ตอนที่ 666 จำเป็นต้องเที่ยวแดนสวรรค์
“ทรงคุณค่ามากเหลือเกิน!”
จอมปีศาจบารุธ,จ้าวปีศาจฮาซิน, จ้าวปีศาจโอวเกิ้น และราชาลิชกรุนน์,ราชาลิชมาฟาและปีศาจที่เหลือกลืนน้ำลายเอื๊อก พวกเขาไม่อาจระงับความตื่นเต้นได้เมื่อพวกเขาได้เห็นยาเม็ดพลังยุทธระดับปราณฟ้าข
ด้วยยาเม็ดนี้ระดับปราณฟ้าจะไม่ใช่ระดับยากจะผ่านอีกต่อไป
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าใจเคล็ดหัวใจปราณราชันย์ได้ ดังนั้นพวกเขาไม่กล้ากำความหวังอันยิ่งใหญ่นั้นได้
อย่างไรก็ตามระดับปราณฟ้าคือสิ่งที่พวกเขาแสวงหามาตลอดชีวิต ถ้าพวกเขาติดอยู่ภายใต้ระดับปราณฟ้าตลอดไปอย่างนั้นพวกเขาจะพูดเรื่องการปกครองปีศาจแดนนรกได้อย่างไร?
ตอนนี้มีกลุ่มทหารรับจ้างจากแดนสวรรค์ซึ่งมีพลังระดับปราณฟ้าเข้ามา ในฐานะจ้าวปีศาจปกครองแดนนรก ถ้าพวกเขาไม่มีการพัฒนาตนเอง อย่างนั้นพวกเขาจะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะของหอทงเทียน
นอกจากราชาจากแดนปีศาจนรกแล้วยังมีราชาจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ เช่นราชินีเอลฟ์ทอง, จักรพรรดิมังกรเผ่าภูตบูรพาจักรพรรดิบาดาล (ใต้พิภพ) แห่งทวีปมืด...ราชาหลายพระองค์ของหอทงเทียนผู้ไม่สามารถมาถึงพร้อมกันที่ปราสาทสายรุ้งทั้งหมดในสวนน้อยได้เมื่ออยู่ต่อหน้ายาเม็ดพลังยุทธระดับปราณฟ้าไม่มีใครเลยที่ไม่แสดงสายตาโหยหาอยากได้
“ขอบคุณสำหรับวัตถุดิบทั้งหมดข้าโชคดีพอในการปรุงยาเม็ดพลังยุทธระดับปราณฟ้าได้ วันนี้ข้าขอมอบไว้กับจักรพรรดินีราตรีห้าสิบเม็ดและนางจะแจกจ่ายให้ตามที่เห็นสมควร” เย่ว์หยางเจ้าเล่ห์มาก เขารู้ว่าเป็นการยากจะแจกจ่ายได้เพราะวัตถุดิบได้มาจากทุกคน ดังนั้นเขาโยนเผือกร้อนไปที่จักรพรรดินีราตรี
ความจริงเขาต้องการมอบให้จวินอู๋โหย่วและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า
ซึ่งทำให้พวกท่านตกใจแทบตาย
พวกเขาปฏิเสธโดยเร็ว
และเสนอแนะให้เป็นจักรพรรดินีราตรี!
ต่อมาเย่ว์หยางคิดคูแล้วและพบว่ามีแต่เพียงจักรพรรดินีราตรีจึงจะรับมือกับปัญหานี้ได้ดังนั้นเขาผลักปัญหาไปที่นางทันที นอกจากนี้จำนวนยาเม็ดพลังยุทธปราณฟ้านี้ที่เขาปรุงได้ไม่ใช่ห้าสิบเม็ดแต่มีทั้งหมดร้อยห้าสิบเม็ดและเขาไม่ยินดีที่จะเสียไป ดังนั้นเขาจึงเก็บเอาไว้มากกว่าครึ่งเป็นธรรมดา ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลที่เขาต้องการให้ทุกคนรวบรวมวัตถุดิบมาให้เขาเย่ว์หยางคงไม่ใจกว้างขนาดนั้น มิฉะนั้นเขาคงให้อย่างมากเพียงสิบเม็ดเท่านั้น
จักรพรรดินีราตรีแนะนำเขาให้ใจกว้างและปล่อยให้ทุกคนได้รับผลตอบรับที่ดี ด้วยยาเหล่านี้ยังจะกลัวว่าทุกคนจะไม่กระตือรือร้นรวบรวมวัตถุดิบมาให้อีกหรือ?
ดังนั้นเองยาห้าสิบเม็ดจึงถูกส่งออกไปในครั้งเดียว
“ห้าสิบเม็ด!”
ตาของจอมปีศาจบารุธเบิกกว้างไม่น่าจะมีปัญหากับการแบ่งหนึ่งคนต่อหนึ่งเม็ด
แต่จะให้ได้เม็ดที่สองยังไงนี่สิ?
เป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดินีราตรีจะให้รางวัลพวกเขาด้วยยาเพิ่มอีกหนึ่งเม็ดแค่เพียงเพราะพวกเขาจัดหาวัตถุดิบเพิ่ม เพราะยาพลังยุทธปราณฟ้านี้ ยิ่งมากยิ่งดี ยิ่งมากขึ้นหนึ่งเม็ดก็ยิ่งช่วยให้พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้น แต่ทำยังไงพวกเขาจึงจะได้รับยาเม็ดที่สองหรือแม้แต่เม็ดที่สามจากจักรพรรดินีราตรี? นี่คือเรื่องที่พระราชาเผ่าพันธุ์ต่างๆ คิดกัน
นอกจากนี้ แม้ว่าห้าสิบเม็ดดูเหมือนจะเป็นจำนวนที่มาก หลังจากแจกจ่ายไปหนึ่งรอบก็จะตึงเครียดเพราะยาไม่พอสร้างความพอใจให้ทุกคน
“ทุกท่าน! ข้าจะไม่พูดคำใดๆ ที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป พวกท่านควรตัดสินใจด้วยตนเองเป็นดีที่สุด เมื่อท่านรู้สึกว่าคู่ควร ก็ให้มาหาข้า ข้าจะรอทุกท่านอยู่ที่หุบเขาดอกดาวรายหอทงเทียนชั้นที่สิบ” จักรพรรดินีราตรีนำขวดหยกที่บรรจุยาเม็ดพลังยุทธปราณฟ้าออกไปโดยไม่มีการเจรจาต่อรองกับพวกเขา
“.....” จอมปีศาจบารุธและยอดฝีมืออื่นๆมองหน้ากันเองและรีบไล่ตามจักรพรรดินีราตรีไปหุบเขาดารารายอย่างรวดเร็ว
นั่นไม่ใช่เรื่องตลก ถ้ามีใครยื่นเงื่อนไขที่สูงที่สุดและดีที่สุด อย่างนั้นก็จะได้รับยาเม็ดเพิ่ม
กติกา?
นั่นจะเป็นปัญหาไหม?
ตราบเท่าที่เย่ว์หยางต้องการและเป็นไปได้ เขาสามารถขอสิ่งที่เขาต้องการ
เทียบกับยาที่ช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในแดนสวรรค์ซึ่งทุกคนกระหายมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว จะมีอะไรอื่นที่น่าตราตรึงใจและสำคัญมากไปกว่านี้เล่า?
เมื่อเหล่าราชาจากเผ่าพันธุ์ต่างๆจากไปแล้ว เหลืออยู่แต่กลุ่มผู้หลักผู้ใหญ่ที่เย่ว์หยางนับถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจวินอู๋โหย่วและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า ตื่นเต้นแทบตาย
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าตัวพวกเขาเองไม่มีหวังในชีวิตจะขึ้นไปถึงระดับปราณฟ้าแต่ก็ยังห้ามไม่ให้พวกท่านรู้สึกภาคภูมิใจกับยาใหม่ที่เย่ว์หยางปรุงขึ้นมา พวกท่านปฏิเสธทันทีเมื่อเย่ว์หยางต้องการมอบยาเม็ดพลังยุทธปราณฟ้าให้พวกท่านแม้แต่ราชันย์ฟ้าบูรพาผู้ไม่เกรงใจใครยังยกมือห้ามและวิจารณ์เขยขวัญของเขาในครั้งนี้ “เจ้าเด็กโง่ เจ้านึกว่ากำลังแจกถั่วหรือยังไง? พวกเราแก่แล้ว เท้าข้างหนึ่งก้าวลงไปในโลงแล้ว จะเอาของดีๆ อย่างนี้ไปทำซากอะไร? ข้าจะให้ส่วนของข้ากับธิดาข้า ข้ายังจะมีความเสียใจอะไรอีกถ้านางสามารถยกระดับไปจนถึงปราณราชันย์? จะเป็นไรไปถ้าข้าไม่ได้อยู่ในระดับปราณฟ้า? เจ้าไม่เห็นหรือ จอมปีศาจบารุธและราชาอื่นๆที่อยู่ต่อหน้าเรา?”
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าไม่รับยาเม็ดพลังยุทธปราณฟ้าแต่เขาได้รับยาเม็ดพลังยุทธธรรมดาที่เย่ว์หยางปรุงให้ด้วยวัตถุดิบที่เหลือ และยังพูดด้วยความภูมิใจ “เด็กน้อย, เจ้าก็มียาเหลือมอบให้เราสองสามเม็ด แล้วแกล้งว่าเจ้าทำเป็นฝึกอยู่สินะ”
ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่รับยาเม็ดพลังยุทธธรรมดาไว้เช่นกันเขาไม่เต็มใจกินแน่นอน แต่น่าจะเก็บไว้ให้เย่ว์ถิงน้องคนที่ห้าของตระกูล
เย่ว์ถิงเป็นคนที่ซื่อตรงเหมาะกับการรับหน้าที่ประมุขตระกูลคนต่อไป เขาจะต้องฝึกฝนอย่างจริงจัง
สำหรับเย่ว์หยางอนาคตของเขาจะต้องไปอยู่ในแดนสวรรค์
หรือดินแดนที่สูงขึ้นไป
ดังนั้นผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ไม่ได้คาดหวังให้เขาเป็นประมุขตระกูลเย่ว์
ลุงรองเย่ว์หลิงก็ยังได้รับส่วนแบ่งเป็นยาพลังยุทธธรรมดา เขาเก็บเอาไว้ในอกเสื้ออย่างตื่นเต้นและตั้งใจจะยกให้เย่ว์ฟงลูกชายคนเล็กของเขา ตอนนี้เขาทุ่มเทให้กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้มาก
“แล้วส่วนแบ่งของเราอยู่ไหนล่ะ?” คำพูดของเจ้าอ้วนไห่ถูกเย่คงและคนอื่นๆเหยียดหยาม ในฐานะพี่ใหญ่เขาไม่เพียงแต่ไม่มียาให้สมาชิกคนอื่น แต่กลับแบมือขอยากับทุกคน แน่นอนว่าเจ้าอ้วนไห่นี้ตั้งตัวเองเป็นพี่ใหญ่ แต่ไม่มีใครรู้สึกว่าเขาเป็นพี่ใหญ่เลย ถ้าทุกคนเห็นว่าเขาเป็นพี่ใหญ่ อย่างนั้นคงมีบางคนลุกขึ้นยืนและรับการตำหนิไปแล้ว
“ทำไมเราหาเจ้าไม่เจอเมื่อเราต้องการความช่วยเหลือเล่า?” อารมณ์ของเย่ว์หยางไม่ค่อยดี
“ผลมังกรเปลือกแข็งและรากบัวหิมะจำเป็นต้องใช้ปรุงยาพลังยุทธเป็นของที่หาได้ยากมาก ส่วนผสมหลายอย่างไม่สามารถปรุงเป็นยาเม็ดได้เพียงแต่ใช้ปรุงเป็นยาน้ำ ประสิทธิภาพของมันอาจจะอ่อนกว่าบ้างเล็กน้อย แต่ทุกคนจะได้รับเป็นขวดเล็ก” เย่ว์หวี่มอบขวดน้อยให้ทุกคน แม้จะเป็นขวดหยกเล็ก แต่อย่างน้อยก็เทียบเท่ากับยาเม็ดพลังยุทธธรรมดาห้าเม็ด
“ขอบคุณพี่หวี่!” หลิวเย่กับเป่าเอ๋อรับไว้อย่างสุภาพและพวกนางขอบคุณอย่างมีความสุข
“ฮ่าฮ่า”ขณะที่เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่ทุกคนยืนงงงวยเหมือนกับเป็นคนโง่
“ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าข้าต้องชิมยาเม็ดพลังยุทธให้ได้อยู่ดี”เจ้าอ้วนไห่พึมพำอย่างโล�
“เจ้าหัวหมูเจ้าคิดหรือว่ามันจะกลายเป็นยาเม็ดพลังยุทธง่ายๆ! ไม่เอาก็คืนมาเลย..” เย่ว์หยางอยากจะบ้า เจ้าอ้วนไห่กลัวจนวิ่งเผ่นออกไปนอกประตู ขณะที่ออกจากห้องเขาทำให้เย่ว์หยางวิ่งชนของวัสดุกระจัดกระจายตกพื้น เจ้าอ้วนไห่ชอบทำให้เย่ว์หยางทะเลาะกับเย่คงเขาคงไม่มีทางตายถ้าเขาฝึก และเขาจะต้องเป็นเหมือนเย่คงผู้มีทักษะแฝงเร้นยืนตรงและอสูรพิทักษ์ ‘เด็ดเดี่ยว’
“รสชาติก็ใช้ได้” เสวี่ยทันหลางซดเต็มคำรวดเดียวทุกคนตะลึงกับการกระทำเช่นนี้ เจ้าหนุ่มน้ำแข็งผู้นี้ไม่กลัวว่าร่างจะระเบิดตายหรือไง?
