ตอนที่ 681 ทวีปทอง
“ตื่นตัวเข้าไว้, อีกครั้งหนึ่ง!”
เสียงที่ทรงพลังของเต๋อซิงดังก้องไปทั่วสนามฝึกฝน เขามีรูปร่างที่สูงใหญ่ และเป็นคนที่ติดดิน เพราะเขามาจากตระกูลธรรมดาทำให้เขาเข้าถึงทหารได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฝึกหรือรบ เขาจะเป็นผู้นำสู้เคียงข้างกับทุกคน เขาไม่เคยถือตัวว่าเป็นระดับสูง จึงได้รับความเคารพนับถือจากทหารอย่างลึกซึ้ง
ในภูมิภาคใต้ ทวีปสายรุ้งมีมาตรฐานพลังปานกลาง แม้ว่าที่ตั้งจะดีกว่า แต่พวกเขาไม่มีคุณสมบัติได้เป็นสมาชิกหลักของภูมิภาคใต้
สัมพันธมิตรใต้ในปัจจุบันนี้ได้ขยายจนเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ พัฒนาไปเป็น 32 ทวีปกลายเป็นกลุ่มความร่วมมือที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคใต้ และโดยการกระตุ้นของสัมพันธมิตรใต้ ทวีปอื่นอีกหลายแห่งในภูมิภาคใต้เริ่มรวมตัวกันและก่อตั้งความเป็นพันธมิตรอีกนับไม่ถ้วน แต่สัมพันธมิตรใต้ยังคงเป็นกลุ่มความร่วมมือที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคใต้ และโดยคาดไม่ถึง เมื่อกลุ่มพันธมิตรอื่นเริ่มขยายตัวช้าๆ สัมพันธมิตรใต้ก็ปิดรับการเข้าร่วม
สำหรับภายนอกสัมพันธมิตรใต้กำลังดำเนินการปฏิรูปกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากปฏิรูปเสร็จแล้วจะไม่มีการรับสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอีก
ผู้บริหารระดับสูงของทวีปสายรุ้งเอาจริงเอาจังอยู่เสมอ พวกเขารู้ว่านอกจากที่ตั้งสำคัญของพวกเขาแล้ว ทวีปสายรุ้งไม่มีความได้เปรียบอย่างอื่น และพวกเขาอ่อนแอกว่าทวีปอื่นมาก และในความเป็นจริงการก่อตั้งสัมพันธมิตรใต้ แม้ว่าความได้เปรียบในจุดที่ตั้งของพวกเขาจะไม่มีประโยชน์ แม้ว่าสัมพันธมิตรใต้ต้องการจะเตะพวกเขาออกจากกลุ่ม พวกเขาก็คงไม่กล้าเริ่มโจมตีสะพานลอยทะเลแสงอยู่ดี
ในบรรดาสมาชิกหลักของสัมพันธมิตรใต้ ทวีปสายรุ้งเป็นทวีปที่ให้ความร่วมมือในการปฏิรูปกองทัพของทวีปซางโจวดีที่สุด พวกเขาส่งทหารเกือบทั้งหมดของพวกเขามาและคงเหลือไว้เพียงกองพลสายรุ้งใต้ซึ่งนำโดยเต๋อซิง
แต่ผลที่น่าตกใจต่อผู้บริหารระดับสูงก็คือ กองพลสายรุ้งใต้ซึ่งไม่ใช่เป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีปสายรุ้งได้รับเลือกจากปิง
สามารถได้ตำแหน่งผู้บัญชาการของกองทัพได้หลังจากได้เป็นผู้บัญชาการแล้ว เต๋อซิงเดินตามเส้นทางที่ยาวและยากลำบาก แต่เขาเป็นคนที่ฉลาดและหัวไวต่อโอกาส เขาไม่สงสัยหรือปฏิเสธต่อคำขอของปิงและทำทุกอย่างตามที่ร้องขอ
จากทหารที่ถูกจัดไว้เป็นอันดับต่ำที่สุด เขาก้าวพรวดพราดรวดเดียวรับตำแหน่งผู้บัญชาการในวัย 45 ปีเต๋อซิงไม่ได้มีพรสวรรค์มากนัก แต่เป็นผู้ใหญ่ที่มีมาตรฐานแข็งแกร่ง หลังจากมีปฏิสัมพันธ์กับสมบัติดวงดาวในเวลาสั้นๆเขาก็ถูกดึงดูดไว้ทันที
‘ข้าไม่เคยคิดว่าจะมีสักวัน ที่ได้อาวุธวิญญาณที่ฟุ่มเฟือย โอว,มันเรียกว่าสมบัติวิญญาณจะได้รับการติดตั้งไว้ในกองทัพข้า’ ขณะที่กองพลอื่นยังคงคลางแคลงใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ กองพลสายรุ้งใต้ก็ฝึกไปตามแผนของปิงแล้ว
กองพลสายรุ้งใต้ก้าวหน้าเหนือกองทัพที่เหลือในการปฏิรูปอย่างรวดเร็วจึงได้รับความไว้วางใจจากปิง
เมื่อการฝึกเสร็จสิ้นลง ทหารทุกคนที่เหน็ดเหนื่อยถือโอกาสพัก แต่เต๋อซิงไม่ใช่ เขาจำเป็นต้องรายงานข้อสงสัยและผลตอบรับกลับไปให้ท่านปิงเสมอ
ปิงจะฟังรายงานของเต๋อซิงอย่างตั้งใจ ขณะฝึกก่อนนั้น เขาจะยืนสังเกตอยู่ด้านข้างและตอบข้อสงสัยบางส่วน แต่จำเป็นต้องใช้เวลาขัดเกลาคำตอบสำหรับข้อสงสัยอื่น
กองกำลังใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในกองทัพ วิธีปลดปล่อยศักยภาพอย่างเต็มที่ วิธีช่วยให้ทหารใช้ประโยชน์ได้ดี กลยุทธและปัญหาเหล่านี้ทั้งหมดไม่สามารถคลี่คลายได้ด้วยการเคาะศีรษะ
ปิงรู้เรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ฝืนควบคุมไปทุกอย่าง แต่ตอนแรกจะล้วงลึกเข้าไปในกลุ่มเล็ก
จากเท่าที่เห็นในปัจจุบันกระบวนการทั้งหมดไม่อาจทำให้ทุกคนมีความสุขได้ ปิงตระหนักได้ว่าปัญหาที่เขาเผชิญอยู่ก็คือภาวะแทรกซ้อนที่ไม่เคยมีมาในอนาคต สมาชิกหลักอย่างทวีปทรายขาว ตระกูลไป๋ทวีปสายรุ้งทำงานเชิงรุกมากขึ้น ขณะที่ทวีปหยวน ทวีปหมิงและทวีปหลีไห่มักจะทำเฉยเมยมากขึ้น สมาคมการค้าสวีจี้เป็นบริษัทการค้าไม่ได้แสดงความสนใจในเรื่องกองทัพ
แต่ทวีปทรายขาวยังคงอยู่ในสภาพฟื้นฟูและไม่สามารถให้กำลังได้เท่าใดนัก ตระกูลไป๋สนใจในเรื่องปฏิรูปการทหาร แต่ตระกูลไป๋อยู่ไกลเกินไปและกองทัพจำเป็นต้องใช้เวลาสองสามวันกว่าจะมาถึง
นอกจากสมาชิกสำคัญทั้งหมดแล้ว กองทัพที่เข้ากันได้ชั่วคราวที่สุดมาจากทวีปสายรุ้ง
เมื่อเทียบกับสมาชิกเฉื่อยชาของ 24ทวีปของสัมพันธมิตรใต้ ความจริงยังถือว่ามีการตอบสนอง ทวีปเหล่านี้ทั้งหมดมีอำนาจน้อยกว่าและอ่อนแอกว่า แต่ปิงเลือกสี่กองทัพจากพวกเขา
กองทัพทวีปหยวน, กองทัพขาวจากทวีปป่ากลาง กองทัพมังกรแดงจากทวีปมังกรใหญ่และกองกำลังรักษาการณ์ของหมู่บ้านเหนือแห่งทวีปฐานเหนือ
การคัดเลือกกองทัพทั้งสี่ก่อให้เกิดการเยาะเย้ยในกลุ่มทหารมากมาย สี่กองทัพเหล่านี้นอกจากกองทัพทวีปหยวนซึ่งค่อนข้างจะมีชื่อเสียง ไม่มีใครเคยได้ยินชื่ออีกสามกองพลมาก่อน อย่าว่าแต่ไม่เป็นที่รู้จักเท่านั้น แต่หนึ่งในนั้นเป็นแค่เพียงกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้าน
ตลกหรือเปล่า?
ทุกคนเคยได้ยินชื่อของกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงแห่งทวีปซางโจ แต่ส่วนใหญ่เห็นเป็นเรื่องตลกและไม่เคยมองว่าเป็นจริงจัง เมื่อเห็นกับตาว่าปิงเลือกกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้าน ทวีปที่เฝ้าสังเกตการณ์ทั้งหมดรู้สึกว่าปิงกำลังวุ่นวาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทวีปหมิงทวีปหยวนและทวีปหลีไห่ ทั้งสามทวีปนี้ชอบเยาะเย้ยปิง เมื่อพวกเขาร่วมสัมพันธมิตรใต้ ตอนแรกพวกเขาไม่ค่อยเต็มใจ แต่เป็นพฤติกรรมที่เข้มแข็งของทวีปซางโจว บวกกับวิธีการที่ดุร้ายโหดเหี้ยมของถังเทียนที่ทำให้พวกเขาสั่นสะท้านและยังเพิ่มผลประโยชน์ที่มากมาย ในที่สุดพวกเขาจึงยอมเข้าร่วม
แต่ในใจของพวกเขายังคงมีความหวาดกลัวต่อทวีปซางโจว
พวกเขากระตือรือร้นเพื่อดูว่าปิงจะเล่นตลกอย่างไร ถ้าแผนการล้มเหลวก็พิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และจะกลายเป็นเสียศักดิ์ศรีครั้งยิ่งใหญ่ของทวีปซางโจว ผู้นำที่ไม่มีศักดิ์ศรีพอ ควรให้โอกาสผู้อื่น
กองทัพที่ไม่ได้รับเลือกรู้สึกขื่นขมมาก มีแต่กองทัพที่ถูกเลือกจึงได้รับอาวุธวิญญาณทวีปต่างๆ รู้ถึงประโยชน์และพลังของอาวุธวิญญาณ แต่มันมีมูลค่าสูงและแพงเกินไป และไม่สามารถเอามาใช้ในสงคราม ในที่ใดๆ ก็ตามอาวุธวิญญาณสามารถขายได้ราคาสูงลิ่ว!
ในช่วงนี้ ข่าวลือทั้งหมดเริ่มแพร่กระจายในกลุ่มสัมพันธมิตรใต้
ปิงทำเป็นเหมือนว่าเขาไม่ได้ยินข่าวเหล่านั้น และทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับกองทัพ สำหรับใครบางคนที่เห็นทุกอย่างเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้นับว่าไม่มีประโยชน์ เขาคือนักยุทธศาสตร์และเข้าใจข้อดีข้อเสียดี ดังนั้นเขารู้ว่าตราบใดที่เขาชนะ เขาก็สามารถเปลี่ยนทุกอย่างได้
แต่ก่อนที่จะทำเช่นนั้น เขาเพียงแต่ต้องรักษากิจวัตรประจำและดำเนินการตามแผนของเขา และเปลี่ยนสภาพทหารเหล่านี้ให้เป็นทหารระดับสูง
ตราบใดที่เขามีห้ากองทัพระดับสูง การควบคุมสัมพันธมิตรใต้ของทวีปซางโจวก็จะมีพลังมากขึ้น และเวลานั้นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง สำหรับความสามารถในการฝึกทหารของเขา ปิงมีความมั่นในตนเองแน่นอน
ในท่ามกลางความสงสัยและเยาะเย้ยถากถาง ห้ากองทัพเริ่มทดสอบกลยุทธแบบใหม่
ห้ากองพลไม่ได้มาจากทวีปใหญ่ๆ หรือมีตำแหน่งสูงส่งในทวีปของพวกเขา และมีความมั่นใจในตนเองต่ำ พวกเขาหวงแหนโอกาสมากขึ้น แม้ว่าเส้นทางจะเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่พวกวเขาก็ทุ่มเทกำลังฝึกฝน
ปิงทุ่มเทให้พวกเขาเต็มที่ และในครึ่งเดือน สถานการณ์เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ปิงเชื่อว่าขอเพียงเขามีเวลาสักครึ่งปีพลังของห้ากองพลจะทำให้ทุกคนทึ่ง
นอกจากนี้ ศัตรูของเขาก็ยังเชี่ยวชาญในกลยุทธด้วยเช่นกัน
******************
ท่านหญิงโหรวอ่านรายงานในมือของนาง สีหน้าของนางสงบ แต่ในห้องโถงนั้นเงียบและขุนพลทหารทุกคนยืนตัวตรงรู้สึกได้ถึงแรงกดดันไร้สภาพจากตัวพวกเขา
ท่านหญิงได้อ่านรายงานเสร็จในสิบนาที และไม่พูดอะไรสักคำ ใบหน้าที่บอบบางไม่เหลือเสน่ห์และความอ่อนโยน แต่กำลังปล่อยพลังความเย็นที่ทำให้พวกนายทหารทุกคนต้องยืนตรง ตาของพวกเขามองดูที่ปลายจมูก พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดัง
“ข้าไม่เคยคาดเลยว่าพวกเขาจะมาถึงดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์”
เสียงพึมพำของท่านหญิงโหรวเป็นเหมือนลมฤดูใบไม้ร่วงแฝงด้วยรังสีฆ่าฟันอย่างบอกไม่ถูก นางเงยหน้าใบหน้าที่งดงามของนางปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคน พวกเขาตระหนักว่าดวงตาที่งดงามเหล่านั้นฉายประกายเหมือนดวงดาว
“ข้าจะพูดต่อไปยังไงดีนี่เป็นความลับที่ลึกที่สุดละเอียดอ่อนที่สุดของทวีปกวงหมิง พวกที่ไม่ยินดีร่วมสามารถออกไปจากการประชุมนี้ได้
ทุกคนหัวใจเย็นเฉียบ แต่ไม่มีใครเคลื่อนไหวสักคน
ท่านหญิงโหรวแสดงทีท่าพอใจ “ดีมาก, ทั้งหมดไม่ทำให้ข้าผิดหวังเลย สำหรับแผนนี้ทวีปกวงหมิงได้ทำงานมาอย่างหนักเป็นเวลา 500 ปีแล้ว
ทุกคนใจสั่นสะท้าน
*********************
บนเทือกเขาสีดำสูงเสียดเมฆ มีตุ๊กตาจักรกลวิญญาณเป็นกลุ่มหนาแน่นเทียวไปเทียวมาเหมือนกับมด ตุ๊กตาจักรกลวิญญาณทั้งหมดดูแปลกประหลาดมากบางส่วนก็ลากถุงคลุมที่เต็มไปด้วยแร่มีเสียงหึ่งๆ ขณะเดิน บางส่วนดูคล้ายแมลงชอนไชลงไปในทรายได้อย่างง่ายดายและทุกครั้งที่พวกมันผุดขึ้นมา พวกเขาจะคายแร่ออกมา และมีบางตัวซึ่งมีท้องใหญ่มาก ก็จะมีความร้อนสูงและมีไอน้ำพ่นออกมา มีเสียงดังอยู่ในในท้องแร่จะแตกเป็นผุยผงอยู่ในท้องของพวกมัน
นี่คือทวีปทองแผ่นดินซึ่งวิชาจักรกลก้าวหน้ามากที่สุดและเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดา
การใช้ประโยชน์จากตุ๊กตาจักรกลในทวีปทองทำได้น่าทึ่ง
เสี่ยวเย่ามองดูพื้นที่กำลังไฟไหม้ แม้ว่าเขาจะเห็นมาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่เขาเห็น เขาจะเต็มไปด้วยอารมณ์ทุกครั้ง พลังของวิชาจักรกลมักจะมีผลต่อคนอื่นๆ
แต่เขาไม่ชักช้า เขาจำเป็นต้องกลับให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ภาพเหตุการณ์ของเหมืองแร่ใต้ตัวเขาทำให้เขามีกำลัง ความเหนื่อยล้าในร่างกายลดลง สองวันมานี้ในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองกวนเฉิง
เมืองกวนเฉิงคือเมืองหลวงของทวีปทอง และเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในภูมิภาคตะวันออก อาคารบรอนซ์สูงมีอยู่มากมาย นี่คือป่าบรอนซ์ ตุ๊กตาจักรกลหลายตัวมีขนาดและรูปต่างกันบินอยู่ในอากาศเหมือนนกในป่า
เสี่ยวเย่าไม่หยุด เขาบินตรงไปยังอาคารสีดำที่สูงสุดซึ่งแตกต่างจากอาคารบรอนซ์ ชั้นบนสุดของอาคารสีดำนี้เป็นสีดำสนิทสร้างมาจากโลหะเฉพาะอย่างโครงสร้างมองดูคล้ายหัวกา
นี่คืออาคารที่ทรงเกียรติที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของทวีปทอง อาคารกาดำ
มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงสิ่งมีชีวิตระดับเซียนของทวีปทองกาดำ, ที่มาของวิทยาการจักรกลของทวีปทองเกิดมาจากเซียนกาดำซึ่งตอนที่บรรพบุรุษกำลังสำรวจนั้น พวกเขาบังเอิญพบตุ๊กตาจักรกลที่ไม่รู้จักของกาดำแม้ว่าเซียนสิ่งมีชีวิตนี้จะได้รับความเสียงหายหนัก แต่ก็ให้ความรู้แก่บรรพบุรุษของทวีปทองไว้มากมายมหาศาล และจากตรงนั้นจึงมีการขยายวิทยาการจักรกลของทวีปทอง
ทายาทรุ่นต่อมาจึงได้สร้างอาคารกาดำไว้เตือนสติว่าอย่าลืมที่มาของพวกเขา
มีการกล่าวกันว่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นเซียนนั้นอยู่ภายในอาคาร แต่อาคารกาดำไม่เคยประกาศต่อสาธารณชนและปกป้องอย่างดีที่สุด ไม่ว่าข่าวลือจะจริงหรือเท็จไม่มีใครแน่ใจได้
หลังจากตรวจสอบและยืนยันตัวตนของเสี่ยวเย่าแล้วทหารยามก็นำเสี่ยวเย่าเข้าไป