ตอนที่ 677 ราชสีห์เลโอน
หลังจากการประชุมได้ข้อสรุปแล้ว ทั่วทั้งกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว สมาชิกคนสำคัญที่เข้าร่วมประชุมมีสีหน้าเคร่งขรึมและตื่นตัว
พวกเขาทุกคนรู้ว่าม่านสู้รบได้เปิดออกแล้ว
การท้าทายทางทหารที่ยาวนานไม่สามารถหลีกหนีได้ ไม่ว่าจะเป็นสมาพันธ์ชาวยุทธและวิหารเซียนหรือทวีปกวงหมิง พวกเขาคือผู้ยิ่งใหญ่ในดินแดนของตนทั้งมีความมั่งคั่งและอำนาจสะสมไว้ลึกซึ้ง
จะไม่เหมือนกับการเสียดสีกระทบกระทั่งกับสมาพันธ์ชาวยุทธอย่างในอดีตอีกต่อไป เป็นสงครามเด็ดขาดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องตายก่อน อีกฝ่ายหนึ่งจึงจะจัดการได้ ความโหดร้ายที่กลายเป็นมึนตึงแทนที่จะเป็นกลุ่มผู้เยาว์ที่มีความทะเยอทะยานของกลุ่มดาวหมีใหญ่ พวกเขาเห็นโอกาสทำให้ตนเองก้าวหน้า พวกเขาต้องการสู้รบ มองหาความสำเร็จ ความปรารถนาหลงใหลคลั่งไคล้ของพวกเขามั่นคงเหมือนกับขุนศึกผู้มีประสบการณ์
ผู้เยาว์ที่สร้างตัวผ่านไฟสงครามชาวกลุ่มดาวหมีใหญ่ไม่เคยล้มเหลวในการสู้รบ การยั่วยุแบบดั้งเดิมและการท้าทายแบบนั้นกลายเป็นนิสัยของพวกเขา แม้ว่าศัตรูในปัจจุบันของพวกเขาจะเป็นผู้ปกครองสวรรค์วิถีก็ตามแต่พวกเขาไม่มีความกลัวจากการควบคุมแต่อย่างใด พวกเขาเป็นเหมือนราชาของพวกเขาผู้ไม่เคยรู้ว่าความกลัวความขลาดเขลาเป็นเช่นไร
ทุกอย่างได้รับการดำเนินการอย่างเสมอบรรยากาศอึดอัดและน่ากังวล
สองวันต่อมาข่าวที่สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วทั้งสวรรค์วิถีก็คือกลุ่มดาวหมีใหญ่ประกาศว่าเขาพบโลกใหม่!
ข่าวแพร่กระจายไปราวกับไฟลามทุ่ง พลเมืองทุกกลุ่มดาวพูดถึงข่าวนี้คร่าวๆ ในที่สุดก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาร้อนแรง
ที่ตามมาจากนั้น กลุ่มดาวหมีใหญ่เริ่มอวดผลผลิตคุณภาพเยี่ยมซึ่งมาจากโลกใหม่ แก้วผลึกซึ่งมีความเข้มข้นของพลังงานสูงมาก แก้วและไม้ที่บรรจุเคล็ดกระบี่ในนั้นทั้งหมดเป็นอาวุธที่แปลกประหลาด
ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือไปกว่ามีผลิตภัณฑ์ออกมาจริงๆ ทุกคนเชื่อมั่นอย่างสิ้นเชิงว่าที่ท้ายของสวรรค์วิถีจะต้องมีโลกใหม่ที่แตกต่างจากสวรรค์วิถีสิ้นเชิงนี่ทำให้ทุกคนสงสัยมาก โลกใหม่จะเป็นเหมือนอะไร?
จากนั้นกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้ประกาศว่าพวกเขากำลังจะประมูลขายทอดตลาดของหลายอย่างจากโลกใหม่กลุ่มมหาอำนาจหรือกลุ่มดาวใดสามารถเข้าร่วมได้โดยอิสระ
สายตาทุกคนจับจ้องอยู่กลุ่มดาวหมีใหญ่ และเกือบทุกกลุ่มดาวส่งตัวแทนของตนรีบเร่งไปยังกลุ่มดาวหมีใหญ่ทั้งวันทั้งคืน ทุกคนต่างก็พบกับกลุ่มอื่นที่เดินทางล่วงหน้ามุ่งสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่อย่างรวดเร็ว กลุ่มอิสระหลายคนแยกกระจายและคนมีความทะเยอทะยานทุ่มเททุกอย่างเพื่อเข้าสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่ต่างก็คิดถึงการมีส่วนร่วมกับการขุดแผ่นดินทองคำ
ทุกคนรู้ว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่ได้รับโอกาสสำคัญสำหรับการแข่งขันเพื่ออนาคต ในอนาคตข้างหน้าตราบใดที่กลุ่มดาวหมีใหญ่สามารถรักษาพื้นที่นี้ได้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะต้องกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งสวรรค์วิถีอย่างมิต้องสงสัย
เกือบทุกคนลำเอียงไปทางที่กลุ่มดาวหมีใหญ่จะสามารถกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งสวรรค์วิถีได้ในอนาคต สำหรับกลุ่มดาวอื่นนั่นเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยประการหนึ่ง แต่การพยายามแย่งเค้กชิ้นใหญ่ขนาดนั้นจากกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่มีศักดิ์ศรีและทรงอำนาจ จะต้องเสียสละมากมายขนาดไหน?
