ตอนที่ 19-26 ศึกแรก
ตาของลินลี่ย์เป็นประกายทันที
“รีสเจม! พวกเขาพบเป้าหมายแล้ว!” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพบอก ขณะที่กลายสภาพเป็นร่างเลือนรางบินไปยังตำแหน่งของบีบีด้วยความเร็วสูง “เป้าหมายหรือ?” รีสเจมตกใจและดีใจไปด้วย ความเร็วของเขายังคงเพิ่มขึ้น และเขามีระดับที่เร็วกว่าลินลี่ย์อยู่จริงๆ ระยะห่างสามกิโลเมตรแค่เพียงกระพริบตาครั้งเดียว
แต่พอเมื่อลินลี่ย์และรีสเจมมาถึง พวกเขาพบว่าบีบีและเรย์โฮมยืนนิ่งกับที่
“บีบี, เกิดอะไรขึ้น? เป้าหมายเล่า?” ลินลี่ย์คาดเดาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“คนผู้นั้นเจ้าเล่ห์มาก ทันทีที่ข้าเห็นเขา, เขาก็หันหลังเผ่นหนีโดยไม่ยอมสู้เลย!” บีบีพูดอย่างจนใจสีหน้ามีแววผิดหวัง ขณะที่เรย์โฮมที่อยู่ใกล้ๆ พูดเสียงทุ้ม “คุณชาย, ข้าพบคนผู้นี้ได้ไม่นาน แต่ทันทีที่คนผู้นี้เห็นข้า เขาก็ตกใจหนีไปทันที”
“เราเคยเห็นเขามาก่อนหรือ?” รีสเจมส่ายศีรษะ “ช่างเถอะ, เขาคิดว่าเขาโชคดีก็เท่านั้น”
“เท่าที่ข้าดู, เรย์โฮม,เจ้าน่าจะเปลี่ยนร่างตนเองสักนิด ลักษณะของเจ้าสามารถแยกแยะได้ง่าย” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ คนตัวใหญ่พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นทำเสียงรับทราบและเริ่มย่อตัวลงจากที่เป็นยักษ์ขนาดสี่เมตรกลายเป็นคนธรรมดาสูงสองเมตร
รีสเจมขยิบตาและหัวเราะ “เฮ้, โฮม, ใช้รูปร่างนี้คงเป็นเรื่องยากแล้วที่จะนั่งบนไหล่ของเจ้า
ลินลี่ย์นึกย้อนไปถึงตอนเมื่อเขาเห็นรีสเจมครั้งแรก รีสเจมนั่งอยู่บนไหล่ของยักษ์
“รีสเจม, เราไปกันต่อเถอะ” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ
“ก็ได้” รีสเจมพยักหน้า จากนั้นกัดฟัน “ฮึ,โฮมกับข้าอยู่ในสมรภูมิมหาพิภพมาหลายปีแล้ว แต่เราได้ป้ายทองเพียงป้ายเดียว ครั้งนี้เราต้องหาป้ายทองเพิ่มให้ได้” รีสเจมและเรย์โฮมมาจากแดนนรกทั้งคู่ ดังนั้นจึงเป็นคนฝ่ายโลกธาตุมืด
พวกเขาข้ามแม่น้ำดวงดาวและมาถึงฝั่งนี้เช่นกัน
“พวกเจ้าก็ได้มาหนึ่งป้ายด้วยหรือ?” บีบีอดหัวเราะไม่ได้
“ฮึ่ม ถ้าข้ามีทักษะเทพธรรมชาติอย่างเจ้านะ ข้าคงฆ่าผู้บัญชาการได้มากมายไปแล้ว” รีสเจมพูดอย่างยโส “พอเถอะ, ไปกันต่อ, ลินลี่ย์,เราทั้งคู่จะไปกันทางนี้!” พวกเขาแบ่งกำลังกันอีกครั้ง เพราะภูมิศาสตร์ของสมรภูมิมหาพิภพแตกต่างกันมีหญ้าสลับเนินเขาอยู่ทุกที่ ระยะสามกิโลเมตร ทำให้มองไม่เห็นคนอื่น
“วิ้วววว..”
สายลมเย็นยะเยือกพัดและร่างของคนสองคนเดินไปข้างหน้าคนหนึ่งอยู่หน้า คนหนึ่งอยู่หลัง คนหัวหน้าเป็นบุรุษชุดขาวผมสีเขียวยาวถึงเอว เขามีใบหน้างดงามน่าทึ่งและผิวของเขาใสราวกับแก้วผลึกราวกับรูปหยกแกะสลัก นอกจากนี้กลางหน้าผากของเขามีตรารูปพระจันทร์เสี้ยว
เขาเดินอย่างเงียบงันมองดูรอบข้างตามปกติราวกับว่าสมรภูมิมหาพิภพเป็นสวนดอกไม้บ้านเขา
ด้านหลังของเขาเป็นนักรบสตรีสวมเกราะ
“ใต้เท้า เราควรจะมองหาที่พักกันดีไหม? พวกผู้บัญชาการทั้งหมดนั้นซ่อนตัวอยู่ลึกมาก เมื่อพวกเขาเห็นใต้เท้ามา ทั้งหมดจะพากันหนีด้วยความหวาดกลัว” นักรบสตรีผมน้ำตาลพูดพลางหัวเราะ
บุรุษหนุ่มรูปงามชุดขาวผมเขียวก้าวเท้ายาวพร้อมกับพูด “ก็ดี, อย่างนั้นเราหาที่พักข้างหน้ากัน อืม? ดูเหมือนว่าเราไม่จำเป็นต้องรีบพักกันแล้ว เราได้เหยื่อแล้ว”บุรุษหนุ่มชุดขาวยิ้มและเครื่องหมายพระจันทร์เสี้ยวที่หน้าผากของเขาเปล่งแสงสีเขียว
กลุ่มของลินลี่ย์เดินทางมาเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะพบเจอเป้าหมายอยู่สองสามครั้ง แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปดูใกล้ๆพวกเขาพบว่าเป้าหมายเป็นแค่โกเลมมัจจุราช พวกเขาวิ่งไปพบเจอโกเลมมัจจุราชห้าตัวแล้ว แต่ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้าเปิดเผยตัวเอง แต่กลุ่มของลินลี่ย์ไม่ท้อแท้แม้แต่น้อย
ที่สำคัญมีผู้บัญชาการมากมายตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว บางส่วนก็อยู่ในค่ายทหาร ขณะที่คนอื่นๆ พากันซ่อนตัว มีไม่มากที่กล้าออกมาเที่ยวไปมาอยู่ข้างนอก
“ยอดฝีมือเหล่านั้น...ทุกคนแทบจะไม่มีจุดอ่อนแน่นอน” ลินลี่ย์พูดกับรีสเจมบ่อยครั้งระหว่างการเดินทางของพวกเขา
ถึงตอนนี้ลินลี่ย์ตระหนักได้ว่า...รีสเจมมีเพียงสมบัติมหาเทพอยู่ชิ้นเดียว เป็นอาวุธสมบัติมหาเทพเพียงชิ้นเดียวจริงๆ รีสเจมมีร่างกายที่แข็งแกร่งและพลังวิญญาณที่ทรงพลังอยู่แล้ว แม้ว่าร่างกายของเขาจะด้อยกว่าบีบีอยู่บ้าง แต่พลังวิญญาณของเขาทรงพลังกว่ามาก!
ร่างจริงของรีสเจมมีหนามแหลม 108 อยู่บนตัวและภูเขาอะเมทิสต์ซึ่งมีอะเมทิสต์คุณภาพดีอยู่มากมาย ก็ยังมีถ้ำถึง 108 แห่ง
ลินลี่ย์คาดว่า“มหาเทพเรดบุดและภูเขาอะเมทิสต์จะมีความเชื่อมโยงกันเองเฉพาะแบบ รีสเจมมีลักษณะคล้ายกันมาก! ข้าสามารถเข้าใจได้ถึงเหตุผลที่วิญญาณของเขาทรงพลังมาก ที่สำคัญภูเขาอะเมทิสต์เป็นที่ซึ่งมีอะเมทิสต์รวมกันอยู่มากมาย” ภูเขาอะเมทิสต์ยังคงมีอสูรอเมทิสต์มากมาย ลำตัวของมันมีความแข็งทนทานมาก ร่างของรีสเจมจึงแข็งแกร่งมากมายเป็นธรรมดา
ว่ากันโดยรวมแล้วรีสเจมมีความสมดุลมาก!
แม้ว่าเขาจะไม่มีสมบัติมหาเทพ เขาก็ยังทรงพลังมาก เมื่อหลอมรวมกับสมบัติมหาเทพเขาก็แทบจะครองสมรภูมิมหาพิภพได้ทั้งหมด
“ทูตมหาเทพเหล่านั้นได้รับสมบัติมหาเทพและใช้มันปกปิดจุดอ่อนของพวกเขา” ลินลี่ย์เข้าใจหลักการนี้
ขณะที่ลินลี่ย์และรีสเจมเดินทางผ่านสมรภูมิมหาพิภพพร้อมทั้งตรวจดูหาเป้าหมายที่อยู่รอบๆ ลินลี่ย์จ้องมองดูข้างหน้ามีสองร่างปรากฏตัวขึ้น คนหนึ่งอยู่หน้า อีกคนอยู่หลัง ทั้งสองคนพบลินลี่ย์ กับรีสเจมเช่นกัน และพวกเขายืนนิ่งกับที่โดยไม่หวั่นเกรงพลางจ้องมองดูพวกเขา
“โอว, พวกเขาเองหรือ?” รีสเจมหัวเราะ
“อ็อคคลัวแห่งพิภพชีวิต?” ลินลี่ย์จ้องมอง
อ็อคคลัวเป็นอัจฉริยะของเทพเอลฟ์จันทราและเป็นหนึ่งในสุดยอดฝีมือระดับสูงของพิภพชีวิต เขาฝึกมาทางสายวิถีชีวิต และมีทักษะทางโจมตีวิญญาณ ถือได้ว่าเป็นดาวข่มลินลี่ย์อย่างสมบูรณ์
“บีบี, เราพบเป้าหมายแล้ว รีบมา” ลินลี่ย์รีบบอกผ่านการเชื่อมโยงวิญญาณ
ลินลี่ย์และบีบีสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ในระยะที่ไกลมาก
แม้ว่าที่นี่สมรภูมิมหาพิภพที่ซึ่งสำนึกเทพถูกจำกัดไว้ที่ระยะร้อยเมตรเขาก็ยังคุยกับบีบีที่อยู่ห่างไกลหลายกิโลเมตรได้ง่าย ต้องเข้าใจว่าเมื่อลินลี่ย์ยังไม่เป็นเซียนและติดอยู่ในวิหารเจิดจรัสของศาสนจักรเจิดจรัส เขาก็ยังสามารถติดต่อกับบีบีทางวิญญาณได้ เวลานั้นลินลี่ย์ยังไม่สามารถส่งพลังสำนึกวิญญาณออกจากร่างกายได้ นี่เป็นหนึ่งในประโยชน์ของการเชื่อมโยงวิญญาณ
สมรภูมิมหาพิภพ บนที่ดินที่รกร้าง
ลินลี่ย์และรีสเจมอยู่ข้างหนึ่ง อ็อคคลัวและสหายของเขาอยู่อีกด้านหนึ่ง ทั้งสองจ้องมองกันและกัน พวกเขาชะงักเล็กน้อย
“ลินลี่ย์, ใช้ทักษะเทพธรรมชาติของเจ้ากับสตรีนั่น!” รีสเจมส่งสำนึกเทพอย่างตื่นเต้น ขณะเดียวกันโดยไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยรีสเจมกลายเป็นแสงสีม่วงพุ่งไปข้างหน้า
“เข้าใจแล้ว”
ลินลี่ย์รีบบุกตะลุยข้างหน้าเข้าหาศัตรูด้วยความเร็วสูงเช่นกัน
“ฮึ่ม, พวกมันหาที่ตาย” อ็อคคลัวเมื่อเห็นทั้งสองคนบุกเข้าหาเขา อดหัวเราะอย่างเย็นชาไม่ได้ เขาแค่ยืนอยู่กับที่รอให้พวกเขาเข้ามา เขาวางแผนโจมตีพวกเขา เพียงเพราะเขากลัวว่าพวกเขาจะหนี แต่เมื่อเห็นว่าลินลี่ย์และรีสเจมโจมตี เขารออยู่กับที่ด้วยความยินดี เป็นเรื่องยอดเยี่ยมไม่ใช่หรือที่นั่งรออยู่เฉยให้พวกเขาเข้ามาถูกฆ่า?
รีสเจมอยู่ข้างหน้า ลินลี่ย์อยู่ข้างหลัง
เมื่อลินลี่ย์อยู่ห่างจากศัตรู 150 เมตรตาของลินลี่ย์เป็นประกายแสงทองอมฟ้าทันที ขณะเดียวกันร่างมายาของมังกรฟ้ายาวพันเมตรปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของลินลี่ย์ หัวมังกรฟ้าลอยอยู่เหนือศีรษะลินลี่ย์จ้องมองเป้าหมายของมัน....
สตรีผมน้ำตาล
“เอ๊ะ?” หนุ่มเอลฟ์ชุดขาวอ็อคคลัวตกใจ “เผ่ามังกรฟ้าหรือ?” ถึงตอนนี้เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าลินลี่ย์ใช้วิชานี้กับบ่าวของเขา
อย่างไรก็ตามเขายังยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างถือดี “ทักษะเทพธรรมชาติของเผ่ามังกรฟ้าแค่ส่งผลต่อระยะเวลาช่วงหนึ่งที่ข้าต้องทำคือทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้ามาใกล้ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาลืมเรื่องทำอันตรายบริวารของข้าไปได้เลย” ร่างของบุรุษหนุ่มชุดขาวพลันพร่าเลือนและเขาเข้าโจมตีใส่รีสเจม!
รีสเจมยิ้มมุมปาก
“ลง!”
“ปัง!” แสงสีม่วงระเบิดออกมาจากร่างรีสเจมกลายเป็นลูกกลมแสงขนาดร้อยเมตร พลังโน้มถ่วงที่น่ากลัวส่งผลต่อหนุ่มเอลฟ์อ็อคคลัวทันที อ็อคคลัวรู้สึกว่าร่างของเขาหนักขึ้นหลายเท่าและเขาตกร่วงลงไปอย่างช่วยไม่ได้
ขณะที่รีสเจมเหยียดมือออก...
“ควั่บ!”
แสงเลือนรางยิงออกมากระทบร่างนักรบหญิงผมน้ำตาล นักรบหญิงดูเหมือนเพิ่งจะฟื้นจากผลกระทบเวลาเมื่อเผชิญกับการโจมตีนางไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อยแสงเลือนรางแทงใส่ร่างนาง สตรีผมน้ำตาลร่างสั่นเล็กน้อยและจากนั้นก็ล้มลงกับพื้น
“ตุ้บ” ป้ายขาวลอยขึ้นมาจากร่างของนาง
“นางอ่อนแอจริงๆ” รีสเจมส่ายหน้าอย่างเหยียดหยาม
“รีสเจม!” อ็อคคลัวหนุ่มเอลฟ์ยืนอยู่กับที่จ้องมองรีสเจมอย่างเย็นชา สายตาของเขาดูเหมือนเต็มไปด้วยความโกรธ “เจ้าฆ่าบริวารของข้า...อะไรกัน,เจ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ ไม่ข้าไม่คิดว่าข้าเอาชนะได้”
รีสเจมหัวเราะและยืนนิ่งกับที่หันหน้าเข้าหาบุรุษเอลฟ์ รีสเจมรู้ว่าอ็อคคลัวแข็งแกร่งเพียงไหน ถ้าลินลี่ย์และบีบีไม่อยู่กับเขาด้วย ไม่มีทางที่เขาจะฆ่าอ็อคคลัวได้ ในระดับของพวกเขา...พวกเขาไม่สามารถทำอะไรกันได้เลยจริงๆ
อ็อคคลัวเพียงแต่แน่ใจว่ารีสเจมเป็นใครหลังจากรีสเจมแผ่ขยายสนามพลังอะเมทิสต์ของเขา
มิฉะนั้น ถ้าเขารู้ล่วงหน้าอ็อคคลัวคงถอยไปนานแล้ว
“แม้ว่าข้าไม่คิดจะเอาชนะเจ้า แต่วันนี้ ข้าต้องการป้ายทองของเจ้าจริงๆ ..เสียใจด้วย” รีสเจมหัวเราะเบาๆ
อ็อคครัวหน้าบึ้งทันที แต่จากนั้นก็เยาะเย้ยขึ้นบ้าง “โอว, งั้นเจ้าก็ต้องการฆ่าข้าและชิงเอาป้ายทองใช่ไหม? อาศัยใครเล่า? เจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้าข้างหลังเจ้าน่ะหรือ?” อ็อคคลัวไม่สนใจความเป็นตายของบริวารตนเองแม้แต่น้อย ที่สำคัญ เขาไม่ได้พาบริวารมาสมรภูมิมหาพิภพแค่รับใช้เขาเท่านั้น ในการรบเขาเองก็มีความเชี่ยวชาญด้วย
อ็อคคลัวมองดูลินลี่ย์อย่างระมัดระวังเหมือนต้องการจะพูดว่าลินลี่ย์มีพลังแข็งแกร่งขนาดไหน ที่สำคัญดูเหมือนว่าไม่มีใครในเผ่ามังกรฟ้าที่สามารถคุกคามชีวิตเขาได้
“ไม่, ข้าไม่มีพลังขนาดนั้น” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
ลินลี่ย์รู้ดีเช่นกันว่าอ็อคคลัวผู้นี้ทรงพลังมากกว่าผู้อาวุโสเอลฟ์แห่งแปดตระกูลใหญ่ที่เกือบฆ่าเดเลีย นอกจากนี้อ็อคคลัวยังมีเกราะมหาเทพสำหรับป้องกันตัว
“พี่ใหญ่ เรามาแล้ว” บีบีตอบทางใจ
“เจ้ารอโอกาสให้ดีก่อน จากนั้นเจ้าค่อยเคลื่อนไหว” ลินลี่ย์ตอบในใจ
“รีสเจม ข้าไม่มีเวลาจะเสียกับเจ้า ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” อ็อคคลัวแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นหันกายหมายจากไป
“ควั่บ!” “ควั่บ!”
มีสองร่างลงมาอยู่ที่ด้านหลังของเขา คนหนึ่งตัวสูงและอีกคนต่อนข้างเตี้ย เป็นเรย์โฮมกับบีบีนั่นเอง
อ็อคคลัวหรี่ตาแคบ ขณะที่เขามองเห็น มีน้อยคนนักที่สามารถฆ่าเขาได้ เขาไม่เชื่อว่าสี่คนนี้จะสามารถทำได้ เขาอดโมโหไม่ได้และแค่นเสียงเย็นชาทันที “รีสเจม, สู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ต่อเรา อย่างไรก็ตามบริวารของเจ้าทำให้ข้าโกรธ วันนี้ข้าจะสู้สักหน่อยก็ได้ ดูซิว่าพลังโจมตีวิญญาณของเจ้าแข็งแกร่งกว่าหรือว่าของข้าแข็งแกร่งกว่า”
ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยน
เขาสามารถเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่ามีปีกโปร่งแสงปรากฏขึ้นจากหลังของอ็อคคลัว ขณะเดียวกันแสงสีเขียวเจิดจ้ายิงออกมาจากหน้าผากของเขา และเปลี่ยนไปเป็นจันทร์เสี้ยวสิบหกดวง ในที่มืดสลัวอย่างสมรภูมิมหาพิภพแสงจันทร์เสี้ยวสีเขียวนี้มีความสว่างแพรวพราวมาก
จันทร์เสี้ยวสีเขียวทั้งสิบหกดวงพุ่งเป็นเส้นโค้งโจมตีใส่รีสเจม เห็นได้ชัดว่าอ็อคคลัวถือว่ารีสเจมคุกคามเขามากที่สุด และเขาไม่สนใจอีกสามคนแม้แต่น้อย นี่ไม่ใช่ความผิดของเขา เขาไม่กลัวพลังโจมตีวัตถุ และขณะที่พลังโจมตีวิญญาณ...
นั่นคือความสามารถพิเศษของเขา มีอะไรจะต้องกลัว? ผ่านมานานเป็นอสงไขยปีเขาไม่เคยต้องเจ็บทรมานจากพลังโจมตีวิญญาณ
“เฮ้, เจ้าเด็กเอลฟ์ ดูถูกข้าอย่างนั้นหรือ?”
อ็อคคลัวไม่ยอมแม้แต่จะมองบีบี แต่ทันใดนั้น จากหางตาของเขา เขาเห็นภาพมายาขนาดใหญ่ เขาอดหันไปมองไม่ได้ และขณะที่เขาทำเช่นนั้น ความมั่นใจที่มีอยู่หายไปหมดสิ้นหน้าของเขาซีดขาวเต็มไปด้วยความหวาดผวาทันที “เป็น เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? นั่นมัน...”
เงามายาหนูกินเทพขนาดใหญ่ปรากฏอยู่เบื้องหลังบีบี
ทักษะเทพธรรมชาติ - หนูกินเทพ!
“หึหึแม้แต่ข้ายังป้องกันไม่ได้ และเจ้าเล่า? ตายเสียเถอะ” รีสเจมขณะมองภาพนี้ เขาหัวเราะ เขารู้สึกมั่นใจว่าการได้ลินลี่ย์และบีบีมาร่วมด้วยกับเขาเป็นการตัดสินใจที่ฉลาด
ด้วยไม้ตายหนูกินเทพที่ใช้ออกอย่างกะทันหันอ็อคลัวล้มลงกับพื้น
“คลิก!” ป้ายทองร่วงลงจากร่างของเขา และเกราะสีเขียวงดงามก็หลุดออกมาจากร่างของอ็อคคลัว
ศึกแรกของการรวมกลุ่มล่าของพวกเขาสำเร็จด้วยดี!