ตอนที่ 678 ประกาศสงครามที่หยิ่งที่สุด
เมืองลมดำ
การฆ่าคนนอกที่ไร้พลังในเมืองลมดำเป็นเรื่องปกติยิ่งกว่าเมื่อเจ้านายปล้นกลุ่มสาวใช้อื่นนี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน
สิ่งเดียวที่ควรค่าแก่การพูดถึงก็คือหัวกลมเปากู่
ทุกคนในเมืองลมดำรู้จักสหายผู้นี้ ปกติเขาจะขลาดเขลากลัวตาย แต่เขาชอบคุยโม้โอ้อวดตนเอง เมื่อใดก็ตามที่เขาติดต่อกับใคร เขาจะเป็นเหมือนตัวหมัด แต่วันนี้หลายอย่างเปลี่ยนไป เพื่อคนภายนอกคนเดียว เขาถึงกับประเมินตนเองสูงและต่อต้านรองประธานหอการค้าชิโด ในสายตาของคนทั้งหลายเจ้าผู้นี้กระทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ
สิ่งที่น่าทึ่งมากที่สุดก็คือหัวกลมเปากู่พูดว่าเพื่อประโยชน์แก่สหายของเขา
เพื่อประโยชน์แก่สหาย?
ในเมืองลมดำมีของอย่างนั้นจริงๆด้วยหรือ? ในเมืองลมดำ คนที่เชื่อใจสหายของพวกเขาตายไปนานแล้ว
ในตอนท้ายของการพูดคุย พวกเขาได้ข้อสรุปว่าเปากู่ไม่บ้าก็คงแสดงละครกับรองประธานหอการค้าและหัวหน้าทหารข่มขู่เอาเงินคนนอกเกินไปหน่อย นั่นไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นเรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นในเมืองลมดำ ตามบทบาทนั้นใครก็ตามที่เข้ากับฝ่ายตรงข้ามเพื่อได้รับความไว้วางใจด้วยเลือดและน้ำตาผู้นั้นจะถูกเรียกว่าสายลับ
เปากู่เป็นสายลับหรือเปล่า?
ขณะต่อมาผู้คนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้
เพราะมีความจริงใจเพียงเล็กน้อยในการกระทำของหัวกลมเปากู่ ดูไม่เหมือนว่าจะปลอมได้ขนาดนั้น
แต่บทเรียนยังคงบอกผู้คนว่ายิ่งดูเหมือนจริงใจก็ยิ่งปลอมได้เหมือนจริงมาก นอกจากนี้เพื่อประโยชน์แก่สหายของเขา เขายังเสี่ยงชีวิตสู้กับรองประธานหอการค้าที่กำลังโกรธแค่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้ผู้คนตระหนักว่าเป็นไปไม่ได้!
“มาพนันกัน! ถ้าเปากู่สามารถกลับมาได้ อย่างนั้นก็ต้องเป็นเรื่องโกหก!”
