ตอนที่ 673 ขโมยจูบ
แม้ว่าเย่ว์หยางจะค่อนข้างเวียนหัวกับเรื่องความดื้อรั้นและความเจ้าอารมณ์ของสาวยักษ์ลี่เยี่ยน แต่เขาต้องช่วยนาง
เหตุผลแรกก็คือว่าถ้าพวกเขากลายเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มกันอย่างนั้นแรงสนับสนุนกันของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นมาก
นอกจากนี้ลี่เยี่ยนไม่ใช่คนโง่ที่เยียวยาไม่ได้ ตราบใดที่นางเปลี่ยนแปลงนิสัยปากแข็งดื้อดึงของนางสักเล็กน้อย แม้ว่านางจะทำด้วยความรู้สึกภูมิใจ นางคงจะตระหนักได้ว่าการกระทำหลายอย่างในลักษณะอวดอ้างความกล้าหาญมันใช้ไม่ได้ แม้ว่านางจะไม่ได้ทำเพื่อรักษาเกียรติความกล้าหาญ นางต้องการพลังและวิธีการที่ดีกว่า กล่าวอีกอย่างหนึ่งตราบใดที่สาวยักษ์ลี่เยี่ยนผู้ชอบใช้กำลังและความดุร้ายจะยอมฟังคำแนะนำของเย่ว์หยางบ้าง ทุกอย่างจะง่ายขึ้น
เย่ว์หยางคิดหาหนทางชักชวนลี่เยี่ยนไว้แล้ว
ในฐานะเป็นคนเถื่อนผู้ยิ่งใหญ่เขาจะต้องเอาชนะนางด้วยพลังทั้งหมด แกล้งนางและจากนั้นจึงค่อยให้เสวี่ยอู๋เสียช่วยนาง สำหรับอี้หนานจะรับหน้าที่คอยปลอบโยนนาง
ขณะที่เย่ว์หยางคิดปัญหาเองนี้ถนนด้านนอกเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องและฆ้องและกลอง
เย่ว์หยางมองขึ้นไปและเห็นนักรบเป็นร้อยกำลังฉลองกัน
บางคนถือป้ายและคำขวัญ บางคนโปรยดอกไม้ฉลอง คนอื่นๆ แจกจ่ายอาหาร อาหารว่างและวัสดุสิ่งของให้กับฝูงชนในถนน ขณะที่คนพวกนี้ใกล้เข้ามา เย่ว์หยางก็ตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่ขบวนพาเหรดเทศกาลแต่เป็นการฉลองที่มีผู้ฆ่าคุณชายซ่งเทาได้ คนหัวกลมเปากู่พันจั่วไว้รอบตัวแล้ววิ่งออกไปอย่างมีความสุข หลังจากได้รับของว่างสองสามอย่าง เขาเริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางไม่ต้องการเขาอธิบาย “ไม่ต้องสงสัยหรอกอาหารทั้งหมดนี้มาจากความบริสุทธิ์ใจและแสดงความซาบซึ้งอย่างมาก เจ้ามาจากแดนสวรรค์ตะวันตกเจ้าไม่รู้ว่าคุณชายซ่งเทาอยู่ที่นี่เลวร้ายขนาดไหน มันคือหายนะ เจ้าจะกลัวยิ่งกว่าเจออสูรร้ายกินคน เขาข่มเหงรังแกคนมานับจำนวนไม่ถ้วน มีคนเพียงไม่กี่ร้อยที่ฉลองในวันนี้ ถ้าคนรู้ว่าเขาถูกฆ่าแล้วจะมีการฉลองใหญ่มากขึ้นไปอีก แม้แต่ข้าเองก็ถูกรังแกกลั่นแกล้งจากสำนักร้อยสนก็หลายครั้ง ตอนนี้การกินอาหารว่างเหล่านี้ก็เหมือนกับกินเนื้อคุณชายซ่งเทาถือว่าเป็นการระบายความเกลียดชังได้เหมือนกัน ฮ่าฮ่า”
คำพูดของเจ้าหัวกลมเปากู่และการกินที่ดูดุเดือดทำให้เย่ว์หยางอายแทนเขา
เมื่อคิดว่าเขาได้ทำบางอย่างที่ดีโดยมิได้ตั้งใจ!
อุตส่าห์ตั้งใจทำเลวแท้ๆทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
เมื่อเป็นแบบนั้นแล้วเขาอาจทำได้ดีจนกระทั่งจบ
เย่ว์หยางถามอ้อมๆกับเจ้าหัวกลมเปากู่ ว่าคนโดยรอบชอบคุณชายซ่งเทาผู้ร่ำรวย มีอำนาจและชั่วร้ายไหมถึงได้ทำให้ผู้คนโกรธ
“มีมากมายหลายอย่างข้ารู้ว่าเจ้าสามารถรักษาความลับได้ อย่าไปบอกใครเชียว”เขาเริ่มโม้อีกครั้งเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาได้เห็นและได้ยินมามากเพียงไหน
“พี่เปา เอาอย่างนี้เป็นไงเราไปหาร้านเหล้าและคุยไปกินไปดีไหม?” เย่ว์หยางพบว่าข้อมูลที่สมาคมทหารรับจ้างไม่สามารถซื้อได้ด้วยราคาสูงอยู่ที่นี่ ไม่ต้องใช้ทองสักเหรียญเดียวก็สามารถได้มาจากปากเปากู่ได้ นอกจากนี้เขายังสามารถทำความเข้าใจข้อมูลได้ทั้งหมด รวมทั้งทักษะของอสูรรบปราณฟ้า นิสัยส่วนตัวพฤติกรรม และอื่นๆ
เย่ว์หยางเลี้ยงอาหารเปากู่และจากนั้นก็ไปโรงประมูลด้วยกัน
ขณะที่ให้ความสนใจสิ่งของประมูล เขามองหาและฟังคำแนะนำของเปากู่
ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อยๆพัฒนาจากคนแปลกหน้าจนกระทั่งเป็นสหายเย่ว์หยางได้รับความเข้าใจแดนสวรรค์ใต้และอย่างน้อยก็แคว้นมรกต ในทั่วแคว้นมรกตมียอดฝีมือปราณฟ้าเป็นเจ้าเมืองสำนักต่างๆ กลุ่มทหารรับจ้างและกลุ่มโจร อสูรปีศาจต่างๆ เผ่าพันธุ์พิเศษต่างๆและแม้กระทั่งผู้เร้นตัวฝึกฝน เย่ว์หยางรู้จักทั้งหมด นอกจากพวกปราณฟ้าฝีมือสุดยอดซ่อนตัวได้ดีคงไม่มีข้อมูลอื่นในแคว้นมรกตที่เปากู่ไม่รู้เป็นแน่
สหายผู้นี้ปากมากแต่ความสามารถในการรวบรวมข่าวกรองถือว่าไม่เลว
เขาเป็นนักพูดที่ดี แต่ค่อนข้างชอบอวดตัว
ในเวลาเย็นเมื่อเย่ว์หยางกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ เขาอยู่ในสภาพอารมณ์ที่ดี เมื่อเห็นสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ในชุดแม่บ้าน เขาอดกอดจูบนางไม่ได้
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ทั้งเขินอายและมีความสุข นางตะลึงอยู่เล็กน้อยก่อนจะตั้งตัวได้
นางรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของนางกับเจ้านายก้าวหน้าในระดับใหม่หลังจากจูบนั้นและนั่นยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับนาง
“นายท่าน, ให้ข้านวดไหล่ให้นะเจ้าคะ!” ขณะที่เย่ว์หยางกำลังอาบน้ำสาวลูกครึ่งเอลฟ์รวบรวมความกล้าสวมชุดว่ายน้ำที่เย่ว์หยางออกแบบด้วยตัวเองเขาลงไปในน้ำก่อนและนางจึงเริ่มนวดไหล่ของเขา
“อา...” เย่ว์หยางมองดูสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ ชุดอาบน้ำชิ้นน้อยแทบจะปกปิดส่วนสงวนได้ไม่หมดเย่ว์หยางเอามืออุดจมูกโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่เลือดกำเดาไม่พุ่ง อย่างไรก็ตามผลกระทบแทบสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าโอตาคุได้เลย
เมื่อสาวลูกครึ่งเอลฟ์เห็นสีหน้าของเจ้านายและเห็นราศีในดวงตาเขา นางแอบดีใจ
เจ้านายชอบแสดงความกล้าจริงๆ เขาไม่ชอบพูด แต่ลงมือทำแน่นอน!
ใช่แล้วข้าต้องทำงานให้หนัก!
เอาเลย!
สาวลูกครึ่งเอลฟ์กำหมัดน้อยๆให้กำลังใจนางเอง
นางว่ายน้ำได้ดีท่าทางลื่นไหลของนางนุ่มนวลเป็นธรรมชาติเหมือนนางเงือกเลื่อนมาอยู่ด้านหลังของเย่ว์หยาง ก่อนอื่นนางแนบอกมหึมาของนางกับหลังของเย่ว์หยางด้วยความรู้สึกมีความหวังและสุขใจ หลังจากกอดแนบแน่นเป็นเวลาสั้นๆนางนวดเขาอย่างนุ่มนวลและเริ่มจริงจัง
เป็นอุดมคติสูงสุดของนางคือต้องการรับใช้เจ้านายและทำให้เขาเป็นบุรุษที่มีความสุขที่สุดในโลก
เมืองลมดำจวนเจ้าเมือง
“ปัง!”
แก้วหยกราคาพันเหรียญทองถูกเจ้าเมืองลมดำขว้างลงกับพื้นและแตกกระจายเป็นชิ้นๆ
เวลานี้เจ้าเมืองลมดำโกรธจจนน่าตาบิดเบี้ยวและคำรามใส่รายงานของขุนพลจินฟง“บัดซบเอ๊ย..เจ้าไม่ปล่อยให้ข้าได้พักอย่างสงบเลยหรือไร?หลังจากคุณชายซ่งเทาตายเมื่อคืนก่อน ข้ายังไม่หายปวดหัวกับการหาวิธีอธิบายให้ไป๋ซ่งทราบ แต่ตอนนี้เจ้าบอกว่าผู้เฒ่าเฮยสั่วแห่งสำนักหลันเจียงก็ถูกคนฆ่า เป็นไปได้หรือว่าบรรดาเรื่องโชคร้ายทั้งหมดในแดนสวรรค์ใต้จะมารวมกันอยู่ที่เมืองลมดำของเรา? ข้อเท็จจริงว่าคุณชายซ่งเทาถูกฆ่าก็อาจเป็นเพราะว่าเขาสร้างศัตรูไว้นับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามเฮยสั่วแห่งสำนักหลันเจียงเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่? แม้ว่าเขาจะเป็นอาชญากรจากแดนสวรรค์ใต้ แต่เขาไม่มีศัตรูในแคว้นมรกต แต่เขาก็ยังถูกฆ่าอีก นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเท่ากับเป็นการทำลายความเป็นพันธมิตรกับเจ้าสำนักหลันเจียงทั้งที่ความตั้งใจเดิมของข้านั้นตรงกันข้าม
หลังจากขุนพลจินฟงฟังเขาระบายอารมณ์โกรธจบเขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น “ท่านเจ้าเมือง! สิ่งที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริง”
หลังจากเจ้าเมืองลมดำได้ยินเช่นนี้เขาสูดหายใจลึก
ใช่แล้วตอนนี้เรื่องเกิดขึ้นแล้ว ว้าวุ่นไปก็ไม่มีประโยชน์
วิธีรับมือและวิธีแก้ไขเป็นสิ่งสำคัญที่สุด...แม้แต่เมืองลมดำไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีคนจงใจเล่นงานเขา
เป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่คุณชายซ่งเทาไม่ใช่ผู้เฒ่าเฮยสั่ว แต่เป็นเขาต่างหาก! พิจารณาจากเรื่องความตายของคุณชายซ่งเทาและผู้อาวุโสเฮยสั่วนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น คงจะมีผลลัพธ์ตามมาอย่างแน่นอน
“ผู้อาวุโสเฮยสั่วตายยังไง?” ผู้อาวุโสเฮยสั่วเป็นยอดฝีมือของสำนักหลันเจียง เขาแตกต่างจากคุณชายเจ้าสำราญซ่งเทา
“ศพหายไปทำให้ไม่สามารถสืบสวนการตายได้ อย่างไรก็ตาม ศีรษะของเขาถูกขึ้นเงินรางวัลโดยคนที่มาจากเมืองใบไม้เขียวห่างจากที่นี่ไปสามพันไมล์ ผู้น้อยมีสายลับอยู่ที่สมาคมทหารรับจ้างเมืองใบไม้เขียว เมื่อเขาได้รับข้อมูลนี้เขาจะส่งรายงานมาให้ผู้น้อยทันที” ขุนพลจินฟงตอบ
“ใครเป็นคนรับ?” เจ้าเมืองลมดำให้ความสนใจมากที่สุดว่าใครเป็นผู้รับบางทีเขาอาจได้ร่องรอยนักฆ่าก็ได้
“กล่าวกันว่านางเป็นสาวลูกครึ่งเอลฟ์ไม่มีแม้แต่พลังปราณดิน เป็นไปไม่ได้เมื่อเห็นนางได้ชัดเจนแต่พลังของนางต่ำมาก นี่เป็นเรื่องที่แน่นอน นอกจากนี้ ร่างกายนางยังมีกลิ่นที่พิเศษ นักสู้ที่เป็นสายนั้นมาจากตระกูลฮาวด์ (สุนัขล่าเนื้อ)และความรู้สึกถึงของเขาละเอียดอ่อนมาก ถ้าสาวลูกครึ่งเอลฟ์ปรากฏตัวอีก ต่อให้นางเปลี่ยนรูปลักษณ์ทั้งหมด ข้าเชื่อว่าคงไม่สามารถปกปิดร่องรอยได้” ขุนพลจินฟงไม่คิดว่าสาวลูกครึ่งเอลฟ์จะเป็นคนฆ่าผู้อาวุโสเฮยสั่ว เป็นไปได้ว่านางบังเอิญผ่านมาเห็นนักสู้ปราณฟ้าตายจึงตัดศีรษะไปรับรางวัลก็เป็นได้
ทำไมถึงมาเมืองใบไม้เขียวแทนที่จะเป็นเมืองลมดำ?
อีกเหตุผลหนึ่งบางทีเป็นเพราะนางออกจากเมืองลมดำและพบว่าการตายของคุณชายซ่งเทาในเมืองลมดำทำให้เกิดความวุ่นวายใหญ่แล้ว นางไม่กล้ากลับไปที่เมืองลมดำเพื่อรับรางวัลจากสมาคมทหารรับจ้าง อีกเหตุผลหนึ่งก็คือนางอาจมีที่อยู่ในเมืองใบไม้เขียวและมีศิลาเทเลพอร์จจากเมืองใบไม้เขียว ดังนั้นนางจึงเทเลพอร์ตกลับไปเมืองใบไม้เขียวเพื่อรับรางวัลในเมืองที่นางคุ้นเคยกว่า
การคาดเดานี้ไม่ใช่แค่จินฟงเท่านั้นที่คิดแต่เป็นแนวคิดของเจ้าเมืองลมดำด้วยเช่นกัน
คนร้ายไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับสาวลูกครึ่งเอลฟ์แน่นอนหรือขโมยมนุษย์ก่อนนั้น นี่เป็นเพราะพลังของคนเหล่านี้อ่อนแอมาก
คนร้ายต้องเป็นคนอื่น
เหตุผลที่ฆาตกรยังคงฆ่าต่อไปดูเหมือนจะต้องการใส่ร้ายเจ้าเมืองลมดำ ดูเหมือนว่าเขาต้องการสร้างความปั่นป่วนและนองเลือดนี่นี่...เจ้าเมืองลมดำคิดอยู่ชั่วขณะ และในทันใดนั้นเขาพูดกับขุนพลจินฟง “เนื่องจากศัตรูอาละวาดหนักมือ อย่างนั้นเรามาวัดกัน ดูว่าใครฝีมือดีกว่ากันเขาอยู่ในที่มืด ข้าอยู่ในที่สว่าง ต้องใช้อุบายดึงเขาให้ออกมาจากความมืด ข้ามีแผน เจ้าไปดำเนินการทันทีตราบใดที่แผนการสำเร็จ นักฆ่าจะต้องหลงกลแน่น ตอนนั้นเราจะฉวยโอกาสสังหารคนกระทำผิด หัวใจของอี้เสวี่ยเต็มไปด้วยความเกลียด”
เจ้าเมืองลมดำนับเป็นนักวางแผนผู้เจ้าเล่ห์ ในไม่ช้าเขานึกถึงแผนล่ออสรพิษออกจากรัง
เขากระซิบบอกขุนพลจินฟง
หลังจากได้ยินเช่นนั้นตาของขุนพลจินฟงเป็นประกาย เขาพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าและออกไปดำเนินการตามแผนของเจ้าเมืองลมดำ
“สามารถฆ่าเฮยสั่วได้นักฆ่าผู้นี้เป็นใครกันแน่? เฮยสั่วเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสอง แข็งแกร่งยิ่งกว่าคุณชายซ่งเทาถึงสิบเท่า ถ้าคนร้ายไม่ได้ฆ่าในทันที แต่ฆ่าโดยต้องใช้เวลา อย่างนั้นพลังของเขาน่าจะอยู่ราวๆปราณฟ้าระดับสาม ถ้าพลังของคนร้ายสูงมากกว่ายอดฝีมือปราณฟ้าระดับสาม อย่างนั้นไม่จำเป็นต้องกลัวข้าเลย จากสิ่งที่ข้าเห็น เขาต้องอยู่ระดับต่ำกว่าข้าและมีผู้หนุนหลังเป็นพรวน แค่คนที่อยู่ในแคว้นมรกตจะต่อต้านข้าที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าภายในขอบเขตระดับนี้ได้หรือ?” เจ้าเมืองลมดำลดขอบเขตความเป็นไปได้ของศัตรูลงเรื่อยๆ
โชคดีที่เมื่อเขาคิดเรื่องนี้เขาไม่สามารถคิดออกว่าตัวการร้ายที่แท้จริงมาจากหอทงเทียน
ยิ่งกว่านั้นเขาไม่สามารถคิดได้ว่าทุกอย่างที่เขาคาดเดาเป็นภาพลวงตาที่เย่ว์หยางสร้างขึ้น
หลังจากจัดการกับคุณชายซ่งเทาแล้วเขาได้รับสมบัติจากผู้อาวุโสเฮยสั่วเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลาจัดการเรื่องเหล่านี้ เขาได้แต่ลงมือต่อ สำหรับสินสงครามเขาค่อยเอาไปปล่อยไว้ที่หอทงเทียนภายหลัง
ภายใต้การนวดที่นุ่มนวลของสาวลูกครึ่งเอลฟ์เย่ว์หยางหลับสนิทอย่างสบาย
นางก้มศีรษะลง
และจูบเขา