ตอนที่ 19-40 เจตจำนง (ปณิธาน)
“ท่านเป็นพารากอนจริงๆ!” ลินลี่ย์แม้ว่าจะเตรียมใจอยู่แล้วแต่ก็อดสูดหายใจหนาวเหน็บไม่ได้
หมายความว่ายังไงสำหรับคนที่เป็นพารากอน? หมายความว่าเขาสำเร็จเชี่ยวชาญในกฎธาตุทุกกระบวนความรู้ จำนวนคนที่สามารถกลายเป็นพารากอนยังน้อยกว่าจำนวนคนที่กลายเป็นมหาเทพเสียอีก จากเหตุนี้ก็คงบอกได้โดยไม่มีข้อยกเว้นว่าแต่ละคนที่มาถึงระดับนี้ได้ต้องเป็นคนยอดเยี่ยมมีทักษะพรสวรรค์, ความเข้าใจ,โชควาสนาและการฝึกฝนอย่างหนัก
ไม่อาจขาดแคลนด้านใดด้านหนึ่ง มีแต่ความสมบูรณ์แบบจึงจะทำให้พารากอนถือกำเนิด
ตาของบีบีกลมโต เขาจ้องมองบลูไฟร์อยู่เป็นเวลานาน ไม่สามารถพูดอะไรได้
“ดูพวกเจ้าทำหน้าสิ? ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะ
“ท่านหมายความว่ายังไง ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้? พารากอนเชียวนะ!!!” บีบีร้องออกมาอย่างตกใจ “ท่านเลย์ลินรวมทั้งตัวท่านด้วย พิภพจักรวาลทั้งสิ้นมีพารากอนรวมกันไม่ถึงสามสิบคน! แดนโลกธาตุมีมากมายนับไม่หวาดไม่ไหว แต่ในเวลาเป็นอสงไขยปีมีพารากอนถือกำเนิดจากพวกเขาเท่าไหร่เอง? เป็นไปได้ว่าทวีปยูลานจะมีแต่เพียงท่านเท่านั้น!”
บลูไฟร์เริ่มหัวเราะ แม้ว่าหัวใจเขาจะสงบเหมือนกับน้ำ แต่เมื่อเขาคิดถึงเรื่องเหล่านี้ เขาก็อดรู้สึกภูมิใจขึ้นมาบ้างไม่ได้
เมื่อบรรลุถึงระดับพารากอนเป็นเรื่องจริงที่คนผู้นั้นสมควรภูมิใจกับชีวิตที่เหลือ
“ท่านเลย์ลิน, น่าเลื่อมใส เลื่อมใสจริงๆ” ลินลี่ย์รู้สึกหัวใจร้อนระอุเช่นกัน อีกนานเท่าใดกว่าเขาจะไปถึงระดับเดียวนี้?
บลูไฟร์อดหัวเราะไม่ได้ ขณะที่บีบีพูดทันที “พี่ใหญ่ปู่บอกว่าเมื่อท่านถึงระดับเดียวกับท่านเลย์ลินท่านจึงจะมีสิทธิ์เข้าสุสานเทพเจ้าไม่ใช่หรือ? อือ... เขาเป็นพารากอนแล้ว พี่ใหญ่ เมื่อไหร่ท่านจะเป็นพารากอนบ้าง? นั่นหมายความว่าการเข้าสุสานเทพเจ้าของเทพเป็นเรื่องที่ห่างไกลเกินไปไม่ใช่หรือ?”