ใครบางคนรับพนันในโรงเตี๊ยม
พนันกันว่าเปากู่จะสามารถปรากฏตัวในเมืองลมดำภายในสามวันหรือไม่ ถ้าเปากู่ปรากฏตัวอีกสามวันต่อมา อย่างนั้นเขาก็ต้องเป็นสายลับ เขาต้องร่วมแสดงกับหัวหน้าทหารและรองประธานหอการค้าหลอกโกงเงินคนนอก! ถ้าเปากู่ไม่กลับมาอย่างนั้นเขาคงบ้าไปแล้วจริงๆ เขาคงถูกคนของรองประธานหอการค้าขับออกจากเมืองและฆ่าเขา
หลายคนพนันว่าเปากู่คงจะกลับมาภายในสามวัน
มีเพียงไม่กี่คนพนันว่าพวกเขาจะไม่สามารถกลับมาได้
ตัวอย่างเช่นคนที่เป็นลูกชายทหารรับใช้ในจวนเจ้าเมืองพนันร้อยเหรียญทองว่าเปากู่จะไม่มีทางกลับมาได้
ครึ่งวันต่อมา เปากู่ก็ยังไม่กลับมา
อย่างไรก็ตามมีคนแปลกหน้าสองสามคนปรากฏตัวในเมืองลมดำเสื้อผ้าของพวกเขาค่อนข้างคล้ายกับคนนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ตาคมกล้าอาจพบว่าอกของพวกเขาติดตราเครื่องหมายเหมือนกัน ในบรรดาคนเหล่านี้ประกอบไปด้วย คนอ้วน คนผอมคนที่เหมือนแท่งน้ำแข็ง เจ้าชายผู้หล่อเหลาปรากฏตัวด้วยราศีอันสูงส่งและพี่น้องฝาแฝดที่ดูเหมือนจะเป็นผู้คุ้มกัน การปรากฏตัวของคนไม่กี่คนนี้ทำให้เกิดเสียงเล่าลือลามไปทั่วหมู่พลเมืองเมืองลมดำผู้ลืมเรื่องการฆ่าคนนอก
รองประธานหอการค้าเพิ่งจะฆ่าคนไปไม่นานก็มีกลุ่มคนแปลกหน้าเข้ามาแล้วจะทำยังไงดี?
เป็นไปตามคาด คนเหล่านั้นไปถามข่าวคนนอกที่ร้านเหล้าก่อน
แม้ว่าผู้คนในร้านเหล้าจะโลภอยากได้เงินแต่ไม่มีใครกล้าบอกความจริง
บางทีเจ้าคนอ้วนเห็นว่าสายตาผู้คนแปลกไป เขาจึงสัญญาว่าจะให้เงินก้อนใหญ่...แต่น่าเสียดายไม่ว่าใช้เงินมากเท่าใดเขาไม่สามารถซื้อชีวิตได้ ถ้ารองประธานหอการค้าและนายกองทหารได้ทราบข่าว เขาคงไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ นอกจากนี้มนุษย์เหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยแข็งแกร่ง ในบรรดาพวกนี้คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือบุรุษน้ำแข็ง ที่มีพลังปราณดินระดับสาม
กลุ่มคนอ่อนแออย่างนี้คงถูกรองประธานหอการค้ากำจัดได้หมดไม่ต้องพูดถึงนายกองทหาร
บุรุษน้ำแข็งมุ่งไปที่สมาคมทหารรับจ้างทันที
เขาตั้งภารกิจที่มีมูลค่าหมื่นเหรียญทองสำหรับการตามหาคน และเบาะแสทั้งหมดที่ได้รับสามารถรับรางวัลได้สูงสุด 1000 เหรียญทอง....
ดังนั้นเมืองลมดำตกอยู่ในความโกลาหลทันที ตามภารกิจนี้คนนอกที่ถูกฆ่าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ดูเหมือนว่าจะเป็นคนสำคัญมาก
รองประธานหอการค้าได้พบปะลับกับนายกองทหารปรึกษาหารือมาตรการตอบโต้
“คนนอกผู้นั้นเจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าฆ่าเขาไปแล้ว?” นายกองขมวดคิ้วถาม
