บทที่ 20 - เสนอราคาอย่างบ้าคลั่ง
4/6
บทที่ 20 - เสนอราคาอย่างบ้าคลั่ง
ราคาเริ่มต้นสามร้อยตำลึงทอง สำหรับแขกที่มาร่วมงานแล้ว มันคือราคาที่ถูกมากๆ
เพราะอย่างไรเสีย อาวุธสังหารชิ้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการโจมตีหรืออำนาจทำลาย มันอยู่เหนือระดับอาวุธธรรมดาอย่างสิ้นเชิง
“ข้าเสนอราคาห้าร้อยตำลึงทอง!”
“เจ็ดร้อยตำลึงทอง!”
“เก้าร้อย!”
“หนึ่งพัน!!!”
...
ตามปกติแล้ว ช่วงท้ายงานประมูล การเสนอราคามักน้อยลง เพราะส่วนใหญ่ซื้อของกันไปหมดแล้ว แต่ครั้งนี้ ราคากลับก้าวกระโดดในพริบตา ทุกคนราวกับโด๊ปเลือดไก่ เต็มไปด้วยอารมณ์เดือดพล่าน เสียงแย่งกันเสนอราคาดังไปทั้งห้องประมูล
เพียงสิบลมหายใจ ราคาเสนอก็พุ่งเกินหลักพันแล้ว และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุดลง
ทุกคนต่างแก่งแย่งกันอย่างดุเดือด!
อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาเริ่มสูงขึ้น หลายคนที่มีเงินไม่rvก็เริ่มถอย เลือกที่จะยอมแพ้
‘จงไปต่อ! ไปต่ออย่าให้หยุด!’
เฉินซีคอยให้กำลังใจอย่างเงียบๆ ในทางกลับกัน ด้านหยางซือเล่ย สีหน้าเขายังคงสงบตลอดเวลา แต่ในใจกลับเกิดความคิดการขายแบบใหม่
ถึงการประมูลจะสามารถทำกำไรปืนได้ดี แต่ความเร็วในการซื้อขายช้าเกินไป
ในชาติที่แล้ว พ่อค้าอาวุธที่ขายของจำพวกนี้ มักขายพวกมันครั้งละปริมาณมาก แม้กำไรต่อชิ้นน้อย แต่ข้อดีคือขายได้ครั้งละมากๆ ขายได้เร็ว แก้ปัญหาจุกจิกไปได้เยอะ
แล้วอย่าลืมนะว่าปืนคืออาวุธที่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายตลอดเวลา หากใครซื้อไป พวกเขาต้องซื้อกระสุนจากเขาอย่างต่อเนื่อง
“สองพัน!”
“สองพันหนึ่ง”
“สามพัน!”
ราคาเสนอซื้อที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง แต่เมื่อเสียงไม่แยแสดังขึ้น จังหวะเสนอราคาประมูลก็พังทลาย เกิดความเงียบขึ้นในทันใด
“เสนอราคาเพิ่มจากสองพันหนึ่งเป็นสามพัน!?”
ทุกคนในห้องประมูลต่างพูดไม่ออก และไม่มีใครกล้าเสนอราคาประมูลเพิ่มอีก เพราะการที่คนๆนึงสามารถเพิ่มราคาพรวดเดียวได้ขนาดนี้ แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดา
หยางซือเล่ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รู้สึกสนใจอยู่บ้าง กวาดสายตามองไปด้านข้าง และเห็นว่าคนที่เสนอราคาสามพันตำลึงทองก็อยู่ในที่นั่งกิตติมศักดิ์เช่นกัน แต่อยู่มุมขวาสุด
ชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมไร้แขนสีดำ สวมฮู๊ดปกปิดใบหน้า ให้ความรู้สึกลึกลับ แต่ฟังเสียงที่ต่ำและทุ้มของเขา อีกฝ่ายสมควรเป็นผู้ชาย
“สามพันครั้งที่หนึ่ง มีใครเสนอราคาอีกไหม?” ถังซิงเยว่เว้นจังหวะพูดเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าไม่มีการเสนอราคา เธอก็เริ่มพูดต่อ
“สามพันครั้งที่สอง”
“สามพันครั้งที่สาม ตกลงขาย!”
“ขอแสดงความยินดีกับแขกกิตติมศักดิ์ ที่นั่งหมายเลข 20 ท่านชนะประมูล เชิญขึ้นมาแลกเปลี่ยนบนเวที”
ดวงตาของถังซิงเยว่สว่างไสว วินาทีที่เสียงนี้ตกลง ค้อนในมือของเธอทุบโต๊ะประมูลอย่างแรง
จากนั้น ชายลึกลับในชุดดำขึ้นมาบนเวทีเพื่อปิดการซื้อขาย
งานประมูลในคืนนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง
เมื่อทราบราคาแล้ว
หยางซือเล่ยก็ปราศจากความคิดที่จะอยู่ต่อเช่นกัน ลุกขึ้นพร้อมบุตรสาวในอ้อมแขน เดินออกจากห้องประมูล ตรงไปยังแผนกต้อนรับเพื่อเตรียมรับเงิน
ในขณะที่หยางซือเล่ยกำลังเดินออกไปที่ประตู ชายลึกลับในชุดดำยังคงยืนอยู่บนเวทีประมูล
เขาก้มลงมองปืนพกไทป์54ในมือ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าอยากรู้ว่าอาวุธสังหารชิ้นนี้ ผู้ใดนำมาลงประมูล”
ได้ยินแบบนั้น ถังซิงเยว่มองไปทางเฉินซี เห็นได้ชัดว่าผู้ที่นำมันมาคือฝ่ายหลัง
ยังไงซะเฉินซีคือคนกลางของสินค้าประมูลชิ้นนี้ เรื่องที่ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ขออภัยอย่างสูง เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ข้าไม่สามารถบอกท่านได้” เฉินซีส่ายหัว ตอบอย่างสุภาพ
ถูกปฏิเสธโดยเฉินซี ชายลึกลับในชุดดำไม่เซ้าซี้ เพียงหยิบบัตรสีดำออกมา มอบให้กับเฉินซี เอ่ยเสียงเย็น “ฝากไปบอกเขา ว่าหากต้องการทำเงิน พรุ่งนี้ให้มาที่ฝูจิงเสวียน”
ว่าจบ ชายลึกลับในชุดดำหันหลัง และจากไปโดยไม่เหลียวกลับมามอง
ตอนแรกเฉินซีสงสัยถึงที่มาของชายในชุดดำ แต่เมื่อก้มลองมองบัตรสีดำในมือ เขาก็อุทานออกมาทันที
“กลุ่มจันทร์สีเลือด!”