บทที่ 43 ภารกิจเสร็จสิ้น เริ่มต้นบททดสอบ!
โดยปกติแล้ว มันไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจเพื่อเข้าสู่อาณาจักรลับ
ตราบใดที่ทางเข้ายังเปิดอยู่ ใครๆก็สามารถเข้าไปได้ และเมื่อถึงจำนวนคนสูงสุด ทางเข้าจะปิดลงโดยอัตโนมัติ
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ‘โชคชะตา’
เป็นผลให้อาณาจักรลับใหญ่ๆหลายแห่งจะต้องผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดก่อนที่ทางเข้าจะเปิดออก ผู้ชนะจะเป็นคนจัดการเรื่องต่างๆเพื่อป้องกันผู้คนจากการฉวยโอกาสในความมืด
ครั้งนี้มีคนไม่มากที่รู้เกี่ยวกับอาณาจักรลับ ดังนั้นกระบวนการจึงค่อนข้างกลมกลืนกัน
แม้ว่าคนสองคนจะถูกบังคับให้ออกไป แต่ก็ไม่มีการนองเลือด
ทุกคนมองไปที่แสงแพรวพราวตรงหน้า
พวกเขาดีใจกับอาณาจักรลับที่ถูกเปิดออก แต่ไม่กล้าก้าวไปคนแรก
ทุกสายตาจับจ้องไปที่หลี่หราน และเนื่องจากเขาไม่ขยับ คนอื่นๆก็ไม่กล้าขยับเช่นกัน
หลี่หรานกล่าวว่า “ตามข้ามา”
“อื้ม” เซียวชิงเกอพยักหน้า
นางก้าวเข้าไปในแสงสีขาวพร้อมกับเขา
ซ่งชิงซงมองไปที่ด้านหลังของนางและขมวดคิ้ว “แผ่นหลังของนาง... ทำไมข้าจึงรู้สึกคุ้นเคย?”
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้ เขาตามไปอย่างใกล้ชิดและเข้าสู่อาณาจักรลับ
คนอื่นๆก็รีบตามเข้าไปเช่นกัน มีเพียงเยว่เจียนหลี่เท่านั้นที่ดูเฉยเมย นางเข้าไปเป็นคนสุดท้ายอย่างไม่เร่งรีบ
ทันทีที่นางเข้าไป ประตูหินก็ปิดลง
ทุกคนถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวขณะที่พวกเขาผ่านเส้นทางอันมืดมิด
เมื่อพวกเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทุกอย่างก็สว่างขึ้นทันใด
พวกเขาอยู่ในป่าที่ดูเก่าแก่
ต้นไม้โบราณนั้นกว้างพอที่คนสี่ถึงห้าคนจะโอบไว้ได้ รากบางส่วนโผล่ขึ้นมาบนผิวดิน และลำต้นขนาดใหญ่ก็ตั้งตระหง่านขึ้นไปถึงท้องฟ้า
วัตถุวิญญาณอันล้ำค่าสามารถพบเห็นได้ทุกที่ และอากาศก็เต็มไปด้วยพลังวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์
“สมกับเป็นอาณาจักรลับ!”
“พลังวิญญาณที่นี่หนาแน่นมาก การบ่มเพาะหนึ่งปีในนี้เทียบได้กับการบ่มเพาะสามปีในโลกภายนอก!”
“โชคไม่ดีที่อาณาจักรลับมีเวลาจำกัด ไม่เช่นนั้นข้าคงจะกักตนที่นี่!”
“พระเจ้า นั่นคือผลสีชาดอายุร้อยปี?”
“ยังมีเถาวิญญาณสีม่วงและหญ้าวิญญาณนรกด้วย... นะ...นี่คือสวนของจักรพรรดิโบราณ?”
ทุกคนตื่นตาตื่นใจ
วัตถุวิญญาณที่ล้ำค่าอย่างมากในโลกภายนอกกลับมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
แม้แต่อัจฉริยะของนิกายก็พบว่ามันยากที่จะสงบสติอารมณ์ ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในอาณาจักรลับ พวกเขาก็ได้พบกับสมบัติล้ำค่าดังกล่าวแล้ว
ถ้าพวกเขาก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ว่าจะมีความประหลาดใจอย่างใหญ่หลวงรอพวกเขาอยู่หรือ?
อาจเป็น... มรดกของจักรพรรดิโบราณ?!
ลมหายใจของซ่งชิงซงขาดห้วง
ในขณะนั้นเอง ระลอกคลื่นก็ปรากฏขึ้นในอากาศ ทีละคำๆ ตัวอักษรขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากอากาศว่างและจัดเรียงเป็นคำโดยอัตโนมัติ
【แสวงหาความเป็นอมตะและแข่งขันกับสรวงสวรรค์ เส้นทางที่เต็มไปด้วยโครงกระดูกและเคราะห์กรรมที่มากล้น...】
【บททดสอบแรก: การล่าสัตว์】
ข้อความค่อนข้างยาว
บางทีมันอาจกำลังบ่งบอกว่าอาณาจักรลับนี้เป็นมรดกของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ สถานที่นี้เป็นชั้นแรกของอาณาจักรลับ และทุกคนต้องผ่านบททดสอบเพื่อเข้าสู่ชั้นถัดไป
บททดสอบแรกกำหนดให้พวกเขาต้องล่าสัตว์อสูร แปดอันดับแรกที่รวบรวมกระดูกปีศาจได้มากที่สุดจะมีคุณสมบัติในการเข้าสู่ชั้นถัดไป และอีกสองคนที่เหลือจะถูกส่งออกจากอาณาจักรลับ
“บททดสอบนี้เรียบง่ายและธรรมชาติดีจริงๆ” หลี่หรานยิ้ม “แต่ข้าก็ชอบนะ”
หลังจากที่คนอื่นๆอ่านบททดสอบเสร็จสิ้น พวกเขาก็บินเข้าไปในป่าลึกอย่างรวดเร็ว และที่ตามมาคือเสียงโหยหวนของสัตว์อสูร
ผู้ที่เข้ามาในที่นี้ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งทั้งสิ้น
หลี่หรานไม่รีบร้อน เขาเรียกระบบในใจและเตรียมรับรางวัลก่อน
【ภารกิจเสร็จสิ้น】
【ระดับความสำเร็จ: สมบูรณ์แบบ】
【ได้รับ: หีบสมบัติระดับสุดยอด x1】
“โฮ่~ หีบสมบัติระดับสุดยอดจริงๆด้วย!” หลี่หรานเปิดหีบสมบัติทันที
【ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับ “คำสาปสายฟ้าสีทอง”】
“คำสาปสายฟ้าสีทอง” เป็นทักษะขั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ควบคุมสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์ทั้งเก้าเพื่อทำลายล้างศัตรู
ยิ่งฐานการบ่มเพาะสูงเท่าไร สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
ในมือของผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง มันอาจไม่ได้ด้อยไปกว่าทัณฑ์สวรรค์เลยด้วยซ้ำ!
การทำลายเมืองนั้นง่ายเหมือนกับการพูดคุยและหัวเราะ!
“เยี่ยมจริงๆ!” หลี่หรานแสดงความพึงพอใจออกมา
[TL: ต้นฉบับใช้คำว่า 针不戳 เป็นมีมภาษาจีนที่แปลว่า ‘เยี่ยมจริงๆ’]
นอกเหนือจากคชสารมังกรเจ๋อเทียนแล้ว เขามีไพ่ตายเพิ่มขึ้นอีกใบหนึ่ง
“ไปกันเถอะ! ถึงเวลาของเราแล้ว!” หลังจากปิดระบบ เขาก็เตรียมมุ่งหน้าสู่ป่าทึบเพื่อล่าสัตว์อสูร จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของเซียวชิงเกอซีดเซียว
“ข้าลืมไปว่าเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดา...” ลี่หรานเกาศีรษะ “เจ้าพยายามอย่างมากเพื่อเข้าสู่อาณาจักรลับ แต่เจ้าไม่แม้แต่จะผ่านบททดสอบแรกด้วยซ้ำ เจ้าจะทำยังไงต่อ?”
เซียวชิงเกอกัดริมฝีปาก นางเตรียมจิตใจไว้พร้อมสำหรับสิ่งเหล่านี้แล้ว
“ผู้อาวุโส การพาข้าเข้ามาที่นี่ถือเป็นเมตตากรุณาและความชอบธรรมสูงสุดแล้ว ข้อตกลงของเราเสร็จสิ้นแล้ว” เซียวชิงเกอโค้งคำนับและพูดต่อ “โอกาสอาจจะหายไปได้ทุกเมื่อ ผู้อาวุโสอย่าเสียเวลากับข้าเลย เป็นการดีกว่าที่ท่านจะไปล่าสัตว์อสูร ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะได้รับมรดกสูงสุด”
“เข้าใจแล้ว” หลี่หรานพยักหน้าและจากไปโดยไม่ลังเล
“……” เซียวชิงเกอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นางไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“สหายคนนี้... เขาค่อนข้างตรงไปตรงมา...”
“ผลไม้วิญญาณ... ข้าต้องได้มันมา! นี่เป็นโอกาสเดียวของข้า!”
“แน่นอนว่าเงื่อนไขแรกคือการอยู่รอด...”
หลี่หรานเข้าไปในป่า
สัญชาตญาณบอกเขาว่าเซียวชิงเกอมีความลับที่ยิ่งใหญ่ปกปิดไว้
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีความลับหรือไพ่ตายเก็บไว้ พวกเขาจะกล้าออกสู่โลกภายนอกได้อย่างไร?
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่สนใจ
ทั้งสองติดต่อกันมากว่าสิบวันแล้ว เขารู้สึกว่าบุคลิกของนางไม่เลวเลยทีเดียว เซียวชิงเกอดีต่อเขามาก
หลี่หรานแตกต่างจากผู้เชี่ยวชาญที่หยิ่งยโสเหล่านั้น แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิ เขาก็อาจจะไม่สนใจ แต่ถ้าเขาถูกใจใคร แม้ผู้นั้นจะเป็นมนุษย์ธรรมดาเขาก็นับเป็นสหาย
ดังนั้น ตอนที่เขาจากมา เขาจึงทิ้งยันต์ไว้บนร่างของเซียวชิงเกออย่างเงียบๆ...
“ยัยน้องสาวเจ้าปัญหา อย่าไปพูดกับใครล่ะว่าพี่ชายคนนี้ไม่ได้ปกป้องเจ้า!”
//////////