ตอนที่ 681 ไม่ผิดปกติทั้งหมดก็ผิดปกติมากกว่า
“เขาโค่นเจ้าเมืองลมดำในท่าเดียว? เป็นไปไม่ได้!”
มีชายชราคนหนึ่งหัวล้านหูยานแต่ตาเรืองแสงเหมือนภูตผีโบกมือด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “ต้องเป็นเพราะใจของเจ้าถูกข่มขู่มาหรือเป็นเพราะคู่ต่อสู้ใช้วิชาลวงตาบางอย่างสร้างภาพลวงตาที่เกินจริงเช่นนั้นแล้วส่งผลต่อการตัดสินของเจ้าด้วยการบรรลุพลังปราณฟ้าระดับห้าครั้งใหม่ของข้า ก็ยังเอาชนะเจ้าเมืองลมดำในท่าเดียวไม่ได้เจ้าบุรุษหน้ากากนั้นทรงพลังจริงๆ หรือ?”
ชายชราผู้นี้ก็คือกำลังเสริมที่ผางหมันเชิญเข้ามาปีศาจเฒ่าเว่ย
ปีศาจเฒ่าเว่ยเป็นสุดยอดจอมวายร้ายแห่งแดนสวรรค์ใต้ เขาเดิมทีเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ชั้นสูงและยกระดับสำเร็จเป็นปราณฟ้าระดับห้า พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย และเขามีส่วนร่วมในการจับหัวหน้าโจรลี่เยี่ยนได้ประสบผลสำเร็จ ค่าหัวของเขาเพิ่มขึ้นจาก 570 ล้านเหรียญทองเป็น600 ล้านเหรียญทอง
ฮ็อคกับซาวี่ผู้เกี่ยวข้องกับการจับลี่เยี่ยนก็มาพร้อมกับเขา ทั้งสองคนเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม
เนื่องจากการกระทำที่ชั่วร้ายของพวกเขารางวัลค่าหัวของทั้งสองสูงถึง 250 ล้านและ 280 ล้านพวกเขามีค่าหัวสูงกว่าไป๋ซ่งมาก ทั้งที่ไป๋ซ่งแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา พวกเขาเป็นรองเจ้าเมืองลมดำผู้มีค่าหัว 300ล้านเหรียญทอง นอกจากกำลังเสริมที่ผางหมัน ผู้อาวุโสระดับปราณฟ้าจากสำนักร้อยสนสองคนคือผู้อาวุโสชิงซ่ง ผู้อาวุโสหวงซ่งก็ยังมาเสริมกำลังให้อีกด้วย
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นยอดฝีมือปราณฟ้าระดับสอง แต่พวกเขาก็มาถูกเวลา
นี่เป็นเพราะนักรบแต่ละคนที่มาเพิ่มนั้นเป็นนักสู้ปราณฟ้าทั้งนั้น
“เสี่ยวโฉ่วแห่งโจรตัวตลกออกไปจากแดนสวรรค์ใต้แล้ว ข้าไม่สามารถหาเขาได้พบแม้ว่าข้าต้องการก็ตาม ข้าสงสัยจริงว่าเขาไปที่ใดกันแน่! มนุษย์กระดูกราเชลรับภารกิจสำคัญซึ่งทำให้เขาไม่สามารถมาได้ในช่วงเวลาสั้นๆ สำหรับนายพลปีศาจจื่อเว่ยเขามีความสัมพันธ์ที่สนิทกับเจี๋ยฮู่เขาปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ เราไม่อาจนับเขาไว้ด้วยขณะที่ราชาใจสิงห์ยังไม่มีข่าวคราวเขาในตอนนี้ เขาคงไม่นั่งเฉยเกียจคร้านเป็นแน่ ที่สำคัญเรามีการร่วมมือขั้นพื้นฐานต่อกัน