ตอนที่ 19-35 ก้อนหิน
เงาดำสองร่างกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงขณะที่ด้านหลังพวกเขามีเงาร่างเจ็ดคนกำลังไล่โจมตี เพียงแต่เงาร่างทั้งเจ็ดข้างหลังสองคนยังทอดระยะห่างจากกัน
“รีสเจมผู้นี้มีความเร็วมาก มีแต่คุณชายท่านที่ติดตามได้ ส่วนคนอื่นๆแทบไม่สามารถตามได้ทัน เราควรจะทำยังไงดี?” ผู้อาวุโสผมขาวติดตามมอนเตโลขณะส่งสำนึกเทพถามอย่างเร่งร้อน พวกเขาสองคนฝึกมาทางกฎธาตุแสง และเชี่ยวชาญเรื่องความเร็ว ขณะที่คนอื่นๆ ฝึกมาทางสายธาตุน้ำบ้าง,วิถีชะตาบ้าง, และพวกเขาไม่ถนัดใช้ความเร็ว
“ไล่ตาม!”
มอนเตโลจ้องมองเงาร่างข้างหน้าเขม็ง
“ครืน...” ทันใดนั้นพื้นดินลอยขึ้น และหินขนาดใหญ่จำนวนมากพุ่งออกมาจากพื้น หินทุกก้อนบินออกมาพร้อมกับแสงสีดำ เห็นได้ชัดว่าหินทุกก้อนแฝงไปด้วยพลังมหาเทพวิถีทำลายล้าง
มอนเตโลและคนของเขาไม่สนใจก้อนหิน แต่พวกเขาไม่กล้าประมาทพลังมหาเทพวิถีทำลายล้าง
“ปัง!” “ปัง!”
มอนเตโลและพวกที่เหลือทั้งเจ็ดคนต่างก็หลบหรือไม่ก็กระแทกก้อนหินให้แหลก หินศิลาเหล่านี้ไม่ได้คุกคามพวกเขามากนักแต่ทำให้พวกเขาช้าลง
“พวกเขาทอดระยะห่างออกไปอีกแล้ว!” มอนเตโลหรี่ตาของเขา มีความรู้สึกโกรธอยู่ในอก “รีสเจมนี้ได้ผู้ช่วยอย่างเขาและยินดีจะใช้พลังมหาเทพจำนวนมากเพื่อใช้ไม้ตายนี้...” ทันใดนั้นมอนเตโลสังเกตว่าพลังมหาเทพในร่างของเขาค่อยๆ เหือดหายไป เขาอดถอนหายใจไม่ได้ “ช่างเถอะ, แค่นี้ก็พอจะทำให้รีสเจมอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่แล้วในครั้งนี้”
“หยุด!” มอนเตโลตวาด
หลังจากที่เขาหยุด อีกหกคนก็หยุดเช่นกัน
แม้ว่ามอนเตโลจะใช้หยดพลังมหาเทพแต่อีกหกคนไม่ได้ใช้อย่างทุ่มเท ดังนั้นมอนเตโลจึงทุ่มใช้พลังใยไหมแสงนับไม่ถ้วนพัวพันรีสเจมไว้ตั้งแต่เริ่มต้นและยังใช้พลังมหาเทพเสริมพลังเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ก่อนนั้นเขาใช้พลังมากเกินไป ดังนั้นพลังมหาเทพของเขาจึงสลายไปก่อนเป็นธรรมดา
“ไม่ต้องไล่ตามต่อไปแล้ว นี่มีแต่จะทำให้สิ้นเปลืองพลังมหาเทพ ข้าไม่มีพลังมหาเทพมากพอจะเสียไปกับรีสเจม” มอนเตโลแค่นเสียง “รีสเจม, เจ้าเด็กนั่น ชอบหยิ่งยโสอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้เราทำให้เขาหนีหัวซุกหัวซุนได้ แค่นั้นก็พอแล้ว”
ราเนซซาแค่นเสียง “พอสำหรับเจ้า แต่เราไม่ได้ป้ายประจำตัวแม้แต่ป้ายเดียว”
มอนเตโลชำเลืองมองราเนซซา จากนั้นหัวเราะเบาๆ “ราเนซซา! ยังมีโอกาสในอนาคตอีกมาก ตอนนี้อีกเดี๋ยวโอมานก็กลับมา เขาต้องฆ่าอีกสองคนได้อย่างแน่นอน ถ้าเขาได้รับป้ายใดป้ายหนึ่งมาด้วยเราจะมอบให้เจ้า เจ้าจะว่ายังไง?”