“คนของข้าผลักเขากับเปากู่ลงไปในหลุมยักษ์ ตามปกติพวกเขาผลักหินใหญ่พอๆ กับภูเขาย่อมๆ ลงตามไปด้วยแล้วเจ้าพวกนั้นจะไม่ตายได้ยังไง? นอกจากนี้หัวหน้านักสู้ของข้ายืนยันด้วยอสูรกระดูกว่าทั้งสองนั้นตายอยู่ในปล่องข้างล่างก่อนที่เขาจะกลับมารายงาน” รองประธานหอการค้ารู้สึกเสียใจ ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้ว่าถ้าฆ่าคนนอกนั้นจะมีเรื่องตามมา เขาคงไม่ทำแน่ ที่สำคัญคนนอกผู้นั้นดูเหมือนนักธุรกิจที่ไม่มีอำนาจหรืออิทธิพล
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรจะพูด” นายกองทหารแค่นเสียง “ในเมื่อเจ้าได้ทำลงไปแล้ว ก็ไม่ต้องเสียใจเจ้าอาจจะกำจัดพวกเขาอีกก็ได้”
“อาจจะมีเพื่อนร่วมกลุ่มก็ได้!” รองประธานหอการค้าถามหาข้อมูลจึงได้ทราบว่าคนพวกนี้ถูกส่งมาจากเมืองใบไม้เงิน
อาจมีขบวนพ่อค้าในเมืองใบไม้เงิน
ถ้าเขาฆ่าคนพวกนี้หลายอย่างจะไม่สามารถแก้ไขได้
นายกองทหารไม่คิดเช่นนั้น แม้ว่าจะมีคาราวานมาจากแดนสวรรค์ตะวันตกแต่ขนาดอาจไม่ใหญ่เกินไปเพราะธรรมเนียมการขนส่งสำหรับการผ่านประตูเทเลพอร์ตแต่ละประตูเป็นเงินจำนวนมหาศาล เขารู้สึกว่าบุรุษหนุ่มเหล่านี้น่าจะมาเที่ยวทัศนาจรมากกว่าจะมาทำธุรกิจ เกี่ยวกับพลังของนักสู้ของพวกเขาดูเหมือนจะไม่มีอำนาจและอิทธิพลมาก พวกเขาอาจเป็นศิษย์ของตระกูลหรือสมาชิกในตระกูลเจ้าเมืองแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นแน่
แดนสวรรค์ตะวันตกอยู่ห่างจากแดนสวรรค์ใต้มากเกินไป ต่อให้ลูกของเจ้าเมืองถูกฆ่าก็ไม่มีทางที่เขาจะก่อสงครามได้
นอกจากนี้เมืองลมดำมักจะได้เปรียบคนอื่นอยู่เสมอ
ผู้หนุนหลังของเขาทรงพลังมาก และเขาก็สบายดีอยู่เสมอ
“กำจัดพวกมันซะ เราต้องใช้แผนที่คล่องตัวและมีประโยชน์อย่าปล่อยพวกมันผ่านไป เรื่องนี้เมื่อนายท่านกลับมา ข้าจะรายงานเขาเอง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นายท่านจะออกรับไว้แทนเรา ไม่เป็นไรหรอก” นายกองทหารไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก คนต่างถิ่นกี่คนแล้วที่ถูกสังหารในเมืองลมดำเพราะความโลภ? เขาก็ยังสบายดีเสมอมา!
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
รองประธานหอการค้าวิ่งแตกตื่นเข้ามาในห้องของนายกองทหาร
นายกองทหารกำลังอุ้มสาวใช้ขึ้นเตียง ต้องลุกพรวดพราดขึ้นมา เขาหงุดหงิดและตะโกนลั่น “บัดซบเอ๊ย, เจ้าต้องรายงานข้าไปเสียทุกเรื่องเลยใช่ไหม? นี่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?ข้าจะฆ่ามัน ข้าจะฆ่ามัน ไสหัวออกไป!”
รองประธานหอการค้าพูดด้วยสีหน้าฝืนทน “เรื่องมันผิดปกติไปกันใหญ่แล้ว...”
นายกองทหารตะลึงในตอนแรก จากนั้นเขาพูดอย่างไม่พอใจ “มันผิดปกติยังไง? คนของเจ้ามีแต่พวกงี่เง่าทั้งนั้นหรือ? เจ้าพวกนั้นที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังแค่ปราณดินระดับสาม ถ้าเจ้าไม่สามารถฆ่าพวกมันได้เจ้าจะทำอะไรอื่นได้? มีหัวหน้านักสู้เกราะทองพลังปราณดินระดับแปดอยู่หอการค้าชิโดของเจ้าไม่ใช่หรือ?อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่ได้ส่งพวกเขาไปคุ้มกันพวกมัน!”