การทำลายเมืองลมดำไม่เป็นประโยชน์ต่อเขา!” หลังจากพลังของปีศาจเฒ่าเว่ยเพิ่มขึ้นมากเขาเริ่มส่งเสียงเอะอะได้ เขาตบโต๊ะและตัดสินใจให้เจ้าเมืองลมดำ “เจ้าเมืองใบไม้เขียวและใบไม้เงินก็ไม่มีความเห็นของสงครามข้ามดินแดนอยู่แล้ว คนจากแดนสวรรค์ตะวันตกมายังแดนสวรรค์ใต้และลากพวกเขาลงน้ำ ไม่ปล่อยให้พวกเขาออกห่างจากเรื่องนี้ ยังมีเจ้าแคว้นมรกต เมื่อเราต่อสู้ให้แคว้นมรกตเราต้องทำอย่างดีที่สุด ตอนนี้เรามีเรื่องยุ่งบางอย่าง ถ้าเขาไม่ลงมือลงแรงช่วยบ้างเราคงไม่สามารถรอดได้ในอนาคตแน่ เราจะไม่ปล่อยให้เขาได้มีชีวิตอยู่อย่างง่ายๆ”
“ถูกแล้ว” เจ้าเมืองลมดำสามารถฝืนทนและเขายอมรับ
ตราบใดที่ปีศาจเฒ่าเว่ยเอาชนะบุรุษหน้ากากได้ อย่างนั้นทุกอย่างก็คงดี
เขาต้องการเงิน เขาต้องการสมบัติ เขาต้องการสตรีก็สามารถได้มากเท่าที่ต้องการ
ถ้าปีศาจเฒ่าเว่ยเป็นรองคู่ต่อสู้เล็กน้อย อย่างนั้นเขาอาจจะแบมือขอก็ได้... เจ้าเมืองลมดำต้องทำใจไว้แล้ว ในตอนนี้เขาต้องผลักดันปีศาจเฒ่าเว่ยผู้กระตือรือร้นสร้างชื่อเสียงหลังจากก้าวหน้าเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าและใช้เขาเป็นโล่ป้องกันตัว
มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เจ้าเมืองลมดำปวดหัวก็คือปีศาจเฒ่าเว่ยเพิ่งจะเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าจะล้มบุรุษหน้ากากได้จริงๆ หรือไม่?
เขารู้สึกว่าบุรุษหน้ากากน่ากลัวมาก แม้ว่าปีศาจเฒ่าเว่ยจะทรงพลังแต่เขาก็ยังไม่มีระดับพลังที่น่ากลัวเลย
ถ้ามองดูอย่างผิวเผินเจ้าเมืองลมดำเชื่อปีศาจเฒ่าเว่ยอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ยังกังวลอยู่เล็กน้อย
ภาพเงาของการต่อสู้ของเขากับบุรุษหน้ากากฝังไว้ลึกมาก
ลึกจนถึงไขกระดูก
เจ้าเมืองลมดำเดินทางทั้งยามราตรีไปพบเจ้าแคว้นมรกตและได้ส่งสัญญาขนานใหญ่รับรองว่าในอนาคตรายได้ครึ่งหนึ่งของเมืองลมดำจะต้องส่งมอบให้เจ้าแคว้นมรกต เจ้าครองแคว้นผู้นี้ปกครองเมืองร้อยเมืองและตัดสินใจส่งผู้บัญชาการที่แข็งแกร่งที่สุดอวี้เชวียนจวินนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่นำขุนพลระดับปราณฟ้าไปช่วยสนับสนุนเจ้าเมืองลมดำ
วันต่อมาเย่ว์หยางสวมหน้ากากทองเจมินี่มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพกลับมาอีกครั้ง
พวกเขาพบว่าข้างนอกเมืองลมดำมียอดฝีมือระดับปราณฟ้ากลุ่มใหญ่ยืนรออยู่
