ตอนที่แล้วตอนที่ 672 ความผยองของเจโรม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 674 คำขอของแบร็ดลี่ย์

ตอนที่ 673 สามก้าวโจมตี


เมื่อเห็นกองพลเขากระทิงเข้ามาใกล้  แบร็ดลี่ยอดยิ้มไม่ได้  เจโรมมีความโดดเด่นจริงๆ  กระแสคลื่นเงินเคลื่อนตัวมาเป็นกระบวนหนาแน่น แรงกระตุ้นที่น่าประทับใจทำให้ความหนาวเหน็บเย็นชาที่แบร็ดลี่ย์เจอมาในช่วงไม่กี่วันนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้น  ‘ข้าเองก็มีปรมาจารย์และนักสู้ฝีมือดีอยู่ในกลุ่มดาววัวอยู่มากมาย  และข้ายังมีแม่ทัพผู้แข็งแกร่งทรงพลัง!’

เขาไม่ทันได้ตระหนักว่า แรงกดดันบนตัวเขาจากกองพลภูผาน้ำแข็งเพิ่มขึ้นมาก

ไม่ใช่แต่เพียงแบร็ดลี่ย์เท่านั้น  แม้แต่ขุนนางอื่นก็พากันยินดีทั้งหมด

“ใครจะสามารถหยุดแรงเฉื่อยนั้นได้!”

“น่าตื่นเต้นเหลือเกิน! โอว..พระเจ้า.. คลื่นสีเงินช่างทรงพลังมากมายแท้จริง!”

“ท่านเจโรมโดดเด่นอย่างแท้จริง  เมื่อมีเวลาพอ เขาอาจสร้างกองพลทอรัสขึ้นมาอีกก็ได้!”

เสียงสนทนารอบด้านทำให้แบร็ดลี่ย์ปลาบปลื้มใจ ก็เหมือนอย่างกองทัพแกะน้ำแข็งเงินของกลุ่มดาวแกะ  ในประวัติศาสตร์กลุ่มดาววัวที่ยาวนาน  ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยมีกองทัพที่น่าเกรงขามมีชื่อเสียงเลื่องลือในสวรรค์วิถี  กองพลทอรัส กองพลทอรัสคือกองพลเกราะหนักที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์  ชุดเกราะทอรัสทองของพวกเขาไร้เทียมทาน

นั่นคือช่วงเวลาที่กลุ่มดาววัวรุ่งเรืองสุดขีดเกราะทอง 160 ชุดเป็นเรื่องที่คนรุ่นหลังคิดไม่ออก

เกราะทองคือสัญลักษณ์ของกองพลทอรัส  เขากระทิงสีทองมีรัศมีพร่างพรายรูปลักษณะคมชัดสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสวรรค์วิถี

แต่เมื่อเวลาผ่านไป  กลุ่มดาววัวเริ่มตกต่ำ  กองพลทอรัสเริ่มจางหายไปตามกาลเวลาเกราะทองนับวันมีแต่จะหายาก และเมื่อกองพลเกราะหนักที่แข็งแกร่งที่สุดหายไปตามกระแสกาลเวลา  สำหรับทหารที่รู้จักกลุ่มดาววัว  การทำให้กองพลทอรัสปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเป็นเป้าหมายสุดท้ายของพวกเขา

‘กลุ่มดาววัวตกต่ำมายาวนาน’  แบร็ดลี่ย์ถอนหายใจอีกครั้ง  สถานะของพวกเขาที่ยังคงเหลืออยู่ทำให้กลุ่มดาววัวสูญเสียความปรารถนาที่จะพัฒนาให้ก้าวหน้า ผู้มีอำนาจระดับสูงติดอยู่กับความสุขและความเพลิดเพลิน พญาอุสภราชานี้นับวันมีแต่จะผอมลงและอ่อนแอลงทุกที

ในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาในปัจจุบันนี้  กลุ่มดาวที่มีสถานการณ์คล้ายกันมากที่สุดก็คือกลุ่มดาวแกะ กลุ่มดาวแกะมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งทรงพลังอยู่คนหนึ่งอยู่แล้ว  นั่นคือหลิงซิ่วการแบกภาระในฐานะผู้สืบทอดของกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินและมีผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงินอยู่ในมือ แม้ว่าเขาจะไม่เคยกลับไปที่กลุ่มดาวแกะมาก่อน  แต่หลิงซิ่วกลายเป็นแบบอย่างที่พลเมืองชาวดาวแกะสรรเสริญชื่นชม

แบร็ดลี่ย์ได้ลอบศึกษาเรื่องราวของกลุ่มดาวแกะมาแล้ว เขาแอบปลื้มและไม่พอใจคนรุ่นหลังแห่งกองกำลังกวางขนดำที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในเงามืด กล่าวกันว่าพวกเขากำลังสร้างกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินขึ้นใหม่ ข่าวลือว่าผู้นำกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินก็คือหลิงซิ่ว!

‘อย่างน้อยกลุ่มดาวแกะยังมีหลิงซิ่ว’

แบร็ดลี่ย์สูญเสียความคิดของเขาไป  แต่เสียงฮือฮารอบๆ ทำให้เขาตื่นตัวขึ้น

‘แต่เจโรมก็ยังทำได้ค่อนข้างดี’

“เราต้องให้พวกเศรษฐีใหม่นี้ได้เห็นว่าเราเป็นยังไง!”

“ต้องให้พวกเขาได้ประจักษ์ตาว่านักรบฝีมือดีเป็นเช่นไร!”

“โค่นพวกมัน!”

ฝูงชนมีอารมณ์ร่วม เริ่มคุยกันเสียงจอแจ  แบร็ดลี่ย์เข้าใจว่าทุกคนไม่พอใจต้องทนอึดอัดมาในช่วงไม่กี่วันจึงยิ้มให้  นอกจากนี้เขายังคิดว่าจะให้เซรีนและทหารของนางได้เห็นดีเพื่อข่มการกระทำที่กองพลภูผาน้ำแข็งแสดงออกมา ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเขาคงถูกดูหมิ่นและถูกเหยียดหยามหมดแน่

ครืน ครืนคลื่นสีเงินของกองพลเขากระทิงเคลื่อนตัวมาอย่างเมามัน  พื้นสั่นสะเทือนยิ่งขึ้น  ความเร็วของพวกเขามากขึ้น

แบร็ดลี่ย์หันไปมองกองกำลังภูผาน้ำแข็งด้วยความกระตือรือร้น  เขาต้องการดูหน้าของกองพลที่หยิ่งผยอง  สายตาของเขามองดูอาหลุน  เขาอดหัวเราะไม่ได้  หน้าของพวกเขาปิดคลุมแน่นหนา  และเขาไม่เห็นสีหน้าพวกเขาแต่อย่างใด  ‘น่าเสียดาย’

ทันใดนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาสลายไป  เพราะเขาเห็นว่าอาหลุนชักดาบเงินใหญ่ออกมาทันที

‘พวกเขา...’

ก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว,  อาหลุนระเบิดเสียงคำรามลั่น

“กองหลังปกป้องยานโดยสาร  แถวหน้าตามข้าไปโจมตี!”

‘เดี๋ยวก่อน!’

หน้าของแบร็ดลี่ย์ขาวซีดราวกับกระดาษ  หน้าของเขาเปลี่ยนจากสับสนเป็นความกลัว

ก่อนที่เขาจะทันส่งเสียง  เสียงกึกก้องก็ดังขึ้น

กองกำลังภูผาน้ำแข็งทั้ง 500ทะยานขึ้นจากพื้นพร้อมกันทำให้เกิดเสียงสั่นสะเทือนจนทุกคนไม่สามารถทรงตัวได้มั่นคง  เสียงทุ้มต่ำจนหูอื้อ และผงคลีฟุ้งขึ้นในท้องฟ้า

ร่างสีเงินร่างแล้วร่างเล่าพุ่งออกมาจากผงคลีเหมือนกับลูกธนู

ครืน ครืน!

พวกขุนนางหน้าซีดปราศจากสีเลือดโดยสิ้นเชิง  สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจตัว  เทียบกันสองกองทัพ  การโจมตีของกองพลเขากระทิงสามารถทำให้พวกเขารู้สึกพื้นสั่นสะเทือน  แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถยืนหยัดได้มั่นคง  บางคนล้มพับกับพื้นและสองสามคนถึงกับปัสสาวะอุจจาระราด

“พวกเขามีเซียนสิบคนเราจะขึ้นไปช่วยด้วยไหม?” มอนตามาถึงข้างยานโดยสารและถาม

แม้ว่าพวกเขาจะมีเซียนเพียงแปดคน  ขณะที่กองพลเขากระทิงมีเซียนสิบคน  แต่มอนตาไม่กลัวแม้แต่น้อย  เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมาการได้อาศัยอยู่ที่กลุ่มดาวหมีใหญ่ ทำให้พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

“ไม่จำเป็น”  เซรีนพูดอย่างเกียจคร้าน“ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีให้พวกเขาได้ทดสอบฝีมือ เรามาดูว่ากองพลภูผาน้ำแข็งจะสามารถก้าวหน้าได้ไหม?”

ภูผาน้ำแข็ง

อาวุธจักรกลวิญญาณรุ่นล่าสุดของกลุ่มดาวหมีใหญ่สร้างมาจากห้องวิจัยค้นคว้าจักรกลของกลุ่มดาวหมีใหญ่  วิทยาการล่าสุดที่เกิดจากการกลั่นควบรวมกันเซรีนทุ่มเทเลือดเนื้อและความพยายามอย่างเต็มที่ จึงสร้างให้มีขนาดที่เล็กลงทั้งยังแข็งแกร่งและคล่องแคล่วมากขึ้นและเป็นอาวุธจักรกลวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนวันที่นางจะคิดเรื่องเกราะเซียนเพื่อนักสู้ระดับเซียน

แค่เพียงชื่อว่าภูผาเป็นตัวแทนของพลังอันยิ่งใหญ่  และน้ำแข็งแทนความเยือกเย็นและคมกล้า

เช่นเดียวกับนางอาหลุนมีความเชื่อมั่นต่อภูผาน้ำแข็ง เขาไม่สามารถเข้าใจว่าเกราะเซียนที่เซรีนคิดจะเป็นอย่างไร เขารู้สึกว่าภูผาน้ำแข็งคืออาวุธจักรกลวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว

พวกเขาเป็นกองทัพที่เอาชนะกองทัพอื่นอย่างต่อเนื่องในการซ้อมรบภายในจึงได้รับภูผาน้ำแข็งเป็นกลุ่มแรก ทำให้กองพลอื่นรู้สึกอิจฉา  และนี่เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจในชีวิตของอาหลุนเป็นที่สุด

ในขณะเร่งฝีเท้า  ดาบเงินใหญ่ลากอยู่ข้างตัวพวกเขา  ปลายดาบชี้ลงพื้น

“ผ่อนคลายข้อมือ!”

“ผ่อนคลายไหล่!”  “มองดูฝีเท้าของพวกเจ้า!”  “ควบคุมจังหวะลมหายใจให้ดี!”

อาหลุนยามอยู่ในสภาพพร้อมรบมีบุคลิกแตกต่างเป็นคนละคน เสียงคำรามของเขาดังก้องทุกที่ และเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ทหารที่อยู่ภายในบังคับบัญชาเขาพากันคำรามโห่ร้องเหมือนเขา  แม้ว่าพวกเขาจะคุ้นเคยกับกิจวัตรมานาน แต่เสียงคำรามของผู้บัญชาการของพวกเขาเพิ่มกำลังใจให้มากขึ้น  และรู้สึกเหมือนมีเปลวไฟร้อนรุมอยู่ในอก

และรองผู้บัญชาการของพวกเขากลับตรงข้าม  เขาหายไปมองไม่เห็น  ราวกับว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นเลย

แต่ทันทีที่เฉินจื่อหลินไม่อยู่รอบๆ  นี่กลับให้ผลที่แตกต่าง  นั่นคือความรู้สึกที่ราบรื่นและสะดวกสบาย กลายเป็นเหมือนกับเครื่องฝืดราวกับเครื่องที่ไม่ได้หยอดน้ำมัน

การวิ่งถาโถมของคนห้าร้อยคนพร้อมกับรัศมีของพวกเขาที่พร้อมเพรียงกันโดยไม่มีพลังรั่วไหลนี่คือเงินเหลวอย่างแท้จริง

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

ม่านตาของเจโรมหรี่แคบ  ตอนแรกเขาตั้งใจจะหยุดในระยะ 90เมตรห่างจากอีกฝ่าย แต่เขาไม่คาดเลยว่าอีกฝ่ายจะพุ่งเข้าหาพวกเขาเช่นกัน!  แต่ก็เอาตามนั้นก็ได้

ตอนนี้เขารู้สึกโกรธ  เขาเชื่อคำของออสตินแล้วพวกเขาเหิมเกริมมากเกินไป

‘พวกเขาอยู่ในแผ่นดินของกลุ่มดาววัวยังกล้าทำเช่นนั้น พวกเขาไม่เห็นเราอยู่ในสายตา!”

