ตอนที่ 684 ฉลาดผิดทาง
จวนเจ้าเมือง
เมื่อหลงเสียงกลับมาเขาพบว่าทุกคนในจวนเจ้าเมืองอยู่ในสภาพหดหู่
ปีศาจเฒ่าเว่ยผู้มักหยิ่งยโสอยู่เสมออารมณ์หม่นหมองดื่มเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าเหม่อมองเหมือนกับหญิงม่ายสูญเสียลูกชายคนเดียว
บรรยากาศของบ้านที่เต็มไปด้วยนักรบปราณฟ้าแปลกประหลาดจริงๆ หลงเสียงสงสัยว่าเขาเข้ามาผิดที่ นี่คือจวนเจ้าเมืองลมดำจริงๆ หรือนี่?ทำไมถึงได้ดูเหมือนเป็นอนุสรณ์สถาน?
“แม่ทัพหลงเสียง!” เมื่อเจ้าเมืองลมดำเห็นหลงเสียงกลับมา เขารวบรวมกำลังกายกำลังใจทันทีไม่ต้องพูดถึงคนอื่น การสนับสนุนของราชาใจสิงห์สำคัญที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“ท่านเจ้าเมือง, เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลงเสียงคำนับเล็กน้อยและถาม
“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น....” เจ้าเมืองลมดำเล่าเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดของการต่อสู้ในตอนกลางวันพยายามอย่างดีที่สุดไม่ให้กระทบกระทั่งศักดิ์ศรีของปีศาจเฒ่าเว่ย เขาเน้นย้ำว่าเย่ว์หยางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจเฒ่าเว่ย เพียงแต่ความเร็วของเขาเร็วกว่าและทักษะของเขาดีกว่าและยังมีการสู้รบของอสูรอีกหลายตัว พวกมันฆ่าพญางูกลืนฟ้าซึ่งเป็นอสูรปราณฟ้าระดับสามและบีบบังคับให้ปีศาจเฒ่าเว่ยต้องถอนตัว
หลงเสียงตะลึง
ปีศาจเฒ่าเว่ยมีความเร็วที่เหมือนสายฟ้าเป็นสิ่งที่เขารู้
ศัตรูเร็วกว่าและมีทักษะมากกว่าปีศาจเฒ่าเว่ยและมีอสูรรบหลายตัว แม้แต่พญางูกลืนฟ้าอสูรปราณฟ้าระดับสามก็ยังถูกฆ่าอีกหรือ?
ความจริงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจสำหรับเขาที่ตกอยู่ในความว้าวุ่นอย่างนั้นเมื่อเผชิญคู่ต่อสู้อย่างนั้น ในที่สุดหลงเสียงขมวดคิ้วคิดอยู่นาน “ข้าไม่เคยเห็นบุรุษหน้ากากมาก่อน ข้าไม่แน่ใจแต่ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ค่อนข้างคุ้น ตอนแรกข้าก็คิดว่าเป็นเขา แน่นอนมีบางอย่างที่แตกต่างเกี่ยวกับคนผู้นั้น เขามีอสูรเทพถึงสองตนและอสูรนั้นทรงพลังเพียงพอเป็นคู่แข่งของเสี่ยวโฉ่ว ราเชลและนายพลปีศาจจื้อกวงบางทีพวกเขาอาจไม่ใช่คนเดียวกัน แต่อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจมาจากตระกูลเดียวกันหรือเป็นศิษย์สำนักเดียวกัน หรือเป็นพี่น้องกันเพราะทั้งสองมีความเชี่ยวชาญในทักษะการสู้มากและมีอสูรรบที่ฉลาดหลายตัว ที่สำคัญมากกว่าเจ้าบอกว่าบุรุษหน้ากากร่วมมือกับมารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและนักรบอื่นในแดนสวรรค์ พวกเขามีทักษะฝีมือและทั้งหมดมีพลังต่อสู้ในระดับสูงนี่คือสิ่งที่ข้าคาดการณ์ไว้”