ฝั่งซ้ายมือคือกำลังเสริมที่ทรงพลังส่งมาโดยเจ้าแคว้นมรกตนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่อวี้เชวียนจวินและขุนพลระดับนักสู้ปราณฟ้าอีกสี่คนอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา ฝั่งขวามือคือเจ้าสำนักไป๋ซ่ง ผู้อาวุโสชิงซ่งผู้อาวุโสหวงซ่งเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้พ่ายเขาเมื่อวานและลดบทบาทเป็นเพียงกองหนุน คนที่ยืนอยู่ตรงกลางก็คือปีศาจเฒ่าเว่ยผู้มีระดับพลังสูงที่สุดแข็งแกร่งที่สุด หน้าของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสที่รายล้อมเขาคือสหายอีกสองคน ฮ็อคและซาวี่ อีกด้านหนึ่งเป็นผางหมันและจินฟง สำหรับเจ้าเมืองลมดำเขาแยกไปสนับสนุนอยู่ด้านหน้าปีศาจเฒ่าเว่ย
“นี่คือคำตอบใช่ไหม?” เย่ว์หยางถาม
“เจ้าหนุ่มหน้ากาก เมื่อวานนี้ข้าไม่อยู่ที่นี่มิฉะนั้นเจ้าคงไม่สามารถชูคอได้แน่!” ปีศาจเฒ่าเว่ยเห็นว่าระดับของเจ้าเด็กน้อยผู้นี้ไม่สูงส่งเท่าเขาเขาจึงทำสีหน้าหยิ่งยโสยิ่งขึ้น “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าโจมตีเฮยฟงสหายของข้าบอกว่าจะฆ่าเขา แต่ในความเห็นของข้า นั่นแค่เรื่องหลอกลวงผู้เชี่ยวชาญเล่นแร่แปรธาตุคนไหนที่เจ้าต้องการพบผู้เชี่ยวชาญไหนเล่าจะเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้?เฮยฟงต้องการได้ผู้มีพรสวรรค์อยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะก่อเรื่องเช่นนั้นนอกจากนี้ถ้าเจ้ามองโลกในแง่ดี นั่นเป็นความรับผิดชอบของเจ้า เจ้ามันไร้ยางอายกล้าโจมตีสหายของข้าระบายความโกรธ นั่นคือเหตุผลอะไรกัน?”
“เจ้าหมายความว่าเจ้าไม่ส่งมอบเขาใช่ไหม?” เย่ว์หยางมองดูเจ้าเมืองลมดำและถาม “คำพูดของเจ้าถือเป็นการพูดแทนเจ้าเมืองหรือไม่?”
“ข้าสามารถเป็นตัวแทนเฮยฟงได้เลย!” คำพูดของปีศาจเฒ่าเว่ยทำให้เจ้าเมืองลมดำอยากเอาศีรษะกระแทกพื้นยิ่งนักเดิมทีเขาต้องการพูดอะไรหลายอย่างและเห็นว่าเขาสามารถเจรจาต่อรองได้ ใครจะรู้กันว่าปีศาจเฒ่าเว่ยจะกระตือรือร้นสร้างชื่อเสียงกันเล่า? ปีศาจเฒ่าเว่ยชี้หน้าเย่ว์หยางและแค่นเสียง“คนของเจ้าหายไปเอง พวกเจ้าที่มาจากแดนสวรรค์ตะวันตกต้องการจะอ้างเรื่องนี้ประพฤติเลวร้ายในแดนสวรรค์ใต้ของเราหรือ?เจ้าต้องถามชาวปราณฟ้าในแดนสวรรค์ใต้ว่าเห็นด้วยหรือไม่!”
“อย่างนั้นข้าขอถามเจ้าว่าเจ้าเป็นชาวปราณฟ้าในแดนสวรรค์ใต้จะเห็นด้วยหรือไม่!” เย่ว์หยางโบกมือส่งสัญญาณให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าและคนอื่นๆ ถอยไป
เขายืนขึ้นเอง!
