ตอนที่ 669 ตาทิพย์ระบุสมบัติ
อาคารใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในเมืองลมดำอยู่ภายในตลาดมืด
ขณะที่เย่ว์หยางเดินเข้าไปเขาตระหนักได้ว่าที่นี่กว้างขวางมาก พื้นที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงสูง มีสามช่วงตึกจากตะวันออกไปทางตะวันตกซึ่งมีสินค้าดีๆทั้งหมดวางอยู่ในร้าน และมีคนชมดูหนาแน่นกว่าตลาดทั่วไปคนจากทุกเผ่าพันธุ์มารวมกันที่นี่เหมือนมีมหกรรมถนนทองจากเหนือไปถึงใต้พอให้รถม้าสิบคันวิ่งผ่าน เชื่อมโยงอาคารทั้งสามหลัง มีอาคารขนาดใหญ่สูงเทียมเมฆ อาคารที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมือง เป็นที่สองรองจากจวนเจ้าเมืองเรียกว่าอาคารพาณิชย์ทอง
การเข้าสู่ตลาดมืดไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม และต้องการแค่เพียงลงทะเบียนชื่อเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือการขาย
อย่างไรก็ตามการเข้าไปในอาคารพาณิชย์ทอง บางคนจะต้องซื้อตั๋ว เย่ว์หยางใช้เงินสิบเหรียญทองซื้อตั๋วใบหนึ่งเข้าอาคาร
“เชิญดูๆ กระดูกเสือเพลิงอย่างดีที่สุด! เมื่อใช้ของนี้ผสมเหล้าจะช่วยขับไล่พิษความหนาวเหน็บ เสริมสุขภาพให้แข็งแรงเหล้าที่ผสมกระดูกเสือนี้มีราคาขวดละหนึ่งเหรียญทอง ดีต่อสุขภาพหัวใจของท่าน เชิญดูๆ! นี่คือกระดูกเสือเพลิง นี่หนังเสือ นี่ตัวเดียวอันเดียวของเสือ แน่นอนว่านี้มีราคาร้อยเหรียญทอง ข้าไม่ลดราคาแม้แต่เหรียญเดียว” ทั้งสองข้างทางมีแผงลอยชั่วคราว
พ่อค้าเร่บางส่วนไม่ได้มีสถานะการเงินดีพอจะอยู่ในตลาดมืดได้นานดังนั้นพวกเขาทำได้แต่เช่าแผงริมทางและส่งเสียงตะโกน
เย่ว์หยางเห็นแทบจะเหมือนกันทุกแผงลอยก่อนที่เขาจะเทเลพอร์ต แต่เป็นความสะดวกสำหรับพ่อค้าที่นี่เพราะไม่มีผู้ตรวจการเมือง
เว้นแต่จะมีธุรกรรมเกิน100 เหรียญทอง ทางตลาดมืดจะไม่เก็บภาษี
ค่าธรรมเนียมจัดการ?
ป้องกันการซื้อแผงลอยไม่ให้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมือง?
ผู้คนไม่เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้ในแดนสวรรค์ ตราบใดที่พ่อค้าเร่ไม่รับการจัดระเบียบแผงลอยที่หน้าจวนเจ้าเมืองก็คงไม่มีใครสนใจพวกเขา
“ไข่แมลงปอแดง เมื่อทำสัญญามันจะฟักตัวทันที เมื่อฟักตัวแล้วแทบจะมีพลังปราณดินระดับหนึ่ง พอโตขึ้นจะมีพลังระดับปราณฟ้า ขายเพียง 50 เหรียญทอง! ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งนี่เป็นตัวพิเศษหนึ่งในร้อยที่รอดจากโรคระบาด ฝึกปรือฟรี พ่อหนุ่มรูปงามทำไมเจ้าไม่ซื้อสักตัวเล่า? เมื่อมันโตขึ้นมันจะกลายเป็นแมลงปอแดง อสูรรบ และนั่นคือจ้าวเวหาที่แท้จริง!” พ่อค้าเร่หัวโตพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะขายให้เย่ว์หยาง
“มันจะกลายเป็นจ้าวเวหาแน่นอน แต่จะต้องฝึกมันนานเท่าไหร่?” เย่ว์หยางถามพลางยิ้ม
“อา, ขึ้นอยู่กับทักษะการฝึกฝน..”มนุษย์หัวกลมมีท่าทางอายเล็กน้อยไม่คิดว่าเย่ว์หยางจะถามเขาเกี่ยวกับจุดอ่อนของแมลงปอแดง
แมลงปอแดงถ้าโตเต็มวัยจะไม่อ่อนแอ
อย่างไรก็ตามช่วงระยะเวลาเติบโตนั้นยาวนานเกินไป หลายร้อยปีเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเวลาต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามพันปีเพื่อการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
ที่สำคัญยิ่งกว่าตัวอ่อนแมลงปอแดงเรียกกันว่า แมลงน้ำต้องอาศัยอยู่ในน้ำเป็นเวลายาวนานจับตัวอ่อนแมลงอื่นหรือไม่ก็ปลา กุ้งเป็นอาหารเปลี่ยนรูปลักษณ์ตั้งหลายครั้ง แต่ละตัวอ่อนมีพฤติกรรมการกินอาหารที่แตกต่างไปและต้องใช้เวลาหลายพันปีกว่าตัวอ่อนจะเติบโตเต็มวัยและกลายเป็นแมลงปอแดง สำหรับมนุษย์คนหนึ่งการฝึกอสูรรบที่ต้องใช้เวลายาวนานและซับซ้อนเป็นเรื่องไร้ความหมายเป็นการกระทำที่โง่เขลา นอกจากนี้ระหว่างกระบวนการฝึกปรือ อาจเกิดอุบัติเหตุบางอย่างได้ถ้าตัวอ่อนแมลงปอแดงอ่อนแอตาย อย่างนั้นที่ทำมาก็เป็นการสูญเปล่า!
มนุษย์หัวกลมไม่กล้าโม้มากเมื่อเขาสังเกตว่าเย่ว์หยางอาจรู้เรื่องธุรกิจ
เขาล้วงขวดใบหนึ่งออกมาและรีบเขย่าอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเย่ว์หยางจะเห็นหรือไม่พ่อค้ากล่าวอย่างเป็นนัย “น้องชายตัวอ่อนด้วงเกราะทองได้รับการขนานนามว่าพยัคฆ์น้ำเกราะทอง มันดุร้ายมาก ใช้เวลาเติบโตสั้นมากอัตราการกลายพันธุ์สูง อัตราการเสียชีวิตก่อนวัยต่ำ มันเป็นสัตว์เป็นมิตรที่สุดในแดนสวรรค์ 100เหรียญทอง ข้าแถมลูกอ๊อดหลังดำให้สิบตัวและกุ้งเท้าบางอีกสิบตัวเอาไว้ฝึกฝน เจ้าคิดว่ายังไง?”
เย่ว์หยางรู้ว่าคนผู้นี้พูดจริงแต่เฉพาะข้อดีโดยไม่พูดข้อเสียใดๆ
ด้วงเกราะทองเป็นอสูรที่ป้องกันน้ำได้ดี ถ้าเลี้ยงอย่างถูกต้อง มันจะกลายเป็นอสูรที่น่ากลัวมากตั้งแต่ช่วงเวลาที่มันเกิด
อย่างไรก็ตามจุดอ่อนยิ่งใหญ่ที่สุดของมันก็คือความตะกละ ถ้าอสูรรบทั้งหมดในแดนสวรรค์ถูกจัดลำดับไว้ ด้วงเกราะทองอาจเข้าทำเนียบติดอันดับหนึ่งในอสูรที่ตะกละที่สุด
ตามบันทึกลับแดนสวรรค์ที่เขาได้รับมาจากผู้เฒ่าหนานกง เขียนขึ้นโดยมหาบัณฑิตตันชิงยุคจักรพรรดิอวี้ด้วงเกราะทองคือหนึ่งในอสูรแดนสวรรค์ 3600 ชนิดที่ถูกเขียนบันทึกไว้นิสัยของมันตะกละ! กล่าวกันว่ามีใครบางคนเคยทดลองมาแล้ว ระบุว่าด้วงเกราะทองสามารถกินอาหารได้มากกว่ามังกรหนุ่มสิบตัว ถ้าคนธรรมดาต้องการฝึกปรือด้วงเกราะทองที่มีความหิวกระหายไม่รู้จบพวกเขาจะตายเพราะความยากจน
ทั้งนี้เป็นเพราะการฝึกปรือด้วงเกราะทองสิ้นเปลืองยิ่งกว่าการฝึกปรือมังกรยักษ์เสียอีก แล้วจะทนกับเรื่องนี้ได้ยังไง?
มันกินจุยิ่งกว่ามังกรเสียอีก แต่พลังของมันน้อยกว่ามังกรเล็กน้อย
นี่มันอสูรรบแบบไหน?
แน่นอนว่าประโยชน์ใช้งานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของด้วงเกราะทองไม่ใช่เอาไว้ต่อสู้ แต่เอาไว้กิน
มันคืออาหารโอชะโดยเฉพาะอย่างยิ่งอสูรแมลงที่เปลี่ยนไปเป็นด้วงเกราะทองนั่นคืออาหารโอชะคุณภาพสูงสุดในแดนสวรรค์ แต่บางทีอาจจะมีเฉพาะเจ้านายใหญ่โตในแดนสวรรค์เช่นราชาใจสิงห์ก็ได้ที่ชอบกิน!
“แล้วมีด้วงเต็มวัยบ้างไหม?” เย่ว์หยางถามอย่างเอาเรื่อง ถ้าคนหัวกลมบอกว่ามีเป้าหมายแรกของเย่ว์หยางจะต้องเป็นเขาแน่นอน โชคดีที่คนหัวกลมมีสีหน้าจนใจขณะโบกมือ “ถ้ามีตัวเต็มวัย ข้ายังต้องมาขายที่นี่หรือ? ข้าคงได้รับเชิญให้เข้าไปในตลาดประมูลนานแล้วเจ้าอาจไม่รู้ว่าบางครั้งที่ผ่านมา เจ้าแคว้นมรกตซื้อด้วงเกราะทองปราณดินระดับห้าและใช้ในงานจัดเลี้ยง มันราคาตั้งห้าแสนเหรียญทองข้ากล้าตบอกรับรองได้เลยว่าถ้าด้วงเกราะทองอยู่ในระดับที่สูงกว่าอาจจะระดับเจ็ดหรือเหนือกว่า อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะขายกันในราคาน้อยกว่าล้านเหรียญทอง เจ้าต้องเข้าใจนะว่าระดับของมันเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ความอร่อยก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว”
“น่าเสียดาย” เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการเขาหมุนตัวและเดินจากไป
“โอว!” เมื่อบุรุษหัวกลมสังเกตว่าธุรกิจไม่ประสบผลสำเร็จเขาได้แต่ระบายลมหายใจยาว เมื่อพบกับคนที่เข้าใจเรื่องธุรกิจที่เขาทำต่อให้เขาสามารถปั้นคำพูดเป็นดอกบัว เขาก็คงทำอะไรไม่ได้
เย่ว์หยางเดินดูรอบตลาดมืด
มีสิ่งของมีค่าไม่ว่าจะเป็นอสูรรบหรือแร่ หรือสมบัติ เขาจะแอบบันทึกเอาไว้
ในไม่ช้าก็เร็วเขาคงต้องลงมือแน่ แน่นอนว่าเขาต้องเลือกของดีๆ สำหรับของอย่างตัวอ่อนด้วงเกราะทองและตัวอ่อนแมลงปอแดง เขาไม่เคยต้องการมันเลย แค่นี้คงไม่พอให้ฮุยไท่หลาง และเขาคงไม่หาเรื่องลำบากให้ตัวเองถ้าเขามีตัวอ่อนที่สามารถกินอาหารได้มากกว่ามังกรยักษ์?
มีของดีๆอยู่มากมายบนถนนแผงลอย แต่ว่ามีน้อยเกินไป
ยกเว้นร้านขายสมบัติสองสามร้าน เย่ว์หยางรังเกียจของธรรมดา
เจ้าอยากได้ของขวัญหรือไม่?
เป็นเรื่องยากมากแม้ว่าจะเป็นแค่เพียงก้านหญ้า คนที่นี่จะยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาจกล่าวได้ว่าคุณค่าของสิ่งของที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ที่นี่ถูกพวกพ่อค้าขุดค้นมา สำหรับราคานั้นก็สมเหตุผลมากจะมีบางอย่างเท่านั้นที่แพงกว่าที่อื่นอยู่เล็กน้อยไม่ขาดไม่เกิน แค่แพงกว่าสิบเท่าเอง เย่ว์หยางมีพรสวรรค์ในการแยกแยะ เดินดูรอบๆแถวนี้เป็นเวลานานและพบว่ามีสมบัติเพียงอย่างเพียงนั่นคือเถาปรสิตซึ่งพ่อค้าที่นี่ไม่รู้จัก
เมื่อเขาแนะนำให้แลกเถาปรสิตกับผลึกเวทของเขาคนขายแก่ผิวเหี่ยวย่นเหมือนเปลือกไม้เก่ากำลังหลับตาถึงกับเลิกคิ้วตาเป็นประกายน่ากลัว
เขาเสนอเงื่อนไขว่าไม่เพียงแต่เขาจะให้เถาปรสิตนี้กับเย่ว์หยางเท่านั้น แต่เขาจะให้ร้อยเหรียญทองกับเย่ว์หยางด้วย
ในการแลกเปลี่ยนเย่ว์หยางจะต้องบอกเขาเกี่ยวกับผลกระทบของเถาปรสิต
“อย่างนั้นก็ช่างเถอะ” เย่ว์หยางหมุนตัวเดินออกมา
“เดี๋ยวก่อน” เจ้าของร้านชราผู้ดูเหมือนอาจตายได้ทุกเมื่อเพราะความชราภาพ เคลื่อนไหวเร็วกว่าเสือชีตาร์และหยุดเย่ว์หยางไว้ เขาทักทายอย่างให้เกียรติและจริงใจเชิญเย่ว์หยางให้เข้ามารับน้ำชาในร้าน
เถ้าแก่ร้านค้าไม่มีความคลางแคลงใจเรื่องผลกระทบของเถาปรสิตทันที แต่ค่อนข้างกระตือรือร้นเอาเหล้าชั้นดีและกับแกล้มออกมาต้อนรับเย่ว์หยาง
เมื่อเย่ว์หยางกินอาหารเย็นและเหล้าจนอิ่มเอมแล้ว เขาวางทับทิมเพชรทับทิมสามเม็ดเทียบเท่ากับหมื่นเหรียญทองและไม้กฤษณาที่มีค่าหมื่นเหรียญทอง สิ่งเหล่านี้เย่ว์หยางได้สังเกตแล้วเมื่อตอนเข้ามาที่ร้าน แม้แต่เย่ว์หยางเองก็ไม่คาดว่าแค่เพียงเหลือบมองดู เถ้าแก่ร้านชราหนังเหี่ยวย่นก็สังเกตได้ทั้งที่เขายังหลับตา ตาของนักธุรกิจคมกล้าจริงๆ
ในที่สุดก็ได้เถาปรสิตและการ์ดเงินมูลค่าหมื่นเหรียญทอง
หลังจากนำเสนอสิ่งเหล่านี้เถ้าแก่ชราคำนับเย่ว์หยางอย่างสุดซึ้ง “ถ้าท่านอาคันตุกะผู้มีเกียรติรู้สึกว่าเงื่อนไขตอบแทนยังไม่พอเพียงพูดออกมาได้เลย เราผู้เฒ่าจะทำอย่างดีที่สุด”
“ท่านไม่กลัวว่าเถาปรสิตนี้จะกลายเป็นขยะจริงๆหรือ? การลงทุนหนักขนาดนั้นจะคุ้มค่าไหม? แทนที่จะตอบเย่ว์หยางถามพลางยิ้ม
“ความจริงเมื่อ 500 ปีที่แล้ว ผู้อาวุโสชราท่านหนึ่งเดินผ่านร้านของข้าและถามเกี่ยวกับราคาของเถาปรสิต ข้าไม่อยู่และลูกชายข้ากำลังทำธุรกิจอยู่ในร้านเขารู้สึกว่าเถาปรสิตไม่มีราคามากดังนั้นเขาจึงวุ่นวายอยู่กับตัวเองและทักทายกลุ่มลูกค้าที่คุ้นเคยอื่นจนกระทั่งภายหลังข้าพบว่าผู้อาวุโสท่านนั้นก็คือจ้าวเภสัชจากหุบเขามังกรซ่อน” เถ้าแก่ชราคารวะเย่ว์หยางอีกครั้งและกล่าว“สำหรับเรื่องที่ผ่านมาห้าร้อยปีมีเพียงท่านนี่แหละที่สามารถระบุของนี่เหมือนกับจ้าวเภสัช หมื่นเหรียญทองเป็นข้าต้องการจ่ายแต่เกรงว่าจะไม่เพียงพอ ขอบคุณท่านบัณฑิตผู้ทรงภูมิรู้”
“ท่านเยินยอข้าเกินไปแล้ว ข้าเป็นเพียงผู้เยาว์รุ่นหลังจะมีปัญญาเปี่ยมไปด้วยภูมิรู้ได้ยังไง! เย่ว์หยางหัวเราะปฏิเสธและโบกมือ
“มีสมบัติหายากอย่างหนึ่งในร้านของข้าซึ่งไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนักแค่เอาไว้ตบตานักสู้ที่มีปัญญาน้อย เป็นไปได้ไหมที่คนมีชื่อเสียงอย่างแท้จริงจะทำให้มันมีค่าได้? สิ่งที่ข้าพบว่ามีประโยชน์มากที่สุดก็คือเพชรพลอยและไม้กฤษณาและเมื่อท่านเข้ามา ท่านมองของเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจสินค้าอื่น ถ้าท่านไม่ใช่บัณฑิตผู้ทรงภูมิรู้ท่านจะฉลาดขนาดนี้ได้ยังไง!เมื่อห้าร้อยปีที่แล้ว อาคันตุกะของเราก็มีหลั่งไหลกันมาอย่างมากมาย ใครจะสามารถบอกได้ว่าเถาปรสิตนั้นแตกต่างจากอย่างอื่น?” สายตาของเถ้าแก่ชราร้ายกาจมากทำให้เย่ว์หยางแอบเตรียมพร้อม โชคดีที่คนผู้นี้เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักสู้ทรงพลัง มิฉะนั้นเขาคงเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว
“ถ้าท่านตกลงด้วยว่าในอนาคตเถาปรสิตทุกๆสิบก้านจะเสนอให้ข้าหนึ่งก้าน และข้าเป็นผู้มีสิทธิ์คนแรกที่จะซื้อ อย่างนั้นข้าจะบอกประสิทธิภาพทางยาของเถาปรสิตแก่ท่าน” เย่ว์หยางไตร่ตรองชั่วครู่ก่อนจะยื่นเสนอเงื่อนไข
“ถ้าอาคันตุกะผู้มีเกียรติบอกวิธีปลูกฝังกับข้า ข้าจะเสนอให้สองก้านต่อสิบก้าน” ตาของเถ้าแก่ชราเป็นประกายและเขายื่นข้อเสนอกลับทันที
“....” เย่ว์หยางไม่ตอบ
“สามก้าน ถ้าลูกค้าผู้มีเกียรติบอกวิธีให้กับข้าจะทุ่มเทกำลังปลูกเถาปรสิตอย่างดีที่สุดให้อาคันตุกะผู้มีเกียรติ” เถ้าแก่ร้านค้ารีบเพิ่มเงื่อนไขต่อรอง
“ถ้าเถาปรสิตพิเศษที่ข้ากำหนดไว้ให้ปลูกจะไม่รั่วไหลออกไป อย่างนั้นเราสามารถลงนามในสัญญาได้” เย่ว์หยางไม่กังวลเรื่องข้อมูลรั่วไหล เพราะนอกจากเขาไม่มีใครอื่นสามารถใช้วิธีเช่นนั้นเพื่อปรุงยาได้ เพราะไม่มีใครที่มีเพลิงอมฤต อย่างไรก็ตามเขาจะไม่ลดเงื่อนไขลง ในการเจรจาต่อรอง ยิ่งเงื่อนไขเข้มงวดก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายมีความสุข
เมื่อเย่ว์หยางลงนามในสัญญาด้วยชื่อจวินอู๋เย่ เขาเขียนวิธีเพาะปลูกเถาสี่วิธีลงในกระดาษแต่ละชิ้น
วิธีหนึ่งแจกจ่ายจัดการได้ อีกสามวิธีเป็นความลับ
สัญญาแบบนี้ยังต้องใช้ความพยายาม
หากเถ้าแก่ชราไม่ซื่อสัตย์ปรสิตลับเหล่านี้จะไร้ประโยชน์ต่อคนอื่น นอกจากนี้เย่ว์หยางสามารถบอกได้ว่าเขามีความซื่อสัตย์ต่อสัญญาหรือไม่ ถ้าเถ้าแก่ชราผิดสัญญา เขาสามารถฆ่าเขาได้ทันทีแม้กระทั่งยึดทรัพย์สินของเขา
“วางใจได้ ข้าขอเอาสมบัติในร้านหลายร้อยปีเป็นประกัน” เถ้าแก่ชรายังคงงงตั้งแต่เย่ว์หยางออกไป
ทันทีที่เขาตื่นขึ้นเขาปิดร้านทันที
เย่ว์หยางเอาเถาปรสิตออกมาด้วยทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือรีบกักสัญญาและวิธีปลูกในโดม นี่เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลที่นี่ด้วยเพชรพลอยสามชิ้น ไม้กฤษณาหนึ่งชิ้น เถาปรสิตและเงินหมื่นเหรียญทองเย่ว์หยางเข้าไปในอาคารพาณิชย์ทองเพื่อดูว่ามีการประมูลอะไรดีๆ
มีของดีๆ น้อยมากเป้าหมายที่แท้จริงของเขารับเอาสมบัติที่สามารถประมูลได้