“ข้าเชื่อคำพูดเจ้า” ในที่สุดราเนซซาก็ยิ้มจนได้
ขณะนั้นเอง..
“มอนเตโล!ข้ารีสเจมจะจำเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้!” เสียงรีสเจมตะโกนก้องดังมาจากที่ไกล
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนขุ่นเคืองไม่พอใจนั้นมอนเตโลไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย เขากลับเริ่มหัวเราะลั่น เขาบอกกับอีกหกคน “ฮ่าฮ่า, ทุกคน,ได้ยินไหมนั่น? รีสเจมโกรธจัดแล้ว! ครั้งก่อนเราฆ่าบอสลีย์นั่นไป แต่เขาก็ยังทำอะไรเราไม่ได้ ครั้งนี้เราให้บทเรียนเขาอีกครั้งหนึ่ง ต่อให้ข้ายืนอยู่ข้างหน้าเขา เขาก็ยังทำอะไรข้าไม่ได้”
“คุณชาย! ท่านมีสมบัติมหาเทพป้องกันพลังโจมตีวัตถุ อย่างมากรีสเจมก็คงได้แต่ด่าทอท่าน เขายังจะทำอะไรได้? เป็นไปได้ว่ามหาเทพจะเข้ามาแทรกแซงกับเรื่องเล็กน้อยนี่หรือ?” สตรีผมเขียวหัวเราะ
มอนเตโลและรีสเจมไม่สามารถทำอันตรายกันเองได้
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่ามอนเตโลมีผู้ช่วยมากกว่ารีสเจม ดังนั้นเป็นธรรมดาที่รีสเจมต้องเจ็บปวดจากความพ่ายแพ้
“อืม..โอมานกลับมาแล้ว” มอนเตโลหันไปมองทันที
ข้างตัวมอนเตโลตอนนี้มีอีกหกคนที่เปล่งรัศมีพลังมหาเทพ รัศมีพลังมหาเทพหกสายนั้นสว่างเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ ที่นี่คือสมรภูมิมหาพิภพ ใครเล่าจะไม่รู้สึกถึง? โอมานสามารถติดตามรัศมีพลังมหาเทพมาถึงด้วยความเร็วสูง
“มอนเตโล! จำคำสัญญาของเจ้าได้ไหม” ราเนซซาหัวเราะเบาๆ
“แน่นอน” มอนเตโลพยักหน้าด้วยความมั่นใจ
“โอมาน” มอนเตโลยิ้มให้ขณะรับเขา แม้ว่าโอมานจะติดตามเขา แต่เขาเป็นทูตมหาเทพมีสมบัติมหาเทพใช้ถึงสองชิ้น เขามีพลังมากมายยิ่งกว่า
โอมานลงมายืนที่พื้น “คุณชาย”
“ก่อนหน้านี้แม่นางราเนซซากับข้าตกลงกันว่าหลังจากฆ่าคนของรีสเจมเราจะมอบป้ายประจำตัวให้ราเนซซา ส่งป้ายทั้งสองมาให้ข้า” มอนเตโลพูดพลางหัวเราะ
โอมานส่ายหน้า “ข้ายังไม่ได้รับป้ายมา”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หน้าของมอนเตโลเขียวคล้ำทันที ขณะที่หน้าของราเนซซาพลันเย็นชา นางพูดแค่นเสียง “โอว, เราทุกคนรู้ดีว่าท่านโอมานแข็งแกร่งทรงพลังมากเพียงไหนเป็นไปได้ยังไงว่าท่านไม่สามารถฆ่าเด็กสองคนได้? ข้าคิดว่าท่านฆ่าพวกเขาแล้วเอาป้ายประจำตัวมาแล้ว แต่ไม่ยินดีจะส่งมอบให้เสียมากกว่า”
ป้ายผู้บัญชาการสองป้ายเป็นวัตถุที่ทรงคุณค่ามาก
“หืม?” โอมานแค่นเสียงเย็นชาและหันไปถลึงตามองราเนซซา “เจ้าพูดว่าไง? กล้าเรียกข้าว่าโอมานเฉยๆหรือนังตัวดี?”
