ตอนที่แล้วบทที่ 16 - ที่นั่งกิตติมศักดิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18 - วิชายุทธที่ไม่สมบูรณ์

บทที่ 17 - เริ่มการประมูล


1/6

บทที่ 17 - เริ่มการประมูล

ตรงจุดที่แสงสาดส่อง ปรากฏสาวสวยในชุดแดง รูปร่างเธอเห็นสัดส่วนโค้งเว้าชัดเจน ผิวขาวราวหิมะ บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ดูน่าหลงใหล

“เป็นคุณหนูถังซิงเยว่! นางเป็นผู้รับผิดชอบงานประมูลคืนนี้!”

“ถังซิงเยว่ นับวันยิ่งงดงาม  ในอนาคตไม่รู้ว่าใครจะคว้าใจนาง หากเป็นข้าล่ะก็ ...

“เจ้ากำลังมองหาที่ตาย? ไม่รู้หรือว่าสถานะที่แท้จริงของถังซิงเยว่คืออะไร?”

“ฮี่ ฮี่ ข้าล้อเล่นหรอกน่า ..”

เมื่อสาวงามปรากฏกาย ก็สร้างเสียงโห่ร้องและผิวปากดังไปทั่วโถงประมูลทันที ดวงตาของทุกคนเร่าร้อนลุกเป็นไฟ

ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอผู้นี้ปรากฏตัว

แม้แต่หยางซือเล่ยที่มักสงบอยู่เสมอ ก็ยังอดมองไม่ได้

ฟังจากเสียงกระซิบรอบข้าง หยางซือเล่ยค่อยเข้าใจ ผู้ประมูลหญิงคนนี้ชื่อถังซิงเยว่ สถานะดูเหมือนจะไม่ธรรมดา

นั่นเพราะผู้จัดการของสภาหอการค้าจินไห่ คือเธอนั่นเอง!

กระนั้น เอกลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเสน่ห์ในตัวของถังซิงเยว่ หรือความสามารถในการขายของเธอ อาจกล่าวได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมการประมูล

ผู้ที่มายังสภาหอการค้าจินไห่ หลายคนไม่ได้มาประมูล แต่มาเพื่อชื่นชมความงามของเธอ

หยางซือเล่ยกวาดมองถังซิงเยว่ขึ้นๆลงๆ สุดท้ายเบนสายตาไปอีกทาง

เขาไม่สนใจสถานะของผู้หญิงคนนี้ และไม่สนใจว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคืออะไร

ตอนนี้สิ่งที่หยางซือเล่ยกังวลมากที่สุด คือปืนพกไทป์54ของเขาจะสามารถขายได้เท่าไหร่?

“ทุกท่าน สวัสดียามค่ำ! ยินดีต้อนรับสู่การประมูลสภาหอการค้าจินไห่ของเรา แต่คงไม่ต้องแนะนำตัวกันให้เสียเวลา เพราะผู้ที่สามารถมาที่นี่ได้ ทุกท่านคงรู้จักชื่อของข้าอยู่แล้ว”

“แต่สำหรับท่านที่มาเยือนเป็นครั้งแรก ข้าขออุบชื่อข้าเอาไว้ก่อน เผื่อวันใดหากมีโอกาส จะได้แนะนำตัวกันในภายหลัง”

รอยยิ้มของถังซิงเยว่น่ารักมากๆ คำพูดเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน บรรยากาศในห้องปั่นป่วนขึ้นทันที

“ต่อไปนี้คือรายการประมูลชิ้นแรก”

สิ้นเสียงนี้ กุลสตรีที่ดูอ่อนช้อยก้าวออกมาจากข้างเวที ยกถาดเงินขึ้นวางบนโต๊ะประมูล บนถาดเงินมีดาบสีแดงที่ยาวประมาณ 2 อิงฉื่อ บนตัวดาบสั่นเทาเบาๆ ทอแสงระยิบระยับ เหมือนมีเกล็ดปลาหุ้มอยู่ นอกจากนี้ ยังมองเห็นได้รางๆ ว่ามีอักขระยันต์หลายตัวสลักอยู่บนนั้น และมีกลิ่นอายเผาไหม้อย่างน่าประหลาดแพร่กระจายออกมา

“รายการชิ้นแรก ‘ดาบเกล็ดไฟ’ หลอมโดยปรมาจารย์เหยียนแห่งทำเนียบยุทธชี่เสวียน วัสดุเป็นเหล็กดำ สามารถตัดเหล็กได้เหมือนโคลน และมีอักขระยันต์อัคคีจารึกไว้ สามารถเพิ่มการโจมตีได้ เป็นอาวุธที่ทรงพลัง”

ฟังคำอธิบายของถังซิงเยว่ ดวงตาของหยางซือเล่ยขยับเล็กน้อย มองไปยังอักขระยันต์สีแดงเข้มบนดาบ นึกในใจว่าพวกมันจะสลักลงบนอาวุธปืนได้ไหม ถ้าสลักได้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสังหารหรือไม่?

