ตอนที่ 672 ข่าวซุบซิบสำคัญ
“ว่าไงนะ?คุณชายซ่งเทาตายหรือ?” เมื่อเจ้าเมืองลมดำได้ยินข่าวนี้ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือสงสัยว่าเขาได้ยินผิด
คุณชายซ่งเทาเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งและมีผู้คุ้มกันสองคนเป็นนักสู้ปราณฟ้าด้วยเช่นกันยังมาร่วมกินอาหารกับเขาที่นี่ เมื่อเขากลับไปคฤหาส เขาถูกตัดศีรษะโดยไร้เสียง ในเมืองลมดำนอกจากเขาเองและนักรบปราณฟ้าสองสามคนผู้มีฝีมือดีพอๆกับคุณชายซ่งเทา แต่ว่าใครจะสามารถฆ่าคุณชายซ่งเทาได้?
ถ้าเจ้าไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เจ้าก็หนีได้ไม่ใช่หรือ?
ถ้าทั้งสามคนกลับมายังจวนเจ้าเมืองระยะทางห่างกันแค่ยี่สิบกิโลเมตรด้วยความเร็วเต็มที่พวกเขาจะใช้เวลาหลบหนีเพียงนาทีเดียวเท่านั้น
เป็นไปได้หรือว่าสามคนนั้นจะไม่สามารถรับมือได้แม้แต่นาทีเดียวและพวกเขาถูกฆ่าหมด
สิ่งที่เจ้าเมืองลมดำไม่อยากจะเชื่อที่สุดก็คือมือสังหารที่ฆ่าคุณชายซ่งเทาไม่ได้หลบหนีแต่กลับเดินเข้าสมาคมทหารรับจ้างอย่างสบายๆและใช้ศีรษะของคุณชายซ่งเทาและองครักษ์ทั้งสองไปแลกรางวัล ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น เขาคงคิดว่าคุณชายซ่งเทาคงจะเริงรักกับสาวเผ่าอกดนตรีที่เขาส่งไปให้เขา!
“ที่เกิดเหตุถูกตรวจสอบแล้ว ไม่มีสิ่งผิดปกติในการต่อสู้” ขุนพลจินฟงบริวารที่มีความสามารถมากที่สุดของเจ้าเมืองลมดำรายงานด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง “รวมทั้งสาวงามที่ท่านเจ้าเมืองมอบให้คุณชายซ่งเทาทั้งสี่คนถูกฆ่าในกระบวนท่าเดียว”
“ฆ่าในท่าเดียว?” เจ้าเมืองลมดำถึงกับขมวดคิ้ว แม้แต่เขาเองก็พบว่ายากจะทำงานอย่างนั้นให้สำเร็จ
“ศีรษะของคุณชายซ่งเทาและองครักษ์ทั้งสองของเขาไม่ได้รับความเสียหายอะไรเนื่องจากการแลกรางวัลกับสมาคมทหารรับจ้าง อย่างไรก็ตาม ข้าสงสัยว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะมีการควบคุมพลังที่แข็งแกร่ง ทั้งสามคนถูกตัดศีรษะ ส่วนเจ้าพังค์องครักษ์ปีกขวาถูกตัดครึ่งตัวด้วยอาวุธมีคมของศัตรูและศีรษะของเขาจึงค่อยถูกตัด สำหรับสาวงามจากเผ่าอกดนตรี นางก็ตายสภาพเดียวกัน,เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ว่าเสื้อผ้าของนางจะถูกฉีกขาด แต่นางไม่ได้ถูกข่มขืนหรือว่ามุมมองความงามจะมีความแตกต่างกับเรา” ขุนพลจินฟงรายงานรายละเอียด
“ข้าแค่ต้องการรู้ว่าใครเป็นคนทำ!” เจ้าเมืองลมดำรู้สึกศีรษะพองโตหลังจากที่คดีฆาตกรรมโชกเลือดเกิดขึ้นในเมืองของเขาเอง เจ้าสำนักร้อยสนจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไปได้ยังไง?
“ท่านเจ้าเมือง,สมาคมทหารรับจ้างสงวนสิทธิ์และปฏิเสธจะเปิดเผยข้อมูลผู้รับรางวัล” ขุนพลจินฟงพูดว่าเขาไม่อาจหาข้อมูลได้
“เจ้าใช้สิทธิ์เจ้าเมืองของข้าไม่ได้หรือ?” เจ้าเมืองลมดำโกรธ
“สมาคมทหารรับจ้างปฏิเสธจะเปิดเผยแม้จะใช้สิทธิ์นั้นก็ตาม” ขุนพลจินฟงตอบ
“ว่าไงนะ?” เจ้าเมืองลมดำตะลึง แม้เขาจะใช้สิทธิ์ของเจ้าเมืองก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้อีกหรือ? เรื่องนี้ลึกซึ้งยากจะหยั่งจริงๆ!
“สมาคมทหารรับจ้างมีกฎป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้รับเงินรางวัลผู้รับรางวัลนั้นจะต้องสมัครขอรับการปกป้องข้อมูลดังนั้นเว้นแต่เจ้าสำนักร้อยสนมาขอให้ตั้งรางวัลจับด้วยตนเอง เราคงไม่สามารถหาข้อมูลคนรับรางวัลได้แม้ว่าเราจะใช้สิทธิ์ของเราก็ตาม” ขุนพลจินฟงพยักหน้าเล็กน้อย เขามั่นใจว่ากระบวนการสืบสวนคงจะยุ่งยากมาก
“งั้นเราคงได้แต่รอผู้เฒ่าไป๋ซ่งฆ่าเบิกทางให้เราจนถึงที่นี่หรือ?” เจ้าเมืองลมดำโกรธ เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องสงบ แต่เขาไม่สามารถสงบได้หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น
“ข้อสอบสวนแล้วและพบข้อน่าสงสัยสองสามจุด ความจริงบุรุษชุดดำผู้แต่งตัวเหมือนขโมยน่าสงสัยที่สุดเพราะเขาเป็นคนเดียวที่สามารถยืนยันสถานะของเขาได้ เวลานั้นเขาพาผู้คุ้มกันสตรีพิเศษเข้ามาในสมาคมทหารรับเจ้าง และหลังจากเขาแล้วก็คนสองสามคนเข้ามาในสมาคม แต่ไม่มีใครในนั้นเป็นผู้รับรางวัล” ขุนพลจินฟงหยุดเล็กน้อยก่อนกระแอมเบาๆ “อย่างไรก็ตามพลังของขโมยผู้นี้ค่อนข้างต่ำ เขาน่าจะเป็นนักสู้ปราณดินระดับสาม แม้แต่สตรีผู้คุ้มกันทั้งสองก็มีพื้นฐานที่สูง แต่พวกนางยังห่างจากระดับปราณฟ้า เป็นไปไม่ได้ที่พวกนางจะฆ่านักสู้ปราณฟ้าอย่างคุณชายซ่งเทา...”
“เจ้าหมายความว่าเขาเป็นคนหิ้วศีรษะไปงั้นหรือ?” ยอดฝีมือชั้นปราณฟ้าอีกคนหนึ่งฆ่าคุณชายซ่งเทาและทิ้งศพเขาไว้ ขโมยชาวมนุษย์ผู้มีพลังต่ำนี้แค่พบเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงมาที่สมาคมทหารรับจ้างเพื่อรับรางวัลใช่ไหม?” เจ้าเมืองลมดำไม่โง่ แม้ว่าเขาจะโกรธ แต่เขาก็เข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง
“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ข้ารู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ใครบางคนต้องการใส่ร้ายเรา” ขุนพลจินฟงหยุดพูดหลังจากกล่าวจบ
“ถูกแล้ว,เราได้ผลประโยชน์จากการกระจายข่าวการปล้นครั้งล่าสุดทำให้ตลาดมืดรุ่งเรืองขึ้นมาก...เป็นธรรมดาอยู่นั่นเองที่จะมีคนอิจฉา...”
ดวงตาของเจ้าเมืองลมดำทอประกายเย็นชาวูบ
เขาโบกมือและออกคำสั่ง “รายงานสถานการณ์ไปที่สำนักร้อยสนอธิบายรายละเอียดของสถานการณ์และข้อวิเคราะห์ให้ชัดเจน ผู้เฒ่าไป๋ซ่งนั้นไม่โง่ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอกที่จะทำให้เขาต้องต่อสู้กับเรา! แน่นอนเรายังจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทั้งสองทาง ทางหนึ่งเราจำเป็นต้องสืบหาผู้กระทำความผิดที่แท้จริงอย่างรวดเร็ว และจะดีที่สุดให้เริ่มที่ขโมยชาวมนุษย์ผู้อ่อนแอนั้นและใครจะใจไม่ถึงพอจะซื้อสมบัติปกป้องตนเอง และอีกทางหนึ่งเราต้องรายงานไปที่เจ้าแคว้นมรกตถ้าคิดจะเอาพันธมิตรหลายกลุ่มมาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้กับข้า เฮยฟง ฝันไปเถอะ”
เป็นธรรมดาที่ขุนพลจินฟงรับคำสั่งและใช้กำลังคนทั้งหมดของเขา เขามองหาขโมยชาวมนุษย์ที่มีนักสู้หญิงสองคนคอยคุ้มครองเขา
ขณะนี้เองเย่ว์หยางกลายเป็นหนุ่มโสดเต็มที่
เมื่อเอาศีรษะของคุณชายซ่งเทาและคนอื่นไปรับรางวัลแล้ว เขาจงใจเรียกสองสาวมังกรเทพองครักษ์ศึกออกมาเป็นสหายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรู
นอกจากนี้เขายังใช้สถานะขโมยชาวมนุษย์แสดงความแข็งแกร่งของนักสู้ปราณดินระดับสาม เขาระมัดระวังตัวโดยเฉพาะเมื่อเดินผ่านยามรักษาการณ์และและโรงเตี๊ยมทหารรับจ้างปล่อยพวกเขาเข้าไปเมื่อเห็นพลังของเขา
เมื่อเขากลับคืนลักษณะมนุษย์ดังเดิมเขามีเพียงพลังของมนุษย์นักธุรกิจผู้น้อย
นั่นจะปลอดภัยมาก!
ไม่มีใครสงสัยเขาเลย และไม่มีใครเชื่อว่านักธุรกิจชาวมนุษย์ผู้ไม่ได้ฝึกแม้แต่พลังปราณดินจะฆ่าผู้ฝึกฝนระดับปราณฟ้าสามคนได้ แม้แต่คนบ้าก็ยังไม่คิดเช่นนั้น
จงใช้เวลาค้นหายอดฝีมือปราณฟ้าอย่างที่เจ้าคิดไปเถอะ!
เย่ว์หยางผิวปากตลอดทางกลับไปยังโรงแรมที่เขาจองไว้พัก
เขาพอใจกับสิ่งที่เขาได้รับเมื่อคืนนี้ สิ่งเดียวที่เขายังรู้สึกเสียดายอยู่บ้างก็คือศีรษะของนักสู้ปราณฟ้าที่เป็นองครักษ์ราคาไม่สูงนัก บางทีคงเป็นเพราะพวกเขาเป็นองครักษ์มานาน แต่ค่าหัวของพวกเขามีเพียงสิบล้านเหรียญแค่หนึ่งในห้าของค่าหัวคุณชายซ่งเทา
สมาคมทหารรับเจ้าเรียกภาษีเจ็ดสิบล้านของเย่ว์หยางอย่างหนักประกอบกับการสมัครเพื่อป้องกันข้อมูลรางวัลที่เย่ว์หยางได้รับสุทธิจึงอยู่ที่หกสิบล้าน
รวมสิบล้านถูกหักเข้าสมาคมทหารรับจ้าง
ถ้าเป็นแบบนี้ ถ้าข้อมูลส่วนตัวของเย่ว์หยางไม่สามารถปกป้องได้ อย่างนั้นใครยังจะกล้าเอาศีรษะมารับรางวัลเล่า?
แน่นอนว่าไม่สำคัญอยู่ดีถ้าหากสมาคมทหารรับจ้างทำข้อมูลของพวกเขารั่วไหลไป เพราะเย่ว์หยางลงทะเบียนไว้ว่าเป็นจวินอู๋เย่เตรียมนักสู้ปราณดิน พ่อค้าผู้เดินทางมาจากแดนสวรรค์ตะวันตก
ใครรู้จักจวินอู๋เย่?
นอกจากนี้เผ่าหัวกลมเปากู่ก็ได้ยินชื่อของเขา เย่ว์หยางไม่มีโอกาสบอกชื่อของเขากับบุคคลที่สาม...ถ้าเขาถอยกลับไปก้าวหนึ่ง ต่อให้คนหัวกลมเปากู่รู้ว่าจวินอู๋เย่ก่อคดีมาเขาจะไม่สงสัยเย่ว์หยางใครจะเชื่อกันว่านักธุรกิจท่องเที่ยวผู้ไม่มีพลังระดับปราณดินจะสามารถฆ่านักรบปราณฟ้าได้ถึงสามคนรวมทั้งคุณชายซ่งเทา?
หลังจากได้รับรางวัลค่าหัวหกสิบล้าน เย่ว์หยางมีความสุขพักอยู่ในโลกคัมภีร์และหลับจนกระทั่งตื่นขึ้นตามปกติ
ปัจจุบันนี้เขาไม่มีความกดดันเรื่องเงินอีกต่อไปแล้ว
แน่นอนว่าการปล้นทำให้ได้เงินมาอย่างรวดเร็ว!
ภายใต้การดูแลของสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์เขารับอาหารเช้าจากนั้นเปลี่ยนเป็นชุดนักรบที่เข้ากันกับเมืองลมดำและเดินวางมาดออกจากโรงแรม
“สวัสดียามบ่ายน้องจวิน” ปกติเขาจะโม้กับคนรอบๆ ตัวเขาแต่ทันทีที่เขาเห็นเย่ว์หยางเดินออกมา เขาเข้ามาหาและโบกมือทักทาย จากนั้นเขาถามเป็นนัย “น้องจวิน,ข้าเข้าใจว่าเจ้าไม่รู้เรื่องสั่นสะเทือนโลกที่เกิดเมื่อคืนสินะ?”
“อะไรเหรอ?” เย่ว์หยางทำเป็นไม่รู้ กิริยาของเขาให้อารมณ์ร่วมดีมาก
“คุณชายซ่งเทาตายแล้ว! เขาถูกตัดศีรษะตายคาที่! เขาถูกฆ่าในท่าเดียว!” และราวกับว่าเขาได้พบเจอมากับตาตัวเอง เขาใช้มือทำท่าตัดคอเขาเอง จากนั้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสันนิษฐานกับเย่ว์หยาง เขาลดเสียงกล่าว “เมื่อวานนี้ข้าพูดอะไรไป?” เมื่อวานนี้ในโรงประมูลเขาทำท่าหยิ่งยโสทำให้ผู้มีอิทธิพลระดับปราณฟ้าไม่พอใจ ตอนดึกคืนก่อนเขาเริ่มไล่ตามและฆ่าในจวนของเจ้าเมือง แม้ว่าคุณชายซ่งเทาจะมีพลังระดับปราณฟ้าแต่เขาจะเทียบกับยอดฝีมือปราณฟ้าลึกลับได้อย่างไร! อย่างไรก็ตามภายใต้การปกป้องขององครักษ์ทั้งสอง พวกเขาทำได้แต่เพียงหนีไปได้ 20 กิโลเมตร ก่อนที่พวกเขาจะไปซ่อนตัวในหมู่บ้านและพวกเขาถูกฆ่าโดยยอดฝีมือปราณฟ้าลึกลับ... ข้าได้ยินมาว่าสิ่งที่สนุกที่สุดก็คือยอดฝีมือปราณฟ้านั้นเหมือนกับฆ่ามดแล้วก็เดินจากไป เขากล้าเดินจากไปจริงศีรษะของคุณชายซ่งเทาถูกขโมยผู้โชคดีคนหนึ่งและสหายหญิงของเขาสองคนพบเจอ ช่างน่าเสียดายที่ข้ามีงานเลี้ยงกับพี่หม่าเมื่อคืนนี้ มิฉะนั้นสิบล้านเหรียญทางคงได้เหลือติดกระเป๋าข้าบ้าง!”
“โอว..เป็นแบบนั้นหรอกหรือ?!” เย่ว์หยางปั้นหน้าเหมือนได้รับรู้ข้อมูลฉับพลันและมีสีหน้าเสียดาย “ข้าพลาดเงินสิบล้านไปอย่างนั้นเหมือนกัน”
“ใช่แล้ว!” บุรุษหัวกลมเปากู่ยังคงผิดหวังเล็กน้อย แต่กลับคืนเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วและกล่าว “เรื่องนี้จะยังไม่จบแน่ เจ้าสำนักไป๋ซ่งจะนั่งอยู่เฉยๆมองดูลูกรักถูกตัดศีรษะได้ยังไง? เขาจะต้องมาสืบสวนที่เมืองลมดำแน่นอน บางทีอาจจะมีสงครามระดับนักสู้ปราณฟ้า”
“นับแต่เกิดเรื่องนี้ข้ายังคงอยู่ที่นี่และมองดูเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไป!” เย่ว์หยางยิ้มและพยักหน้า
“ถ้าน้องจวินไม่ยอมอยู่ดูที่นี่อย่างนั้นก็คงเสียเปล่า...มาเถอะ เราไปหาอะไรดื่มกันที่ร้านเถอะ ข้ายังมีข่าวจากคนรู้จักที่ทำงานให้เจ้าเมือง เขากล่าวถึงเรื่องนี้กัน....” เขามองดูรอบๆและลดเสียงกระซิบข้าหูเย่ว์หยาง “ข้าเกรงว่าเรื่องนี้จะถูกปล่อยเพื่อให้ร้ายเจ้าเมือง แต่เจ้าระวังให้ดีเมื่อเวลาจะพูด ข้าคิดว่าน้องจวินเป็นคนน่าเชื่อถือพอ มิฉะนั้นข้าคงไม่กล้าบอก”
“พี่เปา,ได้โปรดวางใจข้าเถอะ อย่างไรก็ตามข้าไม่เคยคิดว่าพี่เปาจะเต็มไปด้วยไหวพริบมากนัก แม้แต่ที่พักของเจ้าเมืองก็ยังเอามาพูดได้ ข้าประทับใจจริงๆ!” เย่ว์หยางยอเปากู่
ในที่ห่างไกลมีผู้ขับขี่แมมมอธยักษ์ เขาแต่งตัวอย่างหรูหรางดงามเป็นท่านบาร์ตันที่ดูเหมือนหมูนั่นเอง
ท่านบาร์ตันจำเย่ว์หยางไม่ได้
เขาลืมไปแล้ว
แต่พอบ่าวหญิงผู้งดงามกวาดตามองมาที่เย่ว์หยางเมื่อเห็นเย่ว์หยางในท่ามกลางคนเป็นหมื่นบนถนน สายตาแยกแยะของนางน่าทึ่งจริงๆ เมื่อเย่ว์หยางเงยหน้ามองนาง นางหลบตาไม่กล้าสบตาเย่ว์หยาง ดูเหมือนนางรู้ว่าถ้านางมองเขาเย่ว์หยางจะรู้ตัวได้
“คนผู้นี้คือท่านบาร์ตันฉายาสุกรขาว แม้ว่าเขาจะประดับเพชรพลอยเต็มตัว แต่เขาเป็นผู้ค้าทาสเป็นคนสนิทหมายเลขสองของเจ้าเมือง”
คนหัวกลมเปากู่ไม่กล้าพูดอะไรเขารอจนกระทั่งช้างแมมมอธไปไกลๆ ก่อนที่เขาจะถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างดุเดือด
เย่ว์หยางคาดว่าเปากู่และท่านบาร์ตันคงมีเรื่องแค้นเคืองกันอยู่
ก็แค่อ่อนแอเกินกว่าจะต่อต้าน
เย่ว์หยางเปลี่ยนหัวข้อและถาม “พี่เปาวันนี้มีของดีอะไรมาประมูลที่โรงประมูลบ้าง?”
คำถามนี้ถูกต้องคนหัวกลมเปากู่คุยโตโอ้อวดเรื่องของตนต่อไปทันที เขาแนะนำรายการของและราคาต่างๆ ขณะที่ประเมินเย่ว์หยางไปด้วย...เย่ว์หยางฟังหูซ้ายทะลุหูขวา เขาไม่สนใจของธรรมดา แต่ชื่อที่เปากู่กล่าวถึงทำให้เขาสะท้านใจเล็กน้อย
“เมื่อเร็วๆนี้มีของดีๆ หลายอย่างนำมาประมูล กล่าวโดยทั่วไป ของดีๆ เก็บเอาไว้ในโรงประมูล เจ้ารู้ไหม ใครคือทาสคนสุดท้ายของปีนี้?เจ้าไม่มีทางคิด ไม่มีทางได้ยินแน่นอน แต่ชื่อนี้ในแดนสวรรค์ใต้ของเราไม่ธรรมดาแน่นอน! นางคือหัวหน้าก๊กโจรเพลิงพิโรธสาวยักษ์ที่ได้รับสืบสายเลือดมังกร! ได้ยินว่าเพื่อให้ได้รับรางวัล 530 ล้านทองเพื่อจะจับนางให้ได้ นักสู้ปราณฟ้าสิบคนร่วมมือกัน และทำได้สำเร็จในที่สุด เจ้าพูดว่าระดับปราณฟ้าธรรมดาหรือ? ปราณฟ้าระดับหนึ่งอย่างคุณชายซ่งเทาก็แค่ขนมเท่านั้น แค่เพียงสาวยักษ์นางนี้ยกมืออัณฑะคุณชายซ่งเทาก็ระเบิดแล้ว...แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่คุณชายซ่งเทาจะเล่นกับไฟอย่างนี้ ศีรษะเขาได้หลุดแน่ พันล้าน ถ้าข้าได้สักพันล้าน ข้าจะขายสาวยักษ์ลี่เยี่ยนแน่ น่าเสียดาย...”
ในที่สุดสาวยักษ์ลี่เยี่ยนผู้โง่เขลาก็ถูกโจรตัวตลกจับอีกหรือ?
สีหน้าเย่ว์หยางไม่เปลี่ยนแต่เขาเป็นคู่ต่อสู้ของเสี่ยวโฉ่ว ดูเหมือนว่าเขาประเมินเสี่ยวโฉ่วต่ำไป!