ตอนที่ 41 เย็บแผลสดด้วยด้ายและเข็ม
ตอนที่ 41 เย็บแผลสดด้วยด้ายและเข็ม
“แกไอ้เชี่ย!” ธันวากระโดดไปใส่เมฆก่อนที่เมฆจะจับของหลินได้ทัน ทั้งสองจึงซัดกันไม่ยั้งในทันที
ธันวาที่เป็นนักมวยปล้ำอยู่แล้วพยายามล็อกตัวของเมฆ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ เพราะเมฆนั้นเองก็เป็นตำรวจที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักเช่นกัน
ปัก!
ธันวาต่อยซ้ำเข้าไปที่ใบหน้าของเมฆ ทำให้เมฆกัดฟันด้วยความเจ็บ ก่อนจะศอกกลับมาที่หัวของธันวา จนธันวานั้นมึน เมฆนอนหลังชนพื้นอาศัยจังหวะนี้ถีบเข้าไปที่ท้องของธันวาที่อยู่ด้านบนตัวของตนเอง จนตัวกระเด็นหงายหลังกลิ้งไปกับพื้น
เมฆได้โอกาสหันไปคว้าไม้กำลังจะลุกขึ้นมา แต่พอหันหน้ากลับไปก็พบกับผู้กองเชนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
แววตาของผู้กองเชนนั้นดุดันมาก เขายกเท้าขึ้นมาก่อนจะถีบเข้าไปที่กลางใบหน้าของเมฆอย่างเต็มแรง ซึ่งนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เมฆรู้เห็น ก่อนที่จะสลบไป
...
เมฆรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่นั่งอยู่บนหลังกระบะรถยนต์แล้ว มือข้างหนึ่งของเขานั้นโดนล็อกด้วยกุญแจมือติดกับหวงที่กระบะรถ ทำให้ไม่สามารถหนีไปไหนได้
พอมองไปที่เงาสะท้อนของกระจกก็เห็นว่าใบหน้าของตนเองนั้นปูดบวม จมูกหัก ปากแตก ฟันหักและมีเลือดกำเดาไหลเป็นทางยาว เรียกได้ว่ายับเยิน
ขณะที่มองดูตัวเองตอนนั้นก็มีเสียงของเรนดังมาจากด้านหลัง
“ถ้าแกทำอะไรตุกติกฉันจะจัดการแกกับมือเอง” เรนจ้องไปที่ตาของเมฆด้วยแววตาเคร่งขรึม
เมฆไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะเขาเจ็บปากและจมูกมาก เขาเพียงยกมือของตัวเองมาจับจมูกที่หักของตน
เมื่อเห็นว่าเมฆไม่ได้คิดจะทำอะไร เรนก็เดินไปดูคนอื่น ๆ ในตอนนี้รถพวกเขามาจอดกันอยู่ที่ปั๊มน้ำมันและกำลังช่วยกันทำแผลให้กับตำรวจลี
เรนกล่าวกับผู้กองเชนด้วยเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคน “พวกเขาเป็นคนของคุณผมจะไม่ยุ่ง แต่ถ้าเขาก่อเรื่องขึ้นมา”
“ถ้าถึงตอนนั้นไม่ต้องให้นายลงมือ ฉันจะจัดการเอง” ผู้กองเชนตอบด้วยหน้านิ่ง แม้เรื่องที่เกิดขึ้นผู้กองเชนจะรู้ว่าเมฆนั้นควรตาย แต่ด้วยความที่ยังไงซะสองคนนี้ก็เคยเป็นลูกน้องของเขามาก่อน จะให้ฆ่ามันก็ยังไงอยู่
เขาจึงต่อรองกับเรนให้ไว้ชีวิตพวกนี้ไปก่อน
เรนอยากจัดการปัญหาให้จบไป แต่ว่าเขาก็ยังไว้หน้าผู้กองเชน เพราะกลุ่มของเรนและผู้กองเชนจะเดินทางมาด้วยกัน แต่มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญตอนที่หนีออกมาพร้อมกันเท่านั้น
กลุ่มของเรนก็ส่วนกลุ่มของเรน และผู้กองเชนก็กลุ่มของผู้กองเชน
เรนพยักหน้าตกลง ก่อนที่เขาจะหันไปมองดูลี ตำรวจคนที่โดนยิงขา ตอนนี้เขานอนร้องด้วยความเจ็บอยู่ที่พื้นตรงข้างตู้หัวจ่ายน้ำมัน โดยมีหลิน ไอราช่วยกันทำแผลและธันวากับรินดายืนมองอยู่ห่าง ๆ
ที่จริงแล้วเรนรู้ว่าตำรวจลีคนนี้ก็แค่พวกคนตาขาวอ่อนที่โดนเมฆสั่งบังคับและกดดันให้ทำ เมื่อดูจากอายุแล้วลีก็อายุใกล้เคียงกับเรน ซึ่งลีคงเป็นตำรวจจบใหม่ที่พึ่งบรรจุ
เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าลีสอบผ่านตำรวจมาได้อย่างไร