ราเนซซาเลิกคิ้วจากนั้นหัวเราะ “อะไรกัน, โอมานเจ้าพยายามจะใช้กำลังข่มพวกเราหรือ?”
“ถ้าข้าบอกว่าข้าไม่ได้ของมา อย่างนั้นก็คือข้าไม่ได้ของมา! อย่าให้มันมากเกินไป!” โอมานแค่นเสียงเย็นชา ไม่มีทางที่เขาจะพิสูจน์อะไรอย่างนี้ได้เลย
แต่เห็นได้ชัดว่าเท่าที่ราเนซซากังวล โอมานเป็นผู้บัญชาการที่น่ากลัวมาก ขณะที่ลินลี่ย์และบีบีเป็นคนที่ราเนซซาไม่เคยพบเห็นมาก่อน พวกเขาไม่ควรจะทรงพลังมาก ดังนั้นนางปักใจว่าโอมานฆ่าพวกเขาไปแล้ว
“ฮ่าฮ่า...” ราเนซซาหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ในเมื่อเป็นคำที่ท่านพูด โอมานอย่างนั้นข้าเชื่อคำพูดของเจ้าแน่นอน ไปกันเถอะ!”
เห็นได้ชัดว่าราเนซซารู้ว่าไม่มีอะไรที่นางจะทำได้ในที่นี้ แล้วนางจะอยู่ไปทำไม?
บุรุษหนุ่มอีกสองคนบินออกไปพร้อมกับราเนซซาเช่นกัน
“พวกเขาไปแล้ว” มอนเตโลหันไปมองโอมาน จากนั้นหัวเราะ “โอมาน! ตอนนี้เจ้าบอกข้าได้หรือยังว่าเจ้าฆ่าสองคนนั้นได้หรือไม่?” มอนเตโลเชื่อว่าโอมานโกหกในก่อนหน้านั้นเช่นกัน
“ข้าฆ่าไม่ได้จริงๆ” โอมานส่ายศีรษะ “สองคนนั้นไม่ได้อ่อนแอเลย เด็กหนุ่มเผ่ามังกรฟ้าสามารถรับพลังโจมตีของข้าได้ตรงๆ โดยไม่ตาย ขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งใช้ร่างกายของเขารับพลังโจมตีจากอาวุธมหาเทพของข้าได้โดยตรง แต่เขาก็ไม่ตายอีกเหมือนกัน หลังจากนั้นข้าไล่ตามพวกเขา แต่เจ้าเด็กจากเผ่ามังกรฟ้ามีทักษะสนามพลังโน้มถ่วงที่คล้ายกับของรีสเจม ข้าไม่สามารถเข้าไปถึงตัวเขาได้ ดังนั้นข้าจึงต้องล้มเลิกความพยายาม”
มันเตโลขมวดคิ้ว
“เด็กหนุ่มนั่นรับพลังโจมตีโดยตรงด้วยร่างของเขาหรือ? ดูเหมือนเขาต้องมีสมบัติมหาเทพป้องกันพลังโจมตีวัตถุแน่ เจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้าสามารถใช้วิชาสนามพลังอะเมทิสต์หรือ? ความสัมพันธ์ของเขากับรีสเจมลึกซึ้งมาก ช่างเถอะ ไปหาที่พักผ่อนกันก่อน” มอนเตโลนำกลุ่มแยกออกไปจากที่นี้ทันที