กลุ่มดาวหมีใหญ่มีผู้คนแออัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองศีรษะหมีที่เป็นสถานที่จัดประมูล มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนมาจากแดนไกลเพียงเพื่อจะได้เห็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่
หลังจากการประชุมกันแล้ว ที่เมืองสามวิญญาณกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง การรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาถูกยักย้าย กองทัพทั้งหมดที่รักษาการณ์อยู่ที่นั่นมุ่งหน้าสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่ ข้อบ่งชี้ทั้งหมดมุ่งไปที่อนาคตของกลุ่มดาวหมีใหญ่ ดังนั้นจึงมีแผนการย้ายกำลังเมืองสามวิญญาณไปยังเมืองศีรษะหมี
บรรดาสายลับคนสอดแนมทั้งหมดจึงได้ตระหนัก การรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาในช่วงสองสามวันก่อนเป็นเพียงเรื่องภายในแผนกหารือเกี่ยวกับโลกใหม่
ถังเทียนยังไม่ได้ไปจากเมืองสามวิญญาณ
เมืองสามวิญญาณที่กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง และคึกคักไปด้วยกิจกรรม นี่คือเมืองจักรกลของสวรรค์วิถีในปัจจุบัน สถานที่ซึ่งวิศวกรจักรกลทั้งหลายนับไม่ถ้วนและนักสู้สายจักรกลมารวมตัวกันส่วนใหญ่ของวิศวกรจักรกลอิสระจะมาสร้างบ้านที่นั่น อีกด้านหนึ่งยังมีหลายคนที่มีอาชีพเดียวกันอยู่ที่นั่น พวกเขาสามารถให้คำแนะนำและซ้อมมือกันและกัน และอีกประการก็คือการผลิตอาวุธจักรกลจำเป็นต้องได้วัสดุคุณภาพเยี่ยมและเมืองสามวิญญาณก็เต็มไปด้วยวัสดุต่างๆ ตราบใดที่ใครมีเงินทุน พวกเขาสามารถได้รับวัสดุที่ไม่ธรรมดา
เมื่อมีความต้องการมากขึ้นบริษัทการค้าใหญ่หลายแห่งจึงถูกจัดสร้างขึ้นพร้อมกับขบวนสินค้าเข้าออกไม่สิ้นสุดในแต่ละวัน
เมืองสามวิญญาณมีบริษัทการค้าที่มีความเชี่ยวชาญ ดังนั้นทรัพยากรภายในค่ายบรอนซ์จึงหมดลงอย่างรวดเร็วตามปกติ เรือขนส่งจะเข้าค่ายบรอนซ์ตามกำหนดตาราง และทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ
แต่มียานโดยสารลำหนึ่งมาเทียบด้านข้างซึ่งถังเทียนกำลังรออยู่
ประตูยานเปิดออก และร่างสูงใหญ่ล่ำสันสง่างามกระโดดลงมา เมื่อเขาลงยืนกับพื้น เขาเห็นถังเทียนกำลังรออยู่ห่างๆแม้ว่าเขาจะเคยเห็นภาพของถังเทียนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่อเห็นด้วยตาตนเองเขารู้สึกตกใจกับความเยาว์วัยของถังเทียน
“วีรบุรุษหนุ่ม!” เขายกย่องด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกซึ่งมีแต่ผู้ปกครองเผด็จการอาจทำกัน, เต็มไปด้วยความมั่นใจและพลัง “เหมาะสมกับรูปแบบของเจ้าแล้ว เจ้าไม่มีใครเทียบได้ในใต้ฟ้านี้”
ถังเทียนไม่รู้สึกเก้อเขินแม้แต่น้อยขณะที่ตอบ “พระราชาเลโอนผู้ยิ่งใหญ่ ขอต้อนรับเข้าสู่เมืองสามวิญญาณพะยะค่ะ!”