ปีศาจเฒ่าเว่ยนี้เป็นแค่ปลาน้อยตัวแรกที่เย่ว์หยางจับในเมืองลมดำ เจ้าแคว้นมรกต, โจรตัวตลกเสี่ยวโฉ่วราชาใจสิงห์และปลาใหญ่ตัวอื่นอยู่เบื้องหลังเขา เย่ว์หยางรู้ว่าถ้าไม่มีการสู้รบก็ไม่ต้องพูด เย่คง เจ้าอ้วนไห่ และคนอื่นแม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรต้องการเวลาก่อนจึงจะก้าวหน้าได้
ถ้าเขาต้องการให้พลังของเขาก้าวหน้าต่อไปเขาต้องผ่านสงครามและยิ่งยากยิ่งดี
ตัวอย่างเช่น มารสัมฤทธิ์ฟ้าเขาติดอยู่ที่ปราณฟ้าระดับหนึ่งอยู่นานและหลังจากฆ่าราชาเฮยอวี้เขาก็มีพลังเพิ่มขึ้นทันที
ต่อมาเขาได้รับยาเม็ดพลังยุทธคุณภาพสูงสุดจึงทำให้เข้าถึงพลังปราณฟ้าระดับสองขั้นสูง
เพื่อช่วยให้เขาก้าวหน้าเย่ว์หยางพาเขามายังแดนสวรรค์เพื่อสู้กับผางหมันผู้อยู่ในระดับพลังที่สูงกว่า ในที่สุดเขาก็บรรลุระดับใหม่ได้สำเร็จเมื่อเขากลับมา....เย่ว์หยางประเมินว่าหลังจากสู้รบต่อเนื่อง มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพจะมีระดับพลังที่ก้าวหน้าอย่างมากมายเย่คงและเสวี่ยทันหลางที่มีระดับพลังต่ำกว่าก็จะมีความรุดหน้าแบบก้าวกระโดดเช่นกัน
เจ้าแคว้นมรกตและโจรตัวตลกเสี่ยวโฉ่วตกเป็นเป้าหมายของเย่ว์หยางแล้ว
มีโอกาสที่เย่ว์หยางจะยังไม่สามารถเอาชนะราชาใจสิงห์ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามยังมีคนอื่นที่เอาชนะได้อย่างจื้อจุน และจักรพรรดินีราตรี
เมื่อจื้อจุนเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามอย่างราชาใจสิงห์ นางคงจะมีความสุขมากแน่นอน นางเป็นพวกบ้าฝึกปรือ เมื่อเผชิญหน้ากับคู่มือดีๆ คงเป็นเรื่องแปลกถ้านางไม่รู้สึกตื่นเต้น!
“อะไรกันเจ้า?ยังทำใจเย็นอยู่ได้!” ปีศาจเฒ่าเว่ยไม่มีอะไรต้องกลัว เขาเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าต่อให้เขาเพิ่งยกระดับขึ้นมาก็ตามจะโค่นบุรุษหนุ่มหน้ากากนี้ย่อมไม่เป็นปัญหา
“เฒ่าบัดซบเจ้ารู้อะไรไหม? บางครั้งยอดฝีมือก็เข้าใจผิดกันได้?” เย่ว์หยางแค่นเสียง
ปีศาจเฒ่าเว่ยโกรธจัด
อย่างไรก็ตามเขาไม่ประมาท
อันดับแรกเขาเรียกพญางูเขียวกลืนฟ้าซึ่งเทียบเท่าปราณฟ้าระดับสาม พญางูเขียวกลืนฟ้าที่ก้าวหน้าจากปราณฟ้าระดับสองเป็นปราณฟ้าระดับสามช่วยทำให้ปีศาจเฒ่าเว่ยผู้ติดชะงักเป็นคอขวดได้บรรลุระดับใหม่ได้สำเร็จ มิฉะนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเขาในการบรรลุปราณฟ้าระดับห้าได้ด้วยพรสวรรค์ของเขาเอง อสูรรบตัวที่สองของปีศาจเฒ่าเว่ยก็คือจระเข้ปีศาจไฟฟ้าเป็นอสูรรบที่มีความเร็วมาก มันเป็นอสูรรบปราณฟ้าไม่กี่ตัวในบรรดาอสูรประเภทจระเข้
จระเข้ปีศาจไฟฟ้าตัวโตเต็มวัยมีราคาประมูลในตลาดมืดสูงถึง50 ล้านเหรียญทอง