“... นั่นใช้มากเกินไปหรือเปล่า!”เฒ่าหัวล้านหนิงไห่ไม่สามารถดีใจกับประสบการณ์ได้น้ำยาพลังยุทธ เขาเป็นเชลยและแม้ว่าเขาจะกลับใจแล้วก็ตามแต่ศักยภาพและผลงานของเขาไม่สามารถรับยาได้ เว้นแต่เขาจะปรุงยาเม็ดพลังยุทธร่วมกับเย่ว์หยางมากมาย
สามารถได้รับยาที่เหลือนับว่าเกินคาดเขาไปมากมายนัก
ต้องบอกว่านอกจากฮุยไท่หลางแล้วพวกเขาทั้งหมดแม้จะไม่ปฏิเสธก็ตาม แต่ตอนนี้ก็มีฉลามเสือทองและครอบครัวของพญางูโลหิตกลายเป็นผู้กำจัดขยะไปโดยปริยาย
ผู้เฒ่าหนิงไห่นี้ต้องการมีส่วนร่วมมากขึ้นเพื่อให้ได้รับส่วมผสมของยาบางอย่าง ตอนนี้แทบไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้และเขาไม่สามารถช่วยงานที่นี่ได้เลย
นอกจากนี้ยังมีแองเจิล(ตัวประหลาดจากตอนศึกวังจักรพรรดิอวี้ 357) ที่คล้ายๆ กับหนิงไห่
แต่แองเจิลยังดีกว่า
เนื่องจากเมื่อเย่ว์หยางเที่ยวไปในแดนสวรรค์ตะวันตกหรือถ้าเย่คงและคนอื่นได้ไปฝึกในแดนสวรรค์ เขาก็มีคุณสมบัติช่วยนำทางแน่นอนว่าแองเจิลแทบจะไม่ได้ทำหน้าที่เลย
ก่อนที่เย่ว์คงและคนอื่นๆจะออกไป พวกเขามอบมุกมังกรฟ้าอย่างดีที่สุดและเหรียญตราสันติภาพกับเย่ว์หยาง
นี่คือสมบัติของหัวหน้าหย่งฮุยถูกนำออกมาใช้เป็นค่าไถ่ตัว
นอกจากมุกมังกรฟ้าและเหรียญตราสันติภาพ ยังคงมีอาวุธอีกหลายอย่าง แต่ของพวกนั้นไม่มีประโยชน์ในโลกวารีและถูกทิ้งไว้ชั่วคราว
แน่นอนว่าเย่ว์หยางให้ความสนใจมุกมังกรฟ้าอย่างมาก แต่เขาไม่คาดเลยว่าเขาจะได้มาเร็ว เขาคาดว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิบาดาลคงทำให้หย่งฮุยกลัว ดังนั้นเขาจึงเอาออกมาเองเป็นการยอมจำนน เย่ว์หยางไม่อยากฆ่าเขาในดาบเดียวเพราะยังมีประโยชน์
แน่นอนชะตากรรมของการเป็นคู่ฝึกฝีมือยังจำเป็นต้องใช้
“กลับไปบอกเขา อีกหกเดือนข้าถึงจะปล่อย เย่ว์หยางประกาศคำตัดสินหย่งฮุย
“ข้าเดาว่าหย่งฮุยคงร้องไห้แทบตายเมื่อได้ยินเช่นนั้น” เย่คงหัวเราะลั่นและปล่อยให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าได้ทุบตีเขาเป็นเวลาครึ่งปี หย่งฮุยไม่คางเหลืองก็คงแปลก
“เชลย! เจ้าต้องมีสำนึกของเชลย” คำพูดของเย่ว์หยางนั้นผู้เฒ่าไห่หนิงเห็นด้วยที่สุด ความจริงเขาก็ทำแบบนี้อยู่เสมอ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสได้แสดงออกถึงความภักดีให้เย่ว์หยางได้ชื่นชม
เย่คงเจ้าอ้วนไห่และคนอื่น ยังฝึกปรือกันต่อไป
เหล่าผู้อาวุโสต่างก็จากไปเร็วและไม่รบกวนการฝึกฝนของเย่ว์หยาง พวกเขาคิดแต่เพียงสร้างตำหนักมังกร วังเทพมังกรใต้พิภพ
ด้วยกำลังคนเป็นล้านมีเผ่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์หลายร้อยและคนแคระแดนสวรรค์อีกเกือบหนึ่งพันงานของพวกเขาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
ตำหนักมังกรและวังเทพมังกรใต้ดินจะสร้างสำเร็จภายในหนึ่งปี
ในเวลานั้นมีอาคารเพียงหลังเดียวเป็นจุดพิธีการทูตที่ประกาศว่านั่นคือที่พำนักของเย่ว์หยาง
หลังจากเขาเสร็จงานเย่ว์หยางพักอยู่เป็นเวลาสามวัน เมื่อเขาเริ่มฝึกฝนอย่างกระวนกระวาย ทันใดนั้นเขาตระหนักว่าระดับการฝึกปรือของเขายกขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ไม่ใช่แค่เลื่อนเป็นปราณก่อกำเนิดระดับเก้า แต่เป็นระดับปราณราชันย์ ดูเหมือนว่าการควบคุมทุกอย่างในขอบเขตของปราณราชันย์ในตอนนี้จะผ่อนคลายมากขึ้น ดูเหมือนว่าหลังจากปรุงยาแล้ว เขาบรรลุระดับใหม่โดยไม่รู้ตัว แน่นอนยังเป็นเพราะสภาวะใจของเขา ความมั่นใจของเขาเพิ่มเป็นทวีคูณซึ่งช่วยต่อการยกระดับการฝึกปรือของเขา
“ไม่มีวัตถุดิบสำหรับปรุงยาพลังยุทธปราณฟ้าอีกแล้ว เราจะต้องทำอะไรต่อไป?” เย่ว์หวี่ไม่ได้ขอให้เย่ว์หยางหลอมรวมภูตแสงเข้ากับดาบนางฟ้าให้เสร็จ นางรู้ว่าจะดีที่สุดถ้านางไม่ขอเขา เขาเป็นคนไม่รู้จักอาย เขาต้องการทำทุกอย่างที่ต้องการทำ และนางต้องการให้ร่วมมืออย่างเงียบๆ และเต็มที่
“ยาเม็ดเทพยุทธ!”
เย่ว์หยางมีความปรารถนาอยู่อย่างหนึ่ง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาปรุงยาเม็ดพลังยุทธซึ่งเมื่อเขาปรุงแล้วจะส่งผลทำให้บางคนก้าวหน้าไปเป็นระดับปราณฟ้า?
น่าเสียดายวัตถุดิบสำหรับยาเม็ดเทพยุทธยังขาดอยู่มาก ไม่ต้องพูดถึงยาเม็ดเทพยุทธเลย ยาเม็ดพลังยุทธปราณฟ้าก็ยังต้องระดมกำลังจากทุกเผ่าพันธุ์
เพื่อปรุงยาเม็ดพลังยุทธปราณฟ้าหรือยาเม็ดเทพยุทธเพิ่ม
มีอยู่เพียงทางเดียว
นั่นก็คือไปรวบรวมวัตถุดิบในแดนสวรรค์...