“นั่นคือสิ่งที่เบรุตพูดหรือ?” บลูไฟร์ตกใจ
“ใช่แล้ว เขาพูดอย่างนั้น” ลินลี่ย์พูดถอนหายใจ
ก่อนหน้านี้ลินลี่ย์ยังคงมีความหวังบ้าง แต่ตอนนี้พอเขารู้ว่าบลูไฟร์เป็นพารากอน...“เป็นไปได้ไหมว่าข้าจะต้องถึงระดับพารากอนก่อนจึงจะเข้าสุสานเทพเจ้าได้หรือ? จะต้องใช้เวลาอีกกี่ปี?” ลินลี่ย์รู้ขีดจำกัดของตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นการหลอมรวมเคล็ดสักอย่างจะต้องใช้เวลามาก ลินลี่ย์สงสัยว่าเขาจะต้องใช้เวลานานนับปีไม่ถ้วน เขายังไม่สามารถกลายเป็นพารากอนได้
ที่สำคัญ มีคนหลายคนที่ฝึกฝนได้รวดเร็ว แต่เมื่อถึงระดับหนึ่งก็ไม่สามารถฝึกเพิ่มขึ้นได้อีกต่อไป พวกเขาถึงขีดจำกัดของตนเอง
“ฮ่าฮ่า...” บลูไฟร์ส่ายศีรษะและหัวเราะ “เมื่อข้าเข้าไปในสุสานเทพเจ้า ข้าก็หลอมรวมได้ห้าเคล็ดแล้ว ข้าคิดว่าสิ่งที่เบรุตหมายความถึงก็คือเมื่อเจ้าลินลี่ย์ไปถึงระดับของข้าในตอนนั้นที่หลอมรวมเคล็ดได้ห้าเคล็ด เจ้าจึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไป! ไม่มีทางที่ต้องรอให้เจ้าเป็นพารากอนก่อน นั่นเข้มงวดเกินไป”
ลินลี่ย์ได้ยินเช่นนี้ ก็อดพยักหน้าไม่ได้ ใช่แล้วเมื่อบลูไฟร์เข้าไป เขายังไม่กลายเป็นพารากอน
บีบีบ่นพึมพำ “แม้หลอมรวมได้ห้าเคล็ดก็ตาม แต่ก็ยังใช้เวลานานมากๆๆๆ ยิ่งหลอมรวมเคล็ดเพิ่มก็ยิ่งยาก”
“จะรีบร้อนไปทำไม?” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ “บีบีเนื่องจากพลังปัจจุบันของข้า ข้าก็สามารถมีชีวิตอยู่ในท่ามกลางผู้บัญชาการอื่นๆ ได้ เมื่อสงครามมหาพิภพนี้ได้บทสรุป เราจะกลับไปแดนนรก! เมื่อไม่มีธุระสำคัญให้ทำ เราก็ค่อยๆใช้เวลาสักสองสามพันล้านปีฝึกฝนต่อไป”
บลูไฟร์ยิ้มและพูดเชิงเห็นด้วย “ไม่เลว, เจ้าไม่ทะนงตนเกินไปและไม่ใจร้อนเกินไป อย่างนั้นขอเพียงเจ้าปล่อยให้หลายอย่างได้ผลสรุปตามธรรมดา ยิ่งใจร้อนมากก็ยิ่งสำเร็จได้ยากมากขึ้นเป็นธรรมดา”
“ไม่มีความจำเป็นต้องคิดถึงเรื่องสุสานเทพเจ้าเลย” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ
ตอนนี้ลินลี่ย์ไม่มีภาระอะไรจริงๆ หลังจากใช้เวลาหลายปีมานี้ในสมรภูมิมหาพิภพ เขาได้รับป้ายทองสามป้ายแล้ว และยังขาดอยู่อีกป้ายเดียว เนื่องจากพลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกมาก ลินลี่ย์มั่นใจว่าถ้าเขากับบีบีร่วมกำลังกัน ก็คงไม่ยากที่จะหาป้ายได้เพิ่มอีกสักป้าย หลังจากเสร็จเรื่องนี้แล้ว เขาคงโล่งใจได้จริงๆ และสามารถไล่ติดตามความสมบูรณ์แบบได้ต่อไปอย่างสบายใจ
“ท่านเลย์ลิน” ลินลี่ย์มองบลูไฟร์และพูดจริงจัง “ข้ายังมีคำถามหนึ่งอยู่ในใจ”
“ว่าไปสิ” บลูไฟร์จิบเหล้าและหัวเราะอย่างใจเย็น