แน่นอนว่าจระเข้นี้ไม่ได้รับมาจากการประมูลในตลาดมืด แต่ได้มากจากมือของเจ้าเมืองเมื่อสามร้อยปีที่แล้ว
หลังจากผ่านไปสามร้อยปีของการฝึกปรือจระเข้าไฟฟ้าก็มีพลังปราณฟ้าระดับสอง
พลังของมันเพียงด้อยกว่าพญางูกลืนฟ้า
เมื่อพญางูกลืนฟ้ายาวพันเมตรปรากฏตัวเจ้าเมืองลมดำและคนอื่นๆ อดถอยไปไม่ได้ และยกสนามรบให้กับปีศาจเฒ่าเว่ย
ยังไงก็ตามปีศาจเฒ่าเว่ยเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในขณะนั้น ถ้าเขาล้มเหลวอย่างนั้นการสู้รบจะพังทลายแน่นอน..... เจ้าเมืองลมดำไม่กังวลเรื่องปีศาจเฒ่าเว่ยจะพ่ายแพ้ แต่เขากังวลว่ายอดฝีมือจากแดนสวรรค์ตะวันตกจะมามากขึ้นหลังจากการสู้รบ ทุกคนต้องรู้ว่าในเวลาช่วงไม่กี่วันนี้ยอดฝีมือจากแดนสวรรค์ตะวันตกก็มาถึงที่นี่กันแล้ว
บุรุษหน้ากาก มารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและคนอื่นๆล้วนมีกิจการเป็นของตนต่างมาที่แดนสวรรค์ใต้เพราะต้องการซื้อสิ่งของ
แน่นอนว่ายอดฝีมือปราณฟ้าที่น่ากลัวกว่าก็ยังจะมาด้วย
นี่ยังเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เจ้าเมืองลมดำยินดีให้ปีศาจเฒ่าเว่ยได้ออกหน้า เขาคาดว่าการต่อสู้จะไม่มีอะไรเกี่ยวกับเขาจนกระทั่งจบและมีแนวโน้มว่าการสู้รบระหว่างเจ้าแคว้นมรกตและยอดฝีมือแดนสวรรค์ตะวันตก หรือบางทีอาจเป็นการต่อสู้ระหว่างราชาใจสิงส์และยอดฝีมือแดนสวรรค์ตะวันตก ปลาเล็กและกุ้งน้อยอย่างเขาไม่สามารถเปลี่ยนผลการสู้รบได้ เมื่อถึงเวลาที่การต่อสู้จบลงและเขาคงหยิบผลประโยชน์บางอย่างได้บ้าง
“มันตัวใหญ่แต่ไม่ได้มีประโยชน์ขนาดนั้น ก็แค่ถุงใส่เหล้า” เย่ว์หยางเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมา พอประกายสีทองวาบขึ้นเขาเรียกสาวโคเงาอาหมันออกมาก่อนและจากนั้นเป็นนางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่วที่กำลังอ้าปากหาวขณะถูกปลุกให้ตื่น หลังจากเพิ่มเงายักษ์ให้แล้วเย่ว์หยางเรียกอสูรตนที่สาม ภูตเพลิงฟ้า
เจ้าเมืองลมดำและคนอีกฝ่ายหนึ่งตะลึง
โอวสวรรค์โปรดเจ้าบุรุษหน้ากากผู้นี้เป็นตัวประหลาดชัดๆ ไม่เพียงแต่มีคัมภีร์อัญเชิญเท่านั้นแต่เขายังมีอสูรพิทักษ์ถึงสามตน
สิ่งที่ทำให้พวกเขาแทบกระอักโลหิตก็คือแม้แต่อสูรของเขาก็ยังมีอสูรอัญเชิญอีกต่อหนึ่ง
ภูตเพลิงฟ้าเรียกนางพญาผึ้งเพลิงออกมา
นางพญาผึ้งเพลิงอสูรแพลตตินัมระดับสิบกฎของมันคือไม่โจมตี แต่วางไข่
มันบินไปที่ภูเขาไฟที่มารเคราะห์ฟ้าเรียกออกมาเมื่อวานนี้สูบความร้อนจากภูเขาไฟและเก็บเอาไว้
และตราบเท่าที่มีลาวามันสามารถวางไข่ได้ไม่รู้หมดสิ้น
