย ลินลี่ย์! ครั้งก่อนเราให้เจ้าไปป้ายหนึ่งแล้ว ครั้งนี้จากสามป้าย ก็ควรเป็นของข้าสองป้าย และอีกป้ายหนึ่งเป็นของเจ้า ไม่ขัดข้องใช่ไหม?”
“ไม่มีปัญหา” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ
หนึ่งป้ายก็พอแล้ว
“แต่ครั้งต่อไป ถ้ามีป้ายผู้บัญชาการอื่นอีก นั่นต้องเป็นของเรา” บีบีหัวเราะ
“แน่นอน” รีสเจมเลิกคิ้วและหัวเราะ “หน่วยสี่คนของเราไร้เทียมทาน เอ่อ..แน่นอน เรายังไม่ดีที่สุดเท่ากับพารากอน” กลุ่มของลินลี่ย์รู้สึกกังวลเมื่อพวกเขาคิดถึงไบเออร์ เทพชั้นสูงพารากอนมีพลังมากเกินไปจริงๆ
โลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ ลึกลงไปในทะเลก็อดโกล ภายในเกาะโอไมท์
เกาะโอไมท์เป็นศูนย์รวมใหญ่ของตระกูลอันดับหนึ่งของจักรวาล ตระกูลออกุสตา ตระกูลออกุสตาเป็นตระกูลขนาดใหญ่ เพราะประมุขมหาเทพแห่งแสงเองเป็นเผ่าพันธุ์ธรรมดา ความสามารถในการขยายเผ่าพันธุ์ของเขาจึงยิ่งใหญ่ และลูกหลานของเขามีมากมาย นี่ทำให้ตระกูลออกุสตาโดดเด่นแซงหน้าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
เกาะโอไมท์มีคนเกือบล้าน และนี่เป็นแค่สถานที่ให้คนระดับสูงของตระกูลออกุสตาอยู่อาศัยเท่านั้น!
ประชากรที่แท้จริงของตระกูลออกุสตากระจายตัวอยู่ทั่วเกาะแปดสิบเอ็ดแห่งใกล้ๆกับเกาะโอไมท์ พวกเขามีจำนวนเป็นร้อยล้านคน แม้ว่าจะมีจำนวนมาก แต่หลายๆ คนมีพรสวรรค์ธรรมดา..แต่แน่นอน ด้วยฐานที่ใหญ่ขนาดนั้นย่อมมีอัจฉริยะน้อยคนปรากฏออกมาบ้าง
สมาชิกหลายคนของตระกูลออกุสตาปรารถนาจะเข้าร่วมกับเกาะโอวไมท์
“ซูม...” น้ำทะเลซัดชายฝั่งของเกาะโอไมท์
ด้านบนของเกาะโอไมท์ คนชั้นสูงของตระกูลจะแยกกันอยู่จากที่ต่างๆ ส่วนใหญ่พวกเขาจะโดดเดี่ยวและหยิ่งยโส สำหรับคนชั้นสูงของตระกูลอันดับหนึ่งของจักรวาล พวกเขามีความหยิ่งภูมิใจเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขามองเข้ามาที่ใจกลางของเกาะโอไมท์ วิหารสีขาวสูงตระหง่านทำด้วยหินอ่อนสูงกว่าหมื่นเมตรทำให้พวกเขามีสายตาที่อิจฉา
ภายในวิหารออกุสตา
ร่างหนึ่งสาวเท้ายาวไปตามทางเดินซึ่งแต่ละด้านแขวนได้ด้วยภาพจิตรกรรม ทหารที่ยืนอยู่ด้านข้างทั้งหมดคำนับทันที
“ฝ่าบาท!” “ฝ่าบาท!”
ร่างนั้นก้าวเท้ายาวผ่านพวกเขาไป
“มีอะไรเกิดขึ้นกับฝ่าบาท? ทำไมเขาจึงมีสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดอย่างนั้น?” ทูตสองคนคุยกันในหมู่พวกเขาเบาๆ
ข้างหน้าเป็นประตูสีม่วงสูงสิบเมตรไม่ได้ตกแต่ง ร่างนั้นหยุดชะงักอยู่ที่นี่และพูดเสียงเบา “ส่งข้อความแจ้งไปว่าข้าต้องการพบประมุขตระกูล”
“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ฝ่าบาทโปรดรอสักครู่” ทหารชุดม่วงทั้งสองคนกล่าว และหนึ่งในนั้นคำนับ จากนั้นถอยเข้าไปในทางเดิน
“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง! รีสเจม...และเจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้านั่น และหนูกินเทพตัวนั้น!” ฝ่าบาทผู้นี้ก็คือมอนเตโล อย่างไรก็ตามตอนนี้มอนเตโลสูญเสียร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดไปแล้ว เขาไม่ใช่คนที่ทรงพลังอีกต่อไปคนที่เป็นหลักของตระกูลออกุสตา แต่แน่นอนว่าผู้คนในตระกูลยังไม่รู้เรื่อง
ครู่ต่อมา ทหารชุดม่วงเดินออกมา
“ฝ่าบาท, เชิญ ท่านประมุขตระกูลรอท่านอยู่ข้างใน” ทหารชุดม่วงพูดด้วยความเคารพ
มอนเตโลเข้าไปข้างใน
นี่คือที่พักของประมุขตระกูล มีห้องอาหาร ห้องประชุม ห้องอื่นๆที่ตกแต่งอย่างงดงาม มอนเตโลเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ที่ระเบียง เมื่อเห็นเท่านั้นแม้แต่คนหยิ่งยโสอย่างมอนเตโลก็ยังต้องก้มหัว “ท่านประมุข ร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดของข้าตายเสียแล้ว!”