ในที่รกร้างกว้างไกลลินลี่ย์และบีบีพรางตัวเดินทางไปข้างหน้า ตอนนี้พลังมหาเทพในตัวของพวกเขาสลายออกไปแล้ว ก่อนนี้เมื่อลินลี่ย์แผ่พลังมหาเทพคนอื่นจะพบพวกเขาได้ง่าย ดังนั้นลินลี่ย์จึงบินด้วยความเร็วตามปกติ ตอนนี้พลังมหาเทพสลายไปแล้ว ลินลี่ย์จึงเลือกไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง
“พี่ใหญ่, ต่อไปเราควรจะทำอะไรกันดี?” บีบีถาม
“มีเวลาอีกสองหรือสามร้อยปีก่อนสงครามมหาพิภพช่วงสุดท้ายจะเริ่มขึ้น ข้าหวังว่าก่อนหน้านั้นข้าจะบรรลุการหลอมรวมเคล็ดลึกลับที่สี่ได้” ลินลี่ย์รู้ว่าทุกคนที่กล้าเที่ยวไปในสมรภูมิมหาพิภพเป็นผู้บัญชาการชั้นยอด “หลังจากข้าหลอมรวมเคล็ดลึกลับที่สี่ได้ ข้าค่อยออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง ถึงตอนนั้น ข้าคงแข็งแกร่งพอทำเช่นนั้นได้”
พลังอำนาจของคนผู้หนึ่งขึ้นอยู่กับฐานพลังของเขา เคล็ดความรู้ลึกลับของพวกเขา และอาวุธของพวกเขา
ตัวอย่างเช่นแฮมเมอร์ที่ร่างดั้งเดิมเป็นภูเขาสีทองซึ่งถูกพลังธาตุดินศักดิ์สิทธิ์หล่อเลี้ยงมานานนับปีไม่ถ้วนจากนั้นจึงถือกำเนิด พลังร่างกายของเขานับว่ายิ่งใหญ่ และแม้จะไม่ต้องหลอมรวมเคล็ดลึกลับเขาก็ยังเหนือกว่าอสูรเจ็ดดาวและแทบจะใกล้เคียงเทพอสูร นี่คือเหตุผลที่เขากลายเป็นทูตมหาเทพทันทีเมื่อเขาเกิด
หลังจากหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้สี่เคล็ด ลินลี่ย์ไม่กล้ารับหมัดของเขาโดยตรงอยู่ดี
แม้ว่าจะชกอากาศที่ว่างเปล่าแต่ก็ยังมีพลังทะลุทะลวงอกของลินลี่ย์ได้ พลังที่น่ากลัวของพลังโจมตีของเขาแทบจะเทียบได้กับพารากอน ฐานพลังระดับนี้นับว่ายิ่งใหญ่มาก
ฐานพลังของลินลี่ย์เองไม่อาจเทียบได้กับแฮมเมอร์ แต่เขาก็ยังเหนือกว่าเทพชั้นสูงทั่วไป
“เมื่อพลังของข้าเพิ่มขึ้นสิบเท่า ข้าจะไม่กลัวคนอื่นอีกต่อไป”
ลินลี่ย์และบีบีมองหาที่พัก พวกเขาไม่ให้ความสนใจก้อนหินเรียบที่อยู่ห่างออกไปในที่รกร้างไม่ถึงร้อยเมตรบนพื้นมีก้อนหินมากเกินไป ใครเล่าจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ?
“ในที่สุดก็มีบางคนมาทางนี้ จากเท่าที่เห็น เด็กหนุ่มนั่นเป็นผู้นำ ข้าจะซุ่มทำร้ายเขาก่อนและค่อยฆ่าเขา ฆ่าคนแข็งแกร่งก่อนแล้วค่อยฆ่าคนอ่อนแออีกคน”
ทันใดนั้นเอง...
“ควั่บ!” หินก้อนหนึ่งพุ่งเข้าหาลินลี่ย์ด้วยความเร็วสูง
ขณะที่ลินลี่ย์เดินขึ้นหน้าก็พบเห็นด้วยความประหลาดใจว่ามีหินก้อนหนึ่งพุ่งเข้าหาเขาทันที “มีคนอยู่ที่นี่!” ลินลี่ย์เพิ่มความระมัดระวังทันที เขาแปลงร่างเป็นมังกรทันที ขณะเดียวกันก็ขยายสนามพลังศิลาดำออกไปในระยะห้าร้อยเมตร ทันใดนั้นหินก้อนที่เข้ามาในสนามพลังศิลาดำร่วงลงแต่ก็เข้ามาใกล้ลินลี่ย์มากแล้ว
“ปัง!”
ก้อนหินหายไปและกลายเป็นร่างของคนผู้หนึ่ง
“ยอดฝีมือกฎธาตุดินอีกคนหนึ่ง” ลินลี่ย์ตกใจเช่นกัน
เดิมทีลินลี่ย์คิดว่ามีคนยิงก้อนหินเข้าใส่เขา...แต่ว่าก้อนหินกลับกลายเป็นคนที่ฝึกมาทางกฎธาตุดิน ลินลี่ย์ถอนหายใจชมเชยความสามารถในการลอบทำร้ายและอำพรางรัศมีของเขา นี่มีระดับแทบจะใกล้เคียงกับรีสเจม
รังสีดาบตัดผ่านจากระยะไกลไม่ถึงสิบเมตร ในทันใดนั้นสายตาของลินลี่ย์ไม่เห็นอะไรนอกจากรังสีดาบแพรวพราว
เมื่อรังสีดาบฟันแหวกอากาศพื้นที่มิติบิดเบือนในตัว!
“แคล้ง!”
ดาบที่ไร้ต่อต้านนี้ปล่อยเสียงและประกายแพรวพราวและพลังของมันอ่อนลงเช่นกัน
“เอ๊ะ?” นักฆ่าตะลึงเช่นกัน “กระบี่ล่องหน?” ช่วงเวลาก่อนหน้านี้เขาไม่ทันสังเกต แต่ตอนนี้ด้วยการใช้สำนึกเทพแผ่ออกตรวจดู เขาจึงตระหนักว่าลินลี่ย์ถือกระบี่อยู่ในมือและกระบี่นั้นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า!
“ควั่บ!” นักฆ่านั้นล้มเหลวในการในดาบฟันครั้งแรกจึงรีบหันหลังหนีทันที
“ลูป! เจ้าจะหนีหลังจากโจมตีครั้งแรกล้มเหลวหรือ?” เสียงหัวเราะของลินลี่ย์ดังได้ยินชัด “เจ้าอยู่ตรงนี้ต่อจะดีกว่า” หลังจากเห็นดาบโจมตีนั้นลินลี่ย์คิดถึงข้อมูลที่ได้มาจากเบรุต ก็รู้ว่าเขาเป็นใคร นี่คือยอดฝีมือสายกฎธาตุดินลูป ขณะเดียวกันลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงความกลัว ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าสนามพลังศิลาดำทำให้ลูปเปิดเผยร่างจริงเร็วขึ้นและทำให้เขาช้าลงพลังโจมตีก่อนหน้านี้ของลูปอาจทำให้ลินลี่ย์ตกอยู่ในอันตรายก็ได้
ทันทีที่คำพูดของลินลี่ย์ดังขึ้นสนามพลังศิลาดำก็เปลี่ยนตำแหน่งทิศทางดึงดูด!