รองประธานหอการค้าส่ายหน้า “ไม่ ไม่ไม่ใช่อย่างนั้น ความจริงทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เราใช้กับดักหลุมยักษ์และเตรียมจะฆ่าพวกเขา ใครจะรู้กันว่าเจ้าบุรุษน้ำแข็งและคนที่เหมือนเจ้าชายทั้งคู่เรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมาทั้งยังเรียกพะยูนนรกปราณฟ้าระดับสองออกมาสองตัวหัวหน้านักสู้เกราะทองไม่สามารถรับมือพวกเขาได้!”
“ตลกแล้ว,พวกมันเป็นเพียงนักสู้ปราณดินระดับสาม แม้จะมีคัมภีร์อัญเชิญแล้วพวกมันทำสัญญากับพะยูนนรกปราณฟ้าระดับสองได้ยังไง!” นายกองไม่เชื่อเรื่องนั้น
“พวกเขาไม่ได้ทำสัญญาบางทีอาจเป็นพะยูนนรก อสูรพิทักษ์ประจำตระกูลพวกเขาก็ได้...” รองประธานหอการค้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เจ้าหมายความว่าพวกมันหลบไปได้ใช่ไหม?” นายกองถาม
“ใช่แล้ว” รองประธานหอการค้าต้องการบอกว่าไม่เพียงแต่อีกฝ่ายจากไปเท่านั้นแต่พวกเขายังทุบตีเล่นงานพวกนักสู้รวมหัวหน้านักสู้เกราะทองและขู่ว่าจะส่งคนไปถล่มเมืองลมดำให้ราบเป็นหน้ากลอง แน่นอนเขาไม่กล้าพูดคำพูดเช่นนั้นกับนายกองทหาร ถ้าเขาพูดเขาคงถูกฉีกเป็นชิ้นแน่นอน
“ออกไป!” นายกองทหารรู้สึกกดดัน แม้ว่าเขาจะวางแผนทำเงินได้บ้างสักล้านเหรียญทอง แต่ก็ยังเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่
เขาคงจะรายงานเรื่องนี้กับเจ้าเมืองลมดำถ้าเขาอยู่ที่นี่
นายท่านอาจส่งคนไปล่าพวกเขาและกำจัดอันตรายใดๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือนายท่านไม่อยู่ที่นี่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่าพะยูนนรกอสูรปราณฟ้าระดับสองด้วยพลังของตัวเอง
ช่างเถอะค่อยขอให้เขาตัดสินใจตอนนายท่านกลับมา! นายกองทหารไม่มีทางเลือก ได้แต่ระงับความหงุดหงิดไว้ในหัวใจ เขาเตรียมใจโดนเจ้านายด่าว่าแล้วเขาไม่กังวลว่าเจ้าเมืองลมดำจะฆ่าเขา เพราะเขาเป็นบริวารผู้ภักดีของเขา ทุกปีเขาจะนำหญิงงามเป็นหมื่นคนมาจากเผ่าพันธุ์ต่างๆให้เจ้านายเช่นเดียวกับเงินหลายสิบล้าน เขาเป็นผู้สนับสนุนผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งและเขายังเป็นญาติของภรรยาคนที่เก้าของเจ้าเมือง ไม่ว่ายังไง เจ้านายคงไม่ฆ่าเขาเพื่อประโยชน์แก่คนนอก
เวลา 21.00 น.
ทูตจากสมาคมทหารรับจ้างในเมืองใบไม้เงินเป็นตัวแทนของสำนักทงเทียนสำนักมังกรทะยานและวังมารในแดนสวรรค์ตะวันตกประกาศสงครามกับเมืองลมดำ
ด้วยการประกาศสงครามคราวนี้ทั่วทั้งเมืองตกอยู่ในความปั่นป่วน
การประกาศสงครามข้ามดินแดนแบบนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่มีแต่ในความฝันเท่านั้น มีเรื่องแบบนี้จริงๆ ด้วยหรือ?