“ขอเริ่มการประมูล ราคาเริ่มต้นของดาบเล่มนี้คือ ...”

“สามร้อยตำลึง!”

ทันทีที่สิ้นเสียงอันไพเราะของถังซิงเยว่ดังขึ้นในห้องประมูล คนอื่นๆเริ่มเสนอราคา

“สี่ร้อยตำลึง!”

“ห้าร้อยตำลึง!”

...

ราคาก้าวกระโดดในพริบตา สุดท้ายมันถูกขายไปในราคาเจ็ดร้อยตำลึงทอง

รายการชิ้นที่สองคือผลไม้อายุยืน ข้างในเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชีวิต สามารถเพิ่มอายุขัยหลังจากกลืนกิน

ผลไม้อายุยืนมีทั้งสิ้นสิบผล ในสถานที่เล็กๆ เช่นเมืองชิงหยาง มันนับเป็นของกินที่มีแก่นวิญญาณอันล้ำค่า ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือนักบู๊ ชีวิตคือสิ่งสำคัญที่สุด

ดังนั้นเมื่อเปิดตัว ผลไม้อายุยืนนี้จึงถูกแก่งแย่งกันอย่างดุเดือดจากฝูงชน

ในที่สุด ผลไม้อายุยืนทั้งสิบผล ก็ถูกประมูลไปในราคาสูงถึงพันตำลึงทอง

และผู้ที่ได้มันไป นั่งอยู่ในตำแหน่งกิตติมศักดิ์เช่นเดียวกับหยางซือเล่ย เป็นชายชราอายุราวๆเจ็ดสิบปี

ต่อมา รายการประมูลชิ้นอื่นๆก็ถูกนำเสนอออกมาเรื่อยๆ บรรยากาศในห้องประมูลเริ่มร้อนแรงขึ้น

หยางซือเล่ยนั่งอย่างเบื่อหน่าย เขาไม่เสนอราคาประมูลเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่ง ...

“รายการที่แปด วิชายุทธขั้นสูง 《เคล็ดโชคเก้ามังกร》”

ณ ขณะนี้ ภายใต้การแนะนำของถังซิงเยว่ มันได้สร้างความปั่นป่วนแก่ห้องประมูลอย่างไม่ต้องสงสัย

ยิ่งเมื่อได้ยินคำ ‘ขั้นสูง’ ทุกคนต่างยืดหลังตรง ดวงตาลุกเป็นไฟ

ฟังจากเสียงกระซิบรอบด้าน หยางซือเล่ยได้รู้ว่าวิชายุทธในโลกใบนี้ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 9 ขั้น

ขั้น 1 - 3 จะถูกเรียกว่าขั้นต่ำ

ขั้น 4 - 6 จะถูกเรียกว่าขั้นกลาง

ขั้น 7 - 9 จะถูกเรียกว่าขั้นสูง

และส่วนใหญ่แล้ว วิชายุทธขั้นต่ำทั้งหมดในท้องตลาดจะอยู่ในรูปแบบของหนังสือที่เขียนด้วยลายมือ

สำหรับวิชายุทธขั้นกลาง ส่วนใหญ่แล้วจะถูกทางราชวงศ์ ทำเนียบยุทธ และกองกำลังต่างๆรวบรวมเอาไว้

ส่วนวิชายุทธขั้นสูง เกรงว่าหากเดินหาตามท้องตลาด ทั่วทั้งราชวงศ์หยานอันยิ่งใหญ่ คงไม่มีทางพบเจอ

ฉะนั้น คุณน่าจะจินตนาการได้ ว่าเมื่อวิชายุทธเช่นนี้ปรากฏขึ้นในสถานเล็กๆเช่นเมืองชิงหยาง มันมีค่ามากเพียงใด