“บุรุษจากเมื่อครั้งก่อน เขาและหญิงสหายของเขาอาจดูเหมือนไม่ทรงพลัง แต่แม้แต่สาวน้อยผู้นั้นก็ไม่สามารถประมาทได้ นางสามารถฆ่านักสู้ปราณฟ้าระดับเจ็ดที่มีระดับพลังสูงกว่านางมากและวิทยายุทธของนาง การใช้อสูรรบ และพลังจิตของนางสมบูรณ์แบบที่สุด” ขณะที่หลงเสียงพูดเขาระลึกถึงความทรงจำไปด้วย
“จากตรงนี้เราสามารถสรุปได้ว่าเขามาเพื่อหาทางแก้แค้นในครั้งนี้น่าจะเป็นเพราะคนในเผ่าพันธุ์พวกเขา เผ่าพันธุ์นี้ฝ่าบาทราชาใจสิงห์ได้พูดคุยกับข้ามาแล้วไม่เพียงแต่มีแค่มนุษย์เท่านั้น พวกเขายังปกปิดทักษะเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่ง่ายที่คนอื่นจะมองเห็นพลังที่แท้จริงของพวกเขา นอกจากนี้พวกยังครอบครองคัมภีร์อัญเชิญระดับสูงที่หาได้ยากอีกด้วย” ก่อนที่หลงเสียงจะพูดบทวิเคราะห์จบ เจ้าเมืองลมดำก็ชูมือขึ้นรออยู่แล้ว
เจ้าเมืองลมดำพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว ไม่เพียงแต่มารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและบุรุษหน้ากากที่มีคัมภีร์เป็นของตนเอง แม้แต่หลายๆคนในระดับปราณดินก็มีคัมภีร์อัญเชิญเป็นของตนเอง!”
หลังจากได้ยินเช่นนี้,เขาไตร่ตรองเล็กน้อย “ตอนนี้ก็คงตัดสินใจได้ว่าทั้งสองคนนั้นมาจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน ท่านเจ้าเมืองตามข้อสังเกตและการสืบดูต่อมาของข้า เผ่าพันธุ์นี้ถูกปกป้องเป็นอย่างดี พวกเขาควรจะเป็นพวกสงบเสงี่ยมแต่พวกเขาให้ความสำคัญกับเกียรติยศมากและเมื่อพวกเขาถูกดูถูก อารมณ์พวกเขาจะปะทุทันที ต่อให้ศัตรูแข็งแกร่งเท่าภูเขา พวกเขาก็ยอมต่อสู้อย่างไม่กลัว ถ้าคนเล่นแร่แปรธาตุชื่อจวินอู๋เย่ไม่ตาย ก็คงง่ายกับการส่งมอบคนไปแล้ว แต่ตอนนี้...เฮ้อ”
เจ้าเมืองลมดำจะรู้ได้ยังไงว่าบริวารของเขาก่อหายนะได้ขนาดนี้?
แต่ไม่มีทางป้องกันได้
หรือว่าเขาต้องสารภาพต่อฝ่ายตรงข้ามว่าท่านจวินอู๋เย่นักเล่นแร่แปรธาตุตายไปแล้วจริงๆ?
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อาจทำให้คนอื่นปลอดภัยและเขาถูกฆ่าตายทันที เจ้าเมืองลมดำไม่โง่เขาจะไม่ยอมรับคำตำหนิเรื่องนี้แน่นอน ถ้าเขาตายทุกคนจะต้องตายด้วยกัน ไม่ว่ายังไงผลประโยชน์ของทุกคนก็ผูกเข้าด้วยกัน ถ้าใครบางคนเปิดทางให้เขา เจ้าเมืองลมดำจะหนีทันที ไม่ว่าเมืองลมดำและตลาดดำจะดีแค่ไหน แต่จะเทียบกับชีวิตได้อย่างไร?
ไม่ว่าเขาจะมีเงินมากมายเพียงไหน ก็คงไม่มีประโยชน์ถ้าเขาไม่มีชีวิตได้ใช้!
“พวกเขาไม่กดดันเราหรือ?” หลงเสียงสงสัยเล็กน้อย เนื่องจากอีกฝ่ายหนึ่งชนะ ทำไมพวกเขาไม่ฉวยโอกาสใช้ชัยชนะกดดัน?
“หลังจากปีศาจเฒ่าเว่ยแล้ว พวกเขายังส่งคนออกมาสู้อีกสองสามรอบ” เจ้าเมืองลมดำมีสีหน้าขมขื่นและส่ายหน้าขณะพูด “บางทีพวกเขากำลังรอคนที่แข็งแกร่งในเผ่าพันธุ์มาถึง พวกเขาจึงไม่ทุ่มกำลังโจมตี แค่เพียงคนจากสามกลุ่มพลังใหญ่ที่มาจากวังมาร
“ถ้าคู่รักนั้นเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์นี้จริงๆ อย่างนั้นคงจะอันตราย” หลงเสียงรู้สึกเย็นยะเยือกในหัวใจ
แม้ว่าราชาใจสิงห์ต้องการจะกำจัดเขา เขาไม่มีทางเลือกได้แต่ระมัดระวังมังกรปีศาจและกองกำลังด้านหลังเขา ถ้าเขาตอแยกับเผ่าพันธุ์ที่เป็นของบุรุษนั้นจริงๆ อย่างนั้นการสู้รบนี้คงจะไม่ง่ายเมืองลมดำอาจถูกพิชิต แม้แต่แคว้นมรกตอาจไม่ปลอดภัยและภูมิภาคที่ยิ่งใหญ่อาจล่มสลาย
หลงเสียงต้องการรายงานกลับไปที่ราชาใจสิงห์เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยน
การตัดสินใจเช่นนั้นจำเป็นต้องให้ราชาใจสิงห์ทบทวนแผนของเขาใหม่
แน่นอนว่าในคำสั่งเพื่อความสะดวกของเจ้าเมืองลมดำหลงเสียงไม่ได้ดำเนินการทันที เขากลับปลอบโยนเขาเพียงไม่กี่คำแต่แสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ข้างเดียวกันและจะสนับสนุนจนถึงที่สุด
ขุนพลจินฟงกล่าวถึงเรื่องนี้อีกครั้ง “แม่ทัพหลงเสียงเรื่องนี้ท่านเห็นว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดของศัตรูหรือไม่?”
อย่าว่าแต่หลงเสียงเลย แม้แต่เจ้าเมืองลมดำและไป๋ซ่งก็ยังไม่เชื่อสมมติฐานของเขา
ไป๋ซ่งส่ายศีรษะและโบกมือ “ความตายของซ่งเทาลูกข้าไม่ใช่เพราะพวกเขาทำแน่ ความจริงข้าไม่คิดว่าพวกเขาตั้งใจจะฆ่าเราเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาไม่ฆ่าเราเมื่อวานนี้หรือวันนี้ ท่านแม่ทัพพูดถูกคนเหล่านี้ยังจะสงบและไม่ฆ่าคนอื่นตามปกติ เว้นแต่พวกเขาโกรธแค้น ด้วยความสามารถของพวกเขา อย่าว่าแต่ซ่งเทาลูกข้าเลยถ้าทุกคนในตอนนี้จะทุ่มกำลังทั้งหมดก็จะมีคนเหลืออยู่ไม่กี่คน เมืองลมดำนี้จะไม่สามารถป้องกันพวกเขาได้เป็นเวลานาน”
