บทที่ 21 - รับสมัครตัวแทน
5/6
บทที่ 21 - รับสมัครตัวแทน
“เขาคือมือสังหารของกลุ่มจันทร์สีเลือด!?”
ร่องรอยของความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในดวงตาของเฉินซี
เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าชายลึกลับในชุดดำได้หายตัวไปแล้ว
นี่กลุ่มจันทร์สีเลือดต้องการคุยธุรกิจกับนายน้อยหยางงั้นหรือ?
พวกเขาต้องการซื้ออาวุธปืนเพิ่ม?
คิดได้แบบนี้ จิตใจของเฉินซีฮึกเหิมขึ้นทันใด รีบออกจากห้องประมูลทันที
บริเวณแผนกต้อนรับ เฉินซีที่รีบวิ่งมา พบหยางซือเล่ยซึ่งบังเอิญอยู่ที่นี่พอดี
“นายน้อยหยาง คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ ....”
เฉินซีเล่าบทสนทนาก่อนหน้านี้กับชายลึกลับในชุดดำ
พอได้ฟัง หยางซือเล่ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนชายชุดดำค่อนข้างตาถึง คงเป็นมือสังหารที่ต้องการปลิดชีพอย่างรวดเร็ว และการใช้อาวุธปืน มันช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จได้สูงอย่างไม่ต้องสงสัย
“แต่จะทำแบบนั้นได้เขาต้องมีปืนหลายกระบอกในครอบครอง พรุ่งนี้ท่านกับข้าควรไปพบเขาที่ทำเนียบจิงเสวียน”
หยางซือเล่ยพยักหน้า พูดด้วยรอยยิ้มว่า “หากท่านยินดีมาเป็นตัวแทนของข้าอย่างเป็นทางการ ต่อไปถ้าได้รับคำสั่งซื้อผ่านท่าน ข้าจะมอบส่วนแบ่งพิเศษให้”
ได้ยินแบบนั้น เฉินซีรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง รีบเอ่ยถามต่อทันที “นายน้อยหยาง ราคาประมูลปืนพกไทป์54 คืนนี้อยู่ที่สามพันตำลึงทอง หลังหักต้นทุน ท่านได้กำไรเท่าไหร่?”
ก่อนจะร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ เฉินซีอยากทราบว่ากำไรส่วนต่างมันมากแค่ไหน
หยางซือเล่ยถามกลับว่า “แล้วในร้านช่างตีเหล็ก พวกเหล็กดำ 300 จิน นี่เค้าขายกันในราคาเท่าไหร่?
เฉินซีผงะเล็กน้อย “คงประมาณห้าร้อยตำลึงทองกระมัง?”
หยางซือเล่ยพูดเสียงเรียบ “อืม เช่นนั้นต้นทุนของปืนกระบอกนี้ก็คือห้าร้อยตำลึง กำไรเท่าไหร่ท่านลองคำนวณดูเอง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เฉินซีรู้สึกสับสนเล็กน้อยแล้ว ราคาของปืนพกไทป์54 เท่ากับเหล็กดำ 300 จินงั้นหรือ?
เป็นไปได้ไหมว่า ปืนพกขนาดเล็กกระบอกนี้จำเป็นต้องใช้เหล็กจำนวนมากในการขัดเกลาจึงจะสมบูรณ์?
ระหว่างที่เฉินซีกำลังสงสัย เซลล์สมองก็ทำงานอย่างรวดเร็ว
ราคาต้นทุนห้าร้อยตำลึง ราคาประมูลสามพัน ส่วนต่างของกำไรเป็นสิบเท่า!
สิบเท่า!!?
หลังจากลองคำนวณดู เฉินซีรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง ลมหายใจเริ่มถี่รัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
ภายใต้สถานการณ์ปกติ สินค้าที่ขายได้กำไรห้าเท่า นับว่าน่าประทับใจมากแล้ว
แต่อาวุธปืนสังหารชนิดนี้ ทำได้ถึงสิบเท่า!
นี่นับเป็นกำไรมหาศาล!
“ถูกต้อง แล้วท่านคิดเห็นอย่างไรเรื่องเป็นตัวแทนธุรกิจของข้า? อ้อ แต่ที่ข้าเสนอไป คือตัวแทนที่ทำงานเต็มเวลานะ”
ใบหน้าของหยางซือเล่ยสงบนิ่ง ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม
เฉินซีเข้าใจความหมายในคำพูดของหยางซือเล่ยได้โดยธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม
เขาไม่ลังเลยแม้แต่น้อย รีบพยักหน้าและพูดว่า “นายน้อยหยางโปรดวางใจ พรุ่งนี้ข้าจะลาออกจากงานปัจจุบันในฐานะผู้ประเมินแห่งสภาหอการค้ามาทำงานให้นายน้อยหยางโดยเฉพาะ”
ได้ยินคำนี้ มุมปากของหยางซือเล่ยยกขึ้น สำหรับคำตอบขอบเฉินซี เขาพอใจมาก
มีคนคอยเป็นตัวแทนขาย ส่วนเขาแค่นำอาวุธออกไปให้ นี่ช่วยแบ่งเบาภาระได้มาก
จากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเฉินซี หยางซือเล่ยสามารถถอนเงินได้เร็วกว่าปกติ
หลังหักค่านายน้อยหนึ่งในสิบส่วนจากสภาหอการค้าจินไห่แล้ว ที่เหลือคือทองคำ 2,700 ตำลึง เป็นจำนวนที่เยอะมาก
แต่ทองคำเหล่านี้ แม้มีน้ำหนักไม่ถึง 200 จิน แต่หากคิดใส่มัน จำเป็นต้องใช้กระเป๋าใบใหญ่ แล้วแบบนี้จะหิ้วมันกลับไปได้ยังไง?
“นายน้อยหยาง ข้าบังเอิญมีแหวนมิติติดมือ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 200 อิงฉื่อ
คล้ายเห็นสภาวะลำบากใจของหยางซือเล่ย เฉินซีหยิบแหวนสีเขียวขุ่นออกมา
ดวงตาของหยางซือเล่ยเป็นประกาย เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในโลกใบนี้มีสิ่งที่เรียกว่าแหวนมิติ มันสะดวกสบายมากในการพกพาสิ่งของต่างๆ
แต่น่าเสียดายที่แหวนมิติประเภทนี้ เก็บได้เฉพาะวัตถุที่ไม่มีชีวิตเท่านั้น เพราะหากสามารถเก็บบุตรสาวที่ยังหลับปุ๋ยเข้าไปได้ อะไรๆคงง่ายขึ้นเยอะ
มองไปยังใบหน้าบอบบางของเฉินเฉิน หยางซือเล่ยลอบถอนหายใจ
ข้ามโลกมาก็เป็นคุณพ่อเช่นนี้ ดูท่าในอนาคตหากคิดเสาะหาหญิงงามเป็นคู่ครอง เกรงว่าจะคงยาก