ในนาทีต่อมาเขาตัดสินใจ  ต่อให้เขาต้องเจ็บตัวจากการถูกลงโทษ เขาก็ยังต้องการสั่งสอนคนกลุ่มนี้ที่มีความเห็นแก่ความสามารถตนเองเป็นใหญ่ให้ได้รับบทเรียนเสียบ้าง

“โจมตีเต็มกำลัง!”

คำสั่งที่แฝงไปด้วยความโกรธดังก้องทั่วกองทัพ  กองกำลังเขากระทิงเพิ่มความเร็วขึ้นทันที

อาหลุนรู้สึกได้ทันทีถึงความเร็วที่อีกฝ่ายเร่งเพิ่มขึ้น  เขาแค่นเสียง และจากนั้นตวาดลั่น“เตรียมใช้กระบวนศึกสามก้าว!”

กองพลที่กำลังเร่งความเร็วย่อเอวพวกเขาทันที

“สามก้าว!”

เสียงคำรามของอาหลุนเหมือนฟ้าผ่าดังก้องเหมือนอยู่บนหัวทุกคน

ทุกคนก้าวเท้าอย่างหนักพร้อมกัน พลังมหาศาลของกองกำลังภูผาน้ำแข็งแสดงออกมาเต็มประสิทธิภาพเหมือนกับค้อนยักษ์ห้าร้อยด้ามกระแทกใส่พื้นพร้อมกัน

บึ้ม!

ถ้าใครมองข้ามจากฟากฟ้า พวกเขาจะประหลาดใจที่เห็นว่าพื้นตรงที่อาหลุนยืนอยู่ยุบลงไปครึ่งเมตรเกิดเป็นรอยบุ๋มแบนกว้างใหญ่

กลุ่มร่างสีเงินกลุ่มใหญ่พุ่งไปข้างหน้าจะหลุมยุบเหมือนกับสายฟ้า  ในขณะนั้นพวกเขาปรากฏในระยะห่างกัน 60เมตรจากตำแหน่งเดิม และพวกเขากระแทกพื้นอีกครั้ง

บึ้ม!

พื้นยุบลงไปอีกครั้ง  และพวกเขาก็พุ่งขึ้นไปอีกครั้ง  และแล้วพวกเขาก็กระแทกพื้นอีกครั้ง!

บึ้ม!

ก้าวที่สามไวกว่าฟ้าแล่บ หนักเหมือนฟ้าผ่าเสียงย่างสามก้าวดังเหมือนเป็นหนึ่ง ทุกคนหูอื้อไปหมด ฉากภาพข้างหน้าพวกเขาแพรวพราว กองพลภูผาน้ำแข็งประกฎในระยะ 300 เมตรห่างจากตำแหน่งเดิมของพวกเขา

เจโรมตกใจหนัก  เขาเห็นแต่ฉากข้างหน้าพร่าเลือน  พอเขาตาลายอีกฝ่ายหนึ่งก็มาอยู่ห่างจากพวกเขาไม่เกิน300 เมตร

‘นี่มันเวทมนตร์อะไรกัน?’

ก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียงคำรามเหมือนฟ้าผ่าก็ดังข้างหน้า  “ฆ่า!”

พอก้าวสุดท้ายพลังของพวกเขาก็ถึงระดับสุดยอด!

กองกำลังภูผาน้ำแข็งทะยานขึ้นไปในอากาศและปรากฏในท้องฟ้าระยะ30 เมตรในทันที กองกำลังภูผาน้ำแข็งถือดาบยักษ์ลอยตัวสูงอยู่ในอากาศ  และทหารกองกำลังภูผาน้ำแข็งร่างบางแต่ขณะนั้นเองทหารทั้ง 500 คนเต็มไปด้วยพลังต่างยกดาบขึ้นสูงด้วยความกราดเกรี้ยว

เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งกับที่

“ฆ่า!”

