ตอนที่แล้วตอนที่ 19-36 ผูกสัญญากับมงกุฏ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19-38 ดินหนึ่งนิ้วฟ้าหนึ่งฟุต

ตอนที่ 19-37 สุดยอดไม้ตาย


บีบีตะลึง..และจากนั้นเขาดีใจแทบคลั่ง  เขาโยนผลไม้ในมือที่กินไปครึ่งไปข้างหนึ่ง  ฮ่าฮ่า, พี่ใหญ่ข้ารู้ว่าท่านจะต้องบรรลุระดับใหม่ได้ภายในสามร้อยปี  ข้าพูดถูกไม่ใช่หรือ?   นี่แค่สามปีแต่ท่านก็บรรลุผ่านสภาพคอขวดได้!” ในการหลอมรวมเคล็ดลึกลับยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งเคล็ดก็ยากมากยิ่งขึ้น

เมื่อผู้ฝึกบรรลุระดับใหม่ นั่นเป็นเครื่องหมายว่าพลังของผู้นั้นจะเพิ่มขึ้นอีกมากอย่างไม่ธรรมดา!

“ข้าบรรลุระดับใหม่จริงๆ  ข้าบรรลุก่อนจะถึงศึกสุดท้าย”  ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้น  จากก้นบึ้งหัวใจของเขา ความยากลำบากจากการหลอมรวมเคล็ดลึกลับสามเคล็ดเพิ่มเป็นสี่เคล็ดนับเป็นเรื่องยากมาก  ตอนนี้ในสมรภูมิมหาพิภพ ในที่สุดแล้วเขาไม่ใช่ผู้บัญชาการระดับล่างต่อไป  ถ้าเขาเผชิญพบเจอผู้บัญชาการที่น่ากลัวเขาก็สามารถสู้ตอบโต้ได้

ผู้บัญชาการที่ไม่กลัวการท้าทายต้องไม่มีจุดอ่อนอย่างสิ้นเชิง  ในอดีตพลังป้องกันวิญญาณของลินลี่ย์ยังอ่อนแอ  แต่ตอนนี้ในแง่พลังป้องกันวิญญาณ  เขาไม่มีจุดอ่อนอีกต่อไป การหลอมรวมเคล็ดลึกลับสี่เคล็ดและได้พลังสนับสนุนจากพลังวิญญาณเทพธรรมชาติสีฟ้าก็ยังเพิ่มขึ้นเช่นกัน ขณะที่สมบัติมหาเทพชำรุดสำหรับปกป้องวิญญาณก็เหมือนกัน  ความจริงลินลี่ย์ไม่กลัวพลังโจมตีวิญญาณจากยอดฝีมือระดับเดียวกับรีสเจมและมอนเตโลอีกต่อไป

แต่แน่นอนว่า..ถ้าเขาไปเจอกับเทพชั้นสูงระดับพารากอน  ลินลี่ย์ต้องเผ่น  ไม่ใช่แค่ลินลี่ย์เท่านั้นต่อให้เป็นรีสเจมพบเจอกับพารากอน เขาก็ยังไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้

“ข้าอยากจะออกไปลุยนานแล้ว ตอนนี้ท่านบรรลุพลังระดับใหม่ได้แล้ว พี่ใหญ่!  ออกไปข้างนอกกันเถอะ”  บีบีดีใจอย่างบอกไม่ถูก  “เราต้องทนอยู่ในที่บ้าๆ นี่มาเกือบหกร้อยปีแล้วได้เวลาที่เราสองพี่น้องต้องออกไปแสดงพลังเสียที” บีบีเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ลินลี่ย์เพียงแต่หัวเราะ จากนั้นส่ายศีรษะ “อย่าเพิ่งใจร้อน”

“จะให้ข้าไม่ใจร้อนได้ยังไง?  ข้าใจร้อน!”  บีบีจงใจเม้มริมฝีปาก  “ท่านก็มีพลังเพิ่มแล้วเรายังต้องซ่อนตัวอยู่ที่นี่อีกหรือ?”