ความร้อนจะเปลี่ยนเป็นไข่ และผึ้งทหารเพลิงที่ฟังตัวจะมีพลังนักรบปราณดินระดับหนึ่งแม้ว่าพลังป้องกันของผึ้งทหารจะไม่สูงมากเท่ากับอสูรปราณฟ้าพวกเขาสามารถทำลายตัวเองแม้แต่ยอดฝีมือปราณฟ้าก็ยังพลอยปวดหัวไปด้วยถ้าต้องเผชิญหน้ากับการทำลายตัวเองหนาแน่นไม่สิ้นสุด
บทบาทของนางพญาผึ้งเพลิงสามารถวางไข่ได้ไม่สิ้นสุด
แม้ว่าพญางูกลืนฟ้าจะทรงพลังมาก แต่ร่างของมันก็ใหญ่เกินไปปกติมันไม่สามารถปล่อยให้ระเบิดเปลวไฟใส่หัวของมันได้ ดังนั้นมันได้แต่กลืนทั้งหมดในอึกเดียว
ถ้าระเบิดที่หางจะส่งผลแตกต่างกันออกไป เงายักษ์บนตัวอาหมันจะแตกต่างจากที่ใช้กับจักรพรรดิมังกร เงายักษ์บนตัวนางคงอยู่ได้เป็นเวลายาวนานมากแม้จะไม่สนพลังโจมตีของศัตรูก็อยู่ได้จนกระทั่งการต่อสู้จบ
“คลิ้ง!” อาหมันเหวี่ยงโซ่ล่ามเทพของนางใส่พญางูกลืนฟ้าด้วยพลังที่รุนแรง
พญางูกลืนฟ้าอ้าปากของมันต้องการกลืนโซ่ล่ามเทพซึ่งสามารถใช้ล่ามไตตันอย่างแน่นหนา อย่างไรก็ตาม พญางูกลืนฟ้าไม่สามารถใช้พลังกลืนของมันได้แม้แต่น้อยโซ่ล่ามเทพรัดหัวและคอของมันไว้อย่างหนาแน่น
พญางูกลืนฟ้าพุ่งเข้ามาด้วยความโกรธและสะบัดหัวของมันพยายามเหวี่ยงอาหมันออกไป
อสูรรบปราณฟ้าระดับสามและศักดิ์ศรีของมันจะถูกนางโคเงาตัวเล็กท้าทายได้ยังไง?
ปีศาจเฒ่าเว่ยเพิ่มจระเข้ปีศาจไฟฟ้าและปล่อยยิ้มด้วยความภูมิใจเต็มหน้า เขาเห็นการสู้รบอย่างนี้มามากแล้ว ธรรมดาที่อสูรรบของศัตรูจะถูกพญางูกลืนฟ้าบินขึ้นฟ้าและภายใต้ความสามารถกลืนที่รุนแรง แม้แต่อสูรปราณฟ้าก็ไม่สามารถรอดได้เมื่อเข้าไปอยู่ในท้องของจระเข้ปีศาจไฟฟ้า
ครืดดดด
สิ่งที่ทำให้ตาของเจ้าเมืองลมดำไป๋ซ่งและคนอื่นแทบทะลุจากเบ้าก็คือนางโคเงาที่ดูเหมือนอ่อนแอไม่ยอมให้สัตว์ประหลาดอย่างพญางูกลืนฟ้าลากไปได้แต่นางกลับยื้อโซ่ล่ามเทพไว้ ใครจะเชื่อกันเล่าว่าพญางูจะถูกลากลงมากับพื้น
โซ่ล่ามเทพเปล่งแสงรัศมีแพรวพราวในสนามต่อสู้
พลังงานใดๆ ที่ต้องการจะทำลายโซ่ล่ามเทพนี้จะถูกลงโทษโดยพลังไฟฟ้า
ในฐานะอสูรพิทักษ์ผู้เป็นเจ้าของโซ่ อาหมันยังปลอดภัยสบายอยู่ได้ แต่พญางูกลืนฟ้าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด...มันต่อสู้และอ้าปากขนาดยักษ์ของมันเพื่อกลืนกินอาหมันอย่างบ้าคลั่ง
ปกติพลังกลืนของมันจะใช้เมื่อตอนจบการต่อสู้
อย่างไรก็ตามนี่เป็นข้อยกเว้น
อาหมันขุดหินก้อนมหึมาขนาดภูเขาย่อมๆและยกทุ่มใส่ปากของพญางูกลืนฟ้าอย่างง่ายดาย
ปีศาจเฒ่าเว่ยตะลึง นี่เป็นวิธีการต่อสู้ประสาอะไร?
นางโคเงานี้ผิดปกติอสูรเกินไปหรือเปล่า?
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นว่านางพญาดอกหนามมงกุฎทองดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเขาเข้าใจทันทีว่าหมายถึงอะไร ไม่มีอะไรผิดปกติทั้งหมด แค่ผิดปกติมากกว่าเท่านั้น