เสียงคำรามของอาหลุนทำลายความเงียบ  ดาบยักษ์เงินทั้งห้าร้อยเล่ม  ยืมพลังแรงเหวี่ยงพุ่งกระแทกข้างล่าง

รังสีทั้งห้าร้อยเชื่อมบรรจบกันเหมือนแม่น้ำสายใหญ่

แม่น้ำสายใหญ่เต็มไปด้วยรอยแสงที่เข้าไปในดาบอาหลุน

ทั่วทั้งตัวของอาหลุนมีรังสีแสงหุ้มครอบคลุมมองดูเหมือนกับเทพเจ้าหรือผู้เหี้ยมหาญผู้มีรัศมีมั่นคงให้ความรู้สึกเหมือนกับภูเขาไท่ซานมีพลังสะกดข่มจนทุกคนหายใจไม่ออก

สามก้าวโจมตี ของกองกำลังภูผาน้ำแข็ง!

พวกที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปก่อนก็คือเซียนแห่งกองกำลังเขากระทิงผู้ซึ่งสงบมั่นคงต่างจากเจโรม ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่แปดเซียนที่อยู่รอบยานโดยสารเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งให้ความรู้สึกที่น่าสงสัย  ตอนแรกพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไร  เมื่อคิดว่าแค่เจโรมก็คงรับมือได้  แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายหนึ่ง  พวกเขาหวังว่าพวกแปดเซียนคงไม่ลงมือทำอะไร

แต่วิชาฝีมือของอาหลุนทำให้พวกเขาต้องทิ้งแผนเดิมทันที

ร่างของพวกเขาหายไปทันที  และมาปรากฏตัวที่ด้านหน้ากองทัพ

รังสีดาบของอาหลุนเข้ามาถึงแลว  รังสีดาวที่กว้างหนา 90 เมตร พลังที่เหี้ยมหาญนี้ดูเหมือนสามารถผ่าสวรรค์และโลกออกเป็นสองส่วน

เสียงหวีดหวิวของรังสีดาบที่ธรรมดาคมชัด  แต่รังสีหวีดหวิวของดาบนี้ทำให้เกิดพลังสั่นสะเทือนนับไม่ถ้วนเกิดเป็นเสียงกึกก้องกระตุ้นความรู้สึกกดดันในหัวใจผู้คน  ทุกๆตารางนิ้วของผิวพวกเขาสั่นสะท้านและพวกเขารู้สึกชาหนังศีรษะ

เซียนทั้งสิบคนลงมือพร้อมกัน!

รัศมีต่างๆ มาปรากฏอยู่ต่อหน้ารังสีดาบ

บึ้ม!

แสงรังสีแพรวพราวฉายแสงเจิดจ้าเหมือนกับดวงอาทิตย์  แสงรัศมีแสบตาทำให้พื้นที่ทั้งหมดขาวโพลนไปหมด

แสงสีขาวที่น่ากลัวดูเหมือนจะกั้นขวางเสียงไว้ทั้งหมดได้

อาหลุนที่รับพลังตอบโต้รู้สึกถึงพลังที่สามารถกระแทกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆกำลังทะลักเข้าหาเขา และในขณะเดียวกัน เฉินจื่อหลินที่อยู่เบื้องหลังเขามีนัยน์ตาทอประกายวูบ  พลังที่ถาโถมเข้ามาข้างหน้าเขาแตกกระจายทันทีแตกกระจายเป็นชิ้นๆ กระจายไปทั่วกองทัพ

สองสามวินาทีต่อมาเจโรมที่ตกใจยังคงรักษาความสงบไว้ ทั้งหน่วยของเขากำลังโยกโคลงจากด้านหนึ่งไปด้านหนึ่ง เซียนทั้งสิบคนที่ลงมือพร้อมกันสามรถป้องกันพลังดาบไว้ได้  แต่พลังดาบที่ตามหลังก็เพียงพอจะฉีกแยกกระบวนทัพได้ทำให้พวกเขาตกอยู่ในความยุ่งเหยิง

ทันใดนั้น ม่านตาของเจโรมหดลีบเล็กทันที

ต่อหน้าของเขาเป็นกองกำลังภูผาน้ำแข็งยังคงถือดาบถือพวกเขายืนตรงเหมือนรูปสลักเทพเจ้าสงคราม 500ร่างมีไอพลุ่งออกมาจากร่างพวกเขา ปลดปล่อยความหลงใหลต้องการต่อสู้ของพวกเขาออกมาทันที

ตาของเจโรมถึงกับแดงทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด