ตอนที่ 40 ชิงรถชิงตัวประกัน
ตอนที่ 40 ชิงรถชิงตัวประกัน
ประตูกระจกที่ร้านสะดวกซื้อนั้นแตกและมีคราบเลือดติดอยู่ พอมองผ่านเข้าไปก็พบว่ามีศพนอนตายอยู่สองสามศพในสภาพเต็มไปด้วยเลือดและผู้ติดเชื้อชายร่างท้วมที่กำลังกินหนึ่งในศพที่ตาย
ตอนนั้นก็มีเสียงเกิดขึ้น ผู้ติดเชื้อตนร่างท้วมขยับไปมาจนโดนกับกระป๋องที่ตกอยู่บนพื้น
เรนเดาว่าเสียงที่เกิดขึ้นก่อนหน้าก็มาจากผู้ติดเชื้อตนนี้ ที่บังเอิญไปโดนชั้นวางกระป๋องน้ำอัดลมจนตกลงมากระจายอยู่ทั่วพื้น
อ๊า!
ผู้ติดเชื้อร่างท้วมครวญครางเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับชิ้นเนื้อที่หล่นมาจากปาก มันทำท่าสูดดมทางจมูก...ฟึด ๆ เพราะได้กลิ่นมนุษย์เป็น ๆ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองไปทางที่ได้กลิ่นก็โดนลูกศรที่ยิงเข้าใส่หัวในทันที
ตุบ!
ร่างของผู้ติดเชื้อหงายหลังล้มตายไปด้านหลังตามแรงยิงของลูกศร นอนแน่นิ่งไม่ขยับมีเหรียญทองระบบเด้งออกมา 2 เหรียญ
เรนจัดการเก็บมันด้วยธนู เพราะไม่ต้องการให้เกิดเสียง แต่พอจะสังหารมันได้ตอนนั้นเองก็มีเสียงปืนหนึ่งนัดดังขึ้นมาจากทางด้านของนอกปั๊ม
ปัง!!!
“เสียงปืนดังมาจากทางรถ”
ธันวาพูดด้วยสีหน้าตื่นตกใจ รีบถือปืนลูกซองวิ่งออกไปนอกปั๊มน้ำมันด้วยความรวดเร็ว
เรนและผู้กองเชนรีบวิ่งตามธันวาไป
ก่อนจะเห็นไกล ๆ ว่ามีบางอย่างผิดปกติที่รถพวกเขาจอดอยู่ หลินที่มีท่าทีตกใจกำลังยกมือส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ขณะที่รินดาเธอกำลังทำท่าเหมือนกับถือปืนและลังเลว่าจะเล็งไปที่ป่าข้างทางหรือไม่
แถมที่ข้างรถยังมีใครบางคนนอนพิงกับรถและร้องด้วยความเจ็บปวด
“บ้าเอ๊ย! พวกมันแน่นอน” ธันวาร้อนใจมาก รีบวิ่งไปอย่างสุดกำลังไปหาไอรา
เรนและผู้กองเชนหันมามองหน้ากัน พวกเขาทั้งสองเตรียมอาวุธในมือพร้อมกัน
พอไปถึงเรนและพวกก็พบว่าคนที่นอนอยู่นั้นเป็นตำรวจลี คนที่เคยหนีออกมาพร้อมกับตำรวจเมฆคนนั้น แต่ตอนนี้ที่ขาของตำรวจลีโดนยิงจนเลือดไหล ไม่ไกลรินดาถือปืนด้วยท่าทางสั่นเบา ๆ เล็งไปที่ตำรวจรีที่พยายามยกมือร้องไห้ ขอร้องไม่ให้รินดายิงตัวเองอยู่
“อย่ายิง ผม...ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาทำร้ายพวกคุณ” ตำรวจลีพยายามขอร้องให้รินดาอย่ายิงตนเองอีก
ซึ่งดูเหมือนว่าเสียงปืนที่พวกเรนได้ยินก่อนหน้านั้นคือรินดาที่พึ่งจะยิงปืนใส่ขาของลีไป
“ลดปืนลงก่อน เขาไม่มีอันตรายแล้ว” ผู้กองเชนรีบเข้าไปบอกกับหญิงสาว เพราะเขารู้ดีกว่าตำรวจลีนั้นเป็นพวกไก่อ่อนแค่ไหน
“ไอราเกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรหรือเปล่า” ธันวารีบเข้ามาดูแฟนสาวของตนเองด้วยความเป็นห่วง
ตอนนั้นเองเรนก็พบว่ามีคนหายไปหนึ่ง
“หลิน! อาจารย์หลินอยู่ไหน!?” เรนถามด้วยความเป็นกังวล
“อาจารย์โดนไอ้ชั่วนั้นจับไป พวกมันสองคนพยายามเข้ามาปล้นรถตำรวจ แต่ว่าฉันกับรินดาช่วยกันแย่งปืนของเขาได้และพลาดยิงไปโดนเขา แต่ว่าหลินนั้นปากุญแจรถทิ้งไป ทำให้ตำรวจชั่วนั้นจับเธอและหนีไปทางนั้น” ไอราเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆ
ซึ่งเรน ธันวาและผู้กองเชนก็พอปะติดปะต่อเรื่องได้
หลังจากที่เมฆและลีขับรถกันมาจนถึงที่นี่ รถของพวกเขาก็เกิดเสียเพราะตอนที่หนีออกมาจากลานจอดรถใต้ดินที่สถานีตำรวจ พวกเขาชนเข้ากับผู้ติดเชื้อหลายคน ต่อให้รถจะถึกทนแค่ไหน มันก็มีขีดจำกัด สุดท้ายพอรถพัง ทั้งเมฆที่แม้จะเป็นพวกหัวร้อน แต่ก็ไม่ใช่คนโง่จึงคาดการว่าพวกเรนและกลุ่มต้องมาเส้นทางนี้แน่นอน เพราะทั้งสองคนรู้ว่าเรนมีแผนจะไปที่ค่ายลี้ภัย
อันที่จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่เมฆและลีก็คิดจะไปเช่นกัน พวกเขาไม่มีที่หลบแล้ว ที่ค่ายจึงเป็นเป้าหมายเดียว
นั้นทำให้ตำรวจสองคนนี้มาดักซุ่มอยู่แถวนี้และรู้ว่าผู้กองเชนที่เป็นตำรวจจะทำอย่างไรเมื่อเห็นว่ามีรถตำรวจของพวกตนจอดอยู่ตรงนั้น
พอเห็นว่าเรน ธันวาและผู้กองเชนไปที่ปั๊มน้ำมัน เมฆและลีก็ลงมือปล้นรถทันที จนสถานการณ์มาลงเอยแบบนี้
“ไอ้ชาติชั่วสารเลวนั้น” เรนกัดฟันด้วยความโกรธรีบวิ่งตามไปยังทิศทางที่ไอราชี้ไป
ธันวารีบวิ่งตามไปช่วยด้วยเช่นกัน
“กดแผลแกไว้ไอ้โง่” ผู้กองเชนหันมาตวาดใส่ลี ก่อนจะรีบวิ่งตามไปช่วยทั้งสองคนไป
...
เรนวิ่งเข้ามาในป่าประมาณสัก 100 กว่าเมตร ก่อนจะได้ยินเสียงหลินที่พยายามขัดขืนเมฆอยู่ไม่ไกล
“ตามมาดี ๆ หรือจะให้ฉันยิงหัวเธอ” เมฆแขนซ้ายของตนเองล็อกคอของหลินจากทางด้านหลัง ส่วนมือขวานั้นถือปืนพกจ่อที่ศีรษะและพยายามลากตัวเธอไป
ที่เมฆต้องเอาจับเธอมาด้วย เพราะรู้ว่าตัวเองหนีไม่ทันแน่นอน เขาต้องการหลักประกันความปลอดภัยและก็อยากจะใช้ตัวของหญิงสาวแลกเปลี่ยนกับรถหนึ่งในสองคันนั้นกับพวกของเรน
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า” หลินด่าทอใส่เมฆและกำลังจะใช้รูนิก แต่เมฆไม่ได้โง่ เขารู้ว่าหลินนั้นเป็นผู้ใช้วงแหวนด้วย จึงรู้ว่าเธอก็มีรูนิกอยู่กับตัว
“อย่าคิดอะไรโง่ ๆ ถ้าเธอกล้าเรียกรูนิกออกมา ก็เตรียมโดนเป่าสมองกระจุยได้เลย” เมฆใช้ปากกระบอกปืนกดไปที่ศีรษะของหลินย้ำ ๆ ทำให้หลินนั้นกลัวและเจ็บมาก
หลินรู้ว่าต่อให้เธอเรียกรูนิกออกมาก็คงไม่ไวไปกว่าปืนที่จอหัวของเธอแน่นอน
“ดีนั่นแหละ ทีนี้ยื่นมือไปด้านหน้าให้ฉันเห็นมันตลอด” เมฆกระซิบข้างหูของหลิน เมื่อเห็นว่าเธอไม่ขัดขืนแล้ว
การกระทำของเมฆทำให้หญิงสาวรู้สึกขยะแขยงมาก แต่เธอก็ต้องทำตาม ที่เมฆต้องให้หลินยื่นมือออกไป เพราะแม้เขาจะข่มขู่ไปแล้ว แต่ก็ไม่ไว้ใจหญิงสาว เขาต้องการเห็นมือของเธอตลอดเวลา
ตอนนั้นเองเมฆก็ได้ยินเสียงวิ่งมาจากทางด้านหนึ่ง เป็นเรนที่วิ่งตามมา
“อาจารย์หลิน” เรนตะโกนเรียกด้วยความเป็นห่วง
เขากำลังจะเข้าไปใกล้ แต่เมฆก็รีบส่งเสียงหยุดเขาในทันที
“อะ ๆ อย่าเข้ามาไม่งั้นหัวเธอกระจุยแน่” เมฆจ้องไปที่เรนและข่มขู่เขาด้วยการกดปืนไปที่หัวหลิน
เรนเห็นว่านิ้วของเมฆนั้นพร้อมเหนี่ยวไกปืนได้ตลอดเวลา เขากัดฟันจ้องมองด้วยแววตาเย็นชา แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้มากกว่านี้
เรนจึงเล็งปืนลูกซองในมือไปทางเมฆ เพราะถ้าเมฆกล้ายิงหลินเรนก็พร้อมจะยิงมันเช่นกัน
“แกกล้ายิงก็เอาเลย แต่รับรองเลยว่าก่อนที่กระสุนพวกนั้นจะโดนฉัน มันจะฆ่าแม่นี่ก่อนแน่นอน” เมฆดึงตัวของหลินเข้ามาบังตัวเอง ทำให้เรนนั้นไม่มีช่องยิง
หลินมีแววตาที่เต็มไปด้วยความขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถคิ้นหลุดจากแขนของเมฆที่ล็อกคอของเธออยู่ได้
เมฆมองไปที่เรนผ่านซอกคอของหลินอย่างท้าทาย
เรนไม่กล้ายิง ไม่ต้องให้รูนิกลางสังหรณ์บอกเขาก็รู้ว่าถ้ายิงไปคงโดนหลินก่อนแน่ นี่เป็นปืนลูกซอง ต่อให้กระสุนจะเกาะกลุ่มและในระดับ 15 เมตร กลุ่มกระสุนก็กระจายกันอยู่ประมาณ 1-2 ฝ่ามืออยู่ดี
ซึ่งเสี่ยงโดนหลินมาก แถมเมฆยังถือปืนจ่อหัวของเธอไว้ด้วย
ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดกันอยู่นั้นเองเสียงฝีเท้าของเมฆและผู้กองเชนก็ดังขึ้นมา ทั้งสองตามมาเจอภาพนี้พอดี เมฆรีบหันไประวังทั้งสองคนด้วย
“ถอยออกไป” เมฆตะโกนเสียงดัง ข่มขู่ไม่ให้อีกสองคนเข้ามาเช่นกัน
“แกต้องการอะไร” เรนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ต้องการอะไรนะเหรอฉันต้องการรถตำรวจคันนั้น แล้วก็หญิงสาวเลวที่กล้ายิงตำรวจนั้นเอาตัวมันมาด้วยเป็นยังไง มันกล้ายิงตำรวจ ฉันจะทำให้เธอต้องเสียใจ” เมฆตะโกนบอกความต้องการของตนเอง
“เมฆวางปืนลงซะไม่งั้นเรื่องนี้จบไม่สวยแน่” ผู้กองเชนพยายามเจรจากับเมฆและเดินเข้าไปหาเขาทีละก้าว
“อย่าดีกว่าไอ้คุณผู้กอง!” เมฆส่ายหัวและพูดกับผู้กองด้วยท่าทีเหยียดหยาม “แกมันก็แค่ไอ้ตำรวจหน้าโง่ที่ใช้เส้นเท่านั้น คิดจะมากล่อมคนอย่างกูเหรออย่าฝันไปเลย”
“เมฆ! เตือนครั้งสุดท้ายนะปล่อยเธอซะ นายจับเธอไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก ปล่อยเธอมาแล้วแกเอารถไปได้เลยหนึ่งคัน” ผู้กองเชนกล่าวพร้อมกับจ้องไปที่เมฆ เขาพยายามขยับเข้าไปกดดันเมฆ
“ปล่อยฉันไป แล้วคิดว่าไอ้ชั่วที่กล้าฆ่าตำรวจนี่มันจะปล่อยไปหรือไง” เมฆตวาดเสียงดังมองไปทางเรน
“เรื่องที่เกิดขึ้นด้านล่างนั้นมันคืออุบัติเหตุสองคนนั้นตายเพราะโดนหมอกสีดำที่เป็นพิษเปลี่ยนให้เป็นผู้ติดเชื้อ นายจะเอามาพูดทำไม” ผู้กองเชนขมวดคิ้วและพูดออกมา
“หึ ผู้กองเชื่อมันจริง ๆ เหรอ” เมฆเบ้ปากเย้ยหยัน ก่อนจะตวาดเสียงดังอีกครั้งเมื่อเห็นว่าผู้กองเชนพยายามเดินเข้ามาใกล้ตนเอง
“เลิกพูดถ่วงเวลาได้แล้ว ทิ้งอาวุธซะแล้วถอยไป ถอดแหวนพลังแล้วโยนมาด้วย ฉันจะเอารถไปขับออกไปจากที่นี่แล้วจะทิ้งเธอไว้ห่างจากที่นี่สักหนึ่งกิโลเมตร พวกแกค่อยตามไปรับเธอมาทีหลัง” เมฆยื่นข้อเสนอใหม่
“ไม่แกต้องปล่อยอาจารย์หลินมาก่อน” เรนไม่ยอม เขาไม่ไว้ใจว่าเมฆจะปล่อยอาจารย์หลินจริง ๆ คนแบบนี้ไว้ใจไม่ได้
“อย่าหวัง” เมฆหันมาพูดใส่หน้าเรน
แต่แล้วตอนนั้นเองธันวาก็ฉวยโอกาสในตอนเมฆหันไปสนใจเรนและผู้กองเชน ธันวาวิ่งเข้าไปใส่เมฆในทันที
“อย่าเข้ามานะเว้ย!” เมฆตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เขายกปืนและเอาตัวของหลินเข้ามาบัง นิ้วชี้ของเมฆพร้อมจะเหนี่ยวไกปืน
แต่ว่าตอนนั้นเองก็มีลูกศรยิงเข้าใส่ที่กลางปืนในมือของเมฆและทะลุออกไปใส่แก้มด้านขวาของเมฆจนเลือดไหลอาบหน้า
“อ้า!” เมฆกัดฟันร้องออกมาด้วยความตกใจจากอาการบาดเจ็บที่ใบหน้า
คนที่ลงมือยิงก็คือ เรน เขาฉวยโอกาสตอนเมฆละสายตาเปลี่ยนรูนิกปืนลูกซองเป็นรูนิกคันธนูและใช้รูนิกลูกศรยิงใส่ปืนของเมฆทีเผลอ
อันที่จริงเรนอยากจะยิงใส่หัวของเมฆให้ตายตกไป แต่มันมีโอกาสที่เมฆจะเหนี่ยวไกปืนยิงหลินตายไปพร้อมกันด้วย เขาจึงตัดโอกาสทำลายปืนก่อน
"แกตาย" เมฆตะโกนเสียงดังด้วยแววตาที่โกรธเคือง
แต่ตอนนั้นเองหลินก็กัดไปที่แขนของเมฆ
“โอ๊ย!” เมฆร้องด้วยความเจ็บสะบัดแขนออกไปตามสัญชาตญาณ หลินได้โอกาสจึงวิ่งหนีออกมาจากเมฆในทันที
เมฆที่ยังไม่ทันตั้งตัวใด ๆ แต่ก็รู้ว่าไม่สามารถปล่อยให้หลินหลุดมือไปได้ เขากระโจนไปจะคว้าตัวของหลิน แต่ว่าธันวาได้พุ่งเข้ามาใส่ตัวของเมฆซะก่อน
ทำให้ทั้งสองกลิ้งไปบนพื้นที่มีแต่ดินโคลนและใบไม้ที่เปียกชื้น