“ข้ายังมีความสับสนมากเกี่ยวกับเทพพารากอน” ลินลี่ย์พูดพลางขมวดคิ้ว มีผู้บัญชาการอยู่มากที่มีพรสวรรค์ธรรมชาติไม่ธรรมดา อย่างเช่นรีสเจมและเรย์โฮม พวกเขาเกิดมาพร้อมกับพลังมหาศาล นอกจากนี้พวกเขายังหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้ห้าเคล็ดกฎธาตุ! พูดโดยทั่วไปเนื่องจากร่างของพวกเขาทรงพลังขนาดไหนและความจริงที่ว่าพวกเขาหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้ห้าเคล็ด ข้ารู้สึกว่าพวกเขาควรจะมีพลังเสมอกับเทพพารากอน แต่เมื่อก่อนหน้านี้เมื่อพวกเขาสู้กับไบเออร์ ข้าพบว่า...มีความแตกต่างกันมากมาย พวกเขาถูกปั่นราวกับเป็นของเล่น”
“ถูกแล้ว,ไบเออร์ผู้นั้นน่ากลัวเกินไป เขาสามารถบีบอัดพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย พลังบีบอัดพื้นที่น่ากลัวมาก” บีบีรีบกล่าว
“นอกจากนี้,พลังโจมตีวิญญาณ ธาตุลมเหมาะกับพลังโจมตีวัตถุ ไม่ใช่พลังโจมตีวิญญาณ แม้ว่าพลัง ‘ดนตรี’ และ พลัง‘คลื่นเสียง’จะไม่ธรรมดาก็ตาม แต่เหตุผลที่เมื่อไบเออร์ใช้พลังโจมตีวิญญาณ ข้าจะตกอยู่ในสภาพมึนงงโดยไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย
พารากอนทุกคนมีความแตกต่างกัน
พารากอนธาตุลมมีพลังโจมตีวัตถุที่แข็งแกร่งมาก พารากอนธาตุน้ำมีพลังป้องกันการโจมตีวัตถุที่ไม่ธรรมดา ก่อนนั้นแฮมเมอร์บอกว่าพารากอนธาตุน้ำยังอ่อนแอกว่าเขาในการปะทะกันตรงๆ
แต่ไบเออร์เป็นพารากอนธาตุลม ทำไมพลังโจมตีวิญญาณถึงได้น่ากลัวเล่า?
ลินลี่ย์ไม่เข้าใจจริงๆ
“ฮ่าฮ่า...” บลูไฟร์เริ่มหัวเราะลั่น
“มันตลกตรงไหน?” บีบีบ่น “พารากอนเป็นตัวประหลาดพลังมหาศาล ดูเหมือนกับว่าพวกเขาทรงพลังในทุกด้าน” พารากอนที่มีความแตกต่างกันในองค์ประกอบธาตุจะมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน แต่แม้ว่าพวกเขาอาจอ่อนแอในบางด้าน แต่พวกเขาก็ยังมีพลังเหนือกว่าผู้บัญชาการโดยทั่วไป
ตัวอย่างเช่นแม้ว่าเทพชั้นสูงพารากอนธาตุน้ำจะอ่อนแอทางด้านพลังโจมตีวัตถุ แต่เขาก็ยังสู้เสมอกับแฮมเมอร์
“เทพชั้นสูงพารากอนไม่มีจุดอ่อน” บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะอย่างเยือกเย็น
ลินลี่ย์และบีบีเริ่มตั้งใจฟังอย่างระมัดระวังทันที ปกติเมื่อเทพชั้นสูงพารากอนพูดหัวข้อเรื่องนี้ พวกเขาจะพูดแค่ทฤษฎี
“เทพชั้นสูงพารากอนทรงพลังในทุกด้าน! ความแตกต่างกฎธาตุธรรมชาติและวิถีเป็นเพียงผลที่แตกต่างกันทำให้พารากอนแข็งแกร่งขึ้นในบางด้าน ตัวอย่างเช่น ข้าแข็งแกร่งที่สุดในเรื่องพลังโจมตีวิญญาณ! ความจริงเทพพารากอนทรงพลังในทุกด้าน...เป็นเพราะความลับอย่างหนึ่ง” บลูไฟร์ตอบ
“ความลับ?” ลินลี่ย์และบีบีตะลึง
“ถูกแล้ว” บลูไฟร์ถอนหายใจชื่นชม “ลินลี่ย์, ข้าสามารถบอกเจ้าทั้งสองคนได้ แต่...ความลับเกี่ยวกับข้าเป็นพารากอน นี่เป็นความลับด้วย? เจ้าไม่อาจบอกคนอื่น”
“แน่นอน” ลินลี่ย์ลินลี่ย์พยักหน้า
บลูไฟร์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นกล่าว “ปีนั้น,เมื่อข้าหลอมรวมเคล็ดธาตุไฟทั้งหกได้ ข้าติดอยู่ที่ระดับคอขวด! ข้าขาดอีกเพียงหนึ่งก้าวก็จะสำเร็จกลายเป็นพารากอน ข้าทรงพลังมากเมื่ออยู่ในจุดนั้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อข้าก้าวผ่านขั้นสุดท้ายกลายเป็นพารากอน เจ้ารู้ไหมว่ามีความแตกต่างระดับพลังมากมายเท่าใด?”
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตามการบรรลุผ่านคอขวดได้กล่าวโดยทั่วไป คงไม่ส่งผลให้พลังเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจใช่ไหม?”
“เมื่อข้าผ่านก้าวย่างสุดท้ายไปได้ ข้ารู้สึกว่าตัวข้าเองเปลี่ยนแปลงไป!” บลูไฟร์ถอนหายใจ “การเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน”
“ฟ้ากับดิน?” ลินลี่ย์และบีบีตะลึง
“ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้ว่าโดยทั่วไปแล้วเทพชั้นสูงทุกคนแม้จะเป็นเทพที่ทรงพลังมากก็ยังไปไม่ถึงระดับพารากอนเมื่อไปรบกวนมหาเทพ ก็อาจถูกมหาเทพทำลายแค่เพียงคิด มีเทพชั้นสูงประเภทหนึ่งที่ได้รับการยกเว้นก็คือพารากอน! ปณิธานของมหาเทพไม่สามารถฆ่าเทพชั้นสูงพารากอนได้!” บลูไฟร์หัวเราะ
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย เขารู้เรื่องนี้
“ทำไมน่ะหรือ?” บลูไฟร์พูดพร้อมกับหัวเราะ “นี่เกี่ยวข้องกับความลับของพารากอน! เมื่อกลายเป็นพารากอนแล้วในทันทีนั้นเขาจะเปลี่ยนแปลงไป”
ลินลี่ย์และบีบีฟังอย่างระมัดระวัง
“การเปลี่ยนแปลงทันทีเมื่อกลายเป็นพารากอน!” บลูไฟร์ดูเหมือนจะระลึกถึงความรู้สึกที่เขาเคยมี “กฎธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครซึ่งรายล้อมวิญญาณของข้า! วิญญาณของข้าได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ทรงคุณภาพ หลังจากการเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ ข้าเข้าใจว่าพารากอนจะทรงพลังมากมายเพียงไหน” บลูไฟร์เริ่มหัวเราะ
การเปลี่ยนแปลงคุณภาพของวิญญาณ? ลินลี่ย์ตะลึง
จากเทียมเทพไปเป็นเทพแท้ เป็นเทพชั้นสูงวิญญาณจะมีพลังเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้ง แต่เขาไม่คิดว่าเมื่อถึงระดับพารากอน วิญญาณจะเพิ่มคุณภาพอีกครั้ง
“การเปลี่ยนแปลงวิญญาณแบบนี้ทำให้กฎธรรมชาติประทานอำนาจที่พารากอนพึงมี!” บลูไฟร์ยิ้ม “อำนาจที่รวมทั้งปณิธานของกฎธรรมชาติของโลก! นั่นคือปณิธานของพารากอน!”
ลินลี่ย์ตะลึง
ทุกคนมีปณิธานอย่างหนึ่ง แต่ปณิธานของเทพชั้นสูงธรรมดาเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญไม่มีพลังโจมตีแฝงอยู่ “ปณิธานของพารากอน...แฝงไว้ด้วยกฎธาตุธรรมชาติของโลก?” ลินลี่ย์อดถามไม่ได้
“ถูกแล้ว!” บลูไฟร์หัวเราะ “ความจริงการเพิ่มพลังจากการหลอมรวมเคล็ดลึกลับ ว่าด้วยตัวของมันเองแล้วยังมีขีดจำกัด แต่เมื่อพลังโจมตีธรรมดาจากเราพอหลอมรวมเข้ากับปณิธานจะทำให้พลังเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่น่ากลัว! นี่เป็นอำนาจชนิดหนึ่ง! อำนาจที่ทางเอกภพประทานให้มา! และนี่คือสิ่งที่เราอาศัยใช้ต่อต้านปณิธานของมหาเทพ!”
ลินลี่ย์และบีบีเริ่มเข้าใจ
พวกเขาก็เช่นกันได้ยินมาว่าปณิธานของมหาเทพไม่อาจละเมิดได้ พลังของมหาเทพไม่พิเศษขนาดนั้น อย่างไรก็ตามพลังของมหาเทพหลอมรวมกับปณิธานของมหาเทพจะทรงพลังน่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับมหาเทพก็คือปณิธานของพวกเขา
“เป็นเหมือนกับจักรพรรดิ! เขาไม่ต้องลงมือด้วยตนเอง แค่ราชโองการจากเขาอาจทำให้คนนับไม่ถ้วนต้องศีรษะหลุดจากบ่า สำหรับคนธรรมดาราชประสงค์ของจักรพรรดิไม่อาจต่อต้านได้!” บลูไฟร์หัวเราะอย่างใจเย็น “นี่คืออำนาจอย่างหนึ่ง พลังของเขาก็คือปณิธาน! ปณิธานของเทพชั้นสูงธรรมดาไม่สามารถใช้โจมตีได้ แต่สำหรับเทพชั้นสูงพารากอน พวกเขามีพลังอำนาจชนิดนี้ ซึ่งได้รับประทานมาจากเอกภพ!”
ตอนนี้ลินลี่ย์และบีบีเข้าใจแล้ว
สวรรค์โปรด!
งั้นสถานการณ์ก็เป็นเช่นนี้ ปณิธาน? ในบรรดาเทพชั้นสูงนับไม่ถ้วน เทพพารากอนเป็นเหมือนจักรพรรดิที่อยู่เหนือคนอื่น ปณิธานของเทพพารากอนแฝงไปด้วยกฎธรรมชาติ ดังนั้นพลังโจมตีธรรมดาของเทพพารากอนจึงทรงพลังน่ากลัว!
“มิน่าเล่า! ความเคลื่อนไหวธรรมดาของไบเออร์ก็ทำให้พวกเราสี่คนถูกจำกัดอย่างนั้น” บีบีถอนหายใจชื่นชม “โจมตีด้วยมือเปล่าเทียบเท่ากับใช้อาวุธมหาเทพโจมตี”
“แล้วปณิธานของมหาเทพเป็นยังไง?” บีบีรีบกล่าว “แข็งแกร่งกว่าปณิธานของพารากอนมากแค่ไหน?”
“แข็งแกร่งกว่ามาก!” บลูไฟร์หัวเราะ “โดยหลักการเดียวกัน! มหาเทพมีประกายมหาเทพและพวกเขาก็ยังได้รับพลังกฎธรรมชาติจากเอกภพที่มีอำนาจมากมายมหาศาล! นี่ทำให้ปณิธานที่พวกเขามีทรงพลังยิ่งใหญ่กว่า มหาเทพอยู่ห่างไปเป็นล้านๆกิโลเมตรก็ยังสามารถใช้ปณิธานของพวกเขาอย่างเดียวควบคุมพลังมหาเทพของพวกเขาโจมตีใส่พวกเราได้ เราเหล่าเทพพารากอนแทบไม่อาจรักษาชีวิตของเราเองไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้ามหาเทพมาด้วยตนเองและโจมตีเรา ไม่มีทางที่เราจะสามารถต่อต้านได้”
ลินลี่ย์และบีบีเข้าใจเป็นอย่างดี
ปณิธานของมหาเทพได้รับมาจากกฎธรรมชาติของเอกภพยังเหนือกว่าพลังอำนาจของปณิธานของเทพพารากอน
ถ้าพวกเขาอยู่ห่างไปเป็นล้านล้านกิโลเมตร มหาเทพคงไม่สามารถฆ่าพารากอนได้ แต่ถ้าพวกเขาอยู่ใกล้ พารากอนก็ยังจะต้องตาย แต่แน่นอน...บรรดาพารากอนนั้น ก็นับว่าไร้เทียมทานอยู่แล้ว
“ปณิธานที่ครอบครองคือพลังอำนาจที่มีตัวตนจริง” ลินลี่ย์ถอนหายใจ
บลูไฟร์พูดคุยสนทนากับลินลี่ย์และบีบีเป็นเวลาสามวันเต็ม ระหว่างสามวันนี้ทั้งสามคนกินและดื่ม ลินลี่ย์เล่าเรื่องบางเรื่องเกี่ยวกับพลังโจมตีที่พวกเขาประสบเจอที่สมรภูมิมหาพิภพแห่งนี้ และบลูไฟร์ถึงกับถอนหายใจเมื่อได้ฟัง หลังจากผ่านไปสามวันบลูไฟร์ก็ยังต้องแยกกับทางกับลินลี่ย์
ที่สำคัญบลูไฟล์มาที่สมรภูมิมหาพิภพด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างจากลินลี่ย์บลูไฟร์รังเกียจการฆ่าคน
ตอนนี้พวกเขาอยู่ข้างนอกถ้ำ ขณะที่ยืนอยู่ในที่รกร้างห่างไกลบลูไฟร์อำลาลินลี่ย์และบีบี
“ฮ่าฮ่า, ลินลี่ย์,อย่างนั้นข้าขอให้เจ้าโชคดีได้รับป้ายผู้บัญชาการป้ายที่สี่ก็แล้วกัน” บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะอย่างเยือกเย็น “จริงสิ, ท่านพอจะบอกข้าได้ไหม ก่อนหน้านี้พวกเจ้าอยู่ร่วมกับรีสเจมช่วงเวลาหนึ่ง ครึ่งเดือนก่อนที่จะพบพวกเจ้า ข้าพบรีสเจมและเรย์โฮมที่เจ้าอธิบายถึงในถ้ำแห่งหนึ่ง”
“โอว?” ลินลี่ย์และบีบีดีใจทันที
“พวกเขาอยู่ที่ไหน?” ลินลี่ย์ถาม ลินลี่ย์ยังรู้สึกขอบคุณต่อรีสเจม
บลูไฟร์มองดูรอบๆ และชี้ไปทิศทางหนึ่ง “ตรงไปทางนั้นห่างไปราวหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นกิโลเมตรเจ้าจะพบภูเขาแห่งหนึ่งมีสองยอดคู่มองดูเหมือนเขาแกะ เขาทั้งสองมีถ้ำอยู่ในภูเขา แต่แน่นอนว่า..ข้าไม่แน่ใจว่าพวกเขายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?”
“ขอบคุณท่านเลย์ลิน” ลินลี่ย์ดีใจ
กล่าวโดยทั่วไป พวกเขาอยู่ในที่เดียวนานหลายปี ขณะที่บลูไฟร์เห็นพวกเขาเมื่อไม่นานนี้ รีสเจมก็คงจะเห็นเช่นกัน
“ดูเหมือนว่าเจ้าต้องการจะกลับไปสมทบกับพวกเขาเช่นกันสินะ อย่างนั้นเราแยกทางกันตรงนี้เถอะ” บลูไฟร์หัวเราะ
ลินลี่ย์และบีบีอำลาบลูไฟร์ทันทีจากนั้นพวกเขาไม่ได้กลับเข้าไปในถ้ำของพวกเขาบินตรงไปยังทิศทางที่บลูไฟร์ชี้บอกด้วยความเร็วสูง ความจริงเมื่อได้ยินคำอธิบายว่าภูเขาที่คล้ายเขาแกะลินลี่ย์ก็มีความรู้แล้ว เขามีแผนที่สมรภูมิมหาพิภพ จึงเป็นธรรมดาที่เขารู้ว่าภูเขาตั้งอยู่ที่ใดกันแน่
บลูไฟร์มองดูทั้งสองคนหายไปในพื้นที่รกร้าง จากนั้นอดหัวเราะไม่ได้ เขาถอนหายใจ “เบรุตไม่ต้องใช้ความพยายามเข้ามาจัดการเลย! อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่ลินลี่ย์หลอมรวมเคล็ดได้สี่เคล็ดก็อาจบอกได้ว่าเบรุตประสบความสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว ขณะที่การหลอมรวมเคล็ดลึกลับที่ห้ายังห่างไกลอีกมาก ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่มีอะไรที่ข้าจะทำได้ในตอนนี้! อืม..ข้าไม่เคยดูสงครามมหาพิภพ ข้ามิอาจพลาดดูศึกสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในอีกสามร้อยปีข้างหน้า” บลูไฟร์จากไปอย่างสง่างาม