“ถูกแล้วพวกที่ฆ่าคุณชายซ่งเทาและผู้อาวุโสเฮยสั่วน่าจะเป็นทหารปฏิวัติที่ต้องการวางกับดักเรา” มีนักสู้ปราณฟ้าห้าคนเป็นอย่างน้อยในพวกเขาและมีสามคนที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม ถ้าพวกเขารวมกำลังโจมตีจากเงามืด พวกเขาก็สามารถฆ่าคุณชายซ่งเทาและผู้อาวุโสเฮยสั่วได้ทันที“เจ้าเมืองลมดำถอนหายใจ ”สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องบังเอิญเรากำลังฟุ้งซ่านเพราะการกระทำของกองทัพกบฏคิดว่าบางเรื่องที่น่ากลัวจะเกิดขึ้นฝ่ายเรา”
“อย่างนั้นเราจะส่งมอบนายกองทหารและรองประธานหอการค้าชิโดยังไงและเราจะเจรจาต่อรองยังไงอีก?” ขุนพลจินฟงเกลียดนายกองทหารคนนี้และรองประธานหอการค้าเป็นส่วนตัวที่สร้างปัญหาให้กับเขา
“ไม่ใช่ตอนนี้นี่มีแต่จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งโมโหมากขึ้น” ปีศาจเฒ่าเว่ยห้ามพวกเขาทันที “ไม่เพียงแต่เราไม่สามารถส่งมอบพวกเขาเท่านั้น แต่เราต้องซ่อนพวกความลับพวกเขาไว้ก่อน”
“การเดิมพันในเมืองลมดำไม่ใช่เรื่องดี อย่างนั้นเราจะเก็บพวกเขาไว้ที่ไหน?” ขุนพลจินฟงรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
“เอาไว้ในป้อมเสียงหวีดคุกที่นั่นลับที่สุดและปลอดภัยที่สุด...เดี๋ยวก่อน” ปีศาจเฒ่าเว่ยร้องเตือนทันที “ลี่เยี่ยน! ตอนนี้นางอยู่ในป้อมเสียงหวีด ถ้ากองทัพปฏิวัติพบเข้าพวกเขาจะต้องแจ้งให้บุรุษหน้ากากที่อยู่นอกเมืองทราบถ้าบุรุษหน้ากากไปช่วยลี่เยี่ยน พวกเขาจะได้นักสู้ปราณฟ้าเพิ่มขึ้นอีกคน!”
เมื่อเขาพูดอย่างนี้พวกเขารู้สึกกลัวในใจ
ไม่ต้องลังเลอีกแล้ว
ฮ็อคและซาวี่นักรบปราณฟ้าทั้งสองคนวิ่งเข้าประตูเทเลพอร์ตในจวนเจ้าเมืองทันที
พวกเขาจำเป็นต้องไปถึงป้อมเสียงหวีดทันทีและย้ายผู้ต้องขัง นางกำลังวางแผนใช้นางเพื่อดึงดูดกองทัพปฏิวัติ แต่ตอนนี้สามารถใช้นางเพื่อประโยชน์ของพวกเขา เมื่อบุรุษหน้ากากที่อยู่นอกเมืองพบและช่วยลี่เยี่ยนออกไป เรื่องที่ตามมาจะน่ากลัวมาก
ต้องใช้ความพยายามมากกว่าจะจับลี่เยี่ยนได้
พลังของนางคือปราณฟ้าระดับห้า
ถ้าไม่ใช่เพราะพลังทื่อๆของนางและขาดทักษะต่อสู้พิเศษและใช้การผสานงานของอสูรรบร่วมกับนาง การจับนางจะต้องเป็นงานยากลำบาก
ถ้าหัวหน้าลี่เยี่ยนออกไปจากกับดักนี้ได้ด้วยพลังที่น่ากลัวของนางและความเร็วและฝีมือของบุรุษหน้ากาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนแค่การบวกเลข ทั้งเมืองลมดำอาจจะถูกกวาดล้าง การฆ่าพญางูกลืนฟ้าของปีศาจเฒ่าเว่ยจะกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญเลยถ้าบุรุษหน้ากากปล่อยลี่เยี่ยน...
ปีศาจเฒ่าเว่ยนำกลุ่มคุมกันกลับไปที่ป้อมรักษาการณ์ด้วยความเร็วสูง
ลี่เยี่ยนเป็นอาชญากรที่ร้ายแรง
หลงเสียงกลับตรงกันข้าม เขาขมวดคิ้วคิดถึงบางอย่าง
เขารู้สึกว่าเขามีลางสังหรณ์บางอย่างที่มิอาจเข้าใจได้จึงทำให้เขาคิดหนัก
เจ้าเมืองลมดำรีบกระตุ้นหลงเสียงให้ดื่มและไม่ยอมให้เขาคิดมากเกินไปเกี่ยวกับผลสูญเสียในการรบ ถ้าหลงเสียงบอกราชาใจสิงห์ให้สละเจ้าเมืองลมดำนั่นจะน่ากลัวมาก เจ้าเมืองลมดำและไป๋ซ่งหลอกว่าให้หลงเสียงไปคุยกลยุทธเพื่อทดสอบว่าราชาใจสิงห์จะเข้ามาแทรกแซงได้ไหม
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ปีศาจเฒ่าเว่ยกลับมาพร้อมกับความพึงพอใจขณะที่ฮ็อคและซาวี่ก็มีใบหน้าที่ร่าเริง
“เราไปถึงก่อนพวกทหารปฏิวัติจะแจ้งให้บุรุษหน้ากากทันเวลา เราจะย้ายลี่เยี่ยยออกจากป้อมเสียงหวีดไปที่เมืองจันทราแล้วฮะฮะ โชคดีที่จินฟงพูดถึงเรื่องนี้ มิฉะนั้นหลายอย่างคงแย่จริงๆ” สีหน้าของปีศาจเฒ่าเว่ยแค่แสดงออกว่าเขามีความสุขุมขึ้น
“ใช่แล้ว ผู้เฒ่าเว่ย, ท่านฉลาดและรอบคอบจริงๆ ทุกอย่างอยู่ในความเข้าใจของท่าน” ขุนพลจินฟงยกยอเขา ไม่มีอะไรที่เขาทำได้เกี่ยวกับปีศาจเฒ่าเว่ย นี่คือสิ่งที่เขาชอบทำกับปีศาจเฒ่าเว่ย
“โอว ไม่นะ!” หลงเสียงตะโกนและยืนขึ้น
ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่เขาคิดอย่างสับสนใจครั้งก่อน เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายลี่เยี่ยน
หลงเสียงขว้างแก้วทิ้งพลางสบถกราดเกรี้ยว“บัดซบ, เราไม่ควรเคลื่อนไหว!”
ปีศาจเฒ่าเว่ยและคนอื่นตะลึงกันหมด
เจ้าเมืองลมดำผู้ฉลาดคนหนึ่งตั้งตัวได้เขาตะโกนขึ้นทันที “เร็วเข้า,ไปเมืองจันทรา เราต้องไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ เพราะกองทัพกบฏไม่มีข่าวลี่เยี่ยนมาก่อนการเปลี่ยนแปลงนี้เพียงพอทำให้กองทัพกบฏค้นพบได้แล้วไม่..เราต้องไปดูที่เมืองจันทรา!”
จากภายในประตูเทเลพอร์ตนักสู้ปราณฟ้าคนหนึ่งวิ่งออกมาด้วยร่างที่โชกเลือด
เป็นหัวหน้าหน่วยชื่อริวไคผู้รับหน้าที่เฝ้าดูลี่เยี่ยนเขาร้องอย่างทุกข์ระทม “มีบุรุษหน้ากากนำกองทัพ เขาคือคนในกองทัพกบฏ”
“อ๊า...!”
ริวไคร้องลั่นทำให้ทุกคนในที่นั้นตกใจกันหมด
ปีศาจเฒ่าเว่ยกระแทกนั่งกับพื้น หลังจากผ่านไปนานเขายังไม่รู้จะทำอะไร