“หืม?” คนชุดขาวอดหันมาไม่ได้ เขามีคิ้วทั้งคู่คมชัดเหมือนมีดดาบและมีจุดสีแดงจุดหนึ่งในหน้าผาก
คนผู้นี้คือประมุขตระกูลออกุสตา และเป็นผู้ประสบความสำเร็จที่สุดในบรรดาลูก 182คนของประมุขมหาเทพแห่งแสง เขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงจะไม่ได้ให้สมบัติมหาเทพกับเขามากนักแต่โดยทำงานร่วมกับทูตคนอื่นๆ ของเขา เขาก็สามารถแน่ใจว่าประมุขตระกูลจะได้รับสมบัติมหาเทพเพียงพอ
ประมุขตระกูลออกุสตามีสมบัติมหาเทพสามชิ้น! เนื่องจากเขาทรงพลังมากมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แม้แต่เทพพารากอนทำได้อย่างมากก็แค่ผลักดันเขาเข้าไปในมิติปั่นป่วน
แต่แม้ว่าเขาจะถูกดันเข้ามิติปั่นป่วน ประมุขมหาเทพแห่งแสงบางทีอาจมาช่วยเขาได้
“เกิดอะไรขึ้น?” ประมุขตระกูลออกุสตาพูดเสียงทุ้ม จุดแดงที่หน้าผากของเขาขยายเล็กน้อย
มอนเตโลก้มศีรษะ คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ท่านประมุข เป็นเพราะเจ้ารีสเจม! ข้าไม่กลัวเขา แต่ใครจะคิดกันเล่าว่าเขาพาเด็กหนุ่มมาอีกคน เด็กหนุ่มนั่นคือหนูกินเทพ!”
“หนูกินเทพ?” ประมุขตระกูลออกุสตาเข้าใจทันที
การฆ่าหลานของเขานี้เป็นเรื่องยาก แต่หนูกินเทพสามารถทำได้สำเร็จแน่นอน
“ท่านประมุขคนที่ฆ่าข้าเป็นเด็กหนุ่มจากเผ่ามังกรฟ้าและหนูกินเทพนั่น พวกเขาตอนนี้อยู่กับรีสเจม?” มอนเตโลพูดอย่างเจ็บปวด
“รีสเจม?” ประมุขตระกูลออกุสตาส่ายศีรษะ “นั่นเป็นลูกชายคนเดียวของมหาเทพเรดบุด ข้าไม่เห็นด้วยกับการฆ่ารีสเจม” ประมุขตระกูลออกุสตาตัดสินใจได้เด็ดขาดกับเรื่องนี้ เขารู้ว่าแม้ว่าบิดาของเขาจะเป็นประมุขมหาเทพแห่งแสงแต่คงไม่มาสู้กับมหาเทพเรดบุดง่ายๆ แน่
ใช่แล้วประมุขมหาเทพแห่งแสงแข็งแกร่งเพียงพอจะจัดการกับมหาเทพเรดบุด แต่น่าเสียดาย มหาเทพเรดบุดเป็นหนึ่งในเจ็ดมหาเทพวิถีทำลายล้าง หัวหน้าของพวกเขาประมุขมหาเทพทำลายล้างยังเหนือกว่าประมุขมหาเทพแห่งแสง
ที่สำคัญยิ่งกว่า ประมุขมหาเทพแห่งแสงไม่อาจจัดการกับมหาเทพอื่นเพื่อลูกหลานของเขาได้
“ท่านประมุข, เป็นไปได้ไหมว่ายากที่ข้าจะฟื้นฟูพลังเก่าของข้า ข้ารู้ว่านี่จะทำให้ท่านอยู่ในสถานะลำบาก แต่ข้าหวังว่าท่านจะช่วยพิจารณาถึงผลงานที่ข้าทำให้กับตระกูลมาโดยตลอดหลายปีเหล่านี้ ช่วยล้างแค้นให้ข้าด้วย” หน้าของมอนเตโลเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และเขาลดเสียงกล่าว “ข้าไม่ตั้งใจจะฆ่ารีสเจม ข้าเพียงแต่หวังว่าท่านประมุขตระกูลจะสามารถฆ่าเจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้าและหนูกินเทพนั่น!”
มอนเตโลเกลียดลินลี่ย์และบีบีอย่างลึกซึ้ง ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะลินลี่ย์รุกรานเขา เขาคงหนีไปได้นานแล้ว ที่สำคัญบีบีไม่มีความสามารถหยุดเขาได้
ประมุขตระกูลออกุสตาเงียบ
มอนเตโลรีบกล่าว “ท่านประมุข ตระกูลของเราเสียหายหนักในครั้งนี้ลูอี้และโชวีย์ตายทั้งคู่ แม้ว่าความแค้นของข้าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เราสูญเสียยอดฝีมือไปสี่คน เป็นไปได้หรือว่าตระกูลออกุสตาจะไม่ตอบสนองอะไรเลย? ตระกูลของเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ถ้าตระกูลเราไม่ตอบสนองอะไรเลย คนอื่นจะหัวเราะเยาะลับหลังเรา”
“หืม?” ประมุขตระกูลออกุสตาเลิกคิ้ว เห็นได้ชัดว่าคำพูดเหล่านี้ส่งผลต่อเขา