ตอนที่ 668 เปิดประตูรับโจร?
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” กลุ่มองครักษ์รอบๆ ตัวคนอ้วนหัวเราะกันหนักจนน้ำตาเล็ด
โจรน้อยคนหนึ่งผู้มีพลังไม่ถึงระดับปราณดินแต่ภายใต้การจับตาดูแลของกลุ่มองครักษ์ผู้มีพลังระดับ 6 ถึงระดับ 8 ประกาศว่าจะปล้นท่านบาร์ตัน จะมีเรื่องใดในโลกไร้สาระมากไปกว่านี้ไหม? โจรน้อยผู้นี้ยังไม่ตื่นอีกหรือ? ตอนนี้กองทัพที่ตีวงล้อมและกำจัดกลุ่มของขโมย นั่นคือกลุ่มที่ล้อมโจมตีกองคาราวานของท่านบาร์ตันไม่ใช่หรือ?
คนตัวอ้วนหัวเราะอย่างหนักจนแทบหายใจไม่ออก
ในบรรดาสาวใช้มีสาวหุ่นดียั่วยวนนางหนึ่ง เมื่อนางมองดูเย่ว์หยาง สายตาของนางทอประกายประหลาดใจ
เย่ว์หยางถือมีดสั้นไม่สนใจเสียงหัวเราะขององครักษ์รายรอบ และประกาศอย่างใจเย็น “นี่คือการปล้น,ข้าขอประกาศว่าทุกอย่างที่นี่ในหุบเขาสุนัขป่าหอนจะเป็นของข้า ทิ้งของมีค่าทั้งหมดเอาไว้ ทุกคนประสานมือไว้หลังศีรษะ หญิงหลบไปทางซ้าย ชายหลบไปทางขวากระเทยอยู่ตรงกลาง!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้พวกองครักษ์ตะลึง
และจากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น
บางคนหัวเราะจนกระทั่งยืดหลังไม่ออกถึงกับล้มลงไปหัวเราะกลิ้งกับพื้นก็มี
สาวใช้ที่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะกลั้นไม่ให้ตนเองหัวเราะก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป พวกนางไม่กล้าเสียมารยาทต่อหน้าเจ้านายของนาง พวกนางหันหน้าไปหัวเราะทางอื่น
“ฮ่าฮ่า ข้าละขำแทบตาย” คนอ้วนหัวเราะจนกระทั่งมุมปากแทบจะถึงหู เขาหัวเราะจนตัวสะท้าน
“เฮ้ย, ขำมากนักเหรอ?” เย่ว์หยางสับสนอยู่เล็กน้อย เขาจะฆ่าคนสักหลายคนเพื่อแสดงพลังของเขาดีหรือไม่?
“เดี๋ยวก่อน ขอพักแป๊บ..”เจ้าอ้วนผู้นั้นพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อกลั้นหัวเราะเขารับผ้าเช็ดหน้าจากสาวใช้และซับน้ำตาของเขา มีหลายครั้งที่เขาพยายามสงบใจ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทันทีที่เขาเห็นหน้าเย่ว์หยางเขาอดหัวเราะไม่ได้ หลังจากผ่านไปนานอารมณ์ของเขาค่อยมั่นคงและด้วยนิสัยชอบหยอกล้อเขาถามเย่ว์หยาง “เจ้าขโมยน้อยชาวมนุษย์ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังพยายามปล้นใครอยู่?”
“ข้าก็ไม่รู้...” เย่ว์หยางไม่รู้ว่าเจ้าอ้วนนี้เป็นใคร แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญตราบใดที่เขามีเงิน เขาจะเป็นใครไม่สำคัญ
“อ๊า..ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เมื่อองครักษ์ได้ยินเช่นนี้พวกเขาระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง
“อืม.. ข้าควรจะแนะนำตัวเองก่อน!” บุรุษอ้วนพยายามกลั้นหัวเราะ เขาสูบซิการ์ลึกและพ่นควันออก ทำให้หน้าอ้วนๆ ของเขามีควันปกคลุม เขาพูดอย่างลึกลับ “ข้าคือบาร์ตัน ข้าคือพ่อค้าทาสระดับทองในแคว้นมรกตนี้”
“พ่อค้าทาสหรือ?” เย่ว์หยางค่อยเข้าใจเล็กน้อยแต่ยังแกล้งเป็นไม่เข้าใจ
“เจ้า,อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่รู้ว่าการค้าทาสคืออะไร? นี่เจ้าโผล่มาจากประเทศไหนกันแน่?” คนตัวอ้วนพูดไม่ออก เขาคิดว่าชั่วขณะที่เขาเอ่ยคำว่าพ่อค้าทาส เย่ว์หยางจะกลัวเขาจนสั่นไปทั้งตัว ขโมยน้อยนี่ไม่รู้กระทั่งการค้าทาสไม่มีประโยชน์อะไรจะพูดด้วย ทั้งหมดนี้ไม่ต่างอะไรกับสีซอให้ควายฟัง คนตัวอ้วนโบกมือเบาๆ “จับเขาซะ,ระวังอย่าให้ใบหน้ามีบาดแผลล่ะ มนุษย์รูปร่างแบบนี้โดดเด่นและหาได้ยากมาก น่าจะขายได้ราคาดี!”
“ขอรับ ท่านบาร์ตัน”
ขณะที่พวกองครักษ์กำลังเล่นทายนิ้วมือเพื่อตัดสินใจว่าใครจะเป็นคนจับเย่ว์หยางในท้องฟ้าห่างออกไป ขุนพลสองคนมีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่งและผู้ช่วยขุนพลมีพลังปราณดินระดับเก้าหรือสิบบินกลับมาพร้อมเชลยที่จับได้ซึ่งเป็นหัวหน้าก๊กโจร
รวมทั้งหัวหน้าก๊กโจรทอง พวกเขาถูกมัดรวมกันเหมือนเกี๊ยว
สำหรับหัวหน้าที่มีเคราดกแต่ปัญญาน้อยซึ่งเย่ว์หยางได้พบก่อนนั้น เขายังคงถูกอัศวินฝีมือดีของกองทัพจับด้วยและพามาเข้ากลุ่ม
เขาเป็นเพียงหัวหน้าหน่วยเล็กๆ ที่ไม่มีคุณสมบัติได้รับการคุ้มครองและนำตัวไปโดยรองขุนพลเอง แม้แต่หัวหน้าก๊กโจรทอง เจ้าผู้นั้นยังเป็นนักสู้ปราณดินระดับ7 เขาถูกนำตัวมาด้วยเพราะเขาเป็นหัวหน้าก๊กโจร ถือเสียว่าเป็นโบนัสที่จับหัวหน้ากลุ่มโจรอื่นได้ ขุนพลทั้งสองที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งประสานมือคารวะทักทายคนอ้วน
ปกติคนตัวอ้วนไม่กล้ารับการทักทายจากขุนพลระดับปราณฟ้า
เขารีบยืนขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับยืดตัวตรงคำนับตอบอย่างยากลำบากและตอบรับคำทักทาย
“ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการของท่านบาร์ตันผลเก็บเกี่ยวในครั้งนี้คงไม่อุดมสมบูรณ์ ท่านบาร์ตัน! เมื่อข้ากลับไปข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้ท่านเจ้าเมืองทราบเพื่อให้บันทึกความดีความชอบของท่านบาร์ตันเอาไว้” ขุนพลคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้าและยื่นเอกสารปิดผนึกให้กับเจ้าอ้วน จากนั้นโบกมือ สั่งให้กองทัพควบคุมกลุ่มโจรออกไป
“ข้าได้หนึ่งล้านด้วยผลงานนั้น ด้วยผลตอบแทนและความสำเร็จช่างเป็นการค้าที่ยอดเยี่ยมมาก” คนอ้วนจูบเอกสารปิดผนึกอย่างมีความสุข ภายในเอกสารนั้นจะต้องมีเอกสารรับรองทางการเงินรางวัลจากเจ้าเมืองมรกตเป็นแน่
เมื่อทหารจากไปพวกเขาไม่ได้เอาขโมยไปทั้งหมด
เขาเอาไปแต่เพียงขโมยที่มีพลังสูงกว่าปราณดินระดับ3 ปล่อยพวกต่ำกว่าระดับ 3 ไว้ให้เจ้าอ้วน
ในกลุ่มพวกนี้มีเย่ว์หยางรวมอยู่ด้วย พวกองครักษ์ที่เหลือสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดคอยปกป้องท่านบาร์ตัน และที่เหลือบินลงมาไล่ต้อนพวกโจรที่กำลังสั่นด้วยความกลัวและสั่งพวกเขาให้เดินตามหลังพวกเขา ชะตากรรมที่รอคนพวกนี้อยู่ก็คือถูกส่งไปที่ตลาดค้าทาสในตลาดมืดและขายให้เจ้านายหรือสำนักนิกายบางแห่งใช้แรงงานไปจนกว่าจะตาย
แน่นอนว่าการเลือกปฏิบัติก็แตกต่างไปสำหรับบุรุษหนุ่มรูปงามอย่างเย่ว์หยาง
ถ้ามีเจ้านายสตรีที่ชอบบุรุษรูปงาม เขาจะถูกขายออกไปด้วยราคางามอย่างแน่นอน
เย่ว์หยางต้องการใช้มีดแทงเจ้าอ้วนให้ตายนัก จากนั้นปล่อยให้เลือดไหลเหมือนกับหมูที่ถูกเชือดและจากนั้นปล้นทรัพย์ที่เป็นของเจ้าหมูอ้วน
ตอนนี้ดูเหมือนว่ายังมีทางทำเงินเพิ่มรอเขาอยู่ เย่ว์หยางตัดสินใจรอจนกว่าจะถึงตลาดค้าทาสแล้วค่อยปล้นคนรวยจะมีคนรวยอยู่ที่นั่นสักกี่คน? คนรวยคนเดียวอย่างเจ้าอ้วนจะเทียบกับกลุ่มคนรวยได้ยังไง?
เมื่อหัวหน้าองครักษ์ตะโกนสั่งเย่ว์หยางให้มารวมกลุ่มเชลย
เขาเข้าไปร่วมกับกลุ่มเชลยเงียบๆ
ซ่อนตัวอยู่ภายในกลุ่มเชลย
ทำตัวไม่โดดเด่นต่อไปอีก
เหมือนกับว่าไม่เคยมีการปล้นเกิดขึ้น! เจ้าอ้วนและคนอื่นไม่สนใจเป้าหมายอย่างเย่ว์หยาง เขาไม่มีพลังเท่ากับนักสู้ปราณดินด้วยซ้ำ ในสายตาพวกเขา เขาไม่มีอะไรมากไปกว่ามด มีแต่สาวใช้ที่ทรงเสน่ห์และหุ่นดีมองดูเย่ว์หยางอยู่หลายครั้งเมื่อนางแกล้งทำเป็นเหลือบมองเชลย
ในส่วนลึกของดวงตานางมีความว้าวุ่นแน่นอน ราวกับว่ามีบางอย่างทำให้นางสับสน
อย่างไรก็ตามทุกอย่างกลับคืนสู่สามัญอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสังเกตความเปลี่ยนแปลงในดวงตานาง
หลังจากผ่านไปตามหุบเขาสุนัขป่าหอนเรือลำใหญ่มหึมาลอยอยู่ในท้องฟ้าห่างไกล บนเรือมีธงเป็นสัญลักษณ์ของเจ้าเมืองลมดำ
เย่ว์หยางเข้าใจได้ทันทีผู้หนุนหลังบาร์ตันก็คือเจ้าเมืองลมดำ เมืองลมดำอยู่ไม่ไกลจากเมืองใบไม้เขียว ทั้งสองเมืองอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นมรกต เพราะชื่อของเจ้าเมืองก็คือเฮยฟงเมืองที่เขาปกครองจึงชื่อลมดำ (เฮยฟง) เย่ว์หยางรู้ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับเจ้าเมืองผู้นี้ก่อนคำสารภาพของจงกวนและอีกสองคนที่เหลือที่มักเสนอให้ยอมแพ้ ชื่อของเจ้าเมืองลมดำถูกกล่าวว่าเป็นพันธมิตรลับของก๊กโจรตัวตลก ดังนั้นเย่ว์หยางจึงรู้จักเจ้าเมือง
เจ้าเมืองลมดำอ่อนแอกว่าเสี่ยวโฉ่ว(หัวหน้าโจรตัวตลก) แต่เขาไม่ถือว่าอ่อนแอ
พลังของเขาก็คือปราณฟ้าระดับสามเกือบระดับสี่ มีรางวัลค่าหัว 220 ล้าน
เทียบกับนายพลปีศาจจื้อกวงมีค่าหัว650 ล้าน มนุษย์กระดูกราเชลมีค่าหัว 550 ล้าน และหลงเสียง 400 ล้าน รางวัลค่าหัวของเจ้าเมืองลมดำไม่นับว่าสูงแต่ก็ไม่นับว่าต่ำ
ต้องรู้ไว้ก่อนว่าเมื่อเย่ว์หยางทุบตีกระทั่งนายพลปีศาจจื้อกวงต้องใช้ความพยายามมากจนเขาแทบเอาทักษะทั้งหมดมาใช้..ขณะที่เจ้าเมืองลมดำสามารถมีค่าหัวถึง 220 ล้านนับว่าทำได้ดี
เชลยทั้งหมดขึ้นไปในเรือและมุ่งหน้าสู่เมืองลมดำโดยเร็ว
การส่งสินค้ามูลค่าห้าล้านไปยังเมืองใบไม้เขียวเป็นแค่เหยื่อล่อที่บาร์ตันโยนออกไป เป้าหมายที่แท้จริงของเขาก็คือตลาดมืดในเมืองลมดำ
ภายในเมืองเย่ว์หยางเห็นตลาดมืดในตำนาน เขาไม่เคยคิดเลยว่าตลาดมืดสามารถเปิดได้ถูกต้องโดยชอบธรรม ในหอทงเทียนตลาดมืด ไม่ได้รับอนุญาต แต่อาจมีซ่อนเร้นแน่นอน มีตำหนักลับใต้ดินหรือห้องภายในอาคารที่ลอบขายสินค้าต้องห้าม...แดนสวรรค์แตกต่างออกไป ตลาดมืดที่นี่เปิดอย่างเปิดเผยข้างๆ จวนเจ้าเมือง อาคารใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่สองในเมือง แม้แต่คนโง่ก็ไม่เชื่อว่าตลาดมืดไม่มีอะไรเกี่ยวกับเจ้าเมือง
“เฮ้,โจรน้อยชาวมนุษย์ที่หน้าตาดีอยู่ตรงไหน?” หลังจากเข้าไปในตลาดมืด คนอ้วนจำได้ทันทีว่าเขามีเชลยชั้นดี
“ท่านบาร์ตัน โจรน้อยนั่นหายไปแล้ว”หนึ่งในองครักษ์เหงื่อตกรีบรายงาน
“เขาไม่มีแม้กระทั่งพลังปราณดินแล้วหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเจ้าได้ยังไง?” คนตัวอ้วนไม่เชื่อว่าเย่ว์หยางหนีไปแล้ว เขาสงสัยอย่างหนักว่าองครักษ์บางคนหรือพวกโจรคงกินโจรน้อยชาวมนุษย์ ที่เขาตั้งใจจะขายให้ได้ราคาดีเนื่องจากความหิวหรือความอิจฉาก็เป็นได้
คนตัวอ้วนโกรธ
เขารู้ว่าบริวารของเขามีนิสัยชอบกินมนุษย์และมักจะแอบกินนักโทษอยู่เสมอ
เนื่องจากนักโทษธรรมดามีราคาถูก เขามักจะเห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวโดยปริยาย ที่สำคัญคงจะดีถ้ามีเชลยแรงงานที่น้อยลง
อย่างไรก็ตามโจรน้อยชาวมนุษย์มีหน้าตาที่หล่อมาก ถ้าเขาได้รับเสื้อผ้าดีๆ และแต่งตัวเขาจะดึงดูดยอดฝีมือสตรีผู้เปลี่ยวเหงาเข้ามา และเวลานั้นเขาจะขายได้ราคาดีแน่นอน บางทียอดฝีมือสตรีอาจจะใช้เงินจำนวนมากเพื่อให้ได้ชายหนุ่มรูปงามไปครอง
แต่ตอนนี้หนึ่งในบริวารของเขากินมันไปจริงๆ เสียแล้ว เขาโกรธจัดจนเส้นเลือดปูดโปน
พวกเขากินไปแล้วไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครสมองของเจ้าพวกคนคุ้มกันเหล่านี้เต็มไปด้วยขี้เลื่อยงั้นหรือ?
เจ้าอ้วนตัดสินใจระบายอารมณ์โกรธกับบริวารของเขาทุกคนเมื่อทำธุรกรรมเสร็จ สิ่งที่เขาต้องการก็คือบริวารที่เชื่อฟัง สุนัขที่แอบขโมยอาหาร เขาไม่ต้องการ
ขณะนั้นคนที่มีตำแหน่งสูงยืนอยู่ที่ทางเข้าตลาดมืด เจ้าอ้วนพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาบุคลิกที่สงบไว้ ไม่สบถด่าออกมา แม้ว่าในใจของเขาอยากจะใช้แส้หวดบริวารผู้โง่เขลาให้ตายนัก
มองดูผิวเผินเขาไม่ติดใจในเรื่องนี้แต่เขาแอบซ่อนความแค้นไว้ในก้นบึ้งหัวใจ
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนริมฝีปากของสาวใช้ผู้ทรงเสน่ห์ร้อนแรงราวกับว่านางได้คำตอบสำหรับข้อสงสัยของนาง ขณะเดียวกันดูเหมือนนางจะขำขันกับเรื่องโง่เขลาบางอย่าง
อย่างไรก็ตามสีหน้าเช่นนั้นวูบผ่านก่อนจะหายไปกลับคืนสู่ลักษณะสาวใช้ปกติ
พร้อมกันนั้นสาวใช้ทุกคนเดินติดตามบุรุษอ้วน
เมื่อเข้าไปในตลาดมืด
เวลานี้เย่ว์หยางเปลี่ยนชุดแล้วและเข้าไปในตลาดมืดอีกทางเข้าหนึ่ง เขาลงทะเบียนในชื่อว่า จวินอู๋เย่
ข้อได้เปรียบของตลาดมืดก็คือไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นสินค้าชนิดใดก็ตาม พวกเขาสามารถผ่านไปได้โดยไม่มีอุปสรรค..เพียงแค่นั้นจวินอู๋เย่ทหารรับจ้างผู้อื้อฉาวและอ่อนแอมีคุณสมบัติเข้าสู่ตลาดมืด นอกจากนี้หลังจากใช้ทองสิบเหรียญเย่ว์หยางยังได้รับที่นั่งประมูล ถ้าพนักงานลงทะเบียนรู้ว่าเย่ว์หยางมาที่นี่เพื่อปล้นพวกเขา บางทีพวกเขาอาจไม่กระตือรือร้นมากเท่าที่ควร...
“ยินดีต้อนรับ, ท่านลูกค้า ข้าหวังว่าท่านจะพอใจกับผลงาน!” พนักงานลงทะเบียนต้อนรับเย่ว์หยางด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณ, ข้าคิดว่าจะมีผลเก็บเกี่ยวที่ดีในวันนี้” เย่ว์หยางให้ทิปหนึ่งเหรียญทองซึ่งเป็นเหรียญทองแดนสวรรค์เหรียญสุดท้ายที่เขามี