“ไม่,แม้ว่าข้าจะหลอมรวมเคล็ดได้สี่เคล็ดสำเร็จ แต่ข้ายังไม่ได้พัฒนาพลังโจมตีที่เหมาะกับตัวข้าเลย”  ลินลี่ย์หัวเราะ

การหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างๆจะส่งผลให้พลังโจมตีที่ทรงพลังมีรูปแบบต่างกันไปด้วยเช่นกัน

บางคนเชี่ยวชาญในทางสนับสนุน ขณะที่คนอื่นเชี่ยวชาญโจมตีวิญญาณหรือโจมตีวัตถุหรือพรางตัวและหลบหลีก..ในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากหลอมรวมเคล็ดลึกลับสี่เคล็ด พวกเขาจะพัฒนาทักษะที่เหมาะกับตัวพวกเขา

ในอดีตทักษะหลักของลินลี่ย์ก็คือสนามพลังศิลาดำและพลังผ่าฟ้า

อย่างไรก็ตามลินลี่ย์มีพลังเพิ่มมากขึ้นสุดยอดไม้ตายของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

“โอว.. สุดยอดไม้ตายหรือ?” บีบีหัวเราะเบาๆ  จากนั้นนั่งลงที่ข้างถ้ำ  “พี่ใหญ่, เชิญพัฒนาตามที่ท่านต้องการเลย  ข้าจะมองเฉยๆ โดยไม่พูดอะไร! ใช่แล้วท่านจะต้องใช้เวลาพัฒนาวิชาของตนเองนานไหม?”

“ข้ามีความคิดของตัวเองบางอย่างแล้ว  น่าจะใช้เวลาไว”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ

จากนั้นลินลี่ย์ก็เริ่มพัฒนาสุดยอดวิชาของตนเอง  เวลาผ่านไปและมีการทดสอบต่อเนื่องลินลี่ย์เพราะกลัวว่าถ้ำจะเสียหายจึงสร้างคุกศิลาดำไว้และทดสอบภายในนั้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีพลังรั่วไหลออกมาจากเขา แต่ก็ยังอยู่ภายในคุกศิลาดำ

มืดสนิทไม่มีร่องรอยแห่งแสงที่สามารถเห็นจากคุกศิลาดำ

ลินลี่ย์ยืนนิ่งกับที่ ใจของเขามีภาพผุดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า

“นี่คือพลังป้องกันการโจมตีวัตถุควรจะเริ่มที่เกราะชีพจรเก่าของข้า จากนั้นค่อยปรับแต่งมัน...” ลินลี่ย์ในอดีตไม่ค่อยใส่ใจพลังป้องกันการโจมตีวัตถุเท่าใดนัก เพราะร่างมังกรแปลงของเขาทรงพลังมากพออยู่แล้ว  อย่างไรก็ตามเวลานี้เมื่อเขาหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้สี่เคล็ด เมื่อใช้พลังมหาเทพเพื่อเสริมให้พลังป้องกันของเขาเพิ่มขึ้นเทียบได้กับร่างมังกรแปลงจึงเป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์จะไม่ใส่ใจในการเพิ่มชั้นป้องกันพิเศษ

ภายในคุกศิลาดำที่มืดมิดลินลี่ย์ยังคงวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง

“แครกกกก...”

พลังเทพธาตุดินยังคงแผ่ออกมาจากร่างของลินลี่ย์  ในใจของลินลี่ย์กลไกอย่างหนี่งหลังจากที่ใช้พลังขยายมาถึงใจ พลังเทพธาตุดินที่รายล้อมร่างเขาเปลี่ยนวิธีการไม่หยุด

ร่างหลักของเขาและร่างแยกธาตุดินร่วมฝึกด้วยกัน  หลังจากใช้เวลาสิบเอ็ดวันในที่สุดลินลี่ย์ก็พัฒนาสุดยอดไม้ตายที่ทำให้เขาพอใจ

“เกราะนี้ ถ้าสร้างจากพลังเทพธาตุดินยังด้อยกว่าพลังในร่างมังกรของข้า อย่างไรก็ตามเมื่ออาศัยพลังมหาเทพ พลังก็จะเหนือกว่าร่างแปลงมังกร ใช่แล้วเกราะนี้สร้างมาจากพลังเทพธาตุดิน ข้าเรียกว่าเกราะธาตุดิน” ลินลี่ย์อดคิดถึงมันไม่ได้ ดังนั้นเขาเลือกชื่อธรรมดา จากนั้นวิเคราะห์ถึงพลังป้องกันวิญญาณของเขาต่อ

