ตอนที่ 19-36 ผูกสัญญากับมงกุฏ
ลูปฝึกมาในกฎธาตุดิน และหลอมรวมได้ถึงห้าเคล็ด
ในบรรดาเคล็ดของกฎธาตุดินทั้งหกมีเพียงกฎเดียวที่เขาไม่สามารถหลอมรวมกับเคล็ดอื่นได้ก็คือ ‘เคล็ดสนามพลังโน้มถ่วง’ เขาหลอมรวมห้าเคล็ดอื่นได้แล้ว หลังจากหลอมรวมเคล็ดพลังชีวิต,เคล็ดเดินดิน, เคล็ดชีพจรโลก, เคล็ดพลังธาตุ และเคล็ดแก่นธาตุดินเขาสร้างวิชาที่ใช้กับเคล็ดเดินดินที่ทรงพลัง ในขณะที่คิดค้นหาวิธีให้พลังวิญญาณของเขาสร้างพลังหมุนวนในใจโดยไม่แสดงพลังให้รั่วไหลออกมา
เขาก้าวไปถึงระดับที่สูงล้ำในเรื่องของการพรางตัวและหนีเอาตัวรอด
อย่างไรก็ตามเมื่อมีได้ก็ต้องมีเสียพลังดาบโจมตีของเขาแฝงไปด้วยการหลอมรวมเคล็ดลึกลับสี่เคล็ด ขณะที่เคล็ดเดินดินไม่มีทางที่เขาจะหลอมรวมเข้าในดาบนี้ของเขา
“ควั่บ!” ลูปผ่านเข้าไปในสนามพลังศิลาดำได้เหมือนกับปลาลื่นไหลเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง
แต่ลินลี่ย์ไล่ตามเขาและมักจะไปขวางอยู่หน้าเขาเสมอ
“ยังไม่แน่ว่าใครจะเป็นฝ่ายตาย” ลูปแค่นเสียงในใจ และดาบในมือของเขาฟันผ่านอากาศอย่างเงียบงันเป้าหมายคือกะโหลกของลินลี่ย์ ในทันใดนั้นกระบี่ประกายเทพของลินลี่ย์ปะทะกับดาบศึกมีเสียงดัง ‘ปัง’ พลังของดาบระเบิดออกทันที
“ปัง!”
หนึ่งดาบ, หนึ่งกระบี่!
ร่างของลินลี่ย์สั่นเล็กน้อยขณะที่เขาถอยกลับ “ฮ่าฮ่า, ยอดเยี่ยม!” ลินลี่ย์หัวเราะลั่นจากนั้นบุกเข้าหาอีกครั้ง แต่เป็นโชคร้ายสำหรับลูปอาวุธของเขาด้อยกว่ากระบี่ประกายเทพของลินลี่ย์เล็กน้อย
“เขาพึ่งพาอาวุธของเขา” ลูปตระหนักได้ทันทีว่าอาวุธของลินลี่ย์เป็นของพิเศษไม่ธรรมดา ลูปมีความรู้สึกหงุดหงิดดวงตาของเขาเย็นชาและทันใดนั้นนิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือซ้ายของเขาปล่อยพลังโจมตี รังสีกระบี่ดรรชนีสีใสยิงใส่ลินลี่ย์ตรงเข้าไปในจิตใจของลินลี่ย์อย่างรวดเร็ว
นี่คือพลังโจมตีวิญญาณ!
“ฮ่าฮ่า..ลูป,จะดีที่สุดถ้าเจ้าไม่ใช้พลังโจมตีวิญญาณที่มีพลังน้อยนิด” ลินลี่ย์ไม่สนใจพลังโจมตีนั้น ยอดฝีมือกฎธรรมชาติธาตุดินไม่เคยมีผู้เชี่ยวชาญในพลังโจมตีวิญญาณตั้งแต่แรก และลูปเองก็ไม่เชี่ยวชาญพลังโจมตีวิญญาณเหมือนกัน พลังโจมตีของเขาจะทรงพลังได้ยังไง? ลินลี่ย์แค่อาศัยเฉพาะพลังวิญญาณของเขาอย่างเดียวก็สามารถเอาชนะพลังโจมตีได้
ลูปโจมตีด้วยวิธีเช่นนั้นเนื่องจากไม่มีตัวเลือกอื่น
“อย่างนั้นหรือ?” ลูปหัวเราะเย็นชา พลังโจมตีของเขาทื่อเกินไป ลินลี่ย์มีความพอใจที่ได้ต่อสู้กับเขา
“แคล้ง!”