อย่างไรก็ตาม ประกาศถูกติดไว้ที่ทางเข้าสมาคมทหารรับจ้างในเมืองลมดำเป็นข้อเท็จจริงหนักแน่น ในจวนเจ้าเมืองแม้ว่าเจ้าเมืองลมดำจะไม่อยู่ในตอนนี้แต่ภรรยาคนที่เก้าของเขากัดฟันและประคองตัวเองรับประกาศสงครามจากแดนสวรรค์ตะวันตก
กลับกลายเป็นว่าในช่วงตอนกลางวันญาติของนางสมคบคิดกับรองประธานหอการค้าชิโดใช้วิธีชิงเงินและฆ่าคนภายนอกที่อ่อนแอ สำหรับคนภายนอกผู้นี้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุผู้เชี่ยวชาญคนสำคัญที่สุดของสามกองกำลังสำนักทงเทียนสำนักมังกรทะยานและวังมารหลังจากฆาตกรรมคนนอกที่ชื่อจวินอู๋เย่แล้ว สหายของเขามาตามหา แต่ญาติของนางและรองประธานหอการค้าพยายามกำจัดพวกเขาเพื่อกลบเกลื่อนความชั่วของตนเอง
สหายของจวินอู๋เย่หนีเอาชีวิตรอดได้ภายใต้การคุ้มครองของอสูรปราณฟ้า
เพราะความโกรธของพวกเขาที่มีต่อการกระทำที่โหดร้ายของเมืองลมดำกลุ่มธุรกิจร่วมที่ก่อตั้งโดยสำนักทงเทียน, สำนักมังกรทะยานและวังมารจึงประกาศสงครามกับเมืองลมดำทันที
มีอยู่เพียงไม่กี่จุดในการประกาศสงครามของแดนสวรรค์ตะวันตก
ประการแรกต้องมอบคนกระทำผิดและจ่ายค่าชดเชยความผิดอย่างน้อยหมื่นล้านเหรียญนี่คือความสูญเสียที่เกิดจากความตายของนักเล่นแร่แปรธาตุผู้เชี่ยวชาญ
ประการที่สองเจ้าเมืองลมดำจะต้องคุกเข่าขออภัยนอกจากนี้ยังต้องเทิดทูนนักเล่นแร่แปรธาตุอย่างจวินอู๋เย่ นอกจากนี้เขาต้องประกาศต่อแดนสวรรค์ใต้และแดนสวรรค์ตะวันตก ในที่สุดเขาต้องลาออกจากตำแหน่งเจ้าเมืองและยอมรับพิจารณาคดีร่วมกับสำนักทงเทียนสำนักมังกรทะยานและวังมาร คนที่สมคบคิดในเมืองลมดำจะต้องถูกประหารชีวิตทั้งหมด คนในตระกูลยกเว้นเด็กและสตรีมีครรภ์จะต้องถูกเนรเทศหรือไม่ก็ให้ใช้แรงงานอย่างหนัก
ประการที่สาม สมาชิกหรือพันธมิตรของเมืองลมดำใครก็ตามต้องการแทรกแซงสงครามของเมืองลมดำจะถูกประกาศว่ามีความผิดเช่นเดียวกับเจ้าเมืองลมดำภายในสามวันนับจากวันประกาศสงครามทุกคนที่อยู่อาศัยในเมืองลมดำจะต้องอยู่ห่างจากการรบหรือไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกมองว่าสมคบคิดและถูกตัดศีรษะ
ประการที่สี่ให้เมืองลมดำสร้างสุสานให้นักเล่นแร่แปรธาตุหล่อรูปเหมือนที่น่าเกลียดของฆาตกรด้วยบรอนซ์ทำให้มันคุกเข่าอยู่ต่อหน้าสุสาน
…
“ไม่มีทาง!” คนที่ได้อ่านประกาศรู้สึกว่านี่มันบ้ามากเกินไป
เมืองลมดำไม่ใช่ลูกพลับอ่อนปวกเปียกพวกเขาจะเห็นด้วยกับเงื่อนไขแบบนั้นได้ยังไง! ด้วยนิสัยที่หยิ่งยโสของเจ้าเมืองลมดำคงเป็นเรื่องแปลกถ้าเขาไม่เริ่มสงครามทันที