บทที่ 42 นี่คือเส้นทางที่ชอบธรรม?
เฮือก!
ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้
‘นี่จะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก!’
หลี่หรานพูดอย่างเฉยเมย “เจ้าจะเลือกกันเองหรือให้ข้าเลือก?”
เยว่เจียนหลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้
‘คนผู้นี้เอาแต่ใจเกินไป!’
ทุกคนมองหน้ากัน เป็นไปตามคาดจากปีศาจของนิกายปีศาจ เป็นที่ชัดเจนว่าเขาจะไม่ใช้เหตุผล
‘แล้วตอนนี้พวกเขาควรทำอย่างไร... พวกเขาควรเคลื่อนไหวหรือไม่?’
ด้วยอาณาจักรลับที่กำลังจะเปิด ใครจะเต็มใจใช้ไพ่ตายทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับเซิงจื่อของนิกายปีศาจ?
‘และแม้ว่าพวกเขาจะรวมพลังกัน พวกเขาจะสามารถเอาชนะคนผู้นี้ได้หรือไม่?’
‘เขาคือคนที่สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งพยัคฆ์เพลิงอัคคีด้วยการเตะ!’
ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการเลือกเหยื่อสังเวยเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนหมู่มาก
ถ้าพวกเขารอให้หลี่หรานสุ่มเลือกจริงๆ ทุกคนก็จะตกอยู่ในความเสี่ยง
บรรยากาศเงียบลง สายตาของทุกคนสอดส่องซึ่งกันและกัน และสุดท้ายก็จับจ้องไปที่คนๆเดียว
เฉาเยว่ จากนิกายเหยียนเยว่
ศิษย์สายตรงของนิกายชั้นสอง เขาเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในที่นี้
“พวกเจ้ามองข้าเรื่องอะไรกัน?” เฉาเยว่รู้สึกกระสับกระส่าย “พวกเจ้าต้องการให้ข้าจากไป? ข้าเป็นคนแรกที่มาถึงที่นี่ ข้าแม้แต่บอกทุกอย่างที่รู้แก่พวกเจ้า!”
ทุกคนราวกับไม่ได้ยินคำพูดของเขา
เฉาเยว่มองอย่างหมดหนทางไปที่ซ่งชิงซง “พี่ซ่ง ท่านต้องช่วยข้านะ! ท่านไม่ได้เพิ่งพูดว่าเราทุกคนเป็นศิษย์ของเส้นทางที่ชอบธรรมและต้องเดินหน้าถอยหลังไปด้วยกันหรอกหรือ?”
แค่ก แค่ก
ซ่งชิงซงรู้สึกอับอายเล็กน้อย เขากระแอมและพูดว่า “เราทุกคนเป็นศิษย์ของเส้นทางที่ชอบธรรม เป็นเพียงว่าการบ่มเพาะของเจ้ายังตื้นเขิน และการเข้าสู่อาณาจักรลับอาจเป็นอันตรายได้... เป็นการดีกว่าสำหรับเจ้าที่จะกลับไปบ่มเพาะอย่างเหมาะสมก่อน ยังมีโอกาสอีกมากในอนาคต”
เขาพูดราวกับว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของอีกฝ่ายจริงๆ
และทุกคนก็คล้อยตามคำพูดของเขา
“ถูกต้อง เฉาเยว่ ฐานการบ่มเพาะของเจ้ายังตื้นเขินมากจริงๆ”
“เจ้าต้องกลับไปฝึกฝนให้ดี!”
“พี่ซ่งกำลังทำสิ่งนี้เพื่อประโยชน์ของเจ้าเอง!”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตเพียงเพื่ออาณาจักรลับ”
เฉาเยว่มองไปที่ใบหน้าของพวกเขาและรู้ว่าเขากำลังถูกทอดทิ้ง เขากัดฟันและพูดว่า “ดี ดีมาก ข้าจะจำหน้าทุกคนที่นี่ไว้! เทือกเขาและสายน้ำจะมาบรรจบกัน* เราจะได้พบกันอีกแน่นอน!”
[TL: สำนวนเพื่อเตือนผู้มีอำนาจไม่ให้หลงระเริงและคิดถึงการถูกเอาคืนที่เกิดขึ้นได้ในอนาคต]
เขาตะโกนขู่แล้วหันกลับหายเข้าไปในป่า
แปะ แปะ แปะ แปะ
หลี่หรานยกมือขึ้นและปรบมือ “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว! ดูเหมือนว่าข้าคงไม่มีศักยภาพพอที่จะอยู่บนเส้นทางที่ชอบธรรม ความหน้าซื่อใจคดของพวกเจ้านี่มันเกินเยียวยาจริงๆ”
ทุกคนหน้าแดงและเบือนหน้าหนีด้วยความอับอาย
ซ่งชิงซงค่อนข้างสงบ “โชคชะตาเป็นสิ่งไม่จีรัง มีเพียงผู้มีคุณธรรมเท่านั้นที่ยังคงอยู่ กล่าวได้เพียงว่าโชคลาภโดยบังเอิญของเฉาเยว่ยังมาไม่ถึง”
“……” หลี่หรานส่ายหัว
ใบหน้าของคนผู้นี้หนามาก
“เอาล่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วตอนนี้...”
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค หลี่หรานก็ขัดจังหวะ “เดี๋ยวก่อน ข้ามากันสองคน ยังขาดอีกหนึ่งตำแหน่ง”
“ฮะ?” ซ่งชิงซงขมวดคิ้ว “ถ้าข้าเดาไม่ผิด คนที่มากับเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาใช่ไหม?”
“มนุษย์ธรรมดาจะคู่ควรในการเข้าสู่อาณาจักรลับของจักรพรรดิอมตะได้ยังไง?”
เซียวชิงเกอเป็นกังวลทันที สิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้บ่มเพาะ และนางคนเดียวที่เป็นมนุษย์ธรรมดา
ถ้าหลี่หรานทิ้งนางไปจริงๆ...
“เจ้ากำลังสอนข้าว่าควรทำอย่างไรงั้นหรือ?” หลี่หรานหัวเราะอย่างเย็นชา “ถ้าข้าบอกว่านางคู่ควร นางก็คู่ควร! เจ้ามีความเห็นอื่นอีกหรือไม่?”
“จะให้ข้าเลือกหรือพวกเจ้าเป็นคนเลือกกันเอง?”
ซ่งชิงซงโกรธมาก
หลี่หรานคนนี้เอาแต่ใจเกินไป แต่เนื่องจากเขาไม่ได้เคลื่อนไหวตั้งแต่ตอนแรก จึงไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวในตอนนี้...
“มู่หรงฉวน เจ้าสามารถถอนตัวได้” เขากล่าว
“พี่ซ่ง!” มู่หรงฉวนอุทาน
“ถ้าเจ้าถอยตอนนี้ เจ้ายังสามารถถอยไปได้ด้วยตัวเอง อย่าบังคับให้ข้าต้องส่งเจ้าออกไป!” เสียงของซ่งชิงซงเย็นชา
นี่เป็นการคุกคามโดยตรง
เยว่เจียนหลี่ซึ่งเฝ้าดูอย่างใจเย็นจากระยะไกลมีร่องรอยของความดูถูกเหยียดหยามในดวงตา
‘พระราชวังเต๋าสูงสุด... พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นเช่นนี้?’ ใบหน้าของมู่หรงฉวนซีดลงในขณะที่เขาจากไปอย่างหดหู่ ร่างของเขาหายเข้าไปในป่าทึบ
‘ข้าไม่ได้คาดหวังว่าศิษย์พี่ซ่งจะไร้ยางอายเช่นนี้...’ เซียวชิงเกอแอบส่ายหัว
เมื่อมองไปที่ ‘วีรบุรุษ’ ที่นางเคยคิดว่าเป็น ‘ปีศาจ’ ที่ยืนอยู่ตรงหน้านาง เส้นแบ่งบางๆระหว่างความชอบธรรมกับความชั่วร้ายของนางก็เริ่มพร่ามัวมากขึ้นเรื่อยๆ
“ขอบคุณท่านมาก” นางพูดเบาๆ
“ไม่จำเป็น ข้าแค่ทำตามสัญญา” หลี่หรานพูดอย่างสบายๆ
เซียวชิงเกอคิดอะไรบางอย่างและพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ข้าหวังว่าท่านจะสามารถปฏิบัติตามสัญญาอื่นต่อไปได้...”
“สัญญาอื่น?”
นางกำลังพูดถึงการหมั้นหมาย แต่หลี่หรานไม่เข้าใจเรื่องนั้น
หลังจากตัดสองคนที่โชคร้ายทิ้งไปแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็สามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งความลับได้
ผู้ที่ได้อยู่ต่อต่างก็โล่งใจ
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศไม่กลมกลืนเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป
การปรากฏตัวของหลี่หรานได้ทำลาย ‘สัมพันธไมตรี’ ของพวกเขาทิ้ง ตอนนี้ทุกคนต่างระแวงและกังวลว่าจะถูกคนอื่นแทงข้างหลัง
หลังจากชั่วเวลาหนึ่งก้านธูป ประตูหินก็สว่างขึ้นพร้อมกับแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน
[TL: 1 ก้านธูป ประมาณ 30 นาที]
ตามมาด้วยเสียงคลื่นที่ดังกึกก้อง ภูเขาทั้งลูกก็เริ่มสั่นสะเทือน และกรวดหินก้อนเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วนก็ตกลงบนพื้น
บูม!
ประตูหินค่อยๆเปิดออก และแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ส่องสว่างออกมา เมื่อรอยแตกขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แสงสีขาวก็พร่างพรายจนแทบจะไม่ได้
ทุกคนเฝ้าดูฉากตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น
ในที่สุดอาณาจักรลับก็เปิดออก นี่คือโชคชะตาของพวกเขา โชคลาภที่กำลังมาเยือนของพวกเขา
แม้แต่เซียวชิงเกอก็ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น นางจะได้กลับไปยังเส้นทางอมตะหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสถานที่ตรงหน้านี้
ส่วนหลี่หรานมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น
“ในที่สุดภารกิจก็กำลังจะเสร็จสิ้น...”
//////////