ร่างของลินลี่ย์และลูปต่างโจมตีใส่กัน แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งสองมีพลังเสมอกัน ขณะที่ลินลี่ย์เห็น พลังของลูปในหมู่ผู้บัญชาการอยู่ในระดับท้ายๆ เช่นกัน “เขาไม่มีสมบัติมหาเทพสักชิ้นแต่พึ่งพาเงื่อนไขอย่างเดียวคือการลอบฆ่า อย่างไรก็ตามนั่นก็คุ้มค่ากับเวลาให้ข้าได้เรียนรู้วิชาพรางตัว”
ลินลี่ย์คาดเดาได้ว่าลูปมีการหลอมรวมทักษะเดินดินรวมอยู่ในเคล็ดลึกลับของเขาด้วย
นอกจากนี้ดาบนั้นยังแฝงไปด้วยพลังหยุดชะงัก จากนั้นก็ระเบิดพลังทั้งหมดในรวดเดียว
“พลังฟันดาบครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าควบคุมและคำนวณเคล็ดพลังธาตุได้ในระดับที่สมบูรณ์แบบ” ลินลี่ย์ยังคงผลัดกันรุกรับกับลูปด้วยความตั้งใจจะฝึกกระบี่ ขณะที่ลูปมีเป้าหมายฉวยโอกาสฆ่าลินลี่ย์และหลบหนีในการสู้ครั้งนี้
“วืดด!”
กระบี่ของลินลี่ย์พุ่งออกไปบ้าง
ลูปตวัดดาบกลับมารับที่ด้านแบนของกระบี่ลินลี่ย์และกดลงจากนั้นฟันใส่ร่างของลินลี่ย์
“โอว? เขาทุ่มเทพลังจริงๆ” ในช่วงวิกฤตินี้มีเสียงดังควั่บได้ยินชัดประกายสีทองฟ้าวาบขณะที่หางของลินลี่ย์แฝงด้วยพลังที่น่ากลัวฟาดใส่ดาบ ในแง่ความทน หางของลินลี่ย์ไม่อ่อนแอกว่าอาวุธเทพชั้นสูงแม้แต่น้อย
ดาบศึกถูกฟาดจนเสียหลัก “ตุ้บ!” ดาบที่แต่เดิมตั้งใจฟันที่ศีรษะของลินลี่ย์แต่ตอนนี้กลับฟันใส่อกของเขาแทน หลังจากถูกฟาดด้วยหางมังกรแรงฟันของดาบในตอนนี้อ่อนแอลง แต่ก็ยังฟันผ่านเกล็ดมังกรพร้อมกับรอยเลือดที่หน้าอก
“ฉัวะ!”
กระบี่เงาลวงฟันใส่ศีรษะของลูปจนขาดจากร่างกาย
เมื่อศีรษะนักสู้ขาดจากร่างของเขานั่นรับประกันได้ว่าตายแน่!ที่สำคัญแม้ว่าวิญญาณอาจมีพลังต้านได้ แต่ร่างกายไม่อยู่ในการควบคุมให้ต่อสู้ตอบโต้คืนจึงเท่ากับว่าพ่ายแพ้
“เจ้าร้ายกาจนักแต่ก็ลงท้ายด้วยความตายของเจ้า” ลินลี่ย์มองศีรษะที่ปลิวกระเด็น
“ถ้าข้ามีสมบัติมหาเทพ ผลก็คงแตกต่างแน่นอน” ศีรษะของลูปตะโกน เขารู้ว่าเขาต้องตาย
“ฉัวะ!” กระบี่เงาลวงของลินลี่ย์ฉายประกายวูบเสียงของลูปก็เงียบลง และรอยเส้นแดงบางปรากฏบนศีรษะของเขา
ขณะนั้นเองสมบัติเทพชั้นสูงแหวนเก็บสมบัติและป้ายทองร่วงลงพื้น
“ถ้าเจ้ามีสมบัติมหาเทพ จะทำให้ผลแตกต่างหรือ?” บีบีบินมาสมทบพลางหัวเราะ “ทุกคนสามารถพูดเช่นนั้นได้ ถ้าพี่ใหญ่ข้ามีสมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณ สมบัติป้องกันพลังโจมตีวัตถุและอาวุธมหาเทพนอกจากพารากอนแล้ว เขายังต้องกลัวใคร?”