จากแรงดึงดูดลงกลายเป็นแรงดึงดูดเข้าหาลินลี่ย์!
“เอ๊ะ?” ความเร็วของร่างนั้นตกลงอย่างมากมาย
ลินลี่ย์รู้ดีว่าลูปผู้นี้มีทักษะอะไร ลูปเชี่ยวชาญในการหลอกล่อและพรางตัว! เขามีความไวมาก! อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาติดอยู่ในสนามพลังศิลาดำของลินลี่ย์ ลูปพบว่าเขาพบกับดาวข่ม ความเร็วของเขาและความสามารถในการพรางตัวของเขาช่วยไม่ได้อีกต่อไป
“เอ๊ะ?” ความรู้สึกว่าทิศทางแรงดึงดูดเปลี่ยนเป็นดึง ลูปตกใจทันที
“แย่แล้ว!” ลูปเริ่มรู้สึกเสียใจหลังจากเห็นการแปลงตัวของลินลี่ย์ เขาแน่ใจว่าในฐานะสมาชิกเผ่ามังกรฟ้า ลินลี่ย์สามารถใช้ทักษะเทพธรรมชาติได้แน่นอน “ข้าไม่จำเป็นต้องเอาชนะยอดฝีมือเผ่ามังกรฟ้าผู้นี้และเขายังมีบริวารอยู่ด้วย ถ้าเราเริ่มสู้กัน...นั่นไม่ดีแน่!
เขาไม่ลังเลใจอีกต่อไป
“ปัง!” ลูปกัดฟันใช้หยดพลังมหาเทพที่ล้ำค่า ทันใดนั้นรัศมีสีเหลืองทะลักออกมาจากร่างของเขา
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้นลินลี่ย์ไม่ลังเลใจร่างของเขาระเบิดพลังรัศมีสีดำออกมาบ้าง ลูปในบรรดาระดับผู้บัญชาการถือว่ามีพลังต่ำกว่าโดยทั่วไป เพียงแต่เขามีชื่อเสียงในเรื่องการพรางตัวและความเร็วที่สูงส่ง
“อะไรกัน?เขาใช้พลังมหาเทพด้วยเหมือนกันหรือนี่? เจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้ายินยอมสละจริงๆ หรือนี่” ลูปเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้นเขารู้สึกใจสั่นสะท้าน
“คู่ต่อสู้แบบนี้เหมาะกับการซ้อมฝีมือด้วย!” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพบอกบีบี “บีบี,อย่าเข้ามาแทรกแซง ลูปผู้นี้มีพลังโจมตีเทียบได้กับข้า แต่การหลอมรวมเคล็ดลึกลับกฎธาตุดินของเขาทำได้มากกว่าข้า! เขาเหมาะจะให้ข้าใช้ฝึกฝนได้ดีที่สุด ข้าอาจได้รับความรู้แจ้งก็ได้”
บีบีแค่นเสียงตอบ “ก็ได้, พี่ใหญ่ ข้าจะดูเฉยๆ” บีบีจงใจถอยออกมาในระยะร้อยเมตรปล่อยให้ลินลี่ย์กับลูปมีพื้นที่สู้กันได้มากพอ
เมื่อรู้ว่าเป็นลูปบีบีไม่กังวลอีกต่อไป
“ฮึ่ม!”ลูปเมื่อเห็นสถานการณ์ รู้สึกโกรธขึ้นมาในใจ เขาสามารถบอกได้ว่าคู่ต่อสู้ไม่รู้สึกว่าเขาคู่ควรให้กังวล “ถ้าไม่ใช่เพราะสนามพลังโน้มถ่วงนี้เจ้าจะไม่มีทางแตะต้องข้าได้” ลูปรู้สึกว่าพลังของสนามพลังโน้มถ่วงเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน เขาไม่สามารถหลบหนีออกไปได้ เนื่องจากเขาไม่สามารถหลบออกไปได้ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ..สู้!