ทั้งสองมองหน้ากันและหัวเราะ
ทุกคนที่อยู่โดยรอบเต็มไปด้วยความเคารพ เมื่อทั้งสองคุยกัน ไม่มีใครกล้าส่งเสียง ราชสีห์เลโอนเป็นเหมือนตะวันเจิดจ้ามีพลังกดดันแผ่ออกมาจากตัวของเขาทำให้อากาศรอบด้านเหมือนกับจะเผาไหม้ ขณะที่ถังเทียนยืนอยู่ข้างเลโอน เขาไม่มีสีหน้าอารมณ์แต่อย่างใดเหมือนกับว่าราศีทรงพลังของเลโอนไม่ส่งผลต่อเขาแม้แต่น้อยเขายืนอยู่ที่เดิมอาบกลิ่นอายราศีราวกับเป็นเรื่องปกติ
คนหนึ่งเป็นผู้ปกครองเบ็ดเสร็จและเป็นราชาพญาราชสีห์ อีกคนหนึ่งเป็นพญาหมีผู้เยาว์วัยที่พุ่งลงมาจากฟ้า
เลโอนลอบสังเกตถังเทียนและแม้ว่าเขาจะแสดงลักษณะสงบออกมาภายนอก แต่เขาเต็มไปด้วยอาการตกใจและประหลาดใจ เขามองไม่เห็นความกลัวอยู่ในสายตาที่กระจ่างของเด็กหนุ่มผู้นี้ จิตตานุภาพของเขาร้อนแรง เหมือนกับว่าเขากำลังดูตนเองเมื่อตอนเป็นหนุ่ม
เขาอดคิดถึงบุตรของเขาไม่ได้ ตอนแรกเขาคิดว่าอังเดรและลูกคนอื่นๆจะโดดเด่น แต่เมื่อเห็นถังเทียน จากนั้นเขาค่อยเข้าใจได้ว่าพวกเขาแตกต่างกันมากมายขนาดไหน
เขาควบคุมความวอกแวกในใจของเขาและพบกับความสามารถในการแข่งขันแทน ดินแดนของเขามั่นคงมานานแล้ว ชื่อของเขาขจรขจายกว้างไกล และแม้แต่สมาพันธ์ชาวยุทธก็ยังไม่กล้าประมาทเขา ในช่วงหลายปี จะมีสักกี่คนที่สามารถพูดคุยต่อหน้าเขาได้? เขาคุ้นเคยกับตำแหน่งเจ้าปกครองที่สั่นสะเทือนสวรรค์และโลกไปแล้วและเขาสามารถดูถูกสมาพันธ์ชาวยุทธได้ ถ้าเขาต้องการสู้ เขาจะสู้ ถ้าเขาต้องการรบ เขาจะรบเขามักจะมองข้ามคนอื่นอยู่เสมอ
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับถังเทียน เขาสามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายและพลังแบบเดียวกับเขา
เป็นความรู้สึกของการได้พบคนประเภทเดียวกับเขา คู่แข่งคนใหม่ที่ทำให้ใจที่ซบเซาของเขาเนื่องจากความเดียวดายได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง เขาอดจะยิ้มและมองไปรอบๆ ไม่ได้ “นี่คือเมืองสามวิญญาณหรือ? เมืองแรกในสวรรค์วิถีที่สร้างอาวุธจักรกล ชื่อของเมืองก็เนื่องมาจากความรุ่งเรือง เจ้าคงต้องพาข้าชมดูบ้างล่ะ”
เขาไม่ได้กังวลการมาถึงของเขาแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกเป็นโอกาสที่ดีในการตัดสินพลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่
พลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่ลึกลับสำหรับทุกคน สามารถเห็นประจักษ์ด้วยตาตนเองได้เลโอนตัดสินใจประเมินพวกเขา
‘เลโอนจะไม่มีทางเป็นสหายกับสุนัขป่าและจิ้งจอก’
ถังเทียนไม่คิดอะไรมาก เขานำเลโอนเที่ยวชมไปรอบๆ ฐาน แต่แม้ว่าเขาจะเป็นคนนำไป แต่คนที่คอยอธิบายและให้ข้อมูลจริงๆ ก็คือผี่ผา
สิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมทั้งหมดและวิทยาการใหม่ต่างๆก่อตัวกลายเป็นภาพที่ประหลาดแม้แต่ถังเทียน
ผี่ผาอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างโดยละเอียด “นี่คือกองกำลังภูผาน้ำแข็งและกองกำลังหลักของอาวุธจักรกลวิญญาณของพวกเรา มันมีน้ำหนักหนึ่งในสามของอาวุธจักรกลวิญญาณอย่างเดิม ใช้โลหะชนิดใหม่มีลักษณะคล้ายเงินและมีคุณสมบัติในการป้องกัน ไม่มีม่านพลังป้องกันก็สามารถป้องกันการโจมตีของนักสู้ระดับทองได้ถึงห้าครั้ง มันใช้วิทยาการใหม่หลายอย่างสามารถใช้การ์ดวิชาแตกต่างกันได้ถึงเจ็ดอย่าง และจิตวิญญาณยุทธทั้งหมดที่อยู่ในอาวุธวิญญาณก็เป็นจิตวิญญาณแบบสู้รบเราได้ดำเนินการคัดกรองและได้กระจายจิตวิญญาณยุทธคุณภาพดี และเลือกจิตวิญญาณยุทธที่มีความสามารถในระดับเงินเท่านั้น...”