“ยังดีที่กระสุนนั้นยิงทะลุออกไปและไม่ได้โดนเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งดูได้จากเลือดที่ไหลออกมาไม่มากแล้ว แต่ว่าเลือดที่ไหลออกมาก็มากอยู่”
“เราต้องเย็บปิดปากแผล ไม่อย่างนั้นเขาไม่รอดแน่”
หลินอธิบายให้คนรอบข้างฟัง
เธอเคยฝึกอบรมประถมพยาบาลมาบ้าง และรู้ว่าแผลแบบนี้แค่พันด้วยผ้าคงเอาไม่อยู่ อีกอย่างตอนนี้คงไม่มีโรงพยาบาลไหนเปิดให้บริการในตอนนี้แน่นอน ทางเดียวคือพวกเขาต้องทำในสิ่งที่พอทำได้
“ไม่ผมว่าไม่ต้องเย็บหรอก มันคงไม่ต้องถึงขั้นนั่น” พอลีได้ยินว่าต้องเย็บแผลก็เกิดความกลัวขึ้นมา โดยเฉพาะมันเป็นการเย็บแผลสด ๆ เพราะในสถานการณ์แบบนี้จะไปหายาชาจากที่ไหน
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งกลัวจนหน้าเริ่มซีด แต่ไม่มีใครสนใจเสียงของเขาเลย ทุกคนยังสนใจที่แผลของลีเท่านั้น
“เย็บแผล แต่ใช้อะไรเย็บแล้วใครจะทำ” ไอราถามขึ้นมา เธอทำไม่เป็นแน่นอน แค่มาช่วยกดแผลไว้ก็เต็มกลืนสำหรับเธอแล้ว
“คงต้องใช้เข็มกับด้ายที่ร้านของชำอาจจะมี แต่ว่าเรื่องเย็บแผลฉันก็ไม่ถนัด” หลินพูดกล่าวออกมาอย่างจนปัญญาเหมือนกัน
จะไม่รู้ว่าใครจะทำ แต่ธันวาก็เข้าไปหาเข็มกับด้ายที่ร้านสะดวกซื้อ มันไม่มีขาย แต่ว่าโชคดีที่หลังร้านนั้นมีอยู่ เขาจึงรีบไปเอามาให้พวกเธอ
“เข็มกับด้ายมีแล้ว ใครจะเย็บแผล” ธันวากล่าวพร้อมกับส่งของในมือให้กับพวกเธอ
หญิงสาวของคนมองหน้ากัน เพราะไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนลงมือ ตอนนั้นเองรินดาก็เข้ามาและพูดว่า
“ฉันจะทำเอง” รินดาขยับมาใกล้ ๆ กับแผล
“คุณเคยเย็บแผลมาก่อนเหรอ” หลินถาม
“ไม่เคย แต่เคยเย็บพวกเสื้อผ้ามาก่อน มันคงไม่ต่างกัน” รินดากล่าวด้วยท่าทางสบาย ก่อนจะเริ่มลงมือเย็บแผล
ลีตำรวจหนุ่มที่กลัวอยู่แล้ว พอได้ยินที่รินดาคนที่ยิงตัวเองพูดก็กลัวจนหน้ามืดเป็นลมไปในทันที
“ถุย! ไอ้ไก่อ่อน”
เมฆถุยเอาเลือดในปากออกมาและอดที่จะด่าออกมาไม่ได้ เมื่อเห็นสภาพน่าสมเพชของลี ถ้าตอนนั้นเขาพาเต้มามันคงไม่เป็นแบบนี้ แน่นอนว่าเมฆรู้ดีว่าคนอย่างเต้คงไม่ช่วยเขาในการหักหลังผู้กองเชนแน่
“รีบเย็บแผลเขา เลือดจะล่อพวกผู้ติดเชื้อมา” เรนกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง แม้ลีจะโดนเมฆบังคับให้ทำการปล้นพวกเขา แต่ว่ายังไงลีก็ยังช่วยเหลือเมฆ ดังนั้นเรนจึงไม่มีความเห็นใจให้ทั้งสองคน
เรนและธันวาไม่อยากจะเสียเวลาตอนนี้ไปโดยเปล่าประโยชน์พวกเขาจึงช่วยกันหาของที่มีประโยชน์ในปั๊มน้ำมันกัน โดยเริ่มจากน้ำมัน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในครั้งนี้
โชคของพวกเขายังดี แม้ไฟฟ้าจะดับไปแล้ว แต่ว่าตู้จ่ายน้ำมันพวกนี้เป็นตู้รุ่นใหม่ที่มีแบตเตอรี่สำรองไฟ ทำให้มันยังคงใช้งานได้
พวกเขาเติมน้ำมันรถทั้งสองคันคนจนเต็ม และยังหาแกลลอนน้ำมันมาเติมไว้ใช้อีกด้วย ที่ต้องทำแบบนี้เพราะว่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเจอปั๊มน้ำมันอีก พวกเขาจึงอยากเอาน้ำมันไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลังจากเติมน้ำมันกันเสร็จ พวกเขาก็พากันเข้าไปหาของในร้านสะดวกซื้อและกวาดทุกอย่างเท่าที่จะเอาไปได้ โดยเริ่มจากยาต่าง ๆ ก่อนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะยาลดไข้และยาแก้อักเสบที่สำคัญมากที่สุด
