ตอนที่ 19-25 ทักษะเทพธรรมชาติ
ในช่วงหกสิบปีที่ผ่านมาในสมรภูมิมหาพิภพลินลี่ย์ได้ทราบถึงอันตรายที่แฝงตัวอย่างลึกซึ้ง ถ้าเขาต้องการอาศัยพลังของตนเองเพื่อให้ได้รับความดีความชอบทางทหารพร้อมกับปกป้องชีวิตของเขาไปด้วย นั่นเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็น! ตอนนี้พอลินลี่ย์ร่วมผนึกกำลังกับรีสเจมเป็นหน่วยไล่ล่า ลินลี่ย์รู้สึกโล่งใจจริงๆ
“ดี ตรงไปตรงมาดีมาก! มาเริ่มกัน เราจะเตรียมหาที่พักกันก่อน” รีสเจมพูดพลางหัวเราะ
ขณะที่คนตัวใหญ่ข้างรีสเจม เขาไม่พูดอะไรสักคำ แค่เดินตามหลังอย่างเดียว
“รีสเจมเป็นแม่ทัพขุมนรกมานานแล้ว และสามารถขู่ขวัญเบนฟิลด์ได้ ลินลี่ย์รู้สึกมั่นใจในพลังของรีสเจมมาก ”นอกจากนี้ ตามคำอธิบายพลังของรีสเจมในหนังสือของเบรุต รีสเจมเป็นสุดยอดฝีมือห้าอันดับแรกของผู้บัญชาการขุมนรก”
ชื่อเสียงของรีสเจมนับว่าเลื่องลือไกล
ไม่เพียงแต่เขาเองก็ทรงพลังเท่านั้นแต่มารดาของเขาคือมหาเทพเรดบุด!
“พี่ใหญ่! ต่อไปในอนาคต หลายๆอย่างจะง่ายขึ้นสำหรับเรามาก บางทีเราอาจจะได้รับผลงานทางทหารได้ง่ายขึ้น” บีบีเริ่มหัวเราะ และก็เพียงพลิกมือเขาดึงผลไม้แดงออกมากัดกินอย่างดุดัน รีสเจมที่อยู่ใกล้ๆ สูดอากาศและหันมามองบีบีและหัวเราะทันที “บีบี เอ่อ? ผลไม้ของเจ้าดูน่ากินดีขอข้าสักผลได้ไหม?”
“เอาไปเลย” บีบีดึงผลไม้ออกมาอีกลูกหนึ่งและโยนให้รีสเจม
ตาของรีสเจมเป็นประกายรับผลไม้นั้นไว้และเริ่มกินทันที จากนั้นพยักหน้าด้วยความพอใจ “กรอบ รสชาติดี กินแล้วชื่นใจ ขอบใจน้องชาย” ขณะที่เขาพูดรีสเจมดึงผลไม้สีม่วงออกมาบ้าง “นี่คือผลที่ข้าชอบกิน มีอยู่แต่ในพิภพชีวิตเท่านั้น รสชาติดีนะ”
บีบีกับรีสเจมทั้งสองมีจิตใจเหมือนเด็กทั้งคู่และเริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็ว
ลินลี่ย์ได้แต่ยิ้มขณะตามพวกเขาอย่างเยือกเย็น ขณะที่บุรุษร่างยักษ์ก็ติดตามเงียบๆ
“เฮ้, รีสเจม, ข้าไม่ได้โม้นะทักษะเทพธรรมชาติของข้า.....” บีบีเริ่มคุยฟุ้งต่อหน้ารีสเจม
“ทักษะของเจ้าทรงพลังแต่ของข้าก็ไม่ด้อยเหมือนกัน” รีสเจมพูดด้วยความมั่นใจ “แต่บีบี,ข้าต้องเตือนเจ้าไว้ก่อน ไม่ว่ายังไงก็ตามเจ้าไม่อาจเอาทักษะเทพธรรมชาติของเจ้ามาใช้กับข้า... ข้าได้ยินมาจากท่านแม่ข้าว่าทักษะเทพธรรมชาติของเจ้าหนูกินเทพเป็นสุดยอดไม้ตายตามธรรมชาติแน่นอน มีแต่คนที่มีสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณหรือเทพชั้นสูงพารากอนถึงจะต้านทานได้ นอกนั้นไม่มีทางต้านได้”
“ไม่ต้องห่วง” บีบีแค่นเสียง “เราเป็นพวกเดียวกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ลินลี่ย์มีความคิดทันที ดูเหมือนว่ารีสเจมค่อนข้ากลัวทักษะเทพธรรมชาติของบีบีเหมือนกัน
รีสเจมกัดผลไม้อีกคำและจากนั้นพูดอย่างจนใจ “ข้า, รีสเจม ก็มีทักษะโจมตีวิญญาณ! ข้าไม่กลัวแม้แต่พลังโจมตีวิญญาณของพารากอน แต่ทักษะหนูกินเทพของเจ้านั้น บีบี..ไม่มีทางที่ข้าต้านได้ ไม้ตายนั้นเป็นพลังโจมตีวิญญาณที่ทรงพลังที่สุดที่เทพชั้นสูงจะใช้ได้!”
ลินลี่ย์หัวเราะเช่นกัน คำพูดของรีสเจมมีเหตุผลมาก
ไม้ตายของบีบีคือกินประกายเทพและทำลายวิญญาณย่อมเป็นพลังโจมตีวิญญาณที่ทรงพลังที่สุดแน่นอน
“ตามสิ่งที่ท่านแม่ข้าบอกทักษะเทพธรรมชาติของอสูร ในแง่ของความน่ากลัว..บีบี, ไม้ตายกินเทพของเจ้านับได้ว่าเป็นหนึ่งในไม้ตายสุดยอด! ขณะที่เผ่ามังกรฟ้าเผ่าหงส์เพลิงและสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือ ทักษะเทพธรรมชาติของพวกเขาก็น่ากลัวเช่นกัน ต้นชีวิตจากพิภพชีวิตก็ยังเป็นตัวประหลาดตัวหนึ่ง..และผลสิ้นหวังของยมโลกและ.. เอ่อ.. อสูรเทพที่ร้ายกาจก็ยังกลายเป็นมหาเทพไปด้วย” รีสเจมชื่นชมพลางถอนหายใจ
อสูรเทพถูกแบ่งเป็นระดับชั้นพลังเช่นกัน
หนูกินเทพยืนอยู่ชั้นบนสุดของอสูรเทพ แต่ต้นผลสิ้นหวังก็เหมือนกัน อสูรเทพเหล่านี้และทักษะเทพธรรมชาติของพวกเขามีพลังที่ไม่ธรรมดา
“เฮ้,อสูรเทพเหล่านั้นทรงพลังมากมายได้ยังไง? บอกข้าบ้างสิ” บีบีพูดอย่างตื่นเต้น
ลินลี่ย์รู้สึกทึ่งเช่นกัน
แม้ว่าพวกเขากำลังเดินอยู่บนสมรภูมิรบ แต่ทั้งสี่คนยังรู้สึกสบายใจ ลินลี่ย์และคนร่างยักษ์ยังคงมองดูรอบๆอย่างระมัดระวัง แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีค่อยมีคนกล้าพอที่จะพยายามโจมตีกลุ่มคนทั้งสี่
“ในแง่ของพลังโจมตีล้วนๆ ‘พยัคฆ์ขาว’ แห่งตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มีทักษะเทพธรรมชาติที่ทรงพลังมากกว่าทักษะกินเทพของเจ้า” รีสเจมพูดพลางถอนหายใจ “ท่านแม่ข้าบอกว่าเมื่อตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือผนึกกำลังกันด้วยทักษะเทพธรรมชาติของพวกเขานั่นจะมีพลังสูงสุดยอด! พวกเขาทรงพลังมากในหมู่มหาเทพ แต่น่าเสียดาย พวกเขากลับพังพินาศหมดสิ้น น่าเสียดาย”
ลินลี่ย์ตกตะลึง
ทักษะเทพธรรมชาติของพยัคฆ์ขาวแห่งสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์มีพลังมากยิ่งกว่าทักษะกินเทพอีกหรือ? น่าเสียดาย เขาไม่เคยมีโอกาสได้เห็น ที่สำคัญไม่มีผู้สืบทอดของสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์สักคนที่เป็นอสูรเทพ พวกเขาแค่มีสายเลือดของอสูรเทพเท่านั้น ทักษะเทพธรรมชาติของพวกเขาจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อผ่านพิธีชุบตัวเท่านั้นถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจเทียบได้กับบรรพบุรุษดั้งเดิมของพวกเขา
“ยังทรงพลังมากกว่าเราหนูกินเทพอีกหรือ?” บีบีพึมพำ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ยินดีจะรับผลเช่นนี้
รีสเจมหัวเราะเบาๆ “มีมหาเทพทั้งหมดเจ็ดสิบเจ็ดคน และมีจำนวนหนึ่งที่เป็นอสูรเทพ! นอกจากนี้อสูรเทพเหล่านี้เกือบทั้งหมดมีความเฉพาะตัว เจ้าคงไม่เคยเห็นพวกเขาสู้ แต่ต่อให้เจ้าเห็นไม่จำเป็นที่พวกเขาต้องใช้ทักษะเทพธรรมชาติ แน่นอนว่าเจ้าไม่รู้ว่าทักษะเทพธรรมชาติของพวกเขาน่ากลัวและทรงพลังเท่าใด แต่แน่นอนว่า...การผนึกกำลังกันของทักษะเทพธรรมชาติของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ย่อมเป็นทักษะเทพธรรมชาติที่ทรงพลังที่สุด ไม่มีใครสงสัยในเรื่องนี้”
ขณะที่พวกเขาคุยกันตามปกติ พวกเขามาถึงภูเขาน้อยแห่งหนึ่ง
“เฮ้ โฮม, สร้างถ้ำให้เราหน่อย” รีสเจมกล่าว
“ได้” ในที่สุดคนตัวใหญ่ก็พูดขึ้น
ลินลี่ย์อดมองเขาไม่ได้ เขาดูตัวใหญ่โตเดินก้าวยาวมาอยู่หน้าภูเขาเล็ก สูงประมาณร้อยเมตร คนตัวใหญ่เอามือใหญ่ขนาดเท่าพัดทาบกับภูเขา และทันใดนั้นศิลาของภูเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นของเหลว ค่อยๆ ไหล
ในพริบตาเดียว....
ถ้ำสี่เหลี่ยมปรากฏขึ้นและผนังของถ้ำก็ยังมีลวดลายแบบถ้ำ
“นี่คือวิชาอะไรกันนี่?” ลินลี่ย์และบีบีตะลึง
“ไม่ต้องตกใจนักหรอก” รีสเจมหัวเราะดีใจ จากนั้นก้าวเท้าเข้าไปในถ้ำโดยมีคนตัวโตเดินตาม
“คนตัวโตผู้นี้มีทั้งความลึกลับและทรงพลัง” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจชมเชย นอกจากนี้ลินลี่ย์ไม่เคยเห็นหนังสือของเบรุตพูดถึงเกี่ยวกับคนตัวใหญ่ผู้นี้
“วูบบบบ!”
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในถ้ำไม่นานหินก้อนหนึ่งกระแทกปิดลงที่ทางเข้าปิดกั้นถ้ำไว้จากโลกภายนอก
ภายในถ้ำมีการแบ่งถ้ำออกเป็นหลายห้องรวมทั้งห้องนั่งเล่นรวมอยู่ด้วยเช่นกัน
“เจ้าคิดว่ายังไงบ้าง? น่าทึ่งไหมกับฝีมือของโฮมหือ?” รีสเจมหัวเราะขณะที่เขานั่งลงบนม้าหินในห้องนั่งเล่น “ข้าขอแนะนำอย่างเป็นทางการก่อน โฮมมีชื่อเต็มว่าเรย์โฮม สโตนเบรกเกอร์ เขาเป็นสหายที่ดีของข้าและเป็นทูตมหาเทพที่น่าเชื่อถือของท่านแม่ข้าอย่าได้ถูกลักษณะเงียบๆ ของเขาหลอกเชียว จิตใจของเขากระจ่างในเรื่องราวหลายอย่าง”
รอยยิ้มที่ยากจะเห็นปรากฏบนใบหน้าของบุรุษตัวโต
เรย์โฮมสโตนเบรกเกอร์?
ลินลี่ย์ชำเลืองมองเขาจากนั้นหัวเราะและกล่าว“ลินลี่ย์ บาลุค”
“หวัดดี ลินลี่ย์” เสียงของเรย์โฮมดังราวกับฟ้าร้อง ดูเหมือนดังอยู่ที่หน้าอกของเจ้ายักษ์นี้
“ฮ่าฮ่า จากวันนี้เป็นต้นไปพลังตามล่าของหน่วยเราจะเพิ่มขึ้นอีกมาก” ริสเจมตบโต๊ะ “บีบี,ทักษะเทพธรรมชาติ กินเทพของเจ้าเป็นพลังโจมตีที่แหลมคมที่สุดที่หน่วยเรามี! ลินลี่ย์ทักษะเทพธรรมชาติของเจ้าคืออะไร? ได้ขนาดมหาเทพมังกรฟ้าสักกี่ส่วน”
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น“ข้าไม่สามารถบอกเป็นสัดส่วนได้ ทักษะเทพธรรมชาติของข้าทั้งหมดสามารถทำให้ศัตรูช้าลงถึงสิบเท่า
“เยี่ยม ฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยมมาก” รีสเจมลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น ตาของเขาเป็นประกายสีม่วง
“น่าเกรงขาม” คนตัวโตชื่นชมด้วยเช่นกัน
“ลินลี่ย์ด้วยไม้ตายนี้ของเจ้า หน่วยล่าของเราจะมีพลังเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน รีสเจิมตื่นเต้น
จากนั้นรีสเจมบ่นอย่างไม่พอใจ “นี่ทำให้ข้าหงุดหงิดจริงๆ หลายปีมาแล้วเรย์โฮมและข้าไปเจอกับผู้บัญชาการหลายคนแล้ว แต่พวกเขาพอเอาชนะเราไม่ได้พวกเขาก็หนีไปทันที ต่อให้ข้าใช้สนามพลังอะเมทิสต์ของข้าก็ตาม ถ้าพวกเขาตั้งใจจะหลบหนี ข้าก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ แต่ถ้าในช่วงวิกฤติ เจ้าใช้ทักษะเทพธรรมชาติของเจ้ากับพวกเขา และให้โฮมโจมตี อย่างนั้นเราจะฆ่าเป้าหมายได้แน่นอน”
ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้
เขากับบีบีมีทักษะเทพธรรมชาติที่ทรงพลังทั้งคู่ จุดอ่อนของพวกเขาอย่างเดียวก็คือ...พวกเขาเองระดับพลังส่วนตัวค่อนข้างน้อย พลังโจมตีและพลังป้องกันของพวกเขาไม่เพียงพอ แต่หลังจากเข้าร่วมกลุ่มนี้จะทำให้พวกเขาเติมเต็มสิ่งที่ขาด
“ฮ่าฮ่า...มีพวกเจ้าสองคนอยู่ด้วย! ทีมล่าของเราจะครองสมรภูมิมหาพิภพนี้ได้! ถ้าใครบังอาจเข้ามาใกล้เราในระยะที่ทักษะเทพธรรมชาติของลินลี่ย์เจ้าใช้งานได้ พวกเขาจะต้องจบสิ้นกัน” รีสเจมมีความสุขมาก ความจริงเดิมทีเขาใส่ใจทักษะเทพธรรมชาติของบีบีมากกว่า บวกกับความจริงที่ว่าเขามีสัมพันธ์กับลินลี่ย์อยู่ก่อนนั้นทำให้เขาเชิญให้ร่วมกลุ่ม
แต่ตอนนี้เขาพบว่าทักษะเทพธรรมชาติของลินลี่ย์ถือว่าเป็นความสามารถสุดยอดที่สนับสนุนความสามารถการรบในสมรภูมิมหาพิภพนี้
สงครามมหาพิภพจะดำเนินไปเกือบพันปี กลุ่มของลินลี่ย์ไม่เร่ง พวกเขาอยู่ในถ้ำสามวันก่อนออกมา และช่วงสามวันนี้ลินลี่ย์ได้เรียนรู้เรื่องเพิ่มจากรีสเจมเกี่ยวกับผู้บัญชาการของสมรภูมิมหาพิภพ
“มีผู้บัญชาการสักกี่คนที่กล้าเที่ยวเดินทางอยู่ในสมรภูมิมหาพิภพได้ตามต้องการ? เพียงแต่พวกเขามีพลังเพียงพอกล้าจะทำเช่นนั้น มิฉะนั้นก็คงเป็นเพราะความบ้า”
“สำหรับผู้บัญชาการที่อ่อนแอทุกคนทุกคนมีความเจ้าเล่ห์อย่างเหลือเชื่อ หลายคนซ่อนตัว ไม่กล้าออกมาเดินเที่ยวเตร่เองและอาศัยแต่โกเลมมัจจุราชคอยสอดแนม เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูอ่อนแอ พวกเขาจึงจะสู้ เมื่อเผชิญกับคู่ต่อสู้แข็งแกร่ง พวกเขาจะไม่ออกมา”
“แต่แน่นอน ส่วนใหญ่จะก่อตั้งทีมเล็กบางที่ก็สองคน สามคนหรืออาจเป็นสี่หรือห้าคนสิ่งที่สำคัญที่สุดในทีมก็คือความเชื่อใจกัน มิฉะนั้นเพื่อนร่วมทีมกันเองจะเริ่มสู้กันในหมู่พวกเขาเอง และนั่นจะเป็นหายนะ”
“ลินลี่ย์, บีบี,เป้าหมายของเราในสมรภูมิมหาพิภพนี้ก็คือทีมอื่น! สำหรับคนที่เที่ยวไปตามลำพัง? หึหึ เราไม่สามารถฆ่ากลุ่มที่ทรงพลังได้ ขณะที่กลุ่มที่อ่อนแอจะซ่อนตัวและไม่กล้าเผยตัวเอง เป็นเรื่องยากเหมือนกันที่จะฆ่าพวกเขา ดีที่สุดเราต้องรวมกลุ่มสู้กับทีมอื่น นั่นจะน่าตื่นเต้นมาก และยังทำให้ง่ายต่อการเก็บป้ายประจำตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย”
รีสเจมและลินลี่ย์ปรึกษากันหลายอย่าง และตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจว่าแผนการลอบซุ่มทำร้ายที่เขาเคยใช้ก่อนหน้านั้นเป็นกลยุทธ์ประสิทธิภาพต่ำ นี่เป็นเพราะทุกคนที่กล้าเดินทางตามลำพังจะทรงพลังมากมาย โชคดีที่บีบีสามารถใช้ทักษะเทพธรรมชาติฆ่าแลนเซลอตได้! มิฉะนั้นลินลี่ย์คงไม่สามารถเก็บป้ายประจำตัวได้แม้แต่ชิ้นเดียว
ลินลี่ย์ บีบี รีสเจมและเรย์โฮมผู้เงียบขรึมยังคงไปต่อข้างหน้า
“ฮ่าฮ่า,มีคนน้อยมากที่รู้ว่าเราดูเหมือนมีสี่คน นี่ทำให้เป็นเรื่องง่ายทำให้เราจับปลาใหญ่ได้” รีสเจมหัวเราะเบาๆ “ลินลี่ย์! เมื่อศัตรูเข้ามาถึงระยะทำการของเจ้า เราจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าทั้งหมด...เจ้าจะต้องใช้ทักษะเทพธรรมชาติและทำให้พวกเขาหนีไม่ได้ช่วงเวลาหนึ่ง ในส่วนของการฆ่า? ปล่อยให้เราทำเอง”
“เข้าใจแล้ว” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น
ลินลี่ย์ต้องยอมรับว่าพลังโจมตีวิญญาณของเขาในบรรดายอดฝีมือระดับผู้บัญชาการทั้งหมดนับได้ว่าธรรมดา เมื่อลินลี่ย์สู้เคียงข้างบีบีเขาใช้กลยุทธ์ที่คล้ายกัน
“เป็นเรื่องยากที่จะคนให้พบได้” บีบีจ้องมองรอบๆ และบ่น
สมรภูมิมหาพิภพมักจะมืดและเย็นยะเยือกอยู่เสมอ ลินลี่ย์เงยหน้ามองดูท้องฟ้ามีรอยฉีกสีสันต่างๆ ลมเย็นหวีดหวิวพัดผ่านสมรภูมิขณะที่ทั้งสี่คนลอบเดินทางขึ้นหน้า พวกเขาไม่ได้ซ่อนตัว ไม่ได้ใช้โกเลมมัจจุราช แค่เดินไปตรงๆ
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
“รีสเจม, ข้าคิดว่าดีที่สุดเราควรแยกกันและคอยรักษาระยะห่างจากกันไว้ มิฉะนั้นถ้าเราสี่คนยังอยู่ด้วยกันตลอดเวลาเป็นไปได้ว่าผู้บัญชาการอื่นคงไม่กล้าเข้ามาใกล้เรา และเอาแต่มองอยู่ห่างๆ” ลินลี่ย์กล่าว
“แยกกัน? อย่างนั้นเราจะประสานงานกันได้ยังไง?” รีสเจมถาม
ลินลี่ย์หัวเราะ “เอาอย่างนี้ เราทั้งสองแบ่งเป็นสองทีม บีบีกับข้าจะแยกกัน แต่เราทั้งสองคนมีการเชื่อมวิญญาณกันอยู่และสามารถส่งสำนึกเทพคุยกันทางใจได้ ต่อให้เราไม่เห็นกันก็ตาม เราก็ยังหากันพบ”
“เป็นแผนที่ดี” รีสเจมพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เอาอย่างนั้นก็ได้ ลินลี่ย์, เจ้าตามข้ามา เรย์โฮมเจ้าไปกับบีบี ทีมของเราทั้งสองจะรักษาระยะห่างสามกิโลเมตร ถ้ามีการต่อสู้เริ่มขึ้น เราจะมาสมทบกันได้ในระยะทางที่สั้นแค่นั้น” รีสเจมจัดวางกำลังและลินลี่ย์บีบีไม่คัดค้าน พวกเขาแยกกันทันที
ลินลี่ย์และบีบีสามารถรู้สึกถึงตำแหน่งของกันได้ ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงรู้สึกถึงตำแหน่งที่ทั้งสองฝ่ายมุ่งหน้าไป
ไม่ถึงครึ่งวันหลังจากพวกเขาแยกกัน...
“พี่ใหญ่, เราพบเป้าหมาย” เสียงของบีบีดังขึ้นด้วยความประหลาดใจปนดีใจและดังขึ้นมาในใจของลินลี่ย์