2117 - ต่อสู้ไม่เคยว่างเว้น
2117 - ต่อสู้ไม่เคยว่างเว้น
หลังจากผ่านมาอย่างยาวนานหลายปีดินแดนเหล่านี้ก็ไม่เคยสงบสุขไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่ทอดสู่เมืองจักรพรรดิหรือในห้วงจักรวาลอันยิ่งใหญ่
บ่อยครั้งจะมีรอยแตกและจากนั้นสิ่งมีชีวิตจากฝั่งตรงข้ามจะบุกเข้ามา อาจกล่าวได้ว่าหลังจากหลายปีที่ผ่านมา ผู้ฝึกฝนของราชสำนักอมตะมักจะต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่เสมอ
สิ่งเดียวที่โชคดีคือที่นี่คือยุคไร้การฝึกฝน ดังนั้นสิ่งมีชีวิตของอีกฝ่ายจึงรู้สึกหวาดกลัว ไม่กล้าที่จะเชื่อมโยงทั้งสองโลกเข้าด้วยกันอย่างแท้จริง
ในเวลาเดียวกันสือฮ่าวก็เชิญราชันย์ดินแดนปิดผนึกมาจัดการบางอย่างเพื่อไม่ให้จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญข้ามผ่านได้อย่างแท้จริง จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
“อาณาจักรทะเลอยู่ในความโกลาหล สิ่งมีชีวิตบางตัวกำลังจะข้ามมาฝั่งนี้ ดังนั้นจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญจึงทำการเฝ้าระวังเพราะไม่ว่าจะอย่างไรเหตุการณ์ทางอาณาจักรทะเลก็รุนแรงกว่าโลกของเรามาก!” ราชันย์ดินแดนปิดผนึกกล่าว
เมื่อหลายร้อยปีก่อนสือฮ่าวไปเยี่ยมอาณาจักรทะเลอีกครั้ง และพบว่าสิ่งมีชีวิตอมตะมากมายกำลังจะขึ้นฝั่งมา! จะต้องมีการต่อสู้ที่นั่นอย่างแน่นอน และมันจะขมขื่นอย่างไม่น่าเชื่อ
“เกี่ยวกับหีบไม้ที่เน่าเปื่อยนั้น ท่านพอจะสามารถเปิดมันได้หรือไม่?”
สือฮ่าวถามราชันย์ดินแดนปิดผนึก
“ไม่”
แม้ว่าสิ่งนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเปิดมันได้ มันสร้างความปวดหัวให้กับราชันดินแดนปิดผนึกมานับพันปี แม้แต่กระโหลกแก้วและสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้
พวกเขาพูดอย่างตรงไปตรงมาและบอกว่ามันคือของที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง มันมาจากยุคที่จักรพรรดิร่วงหล่นและสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นมีค่ายิ่งกว่าสิ่งประดิษฐ์โบราณต้นกำเนิด!
“พวกมันกำลังมาอีกแล้ว!”
ทันใดนั้นสือฮ่าวก็ลุกขึ้น เมื่อเขาได้รับข้อมูล เขาก็รีบเข้าไปในส่วนลึกของจักรวาลมืดอย่างรวดเร็ว
ดอกบัวสีดำปรากฏขึ้นอีกครั้งโดยต้องการเปิดเส้นทาง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้สือฮ่าวเผามันทิ้งไปพร้อมกับเปลวไฟในร่างกายของเขาอีกครั้ง
อ่า…
คราวนี้มันแตกต่างออกไปเล็กน้อย ในห้วงจักรวาลอันมืดมิด ฝูงสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดได้พุ่งเข้ามาพวกมันถูกโอบล้อมด้วยความชั่วร้ายและหมอกสีดำตลบอบอวลไปทั่วทั้งจักรวาล
สิ่งมีชีวิตอมตะ!
อีกด้านหนึ่ง มีผู้เชี่ยวชาญระดับอมตะ มันเป็นลิงที่มีลำตัวเป็นสีขาวเหมือนหิมะ โดดเด่นเป็นพิเศษท่ามกลางหมอกสีดำ มันถูกล้อมรอบด้วยสายฟ้าสีเลือด พันรอบตัวมันอย่างหนาแน่น
ลิงที่ดุร้ายตัวนี้แข็งแรงเกินไป และขนาดของมันก็ใหญ่มาก เกือบจะทำลายเปลวไฟของสือฮ่าวได้สำเร็จ
อ๋าว…
มันส่งเสียงคำรามอันยิ่งใหญ่ กลืนกินดวงดาวโดยตรง มันอ้าปากกว้างและแยกเขี้ยวของมัน ดาวดวงนั้นถูกบดขยี้อยู่ใต้ฟันของมันและกลายเป็นพลังงานระดับเต๋าอมตะเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมัน
"ฆ่า!"
มนุษย์ทองคำเซียนเจ็ดสีลงมือเข่นฆ่าเข้าไปตรงๆ ในเวลาเดียวกันสือฮ่าวก็มาถึงเช่นกัน เขาทุบดอกบัวปีศาจ อยากจะทำลายมันเสียก่อน
วานรสีเงินได้ปล่อยหมอกสีดำออกจากปากของมัน สารนี้เป็นสสารมืด มันต่อสู้กับมนุษย์ทองคำเซียนเจ็ดสีอย่างยิ่งใหญ่
“ระวัง อย่าให้ความมืดปนเปื้อน!”
สือฮ่าวคำรามออกมาเตือน เขาไปถึงรากของดอกบัวปีศาจแล้ว ทันใดนั้นก็มีเสียง โบ! รากของดอกบัวสีดำแตกออกข้างในนั้นมีตะขอโลหะที่มีขนาดใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ ใหญ่กว่าดาวฤกษ์ด้วยซ้ำ
หนังศีรษะของสือฮ่าวรู้สึกชาด้าน เขารีบกระตุ้นเปลวไฟลึกลับในทันทีและปล่อยมันเพื่อเผาบริเวณนั้นให้แหลกเป็นจุล
ฮู้!
เสียงคำรามดังก้องไปทั่วกำแพงอาณาจักร ในบริเวณโดยรอบ ดวงดาวระเบิดขึ้นทีละดวง กลายเป็นผง ฉากนี้น่ากลัวถึงขีดสุด
ทุกอย่างเป็นเพราะเสียงคำรามของสิ่งมีชีวิตนั้น
หากไม่ใช่ว่ากำแพงอาณาจักรมีความแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อวันนี้มันคงถูกทำลายไปภายใต้เสียงคำรามครั้งนี้แล้ว! สิ่งมีชีวิตตัวนี้แข็งแกร่งแค่ไหน หากมันข้ามมาได้ทุกสิ่งจะกลายเป็นหายนะทันที
ตะขอนั้นถอยออกไป ได้รับบาดเจ็บจากเปลวไฟลึกลับ มันกลับเข้าสู่โลกแห่งความมืดมิด รากบัวปีศาจแตกเป็นเสี่ยงๆ
ทันทีที่เปลวไฟเซียนลุกไหม้ สือฮ่าวก็มองเห็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นเจ้าของตะขอนั้น มันเป็นมือข้างหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ปกคลุมทั่วทั้งจักรวาล ตะขอโลหะนั้นเป็นหนึ่งในเล็บของมันเท่านั้นเอง!
สิ่งมีชีวิตนี้น่ากลัวแค่ไหน? ตะขอนั้นใหญ่กว่าดวงดาวด้วยซ้ำ ร่างของมันก็ไร้ขอบเขตราวกับเต๋าผู้ยิ่งใหญ่!
สือฮ่าวสัมผัสได้ว่าสิ่งมีชีวิตตัวนั้นคือร่างกายแห่งเต๋าอมตะจริงๆ ไม่ใช่ภาพธรรมที่ถูกแสดงขึ้นจากพลังศักดิ์สิทธิ์
สือฮ่าวรู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างร้ายแรง สิ่งมีชีวิตตัวนี้จะต้องเป็นถึงครึ่งก้าวราชาอมตะอย่างแน่นอน
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้จบลงลิงสีเงินก็ถูกฆ่า แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งอย่างมากแต่สุดท้ายมันก็ต้องตาย อย่างไรก็ตามสือฮ่าวมีสีหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างรุนแรงเขารู้ว่าอันตรายได้มาถึงแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวราชาอมตะกำลังจะลงมือ อันตรายนับจากนี้จะรุนแรงมากขึ้นหลายสิบเท่า!
สือฮ่าวใช้มือกุมขมับของตัวเอง เขารู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมากในเวลานี้สิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่ในอาณาจักรทะเลกำลังจะขึ้นฝั่ง เปลวไฟแห่งสงครามถูกกำหนดให้ล้นสู่สวรรค์ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่นาน
ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งและสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดก็จะเข่นฆ่าเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างประดังประเดเข้ามาพร้อมกันทำให้เขารู้สึกเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
“มันเป็นช่วงเวลาที่มีปัญหาจริงๆ!”
ช่วงเวลาที่โหดร้ายที่สุดกำลังใกล้เข้ามาอย่างไม่ต้องสงสัย ช่วงเวลาที่น่าเป็นห่วงอย่างแท้จริงกำลังจะเกิดขึ้น
แน่นอนว่าในอีกห้าร้อยปีข้างหน้า การต่อสู้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สิ่งมีชีวิตระดับครึ่งก้าวราชาอมตะข้ามผ่านเป็นครั้งคราว ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ทองคำเซียนเจ็ดสี ผีอมตะสามตน หรือวิญญาณวีรชนทุกคนต่างออกไปต่อสู้ไม่เว้นวัน
ในขณะเดียวกันสือฮ่าวก็ทำการต่อสู้อยู่ตลอดเวลา บางครั้งเขาไปปรากฏตัวที่เมืองจักรพรรดิบางครั้งก็เข้าสู่จักรวาลอันมืดมิดแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจแม้แต่น้อย
ราชสำนักประสบความสูญเสียอย่างหนัก วิญญาณวีรชนบางตนร่วงหล่นลงอีกครั้ง จนถึงขั้นที่หนึ่งในสามผู้อมตะผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้กลับคืนสู่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ กลายเป็นส่วนหนึ่งของสวรรค์และปฐพี
อย่างไรก็ตาม ผู้รอดชีวิตกลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หลังจากประสบกับการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่จากสองอาณาจักร ยิ่งถูกกดขี่ พวกเขาก็ยิ่งกล้าหาญมากขึ้นเท่านั้น
บางคนตราบเท่าที่พวกเขารอดชีวิตพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆนี่เป็นเรื่องที่ปกติอยู่แล้ว
ในขณะเดียวกัน ในสายตาของผู้คนในโลกนี้สือฮ่าวก็บ่มเพาะมาถึงห้าพันห้าร้อยปีแล้ว
มดเขาสวรรค์ มู่ชิง มังกรแดงและตัวอื่นๆมีอายุไม่ต่างกันมาก ในเวลานี้ ในที่สุดก็มีคนสองสามคนแทบจะสามารถบรรลุความเป็นสูงสุดได้แล้วจริงๆ
การที่สามารถบรรลุเต๋าเมื่ออายุได้ห้าพันปี แม้ว่าจะอยู่ในดินแดนอมตะหรืออีกด้านหนึ่ง นี่คือผู้ที่มีพรสวรรค์สูงสุดจนน่าเหลือเชื่อแล้ว
ถ้าอยู่ในอาณาจักรเซียนสถานะของพวกเขาจะไม่แตกต่างจากเอ๋ากานและพานยี่เลย
สถานการณ์ของสือฮ่าวถือได้ว่าเป็นข้อยกเว้นเท่านั้น พวกเขาย่อมไม่สามารถเปรียบเทียบได้กันได้
ในเวลานี้อวิ๋นซีก็แก่ชราลงเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้วที่นางจะกลายเป็นผู้สูงสุดดังนั้นเวลาของนางจึงใกล้จะหมดลง
อย่างไรก็ตาม รูปลักษณ์ของนางยังคงเป็นหญิงสาวที่สดใสและงามงามอยู่เสมอไม่เคยแก่ชรา รักษาสภาพที่สวยงามที่สุดของนางไว้ สิ่งนี้ทำให้จิตใจของนางสงบนิ่งไม่รู้สึกหวาดกลัวต่อความตายที่กำลังจะมาถึง
“ข้ารู้สึกเป็นห่วงเฉพาะเจ้าตัวเล็กเท่านั้น” อวิ๋นซีมองไปที่เด็กน้อยซึ่งกำลังนอนหลับอย่างสงบในหม้อสีขาว
ในช่วงเวลานี้ เจ้าตัวเล็กมักจะหลับใหลอยู่เสมอและถูกผนึกไว้แล้ว บางครั้งเขาจะถูกพาออกไปอาบความงดงามของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว เพื่อชำระร่างกาย
“อย่าคิดมากเมื่อข้าอยู่ที่นี่เจ้าจะเป็นอะไรไปได้อย่างไร” สือฮ่าวกล่าว
“อย่าได้เสียยาอันล้ำค่าไปเพื่อข้าอีก ไม่ใช่ว่าใครจะกลายเป็นผู้สูงสุดก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ ข้ารู้ดีว่าข้าไม่มีโอกาสแล้วส่งมอบยาพวกนั้นให้กับคนที่ต้องการจริงๆเถอะ!” อวิ๋นซีปฏิเสธ
เมื่อพูดกันมาถึงตรงนี้ดวงตาของนางก็มีความอ่อนโยนลงแล้วกล่าวว่า
“ตลอดห้าพันปีที่ผ่านมาเจ้าปฏิบัติกับข้าด้วยดีเสมอหลังจากนี้ข้าต้องปล่อยเจ้าไปแล้ว ข้ารู้ว่าเจ้ายังมีเศษเสี้ยวของนางอยู่ อย่าได้พยายามอดกลั้น หากเจ้าต้องการไปตามหานางเจ้าก็ไปเถอะ” เมื่อพูดถึงตรงนี้เสียงของนางก็สั่นสะท้านเล็กน้อย
“อย่าคิดมากเลยข้าจะอยู่กับเจ้าตลอดกาล!” สือฮ่าวกล่าวพร้อมกับลูบศีรษะของนางด้วยความรักและเอ็นดู