ลินลี่ย์ใส่ใจเกี่ยวกับพลังป้องกันวิญญาณของเขาสูงมาก

ที่สำคัญวิญญาณของคนเป็นพื้นฐานของเขา  ในทะเลจิตสำนึกของลินลี่ย์มีพลังวิญญาณมากมายและสิ่งต่างๆก็ผุดขึ้นตามๆ กันให้เขาได้ทดสอบ

พลังกฎธรรมชาติธาตุดินมีเคล็ดที่ลึกซึ้งมากโดยแบ่งเคล็ดลึกลับออกเป็นหกอย่าง และต้องเชี่ยวชาญให้ได้ในแต่ละกฎไม่มีอะไรมากไปกว่าได้รับพื้นฐานความเข้าใจในกฎธาตุดิน  เพียงเมื่อหลอมรวมได้เขาจะได้รับความรู้ความเข้าใจกฎธรรมชาติลึกซึ้งขึ้นไปอีก

ตัวอย่างเช่น เคล็ดชีพจรโลกเริ่มกับจำนวนชั้นรวม 256 ชั้นและจากนั้นหลอมรวมต่อเนื่องและลดชั้นลงทีละคลื่น นั่นมีหลักการอย่างเดียวกัน...ยิ่งหลอมรวมเคล็ดลึกลับของกฎธาตุดิน ก็ยิ่งเข้าใจได้มาก  ลินลี่ย์หลอมรวมได้สี่เคล็ดและนี่เป็นผลให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นทั้งพลังป้องกันวิญญาณและพลังป้องกันการโจมตีหยาบ

“วงจรความก้าวหน้ายังเป็นไปอย่างต่อเนื่องพลังป้องกันวิญญาณนี้ก็คงพอแล้ว”

หลังจากใช้เวลาเก้าวันพลังป้องกันวิญญาณของเขาลินลี่ย์ก็มาถึงขีดจำกัด นอกจากลินลี่ย์สามารถเข้าใจเคล็ดลึกลับได้เพิ่มขึ้นวิธีของเขาใช้พลังกฎธรรมชาติจนถึงที่สุด

“ในเวลายี่สิบวันข้าก็เชี่ยวชาญวิธีป้องกันวิญญาณและพลังป้องกันธาตุหยาบ  ตอนนี้..ข้าจำเป็นต้องเพ่งส่วนที่สำคัญที่สุดคือพลังโจมตีวัตถุ”

ลินลี่ย์รู้ดีว่าเคล็ดลึกลับที่เขาหลอมรวมก็คือ ‘เคล็ดชีพจรโลก’ เคล็ดแก่นธาตุดิน เคล็ดพลังธาตุและเคล็ดสนามพลังโน้มถ่วง การหลอมรวมเคล็ดเหล่านี้เหมาะสมที่สุดกับพลังโจมตีธาตุวัตถุ  นอกจากนี้ในร่างมังกรร่างของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเหลือเชื่อถ้าไม่ใช้พลังโจมตีวัตถุถือเป็นการสูญเปล่าอย่างมาก

ลินลี่ย์เริ่มเพ่งและพัฒนาสุดยอดวิชาโจมตีทันที

การวิเคราะห์สุดยอดวิชาโจมตีซับซ้อนมาก

ตัวอย่างเช่น พลังป้องกันวิญญาณไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับส่วนของแก่นธาตุดิน สำหรับพลังป้องกันพลังโจมตีวัตถุ ไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับสนามพลังโน้มถ่วง ดังนั้นจึงง่ายมากที่จะพัฒนาวิชา

แต่สุดยอดวิชาโจมตีนั้นแตกต่างออกไป  นี่จะต้องเกี่ยวกับสี่เคล็ดทั้งหมด

เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำ อย่างเงียบๆ ในพริบตาเดียวลินลี่ย์ใช้เวลาไปสองเดือนเต็มกับการทำงานในคุกศิลาดำ

ภายในถ้ำ

“ฮึ่ม!” บีบีย่นจมูกจ้องมองดูคุกศิลาดำที่อยู่ด้านข้าง  “พี่ใหญ่บอกว่าจะฝึกอย่างเร็วมาก  แต่ก็ผ่านไปหกสิบสามวันแล้วเขาก็ยังฝึกไม่เสร็จ”

ทันใดนั้น....