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจกับตนเอง
โลกนี้เป็นโลกที่ผู้แข็งแกร่งกินคนอ่อนแอ พลังได้รับการยกย่อง คนต้องพึ่งพาความสามารถของตนเองจึงจะได้รับอาวุธมหาเทพเช่นกัน!
เฉพาะผู้เข้มแข็งเท่านั้นที่คู่ควรยกย่องและได้รับสมบัติมหาเทพ เฉพาะผู้เข้มแข็งเท่านั้นจึงจะได้รับผลงานทางทหารเพียงพอและสามารถเอาไปแลกเป็นสมบัติมหาเทพได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนบุคคล ขนาดที่ลูกของมหาเทพพวกเขามีความได้เปรียบมากมาย แต่บางครั้งโชคก็เป็นส่วนหนึ่งของพลังเช่นกัน
“ลูปผู้นี้มีทักษะลอบจู่โจมได้ไม่เลว น่าเสียดายเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นจริงๆเขากลับเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการที่อ่อนแอที่สุดสมแล้วที่มหาเทพไม่เลือกเขาเป็นทูต” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ “ดังนั้นยิ่งหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้มากแม้แต่ในหมู่คนผู้หลอมรวมได้ห้าเคล็ดก็ยังมีความแตกต่างของพลังอำนาจ”
เคล็ดลึกลับธาตุดินมีทั้งหมดหกเคล็ดเมื่อหลอมรวมห้าเคล็ดมีความเป็นไปได้ทำให้เกิดผลหลอมรวมหกอย่างและผลของการหลอมรวมหกรูปแบบก็มีความพิเศษต่างกัน
“ป้ายประจำตัวผู้บัญชาการนี้ได้รับมาค่อนข้างง่าย” ลินลี่ย์เก็บป้ายทองด้วยความรู้สึกยินดีในหัวใจ “ตอนนี้ข้ามีสามป้ายแล้ว ข้ายังขาดเพียงอีกป้ายเดียว
“บีบี, ไปกันเถอะ”
ลินลี่ย์และบีบีย้ายที่ออกไปจากพื้นที่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูง
สถานที่อย่างสมรภูมิมหาพิภพเป็นที่ซึ่งยอดฝีมือที่เข้ามาต้องเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับความตาย ยอดฝีมือบางคนต้องตายเพื่อให้คนอื่นมีชีวิต
ลึกลงไปในใจกลางภูเขาใหญ่ธรรมดาในสมรภูมิมหาพิภพ ลินลี่ย์และบีบีขุดถ้ำและสร้างเป็นที่อาศัยชั่วคราว ถ้ำนี้แยกออกจากโลกภายนอกลึกเข้าไปในภูเขาหินหลายร้อยเมตร โดยทั่วไปผู้บัญชาการจะไม่สามารถใช้สำนึกเทพตรวจสอบภายในนี้ได้
แต่แน่นอน มีข้อยกเว้นสามอย่าง
หนึ่งถ้าพวกเขาใช้พลังมหาเทพตรวจค้น
สองเป็นเทพพารากอน พวกเขามีระยะตรวจค้นที่ไกลขึ้นเช่นกัน
และสำหรับข้อสามก็คือ เทพชั้นสูงวิญญาณกลายสภาพ วิญญาณกลายสภาพเป็นวิญญาณที่พิเศษมาก และวิญญาณของพวกเขาจะแข็งแกร่งมากกว่าวิญญาณของเทพชั้นสูงโดยทั่วไป แต่แน่นอนว่ามีความแตกต่างในบรรดาพวกวิญญาณกลายสภาพเช่นกัน โอกาสสำเร็จของการกลายสภาพวิญญาณจะทำให้มีพลังเทพสองรูปแบบมีโอลิเวอร์ที่ทำได้ระดับนี้เช่นกัน แต่แทบทุกคนจะมีพลังเทพสามรูปแบบแล้วยังดำเนินการกลายสภาพวิญญาณมักจะตาย ในทั่วแดนนรกมีเพียงคนเดียวที่ประสบความสำเร็จในการแปลงวิญญาณสามรูปแบบแล้วรอดอยู่ได้และจะมีพลังเทพถึงสามรูปแบบ ขณะที่พลังวิญญาณของวิญญาณกลายสภาพสามรูปแบบจะมีพลังยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดา!