“จิตวิญญาณยุทธระดับเงิน?” เลโอนขัดจังหวะผี่ผา
ผี่ผาอธิบาย “เพคะ... หลังจากวิจัยจิตวิญญาณยุทธมามาก เราจำแนกจิตวิญญาณยุทธที่แข็งแกร่งและอ่อนแอได้ เราใช้ระบบจัดคุณภาพตามปกติเป็นทองเงินและบรอนซ์ จิตวิญญาณยุทธระดับเงินเป็นการระบุว่าสติปัญญาของพวกเขาถึงระดับนักสู้ชั้นเงิน แต่เราเลือกจิตวิญญาณยุทธทั้งหมด จิตวิญญาณยุทธทั้งหมดมีประสบการณ์ธรรมชาติมากดังนั้นพวกมันจึงแข็งแกร่งขึ้นบ้างเล็กน้อย”
เลโอนขมวดคิ้ว “พวกมันจะใช้สู้แทนนักสู้ได้ไหม?”
“ไม่”ผี่ผาส่ายศีรษะ “จิตวิญญาณยุทธภายในอาวุธจักรกลวิญญาณจะถือได้ว่าเป็นผู้ช่วยก็ได้ พวกมันมีการควบคุมได้ดีกว่าพลังปราณแท้ และช่วยให้นักสู้มีสมาธิได้เต็มที่ขึ้นปล่อยภาระการสู้ไว้กับจิตวิญญาณยุทธแทน”
เลโอนเริ่มมีสีหน้าแสดงความสนใจ สำหรับกลุ่มดาวราชสีห์อาวุธจักรกลคือการค้นพบใหม่ กลุ่มดาวราชสีห์ไม่มีกองทัพจักรกล และอาวุธจักรกลพิเศษทั้งหมดทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขาดำดิ่งเข้าสู่โลกใบใหม่ แต่ยิ่งผี่ผาอธิบายมากสีหน้าของเขากลับหมองลง ในฐานะของคนผู้มีประสบการณ์สู้รบมากมาย เขาเข้าใจการสู้รบดี มากกว่านักสู้หรือแม่ทัพคนใดอื่น การคงอยู่ของของอาวุธจักรกลวิญญาณจะทำให้สถานการณ์ต่อสู้ซับซ้อนขึ้น และความต้องการในคุณภาพของนักสู้หรือทหารจะลดน้อยลงไป
“ต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะตัดสินนักสู้สายจักรกลผู้มีคุณสมบัติได้?”เลโอนถาม
ผี่ผาอดชื่นชมเขาไม่ได้เขาคือพญาราชสีห์ที่แท้จริง เนื่องจากเขาสามารถเข้าใจปัญหาได้รวดเร็ว นางตอบโดยไม่ลังเล “การเตรียมการในค่ายนักสู้อาวุธจักรกลของเรา ต้องให้นักเรียนระดับเงินเตรียมพร้อมถึงหนึ่งปี ในหนึ่งปีนักเรียนผู้มีพรสวรรค์ของเราจะสามารถฝึกแก่นแท้พื้นฐาน ในสามปีพวกเขาจึงจะสู้ศึกได้ สำหรับนักเรียนระดับบรอนซ์ พวกเขาจำเป็นต้องการเวลาเพิ่ม ความรู้สำคัญเบื้องต้นต้องใช้เวลาสามปี”
เลโอนสูดหายใจลึก เขารู้ว่าหมายถึงอะไร
แม้ว่ากองทัพแบบดั้งเดิมจะทรงพลัง แต่นั่นเป็นกระบวนการที่ยาวนานผ่านการคัดเลือกนับไม่ถ้วน
แต่กองทัพจักรกลสามารถเก็บไว้เสริมกำลังได้
ขณะที่เขายังคงสังเกตต่อไป ใจของเลโอนเริ่มประหลาดใจและทึ่งมากขึ้น จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นว่ามีร่างหนึ่งวิ่งกลับไปกลับมาในสนามฝึกอย่างต่อเนื่อง เขาหยุดอยู่กับที่โดยไม่รู้ตัวและหน้าที่เฉยเมยและไร้อารมณ์ถึงกับเปลี่ยนไปในที่สุด
อาวุธจักรกลวิญญาณที่ทาสีแดงฉาน
หมายเลข 23