คุกศิลาดำไร้เสียงสำเนียงค่อยๆสลายลงพลังงานกลับคืนสู่โลกและเหลือไว้แต่เพียงลินลี่ย์ในชุดยาวสีฟ้าและตาของเขายังหลับอยู่  เขายืนนิ่งกับที่ มือยังคงถือกระบี่เงาลวง  เห็นได้ชัดว่าลินลี่ย์ไม่ได้บรรจุพลังเทพในกระบี่ขณะที่เห็นได้ชัดว่ากระบี่อยู่ในมือเขา

“ฮ่าฮ่า!”  บีบีกระโดดเข้ามาทันที

ลินลี่ย์ลืมตามองดู หน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“พี่ใหญ่!  ท่านทำสำเร็จแล้วหรือ?”  บีบีหัวเราะ

“ใช่ข้าทำได้สำเร็จ”  ลินลี่ย์หัวเราะพยักหน้า

“แข็งแกร่งขนาดไหน?” บีบีพูดอย่างคาดหวัง

“แข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อนแน่นอน”  ลินลี่ย์พูดและหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ไม่ตายผ่าฟ้าของข้าเพียงแต่หลอมรวมพียงสองเคล็ดเท่านั้น  เคล็ดชีพจรโลกและเคล็ดพลังธาตุทั้งนี้เพราะไม่มีวิธีที่ข้าจะเพิ่มเคล็ดแก่นธาตุดินลงไปได้เลย  แต่...ตอนนี้พอข้าหลอมรวมเคล็ดสนามพลังโน้มถ่วงข้าสามารถเพิ่มเคล็ดแก่นธาตุดินเข้าไปในพลังโจมตีของข้าได้เช่นกัน  ตอนนี้มีสี่เคล็ดลึกลับแล้ว  พลังของกระบี่นี้เพิ่มขึ้นกว่าในอดีตอีกหลายสิบเท่า!”

ลินลี่ย์มีความมั่นใจมาก ในอดีตกระบี่ของเขาอาศัยพลังของร่างมังกรแปลงของเขาเป็นหลักซึ่งเป็นเหตุผลให้สามารถคุกคามผู้บัญชาการอื่นได้

แต่ตอนนี้เพียงแค่อาศัยเคล็ดความรู้ของเขาลินลี่ย์ก็สามารถอยู่ในระดับเดียวกับผู้บัญชาการคนอื่นได้  บวกกับพลังของร่างมังกรและกระบี่เงาลวงตอนนี้ลินลี่ย์มีคุณสมบัติให้มั่นใจตนเอง

“โฮะโฮะ, พี่ใหญ่, ลองดู มาลองดูกัน”  บีบีร้องเรียกตื่นเต้นขณะมองลินลี่ย์

ลินลี่ย์ยิ้มและพยักหน้า

“เมื่อต่อสู้ ข้าจะใช้สนามพลังศิลาดำก่อนจากนั้นใช้พลังกระบี่โจมตี” ลินลี่ย์หัวเราะขณะขยายสนามพลังศิลาดำที่ทรงพลัง  ขณะที่ลินลี่ย์เตรียมจะใช้กระบี่เมื่อเห็นรัศมีแสงสีเหลืองเรืองแสงขึ้นในสนามพลังศิลาดำ ลินลี่ย์ชะงักทันทียืนนิ่งกับที่เหมือนคนโง่งม

บีบีตกใจและถามทันที “เฮ้, พี่ใหญ่, ท่านทำอะไร?”

แต่ดูเหมือนลินลี่ย์ไม่ได้ยินเขา

“พี่ใหญ่ทำอะไร? เขาบอกว่าเขาจะแสดงฝีมือให้ข้าดูไม่ใช่หรือ?”  บีบีไม่เข้าใจ

“ฮ่าฮ่า...”

ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะลั่นทันที

“พี่ใหญ่, มีอะไร, มีอะไร?”  บีบีลนลานพูด

“อย่างนั้นข้าก็ทำได้เหมือนกัน  ข้าก็ทำได้เหมือนกัน!  ข้านี่โง่เกินไป โง่จริงๆ!” หน้าของลินลี่ย์เต็มไปด้วยอาการดีใจ

“พี่ใหญ่?”  บีบีรีบเรียก

ถึงตอนนี้ลินลี่ย์ค่อยคิดถึงบีบีเขาหันหน้ามองและหัวเราะ  “บีบี!เมื่อครู่นี้เองข้าเกิดความคิดอย่างหนึ่งเป็นเหตุผลให้ข้าค่อนข้างตื่นเต้น”

“คิดอะไรได้หรือ?”  บีบีขมวดคิ้ว

“ถูกแล้ว!”  ลินลี่ย์พยักหน้าและหัวเราะ “เจ้ายังจำวิธีที่เมื่อตอนเราเผชิญพบกับพารากอนไบเออร์ได้ไหม พลังโจมตีของเขาที่มีต่อเจ้าจะตรึงความเคลื่อนไหวของเจ้าไว้ใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว”บีบีนึกย้อนไปถึงภาพที่เขารู้สึกจนใจอีกครั้งหนึ่ง  “พลังโจมตีนั้นของเขา...เมื่อมันมาถึงข้า  ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าพื้นที่มิติบีบข้าเอาไว้  ความเร็วของข้าตกลงอย่างมากมาย  ความจริงข้ายังสามารถเคลื่อนไหวได้  เพียงแต่ความเร็วตกลงไปอย่างมากช้ากว่าปกติถึงสิบเท่า ด้วยความเร็วช้าขนาดนั้น ในการต่อสู้จริงก็หมายความว่าข้าจะถูกฆ่า”

ลินลี่ย์หัวเราะ “เมื่อครู่นี้เมื่อข้าเห็นสนามพลังโน้มถ่วงของข้า  ข้าคิดถึงคนผู้นั้นได้ทันที ข้าเองก็สามารถทำให้ศัตรูมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามิติพื้นที่บีบเขาได้และทำให้เขารู้สึกเหมือนกับปลาที่ติดอยู่ในโคลน ความเร็วตกลงอย่างมากมาย”

“เอ๋?” บีบีไม่เข้าใจ “พี่ใหญ่! สนามพลังศิลาดำของท่านมีแรงดึงดูดใช้ได้เพียงทิศทางเดียว  แล้วจะบีบอัดคนได้ยังไง?”

ความจริงพลังของแรงดึงดูดของสนามพลังศิลาดำจะใช้ดึงขึ้นดูดลง ผลักออกหรือไม่ก็ดึงดูดเข้าหาลินลี่ย์

มีความเป็นไปได้เพียงทิศทางเดียว!

ตัวอย่างเช่น แรงโน้มถ่วงลงที่ใช้กักศัตรูจะส่งผลให้ศัตรูคนหนึ่งเมื่อเผชิญกับกระบี่ของลินลี่ย์ยากจะหาทางบินขึ้นได้  แต่สามารถดำลงไปใต้ดินได้ง่าย  แม้ว่าเขาจะไม่สามารถดำดินความเคลื่อนไหวขึ้นหน้า ถอยหลังและไปด้านข้างจะทำได้ไม่ถนัดนัก

แต่พื้นที่บีบอัดจะแตกต่างออกไป

มันจะทำให้นักสู้รู้สึกเหมือนกับว่าถูกบีบอัดจากทุกทิศทาง  ไม่ว่าท่านจะเคลื่อนไหวยังไง  พลังจำกัดก็ยังมากมายน่าทึ่งเหมือนกับถูกจับอยู่ในตาข่าย

“ฮ่าฮ่า...” ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะทันที  “บีบี,ข้าเคยเจอกับพลังจำกัดความเคลื่อนไหวเมื่อตอนอยู่ที่ภูเขาอะเมทิสต์แล้ว”

ลินลี่ย์ยังคงจำได้ชัดถึงเมื่อตอนที่เขาใช้เคล็ดเดินดินในภูเขาอะเมทิสต์  เขาไปเผชิญพบเจอกับรีสเจมภายในภูเขา หลังจากนั้นรีสเจมกักลินลี่ย์ไว้ในสนามพลังอะเมทิสต์เป็นเหตุให้แรงดึงดูดใช้พลังบีบอัดใส่ลินลี่ย์ แม้แต่กระดูกของเขาก็เริ่มแตกเป็นชิ้นและโลหิตไหลออกมา  นี่เป็นแรงกดที่มาจากทุกทิศทาง!