ยาพวกนี้เรนเก็บมันไว้ที่รูนิกกล่องพลาสติกของเขา เพราะมันปลอดภัยที่สุด
“เรนมีน้ำอยู่ที่นี่” ธันวาตะโกนเรียกเรน
น้ำดื่มและอาหาร ถือว่าสำคัญมาก เนื่องจากตอนนี้น้ำและอาหารภายนอกนั้นปนเปื้อนไปแล้ว อาหารที่ยังกินได้สำหรับมนุษย์ก็ต้องหาจากสถานที่แบบนี้เอา
ในร้านมีน้ำแบบขวด 5 ลิตรอยู่พวกเขาช่วยกันจัดการกวาดไปเท่าที่จะเอาไปได้
ในระหว่างที่มาขนน้ำกันอยู่นั้น หลินก็เข้ามาช่วยขนด้วย เนื่องจากการเย็บแผลนั้นใช้เพียงแค่คนสองคนช่วยกันก็พอแล้ว
“คุณควรจะพักสักหน่อย” เรนบอกกับหญิงสาว ที่ตัวของเธอยังมีรอยฟกช้ำอยู่
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว มาให้ฉันช่วยเถอะ” หลินกล่าว ก่อนจะเข้าไปช่วยเรนขนของขึ้นไปที่รถทั้งสองคัน
“เธอมันผู้หญิงบ้า เหมาะกับไอ้ชั่วเรนดี”
ขณะที่ขนของไปที่รถกระบะ เมฆยังคงพูดจายั่วยุเธอ เพราะยังแค้นที่โดนกัดที่แขนจนเป็นแผล
หลินได้ยินก็หน้าบึ้งตึก เธอเดินเข้าไปหาเมฆ ก่อนตบไปที่ปากของเมฆอย่างแรง
เพี้ยะ!
เมฆนั้นถึงกับตกตะลึงเมื่อโดนหญิงสาวตบหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว
“แก...” เมฆ โมโหมากที่โดนผู้หญิงสาวตบหน้าแบบนี้ เขาไม่คิดว่าตนเองจะกลายมาเป็นฝ่ายโดนกระทำแบบนี้
“ถ้าแกพูดมากอีก ฉันจะตัดไอ้นั่นของแกไปโยนให้พวกผู้ติดเชื้อกิน” หลินไม่กลัวเมฆ เธอเบิกตากว้างจ้องไปที่เมฆด้วยท่าทางเอาจริง
เมฆที่แม้จะใจร้อน แต่ตอนนี้เขาก็รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นนักโทษอยู่ ซึ่งเขาไม่มีทางขัดขืนได้แน่ ถ้าหญิงสาวคนนี้จะทำอย่างที่พูดจริง ๆ
“หึ” เมฆได้แต่พ่นลมหายใจอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเงียบปากไป
“มีอะไรหรือเปล่า” เรนเดินออกมาจากร้านและเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจึงถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร พวกเขาเย็บแผลกันใกล้จะเสร็จแล้ว เราไปกันเถอะ” หลินตอบกลับเรน
พวกเขาช่วยกันขนของเท่าที่จะเอาไปได้ขึ้นไปบนรถ หลินยังเจอกับเสื้อยืดบางตัว เธอจึงเปลี่ยนมันที่ด้านหลังร้านในทันที เนื่องจากชุดตัวเติมที่เธอใส่อยู่นั้นมันเต็มไปด้วยดินและโคลน
ที่จริงแล้วกลุ่มของเรนนั้นอยู่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งนี้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง พวกเขาก็ต้องเตรียมตัวกันออกไปแล้ว เนื่องจากว่าตอนนี้ด้านนอกปั๊มน้ำมันมีผู้ติดเชื้อ 2-3 ตัวกำลังเดินตามเสียงปืนและกลิ่นเลือดมาที่นี่
ถ้ายังเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อไปจะต้องมีพวกมันมาเพิ่มแน่นอน
ลีถูกยกขึ้นไปนอนอยู่หลังกระบะรถข้าง ๆ เมฆ และยังมีพวกแกลลอนน้ำมันกับขวดน้ำเปล่าและอาหารอีกจำนวนหนึ่งอยู่ด้วย
“อย่าคิดทำอะไรโง่ ๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการนายเอง” ผู้กองเชนเข้ามาพูดกับเมฆ
“หึ” เมฆนิ่งเงียบไม่คิดจะพูดอะไร เขาในสภาพนี้จะไปทำอะไรได้และเมฆก็ยังไม่อยากตาย
“นายไหวนะ” ผู้กองเชนหันไปถามลีที่นอนหน้าซีดเป็นไก่ต้มอยู่
“ผมไหว ผู้กองผมขอโทษ” ลีบอกกับผู้กองเชน
“นายเป็นหนี้ฉัน คอยดูเขาไว้อย่าให้ก่อเรื่องอะไรอีก” ผู้กองเชนพูดกับลีจบก็เดินกลับไปขึ้นรถตำรวจของตนเอง