สำหรับผู้ที่ดำเนินการกลายสภาพวิญญาณขณะที่มีการเข้าถึงพลังเทพสี่ชนิดในทั่วทั้งจักรวาลทั้งสิ้น ในช่วงเวลานับไม่ถ้วนไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จแม้แต่คนเดียว ไม่มีใครรู้ว่าผลจะเป็นเช่นไร ถ้าคนผู้หนึ่งมีพลังเทพสี่รูปแบบผ่านการดำเนินการกลายสภาพวิญญาณ
ภายในถ้ำ
ลินลี่ย์ดึงเอามงกุฎคร่ำคร่าออกจากแหวนเก็บของและดูอย่างระมัดระวัง มงกุฎไม่มีร่องรอยของความเงามัน ถ้าเขาโยนทิ้งในกองขยะ ต่อให้เทพเห็นเข้า พวกเขาก็คงไม่สนใจ
บีบีที่อยู่ใกล้ๆ ก็จ้องมองดูเช่นกันหลังจากผ่านไปนานเขาจึงพึมพำ “พี่ใหญ่! มงกุฎคร่ำคร่านี่มีอะไรพิเศษหรือ? ทำไมข้าไม่เห็นว่ามันมีอะไรพิเศษเลย? มันทำให้ข้ารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมองดูของธรรมดา”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ข้ายังไม่เห็นอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับมันเลย”
เมื่อลินลี่ย์ได้รับพลังที่ไม่ธรรมดาจากในมงกุฎ มันช่วยรักษาบาดแผลของเขา นอกจากนี้เจ้าสิ่งนี้ยังลอยออกมาจากรอยแยกมิติ ลินลี่ย์ย่อมมั่นใจว่าต้องเป็นของไม่ธรรมดา
“ข้ารู้ว่ามันไม่ธรรมดา อะไรก็ตามที่รอดอยู่และลอยออกมาจากในมิติปั่นป่วนได้ก็คงมีแต่อาวุธประกายเทพหรือสมบัติมหาเทพ” บีบีจ้องมองมงกุฎอย่างระมัดระวัง “แต่สำหรับเจ้าสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนมงกุฎ..เท่าที่ข้าเห็นก็น่าจะเป็นสมบัติมหาเทพสำหรับปกป้องวิญญาณ” นี่คือสิ่งที่บีบีตัดสิน
“ถ้าเป็นสมบัติสำหรับปกป้องวิญญาณจริงเนื่องจากรูปลักษณ์ที่คร่ำคร่า ก็น่าจะเป็นสมบัติมหาเทพชำรุด” ลินลี่ย์หัวเราะ
ถ้าเจ้าของสมบัติมหาเทพชนิดปกป้องวิญญาณยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีทางที่สมบัติมหาเทพจะได้รับความเสียหาย! สมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณได้รับความเสียหายก็หมายความว่าพลังป้องกันของสมบัติมหาเทพแตกเสียหายและเจ้าของตาย!
“มีเพียงเงื่อนไขเดียวในตอนนี้” ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อยขณะที่เขาพูด
“พี่ใหญ่, เร็วเข้า ทดลองดู” บีบีเร่งเร้า
มีเพียงทางเลือกเดียวก็คือ...ผูกสัญญาโลหิต!
ลินลี่ย์เหยียดนิ้วชี้แต่พอหยดเลือดออกจากนิ้วและเลือดหยดลงที่มงกุฏ
“เอ๋?” บีบีจ้องมอง
“เอ๊ะ?” บีบีขมวดคิ้ว
หยดเลือดกระทบมงกุฎ...และจากนั้นกระจายกลิ้งตกไปบนพื้น
“มันไม่ยอมดูดซับ?” ลินลี่ย์งง
“เกิดอะไรขึ้น? เจ้าสิ่งนี้มีเจ้าของหรือ?” บีบีขมวดคิ้ว
ลินลี่ย์ไตร่ตรองครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้า “มีความเป็นไปได้อย่างเดียว เจ้าของมงกุฏอาจยังต่อสู้อยู่ในสมรภูมิมหาพิภพ และจากนั้นก็ตายสมบัติมหาเทพตกลงไปในมิติปั่นป่วน อย่างไรก็ตาม เจ้าของมงกุฎคงจะมีร่างแยกอยู่ข้างนอกดังนั้นจึงไม่มีทางผูกสัญญาโลหิตได้”
“มีเหตุผล! อา, เดี๋ยวก่อน! พี่ใหญ่”จู่ๆ บีบีก็พูดขึ้น “มงกุฎนี้ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีทางที่มิติปั่นป่วนจะสร้างความเสียหายให้สมบัติมหาเทพได้ใช่ไหม? ไม่มีทางที่เทพชั้นสูงจะสร้างความเสียหายให้สมบัติมหาเทพเช่นกัน”
ลินลี่ย์ตะลึง เขาอดพยักหน้าเล็กน้อยไม่ได้
เมื่อเทพชั้นสูงต่อสู้ โดยทั่วไปหลังจากนักสู้ตายสมบัติมหาเทพจะไม่มีทางเสียหาย ไม่มีทางที่พลังของเทพชั้นสูงจะสร้างความเสียหายให้กับสมบัติมหาเทพได้
“เป็นไปได้ว่าเจ้าของมงกุฎนี้จะเป็นมหาเทพ?” นี่เป็นการคาดเดาของลินลี่ย์ “อย่างนั้นมงกุฏนี่อาจเสียหายในระหว่างการต่อสู้ของมหาเทพก็เหมือนกับแหวนมังกรขนดของข้า?”
“ถ้าเป็นมหาเทพ อย่างนั้นมหาเทพต้องพลาดท่าล้มตายอย่างแน่นอน” บีบีกล่าว “ถ้ามหาเทพตาย มหาเทพอีกคนที่ฆ่าเขาจะยอมไว้ชีวิตร่างแยกของเขาหรือ เขาจะต้องขุดรากถอนโคนอย่างแน่นอน อย่างนั้นมงกุฎนี้ก็ควรเป็นวัตถุที่ไร้เจ้าของ ควรจะผูกสัญญาด้วยเลือดได้”
ลินลี่ย์ไม่เข้าใจเหมือนกัน
เขาสามารถผูกสัญญาโลหิตกับแหวนมังกรขนดได้แต่ทำกับมงกุฏไม่ได้
สำหรับตอนนี้ ทั้งหมดนี้เป็นการสันนิษฐาน
“เอาไว้ก่อนเถอะ” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “บีบี,ถ้าเราไม่สามารถค้นเจอ ก็ไม่ต้องไปกังวล เรื่องยาวพักไว้ก่อนไม่มีทางจะผูกสัญญาโลหิตได้ บางที...มงกุฏนี้อาจไม่ใช่สมบัติมหาเทพก็ได้”
“นอกจากสมบัติมหาเทพแล้วของอย่างอื่นสามารถรอดอยู่ได้ในมิติปั่นป่วนได้หรือ?” บีบีพึมพำ
ลินลี่ย์และบีบีไม่อาจเข้าใจได้ เกี่ยวกับความรู้ที่พวกเขามีสิ่งที่สามารถคงอยู่ได้ในมิติปั่นป่วน!นอกจากสมบัติมหาเทพและอาวุธประกายเทพก็คงมีแต่ประกายเทพ! สำหรับวัตถุธรรมดาที่ทำจากแร่หรือโลหะ ไม่มีทางที่จะอยู่ได้ในมิติปั่นป่วน
เมื่อไม่สามารถทำความเข้าใจมงกุฎได้ลินลี่ย์จำต้องยกเลิกในตอนนี้ก่อน เขาเก็บกลับคืนเข้าไปในแหวนมิติเก็บของและจากนั้นกำหนดแนวทางและเริ่มฝึกฝน เหลือเพียงสามร้อยปีจากตอนนี้จนถึงศึกสุดท้ายของสงครามมหาพิภพ ลินลี่ย์ต้องการทำความเข้าใจและมีความก้าวหน้าระดับใหม่
“แรงฟันดาบนั้นของลูป...”
เก็บพลังทั้งหมดอย่างสิ้นเชิงและจากนั้นระเบิดพลังที่น่าทึ่งในคราวเดียว
“หมัดของแฮมเมอร์...”
พลังหมัดที่ไม่สามารถต่อต้านป้องกันได้...และยังคงหมุนเวียนอยู่ในสำนึกของลินลี่ย์
“คทาหนามนั้นของบุรุษชุดทอง..”
ลินลี่ย์ไตร่ตรองอย่างระมัดระวังถึงคทาหนามเช่นกัน
ในช่วงที่ผ่านมาไม่กี่ปี เขาเผชิญพบเจอยอดฝีมือกฎธาตุดินหลายคน เช่นลอร์ดเรดคลิฟ, บิลลี่ย์...
ทุกคนเป็นยอดฝีมือกฎธาตุดินได้วิเคราะห์และพัฒนาสุดยอดไม้ตายกฎธาตุดินที่เป็นของพวกเขา แต่นั่นเป็นไม้ตายของยอดฝีมือเหล่านั้น ไม่ใช่ของเขา! ลินลี่ย์ต้องการค้นหาเคล็ดลับที่ซ่อนอยู่หลังสุดยอดไม้ตายเหล่านั้นหวังว่าจะพบบางอย่างซึ่งช่วยให้เขาบรรลุผ่านคอขวดที่เขาเผชิญอยู่ และก็เป็นเช่นนั้นจริง ลินลี่ย์เริ่มวิเคราะห์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
บีบีรู้สึกเบื่อเหลือทน แค่พักอยู่เฉยๆ ในถ้ำ ตาของเขาปรือขณะกัดกินผลไม้เป็นครั้งคราว ตอนนี้เขาควบคุมโกเลมมัจจุราชไว้ข้างนอก “ผ่านไปสามปีแล้ว แต่เราเจอพบเจอคนแค่คนเดียว และคนผู้นั้นไม่ใช่คนที่ง่ายจะรับมือ คนอ่อนแอพากันซ่อนตัวกันหมดเหมือนหนูขี้ขลาด แต่เดี๋ยว.. ข้าก็เป็นหนูเหมือนนี่นา”
ทันใดนั้นบีบีหันไปมองลินลี่ย์
“หือ?” บีบีเลิกคิ้ว
แก่นธาตุดินมหาศาลปรากฏรอบตัวลินลี่ย์และโดยมีลินลี่ย์เป็นจุดศูนย์กลาง มันค่อยๆ ก่อตัวเป็นลูกกลมสีเหลืองธาตุดิน
“เกิดอะไรขึ้นกับพี่ใหญ่?” บีบีไม่เข้าใจ
“วูบบบ!”
รัศมีแสงสีเหลืองที่แปลกประหลาดมากหดขนาดลงอย่างรวดเร็วจากขนาดสามเมตรเหลือแค่จุดบางๆ จุดเดียว ความเร็วในการย่อขนาดเร็วจนมิติสั่นสะเทือน และระลอกจากแรงสั่นสะเทือนนี้ทำให้หินศิลาที่อยู่ใกล้ภายในถ้ำกลายเป็นผุยผงทันที ถ้ำทั้งหมดกลายเป็นลูกกลมขนาดยักษ์
ขณะนี้เองลินลี่ย์ลืมตาของเขา มีรอยยิ้มอยู่เต็มใบหน้า
“พี่ใหญ่? ท่าน...บรรลุระดับใหม่หรือ?” บีบีเดา
ลินลี่ย์มองบีบี เขาพยักหน้าเล็กน้อย
**************
*** วิญญาณกลายพันธุ์ ขอปรับสำนวนเป็น วิญญาณกลายสภาพนะครับ