“พลังกระบี่โจมตีในปัจจุบันของข้าเหมือนกับยอดฝีมือกฎธรรมชาติธาตุดินอื่นแฝงไปด้วยพื้นฐานแรงดึงดูด สิ่งที่ข้าต้องการทำก็คือทำให้สนามพลังศิลาดำไม่ยึดข้าเป็นจุดศูนย์กลางต่อไปและเพื่อให้มันปลดปล่อยพลังเข้าไปในกระบี่ของข้าเอง”  ลินลี่ย์รู้ว่านี้เป็นเรื่องที่ยากมาก

ถ้าลินลี่ย์ไม่เข้าใจหลักการของสนามพลังอะเมทิสต์และเพียงแต่ใช้งานได้แต่พื้นฐานศิลาดำในการใช้งานสนามพลังศิลาดำ ก็ไม่มีทางเลยที่จะหลอมรวมความสามารถนี้ของสนามพลังอะเมทิสต์เข้ามาใช้ได้

ที่สำคัญศิลาดำอยู่ภายในร่างของลินลี่ย์ซึ่งเป็นการรับประกันได้ว่าถ้าลินลี่ย์อาศัยศิลาดำสนามพลังโน้มถ่วงจะใช้ร่างลินลี่ย์เป็นศูนย์กลาง

แต่ลินลี่ย์มีระดับความเข้าใจเกี่ยวกับสนามพลังศิลาดำมากขึ้น

เมื่อเขาใช้เวลาอยู่ในภูเขาอะเมทิสต์ห้าร้อยปี  ลินลี่ย์ได้ความรู้แจ้งระดับความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีใช้รังสี108 ของพลังเทพแม้ว่าพลังที่เขาใช้กับรังสีเหล่านั้นจะไม่ทรงพลังเท่ากับตัวศิลาดำเองแต่ความแตกต่างก็มีไม่มากนัก

“บีบี คอยก่อน  คอยให้ข้าใช้วิชาต่อไป!  เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นทันทีที่กระบี่ของข้าเข้าไปใกล้บางคน มันจะทำให้คนผู้นั้นรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาถูกบีบอัดจากรอบด้าน! แม้ว่าข้ายังจะด้อยกว่าไบเออร์ แต่ข้าคงไม่ด้อยจนห่างไกลแน่” ลินลี่ย์คาดหวังไม้ตายใหม่ของเขาอย่างกระตือรือร้น

ลินลี่ย์สร้างสนามพลังศิลาดำอีกครั้งทันที  จากนั้นก็เข้าไปศึกษาเรียนรู้

เคล็ดนี้..จะช่วยกักศัตรูไว้ในทิศทางหนึ่งและบีบอัดพวกเขา

เมื่อลินลี่ย์ใช้คุกศิลาดำอีกครั้งเพื่อวิเคราะห์เคล็ดวิชานี้  เขาเริ่มตรวจสอบอย่างระมัดระวังทันที

ทั้งนี้เป็นเพราะเคล็ดที่เขาใช้กับศัตรูขณะที่เป้าหมายถูกบีบีอัด ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะอาศัยศิลาดำใช้เคล็ดวิชานี้  เขาต้องอาศัยตนเอง

นอกจากนี้...

เคล็ดนี้ใช้เข้ากันได้ดีกับกระบี่ของลินลี่ย์

การพัฒนาในรอบนี้นานมาก บีบีได้ยินผนังภายในคุกศิลาดำสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง  แต่น่าเสียดาย ลินลี่ย์ป้องกันเสียงทั้งหมดไว้

ภายในคุกศิลาดำ

ลินลี่ย์หมกมุ่นกับการฝึกโดยไม่รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไปทั้งหมด

“ฉัวะ!”

ลินลี่ย์แทงกระบี่ออกง่ายๆ แต่กระบี่เงาลวงปล่อยรัศมีธาตุดินสีเหลือง ทันใดนั้นทิศทางที่กระบี่ชี้ใส่ จะมีลูกโลกกลมขนาดสามเมตรก่อตัวขึ้น  ขณะที่กระบี่เงาลวงแทงใส่รัศมีกลมจะเริ่มหดตัวอย่างรวดเร็ว

“ปัง!”

และระเบิดทำลาย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด