ตอนที่แล้วตอนที่ 676 ประชุมทหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 678 สัตว์ประหลาดอัปลักษณ์!

ตอนที่ 677 ราชสีห์เลโอน


หลังจากการประชุมได้ข้อสรุปแล้ว ทั่วทั้งกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว  สมาชิกคนสำคัญที่เข้าร่วมประชุมมีสีหน้าเคร่งขรึมและตื่นตัว

พวกเขาทุกคนรู้ว่าม่านสู้รบได้เปิดออกแล้ว

การท้าทายทางทหารที่ยาวนานไม่สามารถหลีกหนีได้ ไม่ว่าจะเป็นสมาพันธ์ชาวยุทธและวิหารเซียนหรือทวีปกวงหมิง  พวกเขาคือผู้ยิ่งใหญ่ในดินแดนของตนทั้งมีความมั่งคั่งและอำนาจสะสมไว้ลึกซึ้ง

จะไม่เหมือนกับการเสียดสีกระทบกระทั่งกับสมาพันธ์ชาวยุทธอย่างในอดีตอีกต่อไป เป็นสงครามเด็ดขาดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องตายก่อน  อีกฝ่ายหนึ่งจึงจะจัดการได้  ความโหดร้ายที่กลายเป็นมึนตึงแทนที่จะเป็นกลุ่มผู้เยาว์ที่มีความทะเยอทะยานของกลุ่มดาวหมีใหญ่  พวกเขาเห็นโอกาสทำให้ตนเองก้าวหน้า  พวกเขาต้องการสู้รบ มองหาความสำเร็จ ความปรารถนาหลงใหลคลั่งไคล้ของพวกเขามั่นคงเหมือนกับขุนศึกผู้มีประสบการณ์

ผู้เยาว์ที่สร้างตัวผ่านไฟสงครามชาวกลุ่มดาวหมีใหญ่ไม่เคยล้มเหลวในการสู้รบ การยั่วยุแบบดั้งเดิมและการท้าทายแบบนั้นกลายเป็นนิสัยของพวกเขา  แม้ว่าศัตรูในปัจจุบันของพวกเขาจะเป็นผู้ปกครองสวรรค์วิถีก็ตามแต่พวกเขาไม่มีความกลัวจากการควบคุมแต่อย่างใด พวกเขาเป็นเหมือนราชาของพวกเขาผู้ไม่เคยรู้ว่าความกลัวความขลาดเขลาเป็นเช่นไร

ทุกอย่างได้รับการดำเนินการอย่างเสมอบรรยากาศอึดอัดและน่ากังวล

สองวันต่อมาข่าวที่สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วทั้งสวรรค์วิถีก็คือกลุ่มดาวหมีใหญ่ประกาศว่าเขาพบโลกใหม่!

ข่าวแพร่กระจายไปราวกับไฟลามทุ่ง  พลเมืองทุกกลุ่มดาวพูดถึงข่าวนี้คร่าวๆ  ในที่สุดก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาร้อนแรง

ที่ตามมาจากนั้น  กลุ่มดาวหมีใหญ่เริ่มอวดผลผลิตคุณภาพเยี่ยมซึ่งมาจากโลกใหม่ แก้วผลึกซึ่งมีความเข้มข้นของพลังงานสูงมาก  แก้วและไม้ที่บรรจุเคล็ดกระบี่ในนั้นทั้งหมดเป็นอาวุธที่แปลกประหลาด

ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือไปกว่ามีผลิตภัณฑ์ออกมาจริงๆ  ทุกคนเชื่อมั่นอย่างสิ้นเชิงว่าที่ท้ายของสวรรค์วิถีจะต้องมีโลกใหม่ที่แตกต่างจากสวรรค์วิถีสิ้นเชิงนี่ทำให้ทุกคนสงสัยมาก โลกใหม่จะเป็นเหมือนอะไร?

จากนั้นกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้ประกาศว่าพวกเขากำลังจะประมูลขายทอดตลาดของหลายอย่างจากโลกใหม่กลุ่มมหาอำนาจหรือกลุ่มดาวใดสามารถเข้าร่วมได้โดยอิสระ

สายตาทุกคนจับจ้องอยู่กลุ่มดาวหมีใหญ่  และเกือบทุกกลุ่มดาวส่งตัวแทนของตนรีบเร่งไปยังกลุ่มดาวหมีใหญ่ทั้งวันทั้งคืน ทุกคนต่างก็พบกับกลุ่มอื่นที่เดินทางล่วงหน้ามุ่งสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่อย่างรวดเร็ว  กลุ่มอิสระหลายคนแยกกระจายและคนมีความทะเยอทะยานทุ่มเททุกอย่างเพื่อเข้าสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่ต่างก็คิดถึงการมีส่วนร่วมกับการขุดแผ่นดินทองคำ

ทุกคนรู้ว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่ได้รับโอกาสสำคัญสำหรับการแข่งขันเพื่ออนาคต  ในอนาคตข้างหน้าตราบใดที่กลุ่มดาวหมีใหญ่สามารถรักษาพื้นที่นี้ได้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะต้องกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งสวรรค์วิถีอย่างมิต้องสงสัย

เกือบทุกคนลำเอียงไปทางที่กลุ่มดาวหมีใหญ่จะสามารถกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งสวรรค์วิถีได้ในอนาคต  สำหรับกลุ่มดาวอื่นนั่นเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยประการหนึ่ง แต่การพยายามแย่งเค้กชิ้นใหญ่ขนาดนั้นจากกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่มีศักดิ์ศรีและทรงอำนาจ  จะต้องเสียสละมากมายขนาดไหน?

กลุ่มดาวหมีใหญ่มีผู้คนแออัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองศีรษะหมีที่เป็นสถานที่จัดประมูล มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนมาจากแดนไกลเพียงเพื่อจะได้เห็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่

หลังจากการประชุมกันแล้ว ที่เมืองสามวิญญาณกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง  การรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาถูกยักย้าย กองทัพทั้งหมดที่รักษาการณ์อยู่ที่นั่นมุ่งหน้าสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่ ข้อบ่งชี้ทั้งหมดมุ่งไปที่อนาคตของกลุ่มดาวหมีใหญ่  ดังนั้นจึงมีแผนการย้ายกำลังเมืองสามวิญญาณไปยังเมืองศีรษะหมี

บรรดาสายลับคนสอดแนมทั้งหมดจึงได้ตระหนัก การรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาในช่วงสองสามวันก่อนเป็นเพียงเรื่องภายในแผนกหารือเกี่ยวกับโลกใหม่

ถังเทียนยังไม่ได้ไปจากเมืองสามวิญญาณ

เมืองสามวิญญาณที่กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง  และคึกคักไปด้วยกิจกรรม  นี่คือเมืองจักรกลของสวรรค์วิถีในปัจจุบัน สถานที่ซึ่งวิศวกรจักรกลทั้งหลายนับไม่ถ้วนและนักสู้สายจักรกลมารวมตัวกันส่วนใหญ่ของวิศวกรจักรกลอิสระจะมาสร้างบ้านที่นั่น  อีกด้านหนึ่งยังมีหลายคนที่มีอาชีพเดียวกันอยู่ที่นั่น พวกเขาสามารถให้คำแนะนำและซ้อมมือกันและกัน  และอีกประการก็คือการผลิตอาวุธจักรกลจำเป็นต้องได้วัสดุคุณภาพเยี่ยมและเมืองสามวิญญาณก็เต็มไปด้วยวัสดุต่างๆ ตราบใดที่ใครมีเงินทุน พวกเขาสามารถได้รับวัสดุที่ไม่ธรรมดา

เมื่อมีความต้องการมากขึ้นบริษัทการค้าใหญ่หลายแห่งจึงถูกจัดสร้างขึ้นพร้อมกับขบวนสินค้าเข้าออกไม่สิ้นสุดในแต่ละวัน

เมืองสามวิญญาณมีบริษัทการค้าที่มีความเชี่ยวชาญ  ดังนั้นทรัพยากรภายในค่ายบรอนซ์จึงหมดลงอย่างรวดเร็วตามปกติ เรือขนส่งจะเข้าค่ายบรอนซ์ตามกำหนดตาราง และทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ

แต่มียานโดยสารลำหนึ่งมาเทียบด้านข้างซึ่งถังเทียนกำลังรออยู่

ประตูยานเปิดออก และร่างสูงใหญ่ล่ำสันสง่างามกระโดดลงมา  เมื่อเขาลงยืนกับพื้น  เขาเห็นถังเทียนกำลังรออยู่ห่างๆแม้ว่าเขาจะเคยเห็นภาพของถังเทียนมานับครั้งไม่ถ้วน  แต่เมื่อเห็นด้วยตาตนเองเขารู้สึกตกใจกับความเยาว์วัยของถังเทียน

“วีรบุรุษหนุ่ม!”  เขายกย่องด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกซึ่งมีแต่ผู้ปกครองเผด็จการอาจทำกัน, เต็มไปด้วยความมั่นใจและพลัง  “เหมาะสมกับรูปแบบของเจ้าแล้ว  เจ้าไม่มีใครเทียบได้ในใต้ฟ้านี้”

ถังเทียนไม่รู้สึกเก้อเขินแม้แต่น้อยขณะที่ตอบ “พระราชาเลโอนผู้ยิ่งใหญ่  ขอต้อนรับเข้าสู่เมืองสามวิญญาณพะยะค่ะ!”

ทั้งสองมองหน้ากันและหัวเราะ

ทุกคนที่อยู่โดยรอบเต็มไปด้วยความเคารพ  เมื่อทั้งสองคุยกัน  ไม่มีใครกล้าส่งเสียง  ราชสีห์เลโอนเป็นเหมือนตะวันเจิดจ้ามีพลังกดดันแผ่ออกมาจากตัวของเขาทำให้อากาศรอบด้านเหมือนกับจะเผาไหม้  ขณะที่ถังเทียนยืนอยู่ข้างเลโอน  เขาไม่มีสีหน้าอารมณ์แต่อย่างใดเหมือนกับว่าราศีทรงพลังของเลโอนไม่ส่งผลต่อเขาแม้แต่น้อยเขายืนอยู่ที่เดิมอาบกลิ่นอายราศีราวกับเป็นเรื่องปกติ

คนหนึ่งเป็นผู้ปกครองเบ็ดเสร็จและเป็นราชาพญาราชสีห์ อีกคนหนึ่งเป็นพญาหมีผู้เยาว์วัยที่พุ่งลงมาจากฟ้า

เลโอนลอบสังเกตถังเทียนและแม้ว่าเขาจะแสดงลักษณะสงบออกมาภายนอก แต่เขาเต็มไปด้วยอาการตกใจและประหลาดใจ เขามองไม่เห็นความกลัวอยู่ในสายตาที่กระจ่างของเด็กหนุ่มผู้นี้  จิตตานุภาพของเขาร้อนแรง เหมือนกับว่าเขากำลังดูตนเองเมื่อตอนเป็นหนุ่ม

เขาอดคิดถึงบุตรของเขาไม่ได้  ตอนแรกเขาคิดว่าอังเดรและลูกคนอื่นๆจะโดดเด่น  แต่เมื่อเห็นถังเทียน จากนั้นเขาค่อยเข้าใจได้ว่าพวกเขาแตกต่างกันมากมายขนาดไหน

เขาควบคุมความวอกแวกในใจของเขาและพบกับความสามารถในการแข่งขันแทน ดินแดนของเขามั่นคงมานานแล้ว ชื่อของเขาขจรขจายกว้างไกล  และแม้แต่สมาพันธ์ชาวยุทธก็ยังไม่กล้าประมาทเขา  ในช่วงหลายปี จะมีสักกี่คนที่สามารถพูดคุยต่อหน้าเขาได้? เขาคุ้นเคยกับตำแหน่งเจ้าปกครองที่สั่นสะเทือนสวรรค์และโลกไปแล้วและเขาสามารถดูถูกสมาพันธ์ชาวยุทธได้  ถ้าเขาต้องการสู้ เขาจะสู้  ถ้าเขาต้องการรบ เขาจะรบเขามักจะมองข้ามคนอื่นอยู่เสมอ

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับถังเทียน เขาสามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายและพลังแบบเดียวกับเขา

เป็นความรู้สึกของการได้พบคนประเภทเดียวกับเขา  คู่แข่งคนใหม่ที่ทำให้ใจที่ซบเซาของเขาเนื่องจากความเดียวดายได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง  เขาอดจะยิ้มและมองไปรอบๆ ไม่ได้  “นี่คือเมืองสามวิญญาณหรือ?  เมืองแรกในสวรรค์วิถีที่สร้างอาวุธจักรกล   ชื่อของเมืองก็เนื่องมาจากความรุ่งเรือง  เจ้าคงต้องพาข้าชมดูบ้างล่ะ”

เขาไม่ได้กังวลการมาถึงของเขาแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกเป็นโอกาสที่ดีในการตัดสินพลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่

พลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่ลึกลับสำหรับทุกคน  สามารถเห็นประจักษ์ด้วยตาตนเองได้เลโอนตัดสินใจประเมินพวกเขา

‘เลโอนจะไม่มีทางเป็นสหายกับสุนัขป่าและจิ้งจอก’

ถังเทียนไม่คิดอะไรมาก  เขานำเลโอนเที่ยวชมไปรอบๆ ฐาน  แต่แม้ว่าเขาจะเป็นคนนำไป  แต่คนที่คอยอธิบายและให้ข้อมูลจริงๆ ก็คือผี่ผา

สิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมทั้งหมดและวิทยาการใหม่ต่างๆก่อตัวกลายเป็นภาพที่ประหลาดแม้แต่ถังเทียน

ผี่ผาอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างโดยละเอียด  “นี่คือกองกำลังภูผาน้ำแข็งและกองกำลังหลักของอาวุธจักรกลวิญญาณของพวกเรา มันมีน้ำหนักหนึ่งในสามของอาวุธจักรกลวิญญาณอย่างเดิม ใช้โลหะชนิดใหม่มีลักษณะคล้ายเงินและมีคุณสมบัติในการป้องกัน  ไม่มีม่านพลังป้องกันก็สามารถป้องกันการโจมตีของนักสู้ระดับทองได้ถึงห้าครั้ง  มันใช้วิทยาการใหม่หลายอย่างสามารถใช้การ์ดวิชาแตกต่างกันได้ถึงเจ็ดอย่าง และจิตวิญญาณยุทธทั้งหมดที่อยู่ในอาวุธวิญญาณก็เป็นจิตวิญญาณแบบสู้รบเราได้ดำเนินการคัดกรองและได้กระจายจิตวิญญาณยุทธคุณภาพดี และเลือกจิตวิญญาณยุทธที่มีความสามารถในระดับเงินเท่านั้น...”

“จิตวิญญาณยุทธระดับเงิน?”  เลโอนขัดจังหวะผี่ผา

ผี่ผาอธิบาย “เพคะ... หลังจากวิจัยจิตวิญญาณยุทธมามาก เราจำแนกจิตวิญญาณยุทธที่แข็งแกร่งและอ่อนแอได้  เราใช้ระบบจัดคุณภาพตามปกติเป็นทองเงินและบรอนซ์  จิตวิญญาณยุทธระดับเงินเป็นการระบุว่าสติปัญญาของพวกเขาถึงระดับนักสู้ชั้นเงิน  แต่เราเลือกจิตวิญญาณยุทธทั้งหมด  จิตวิญญาณยุทธทั้งหมดมีประสบการณ์ธรรมชาติมากดังนั้นพวกมันจึงแข็งแกร่งขึ้นบ้างเล็กน้อย”

เลโอนขมวดคิ้ว  “พวกมันจะใช้สู้แทนนักสู้ได้ไหม?”

“ไม่”ผี่ผาส่ายศีรษะ “จิตวิญญาณยุทธภายในอาวุธจักรกลวิญญาณจะถือได้ว่าเป็นผู้ช่วยก็ได้  พวกมันมีการควบคุมได้ดีกว่าพลังปราณแท้  และช่วยให้นักสู้มีสมาธิได้เต็มที่ขึ้นปล่อยภาระการสู้ไว้กับจิตวิญญาณยุทธแทน”

เลโอนเริ่มมีสีหน้าแสดงความสนใจ  สำหรับกลุ่มดาวราชสีห์อาวุธจักรกลคือการค้นพบใหม่ กลุ่มดาวราชสีห์ไม่มีกองทัพจักรกล และอาวุธจักรกลพิเศษทั้งหมดทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขาดำดิ่งเข้าสู่โลกใบใหม่  แต่ยิ่งผี่ผาอธิบายมากสีหน้าของเขากลับหมองลง ในฐานะของคนผู้มีประสบการณ์สู้รบมากมาย เขาเข้าใจการสู้รบดี มากกว่านักสู้หรือแม่ทัพคนใดอื่น การคงอยู่ของของอาวุธจักรกลวิญญาณจะทำให้สถานการณ์ต่อสู้ซับซ้อนขึ้น  และความต้องการในคุณภาพของนักสู้หรือทหารจะลดน้อยลงไป

“ต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะตัดสินนักสู้สายจักรกลผู้มีคุณสมบัติได้?”เลโอนถาม

ผี่ผาอดชื่นชมเขาไม่ได้เขาคือพญาราชสีห์ที่แท้จริง เนื่องจากเขาสามารถเข้าใจปัญหาได้รวดเร็ว นางตอบโดยไม่ลังเล “การเตรียมการในค่ายนักสู้อาวุธจักรกลของเรา ต้องให้นักเรียนระดับเงินเตรียมพร้อมถึงหนึ่งปี  ในหนึ่งปีนักเรียนผู้มีพรสวรรค์ของเราจะสามารถฝึกแก่นแท้พื้นฐาน  ในสามปีพวกเขาจึงจะสู้ศึกได้  สำหรับนักเรียนระดับบรอนซ์ พวกเขาจำเป็นต้องการเวลาเพิ่ม   ความรู้สำคัญเบื้องต้นต้องใช้เวลาสามปี”

เลโอนสูดหายใจลึก  เขารู้ว่าหมายถึงอะไร

แม้ว่ากองทัพแบบดั้งเดิมจะทรงพลัง แต่นั่นเป็นกระบวนการที่ยาวนานผ่านการคัดเลือกนับไม่ถ้วน

แต่กองทัพจักรกลสามารถเก็บไว้เสริมกำลังได้

ขณะที่เขายังคงสังเกตต่อไป  ใจของเลโอนเริ่มประหลาดใจและทึ่งมากขึ้น  จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นว่ามีร่างหนึ่งวิ่งกลับไปกลับมาในสนามฝึกอย่างต่อเนื่อง เขาหยุดอยู่กับที่โดยไม่รู้ตัวและหน้าที่เฉยเมยและไร้อารมณ์ถึงกับเปลี่ยนไปในที่สุด

อาวุธจักรกลวิญญาณที่ทาสีแดงฉาน

หมายเลข 23

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด